สุดท้ายแล้วเรื่องที่พวกฉินสือโอวกังวลกันก็ไม่ได้เกิดขึ้น ส่วนบนเรือของโจรสลัดก็มีเสียงปืนดังขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง ขนาดมีเสียงกระสุนยิงกระทบตัวเรือที่เป็นเหล็กกล้าจนแสบแก้วหู แต่ก็ไม่มีใครเอาปืนใหญ่หัวจรวดที่พวกเขากลัวที่สุดมาใช้
แต่นี่มันออกจะแปลกๆ ไปหน่อยแล้วนะ พวกโจรสลัดคงไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้นหรอกใช่ไหม? ถึงกับไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาใช้ปืนใหญ่หัวจรวดยิงตอบโต้เลยเนี่ยนะ? หรือว่าอยู่ๆ พวกเขาก็เกิดกลับใจเป็นคนดีแล้วตัดสินใจปล่อยพวกฉินสือโอวไปเหรอ?
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
จากนั้นเรือกู้ชีพก็เร่งสปีดทิ้งห่าง ส่วนเรือโจรสลัดที่เสียหางเสือไปแล้ว ก็ยังคงโดนระลอกคลื่นโถมโจมตีไม่หยุดจนเรือนั้นได้แต่หมุนอยู่กับที่ และไล่ตามไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เบิร์ดที่ดูเหมือนจะโล่งใจแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงนำพวกโจรสลัดที่ถูกจับไปบนดาดฟ้าเรือเพื่อที่จะโบยแล้วเค้นถามถึงรายละเอียดของการปล้นในครั้งนี้
ซึ่งถ้าจะพูดถึง มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด เพราะเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาไม่มีแม้แต่น้ำมัน โจรสลัดที่ไหนจะปัญญาอ่อนมาปล้นเรือพวกเขาแบบนี้?
อย่างที่ทราบกันดีว่าเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์กู้ชีพไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเลยสำหรับโจรสลัด อันดับแรกเลยคือบนเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นมีแต่พวกปัญญาชนที่ไม่มีเงิน และคนที่คอยหนุนหลังให้ก็คือรัฐบาล ฉะนั้นโจรสลัดจึงชอบปล้นสะดมเรือชาวบ้านมากกว่า เพราะไม่กล้าจะไปมีเรื่องกับรัฐบาลของประเทศนั้นๆ
รองลงมาก็คือ เรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรือของรัฐ ลูกเรือบนเรือก็มักจะมีสถานะเป็นทหารกันทั้งนั้น พวกเขาทั้งหลายต่างก็เป็นทหารจากกองทัพเรือที่ทางรัฐบาลจัดให้มาคอยคุ้มครองเรือ อีกทั้งบนเรือก็มีอาวุธครบมือ ถ้าสำหรับโจรสลัดแล้วพวกเขาก็เหมือนกระดูกแข็งๆ ที่เคี้ยวยาก
สุดท้าย เรือกู้ชีพก็ได้จอดอยู่ตรงนี้มาตั้งยี่สิบกว่าวัน ผ่านลมผ่านฝนมาตั้งเท่าไร แต่ทำไมถึงเพิ่งจะมาโจมตีเอาป่านนี้ล่ะ?
จึงสรุปได้ว่า เรื่องในวันนี้ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย เบิร์ดคิดยังไงก็คิดไม่ออก จึงต้องเค้นถามอย่างละเอียดถึงที่มาที่ไป
หลังจากที่นำพวกโจรสลัดขึ้นมาแล้ว เบิร์ดที่คาบบุหรี่หนึ่งมวนพร้อมกับแบก AK-74 ก็ได้เดินเข้าไปและถามขึ้นว่า “บอกฉันมา พวกแกกำลังโกหกอะไรพวกฉันอยู่?”
