ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1103 ให้พ่อของแกมาคุยกับฉัน

เฮลิคอปเตอร์เอซี 310 บินด้วยความเร็วสูงเหนือท้องฟ้า เบิร์ดที่กำลังควบคุมอุปกรณ์อยู่เบื้องหน้าด้วยความช่ำชอง บังคับเครื่องบินให้บินไปตามเส้นทางตามคำสั่งจากวิทยุควบคุม
ฉินสือโอวนั่งอยู่ที่เบาะผู้ช่วยคนขับ ส่วนนีลเซ็นและบูลนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
เอซี 310 เอ็น ลำนี้เป็นเพียงเฮลิคอปเตอร์ธรรมดาทั่วๆ ไป มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่นักออกแบบชาวจีนก็ได้ออกแบบจุดเด่นของมันไว้เช่นกัน นั่นคือมันสามารถเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถพูดคุยเล่นเสียงดังในห้องนักบินได้อย่างอิสระ
ฉินสือโอวก็หาเรื่องมาคุยสัพเพเหระกับสองคนที่อยู่เบาะหลัง พร้อมเพ่งความสนใจไปยังเรือบิ๊กแซม 107 และใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมองกวาดไปรอบๆ ผืนน้ำ เมื่อฉลามและวาฬปรากฏตัวออกมา ก็ขับไล่พวกมันไปทันที ดังนั้นหนุ่มสาวที่อยู่บนเรือจึงยังไม่ได้พบเห็นฉลามและวาฬเลย
ฟาร์มปลาต้าฉินในปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ไว้สำหรับดูวาฬ อีกทั้งริมขอบชายทะเลยังเป็นแหล่งที่มีวาฬและฉลามอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดของแคนาดา ถึงแม้พวกมันจะกินบรรดาปลาเล็กปลาน้อยไปเป็นจำนวนมาก แต่นั่นทำให้เกิดความสมดุล และเป็นไปตามห่วงโซ่ของระบบนิเวศ
สุดท้าย เฮลิคอปเตอร์และเรือยอชต์ก็มาเจอกัน แน่นอนว่าเครื่องส่งสัญญาณเรดาร์ของเฮลิคอปเตอร์จับสัญญาณของเรือยอชต์ได้ก่อน เบิร์ดรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาลดแฮนด์บังคับลง และควบคุมเฮลิคอปเตอร์ให้บินต่ำลงมุ่งหน้าไปยังผืนน้ำทะเล
ร่างของวาฬยังคงลอยอยู่บนผืนน้ำข้างเรือยอชต์ คลื่นที่แผ่กระจายทำให้บริเวณรอบๆ พื้นที่น้ำทะเลตรงนี้ก็มีเลือดลอยอยู่เป็นวงกว้าง  นกนางนวลส่วนหนึ่งบินมาเกาะกินซากของวาฬ และหลังจากนั้นไม่นานฝูงนกนางนวลก็แห่กันมารุมกินซากอย่างตะกละตะกลาม
หนุ่มสาวที่อยู่บนเรือไม่ได้ล่าวาฬและฉลามแล้ว ในตอนที่รู้สึกเบื่อ ความสนใจของพวกเขาก็จะไปอยู่ที่เหล่านกนางนวล พวกเขาหยิบปืนขึ้นมา รอจนนกนางนวลรวมกันเป็นฝูงแล้วจึงเล็งเป้าไปที่พวกมัน ทุกครั้งที่นกถูกยิง พวกเขาก็จะระเบิดหัวเราะกันอย่างป่าเถื่อน
ราวกับว่ากำลังเล่นเกมที่สนุกสนานสักเกมกันอยู่ ฉินสือโอวมองหนุ่มสาวเหล่านั้นก็อึ้งจนพูดไม่ออก เขารู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่จิตป่วยก็เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว
เพื่อให้คนที่อยู่บนเครื่องบินรู้ว่าคนพวกนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ ฉินสือโอวจึงควบคุมฉลามหัวบาตรที่ว่ายอยู่ใกล้ๆ ตัวหนึ่งที่โดนใช้สารล่อฉลามให้มันมาว่ายรอบๆ วาฬ แล้วให้พวกมันว่ายขึ้นมาเขมือบปลาค็อดที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
หนุ่มสาวที่อยู่บนเรือสังเกตเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่บินมาถึง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจ และเมื่อมองเห็นฉลามที่ไม่ได้เห็นมาพักใหญ่ พวกเขาก็เลือกหยิบเอาธนูออกมาเพื่อยิงฉลามหัวบาตรโดยไม่สนใจเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่บนฟ้า
ในตอนที่ฉลามหัวบาตรโผล่ขึ้นมาบนน้ำกลืนกินเหล่าปลาค็อดภายในคำเดียวก็ถูกฉินสือโอวควบคุมให้ว่ายกลับลงไปยังใต้น้ำ เหล่าหนุ่มสาวที่เพิ่งจะได้เห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นและพากันแย่งกันยิงธนูใส่ฉลามหัวบาตรตัวนั้น
และก็แน่นอนว่าธนูแบบนี้คือธนูตั้งเวลาระเบิด เมื่อยิงออกไปแล้วจะระเบิดภายในสี่วินาที แต่หลังจากมันระเบิดก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเรือยอชต์ที่พวกเขานั่งอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น ในครั้งนี้พวกเขายิงธนูออกไปเป็นจำนวนมาก และมันระเบิดอยู่ใต้น้ำพร้อมกันหลายดอก ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นหลายลูก พลางซัดใส่เรือยอชต์จนสั่นสะเทือน
พวกหนุ่มสาวบนเรือไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแต่อย่างใด ได้แต่ตะโกนด่าออกมาด้วยความไม่พอใจ “แม่งเอ๊ย! ยิงไม่โดนอีกแล้วว่ะ! ทำไมฉลามที่นี่มันฉลาดกันจังวะ?”