พวกคนเถื่อนผิวสีต่างก็มองตากัน และพากันก้มหน้าก้มตาโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน สภาพก็ดูหมดอาลัยตายอยากกันไปตามๆ กัน
จากนั้นเบิร์ดก็ยิ้มขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แข็งกระด้าง พร้อมกับพูดต่อ “ตอนนี้พวกแกก็เห็นแล้วนี่ ว่าคนของพวกแกจบเห่กันหมดแล้ว พวกนั้นไม่มีทางที่จะมาช่วยพวกแกได้ อีกอย่างตอนนี้พวกเราก็อยู่กลางทะเล ถ้าโยนพวกแกทิ้งให้ตายกลางทะเล กว่าจะหาศพเจอก็แยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใครน่ะ”
แล้วคนผิวสีท่าทางอ่อนแรงก็เงยหน้าพร้อมกับตะโกนราวกับใช้โทรโข่งขึ้นว่า “ท่านวีรบุรุษไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิด พวกเราไม่ได้โกหกเลยสักครั้ง เรื่องอะไรที่พวกเรารู้เราก็บอกไปจนหมดแล้ว”
ทันใดนั้นแบล็คไนฟ์ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ พร้อมกับรัวปืนขึ้นฟ้า แล้วปลอกกระสุนที่ตกลงมาก็ได้กระทบกับดาดฟ้าเหล็กจนเกิดเป็นเสียงใสๆ คล้ายกับเสียงดนตรีบรรเลง
พอรัวปืนเสร็จ เขาก็กดปากกระบอกปืนไปทางขาของคนผิวสี
ทันใดนั้นชาวผิวสีผู้นั้นก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยเสียงที่แหลมสูงอย่างน่าเวทนา ปากกระบอกปืนในเวลานี้คาดว่าอุณหภูมิสูงเกินสองสามร้อยองศาเห็นจะได้ เพราะเมื่อปากกระบอกปืนเจอเข้ากับเป้าของมันเลยถูกเผาไหม้ได้อย่างง่ายดาย
นีลเซ็นส่งซิกให้ฉินสือโอวกลับเข้าไปในห้องเดินเรือก่อน แล้วพูดขึ้นว่า “นี่พวกเราก็มีมนุษยธรรมมากพออยู่นะบอส ขนาดเมื่อกี้ที่พวกโจรสลัดยิงมา พวกเราก็ยังไม่ได้เอาไอ้พวกสวะพวกนี้ไปแขวนตรงหัวเรือเพื่อบังลูกกระสุนให้ นี่ก็ถือว่าเมตตามากขนาดไหนแล้ว”
ฉินสือโอวได้แต่พยักหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาแค่นั่งหลบอยู่ในห้องเดินเรือเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อยู่ด้านนอกก็ยกให้สองสามคนนั้นจัดการแทน
พวกเขาต้องรู้ถึงที่มาที่ไปให้ได้ เพราะเดี๋ยวพวกเขาจะต้องได้กลับมากู้ทองกู้หินแร่อีก
ไม่นาน เบิร์ดก็วิ่งหอบแฮ่กๆ มาหาฉินสือโอว พร้อมกับรายงานว่า “ความจริงกระจ่างแล้วครับ พวกเราโดนพวกนั้นหลอกจนได้! จริงๆ แล้วพวกนั้นไม่ใช่โจรสลัดอาสาพิทักษ์ชายฝั่งประเทศแต่อย่างใด พวกมันเป็นแค่กลุ่มอันธพาลที่ไร้อิทธิพลกลุ่มหนึ่งก็เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันไม่ได้มีอาร์พีจีเลย พวกเราอย่าได้ไปกลัวมัน เมื่อกี้พวกมันก็แค่พูดไปเรื่อยเพื่อที่จะขู่ให้เรายอมจำนน แม่งเอ๊ย!”
“ความจริงแล้วเรือกู้ชีพไม่ใช่เป้าหมายของพวกมัน ที่พวกมันตามก็คือบอส เรื่องนี้ก็ไอ้ยักษ์ใหญ่เสียงดังนั่นแหละที่เป็นตัวการ เพราะในช่วงสองวันที่พวกคุณ คุณเบลค และคุณแบรนดอนเพิ่งมาถึงโมกาดิชู พวกคุณได้เหมาเครื่องบินทั้งลำมา เขาเลยแน่ใจว่าพวกคุณต้องเป็นมหาเศรษฐีแน่ๆ และคิดว่าพวกคุณมาเล่นพนัน เลยคิดจะจับตัวพวกคุณเพื่อเรียกค่าไถ่”
เช่นนี้ฉินสือโอวเลยสบายใจขึ้นมาบ้าง ขอเพียงแค่พวกโจรสลัดไม่คิดไปถึงว่าพวกเขามาเพื่อกู้หาสมบัติล้ำค่าก็พอ แต่จริง ๆ แล้วถ้ายักษ์ใหญ่เสียงดังนั้นฉลาดกว่านี้สักหน่อย มีคอนเนคชันกว้างขวางกว่านั้นสักนิด และสืบถึงสถานะของฉินสือโอว บิลลี่ และคนอีกสี่คนก็คงจะเดาออกว่าพวกเขามาทำอะไรที่นี่
แต่เหตุการณ์ในวันนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทีเดียว อย่างน้อยก็ได้ให้บทเรียนบทหนึ่งแก่พวกเขา เพื่อที่ว่าการมากู้ทองกู้หินแร่ในครั้งต่อไป พวกเขาคงออกหน้าเองไม่ได้แล้ว เพราะเมื่อเป็นจุดสนใจ คนภายนอกก็จะสามารถเดาได้ถึงจุดประสงค์การกู้เรือของพวกเขาออก
เรือกู้ชีพที่มุ่งเข้าสู่ทิศตะวันตก ในที่สุดก็เข้าเทียบท่าเรือโมกาดิชูได้ก่อนรุ่งสาง ก่อนหน้าพวกเขาวอเรียกทหารเรือโซมาเลียมาตลอดทาง แล้วแจ้งว่าพวกเขาตกเป็นเป้าของโจรสลัด สุดท้ายแล้วพวกทหารเรือก็ได้แต่บอกว่าเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ส่งคนออกทะเลมาอยู่ดี
ก็พอจะเข้าใจได้ โซมาเลียนั้นมีทหารเรือซะที่ไหน หน่วยลาดตระเวนชายฝั่งของพวกเขาก็อยู่ในความดูแลของหน่วยยามฝั่ง อีกทั้งหน่วยยามฝั่งอ่อนปวกเปียกขนาดนั้น จะเอาความกล้าที่ไหนไปต่อกรกับโจรสลัดในกลางคืนที่มืดสนิทอย่างนั้นล่ะ? นี่ก็ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่กลายเป็นโจรสลัดซะเอง
หลังจากเข้าเทียบท่า หน่วยยามฝั่งก็มารออยู่ตรงนั้นแล้ว ยักษ์ใหญ่เสียงดังกับอีกหกคนก็โดนรวบใส่กุญแจมือไป แล้วจากนั้นถึงค่อยมีสปีดโบ๊ทสองลำแล่นออกไปตามหาโจรสลัดพวกที่เหลือ
แต่ไปหาตอนนี้จะเจอกับผีอะไร เวลาทั้งคืนนั้น แล้วยิ่งถ้าบนเรือมีวิทยุสื่อสาร ป่านนี้พวกมันก็คงวอไปเรียกคนมาช่วยลากเรือไปแล้ว
ฉินสือโอวไม่อยากจะสนใจกับเรื่องนี้แล้ว กลับกันเขาก็คงไม่มาโซมาเลียอีก นั่งเลี้ยงปลาโง่ๆ อยู่ที่แคนาดายังจะดีซะกว่า ที่ว่าออกไปเที่ยวดูโลกภายนอกสักหน่อย นี่ก็ดูจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
โชคดีที่ครั้งนี้เป็นแค่พวกเลวที่สวมรอยเป็นโจรสลัดมาโจมตีพวกเขาก็เท่านั้น ถ้าเป็นกลุ่มโจรระดับสูงที่อาวุธครบมืออย่างกองกำลังนาวิกโยธินโซมาเลียแล้วล่ะก็ เมื่อคืนนี้ฉินสือโอวและพวกของเขาคงไม่รอดแน่ เพราะพวกมันไม่เพียงแต่มีอาร์พีจี แต่คงจะมีตอร์ปิโดด้วย…
และในตอนนั่งเครื่องขากลับ ฉินสือโอวก็ได้กำชับกับลูกน้องของเขาไปว่าหลังจากที่กลับไปถึงแล้วห้ามใครก็ตามพูดถึงเรื่องที่ได้เจอตอนอยู่ที่โซมาเลียเด็ดขาด เพราะเขาไม่อยากให้วินนี่ไม่สบายใจ
แต่ในการโจมตีของโจรสลัดในครั้งนี้ก็ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้อะไรกลับมาเลย อย่างน้อยๆ ก็ยังได้ความเลื่อมใสศรัทธาจากใจจริงของเหล่าทหาร จากที่เมื่อก่อนเหล่าทหารเห็นเขาเป็นแค่เจ้านาย ส่วนตอนนี้ได้ทำเหมือนเขาเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปแล้ว ที่ไม่ว่าฉินสือโอวจะพูดอะไร พวกก็จะทำวันทยหัตถ์ก่อนแล้วค่อยไปปฏิบัติตามคำสั่ง
แต่การสั่งงานก็ต้องสั่งให้มันดูเข้มแข็งด้วย
เพราะคนแกร่งก็มักจะเลื่อมใสศรัทธาคนแกร่งเหมือนกัน แล้วก็จะเชื่อฟังในคนที่แกร่งกว่าตนเอง
พอกลับมาถึงฟาร์มปลา วินนี่ก็มารอรับที่ท่าเรือพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วถามขึ้น “กลับมาเร็วจังคะ? โซมาเลียสนุกไหมคะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วตอบกลับ “ว่าไง ผมแค่ไปเที่ยวนิดหน่อยเอง จะไม่ให้เร็วได้อย่างไรล่ะ? ผมเที่ยวในโซมาเลียได้ไม่เท่าไร แล้วก็ไปชอปปิ้งในโมกาดิชูแค่นั้นเอง คุณทายสิว่า ผมซื้อของขวัญอะไรมาให้คุณ?”
“คำทักทายจากโจรสลัดเหรอ?” วินนี่ยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพียงแต่เบ้าตาแดงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
ฉินสือโอวยังคงกำปั้นทุบดิน ทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วตอบว่า “คำทักทายจากโจรสลัดอะไรเหรอ?”
วินนี่เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งให้ฉินสือโอวดู ข้างในเป็นทวิตเตอร์ของเบลค ด้านบนก็มีรูปอยู่อัลบั้มหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรูปที่ฉินสือโอวกำลังเปลี่ยนกระสุน AK-74 อยู่ แล้วก็มีปลอกกระสุนสีเหลืองหม่นตกกระจายอยู่เต็มพื้นบริเวณเท้า
แล้วข้อความบนทวิตเตอร์ก็เมนชั่นว่า “@แบล็คฮอคฟอลดาวน์ ครั้งนี้ ‘อินทรีทะเลผงาด’ เจอโจรสลัดโจมตีอย่างกะทันหันที่โมกาดิชู ผมและพวกของผมได้ร่วมกันสู้ยิบตาในสงครามนองเลือด จนสุดท้ายพวกมันก็หนีหางจุกตูดไปเลย”
แล้วฉินสือโอวก็ค่อยๆ ยื่นโทรศัพท์คืน ไอ้โพสต์โมเมนต์ไม่เป็นใจเอ๊ย!
……………………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1097 โพสต์โมเมนต์ไม่เป็นใจ
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!