ผู้คนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ก็ตะโกนด่าอย่างรุนแรง ชาร์คเห็นธนูที่ระเบิดหลังจากพวกนั้นยิงออกไป เขาพูดด้วยความโกรธเคือง “ไอ้พวกสาระเลวเอ๊ย ใช้ดินระเบิดยิงปลา วิธีแบบนี้มันน่ารังเกียจยิ่งกว่าการล่าสัตว์ของคนญี่ปุ่นซะอีก!”
ฉินสือโอวแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจและขอให้ชาร์คอธิบายให้ตนเข้าใจ ชาร์คที่กำลังโกรธจัดอธิบายถึงการล่าสัตว์ด้วยระเบิด หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “พวกเราต้องแจ้งให้ตำรวจทางทะเลรู้ พวกมันกำลังฝ่าฝืนกฎหมายอยู่นะ อย่างนี้ต้องจับพวกมันไปลงโทษ!”
หลังจากที่ฟังเขาพูด ฉินสือโอวส่ายหัว ชี้ไปยังเรือยอชต์ลำหรูแล้วถามขึ้น “นายคิดว่าสำหรับพวกคนรวยแบบนั้น ที่ใช้ระเบิดล่าปลาจะถูกกฎหมายลงโทษงั้นเหรอ? ไม่มีทาง เพื่อน พวกเราต่างก็รู้ดี กฎหมายแคนาดานั้นใช้ปกป้องพวกคนรวยไงล่ะ”
ชาร์คพูดเสียงแข็ง “แล้วจะปล่อยให้พวกมันยิงฉลามกับวาฬแบบนั้นเหรอครับ? พวกเราไม่มีทางจัดการเลยหรือไง?”
ฉินสือโอวส่ายหัวอีกครั้ง เขายิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “แน่นอนว่ามี จริงๆ แล้วใครบอกว่าพวกมันยิงฉลามกับวาฬกัน? ฉันจะบอกว่าพวกมันยิงเต่ามะเฟืองอยู่ต่างหาก!”
นี่ก็คือวิธีของเขา เขาต้องการให้คนระยำพวกนั้นได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดสักหน่อย การเรียกตำรวจมาก็คงไม่มีประโยชน์อะไร มองท่าทางอวดดีเย่อหยิ่งของพวกนั้นก็รู้เลยว่าต้องมีเส้นสายแน่นอน ถึงพวกนั้นใช้ระเบิดยิงปลาก็คงไม่ถูกลงโทษแน่ แค่จับเอาไปปรับทัศนคติไม่กี่วันเรื่องก็จบแล้ว
แคนาดาก็เหมือนกับประเทศอังกฤษ กฎหมายที่ว่าถึงความยุติธรรมนั้นก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอก จริงๆ แล้วกฎหมายมีไว้เพื่อปกป้องพวกชนชั้นพิเศษต่างหาก อีกทั้งในประเทศทุนนิยมแบบนี้ คนมีเงินก็คือพวกที่มีอภิสิทธิ์นั่นเอง
แต่ถ้าพวกมันล่าเต่ามะเฟืองจะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน เพราะหน่วยของเขาอยู่ในนามการปกป้องเต่ามะเฟือง พวกมันสามารถถูกจับกุมในฐานลักลอบล่าสัตว์ได้เลย
นี่คือแผนของฉินสือโอว!
เบิร์ดควบคุมเฮลิคอปเตอร์ให้บินอยู่เหนือเรือยอชต์ บินไปด้านข้าง และบินวนรอบๆ เรือทั่วทั้งสี่ทิศ
ในระยะห่างเพียงเท่านี้ กระแสลมมหาศาลจากเฮลิคอปเตอร์พัดเอาเตาย่างบาบีคิว โต๊ะอาหาร เก้าอี้พลาสติก รวมถึงสิ่งของหลายอย่างที่อยู่บนเรือยอชต์ลอยไปรอบๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรือยอชต์ลำนี้มีขนาดยาวกว่ายี่สิบเมตร ลมเพียงแค่นี้ไม่สามารถส่งผลต่อความมั่นคงของเรือได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ผู้คนบนเรือรู้สึกหวาดกลัวได้ พวกวัยรุ่นต่างรีบหาที่หลบพร้อมกับด่าโวยวาย ในขณะเดียวกันพวกหญิงสาวกรีดร้องกันขึ้นมา
ฉินสือโอวมองเหล่าหนุ่มสาวที่อวดดีและชูนิ้วกลางใส่เขาอย่างเยาะเย้ย แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ? ต้องขอโทษด้วย แต่นี่มันแค่อาหารเรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานอาหารนะ ยังมีอาหารจานหลักอร่อยๆ รอพวกเขาอยู่อีก
แล้วจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็พัดให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้เรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครคิดอะไรมากแล้ว คิดแค่เพียงว่าเป็นเพราะการทรงตัวของเรือนั้นไม่ดีพอ จึงถูกกระแสลมจากเฮลิคอปเตอร์ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ซัดจนเรือสั่นโคลงเคลง
จากนั้นสีหน้าของพวกหนุ่มสาวก็เปลี่ยนไปทันที คลื่นที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันกระทบเข้ากับเรือครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งทำให้เรือสั่นอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดมันก็เอียง เป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกหนุ่มสาวก็ยังมีความกล้า บนเรือของพวกเขามีปืนอยู่ บางคนหยิบปืนขึ้นมาแล้วยิงไปที่เฮลิคอปเตอร์
แน่นอนว่า ด้วยกระแสลมแบบนี้ ทำให้ลูกปืนพุ่งไปทางไหนบ้างก็ไม่รู้ และจะให้พวกหนุ่มสาวที่แม้แต่จะยืนยังแทบไม่ไหว จะยิงแม่นได้อย่างไร? ก็แค่ทำท่ายิงไปอย่างนั้นก็เท่านั้นเอง
กล้องบนเฮลิคอปเตอร์จับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ฉินสือโอวหันหน้าไปทางนีลเซ็นแล้วพูดว่า “สอนบทเรียนให้เด็กมันหน่อย ให้มันรู้ว่าปืนน่ะมันอันตรายไม่ควรเอาออกมาเล่นตามใจชอบ”
นีลเซ็นยิ้มแล้วเปิดประตูเครื่อง ส่วนเบิร์ดก็ควบคุมให้เฮลิคอปเตอร์มั่นคง ส่องปืนไรเฟิลเอ็นฟิลด์ที่ควรจะเลิกใช้ไปตั้งนานแล้วออกนอกประตู ปลอกกระสุนที่ลอยไปตามลม กระจกบนเรือยอชต์ที่โดนยิงจนเสียงแตก ‘เพล้ง’ กระจายดังระงม!
พวกหญิงสาวบนเรือไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมา พวกเขาคิดว่ากำลังถูกโจรสลัดปล้น จึงกระจายกันไปหลบอยู่ตามมุมอย่างเงียบเชียบ จากนั้นพวกวัยรุ่นสองสามคนก็ยอมจำนน เบิร์ดจึงใช้โทรโข่งตะโกนบอกให้พวกเขาวางปืนลงกับพื้น พวกเขาก็รีบทำตามคำสั่งทันที
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นับว่ากล้าหาญเอาเรื่อง เขาตัดสินใจเดินไปยังห้องควบคุมเรือและใช้วิทยุติดต่อกับฉินสือโอว โดยที่เขาตะโกนถามออกไปอย่างไม่เกรงกลัว “พวกแกเป็นใคร? ทำไมถึงมาโจมตีพวกเรา? พวกเราแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว! ย้ำ พวกเราได้แจ้งตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!”
ฉินสือโอวพูดออกมาอย่างขอไปที “ฟังนะ เด็กน้อยทั้งหลาย ถึงพวกแกจะแจ้งตำรวจก็เปล่าประโยชน์ และพวกแกก็ไม่คู่ควรที่จะมาเจรจาต่อรองกับฉัน ไปให้พ่อของพวกแกนู้นมาคุยกับฉัน!”
…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset