ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1104 พวกเราคือหน่วยจู่โจมกองทัพบก

เฮลิคอปเตอร์ยังคงบินอยู่เหนือเรือ ฉินสือโอวทิ้งถ้อยคำที่โหดเหี้ยมให้แก่พวกหนุ่มสาวไว้หนึ่งประโยค “บอกไว้ก่อนว่าบนเฮลิคอปเตอร์ของฉันไม่ได้มีแค่ปืนนะ ดังนั้นถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อไปเจอพ่อ ก็รีบขับเรือมาทางทิศเหนือเดี๋ยวนี้! ตอนนี้! เร็ว! แล้วลากร่างของวาฬตัวนั้นขึ้นมาด้วย!”
“พวกแกเป็นโจรสลัดเหรอ?!” เด็กหนุ่มตะโกนถามด้วยความกลัว
ฉินสือโอวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ไม่ใช่ พวกเราคือผู้ยึดมั่นในกฎหมาย!”
พวกหนุ่มสาวพวกนี้เป็นพวกหัวรั้นและหยิ่งยโส ขนาดถูกเตือนโดยฉินสือโอวแล้วแต่ก็ยังคิดที่จะเข้าไปในห้องควบคุมเรือเพื่อขับเรือหนี ถ้าหากเรือลำนี้แข็งแรงพอ แค่เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็จะไม่มีทางทำอะไรพวกเขาได้ เพราะว่าเรือรุ่นนี้แล่นได้เร็วมาก สามารถแล่นได้มากกว่า 30 นอตต่อชั่วโมง อีกทั้งเรือกำปั่นทะเลก็ยังอยู่ไกล เลยยังทำให้ลงจากเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้
แต่เนื่องจากเรือลำนี้เป็นเรือชาวบ้านทั่วๆ ไป กระจกในห้องควบคุมเรือจึงเป็นกระจกที่ไม่กันกระสุน หลังจากเฮลิคอปเตอร์บินมาถึงส่วนหัวของเรือ นีลเซ็นจึงยื่นปากกระบอกปืนออกไป ไม่ต้องรอให้พวกวัยรุ่นออกคำสั่ง คนขับเรือทั้งสองคนก็คิดเองได้ว่าควรขับเรือไปทางทิศเหนือตามที่พวกเขาสั่ง
ระหว่างทางก็พบกับเรือกำปั่นทะเล และบนเรือกำปั่นทะเลก็มีเครื่องฉีดน้ำกำลังแรงสูง พวกหนุ่มสาวต่างหมดอาลัยตายอยากไปตามๆ กันและต่างก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านพวกเขาอีก
แต่พวกเขาได้ต่อสายไปยังครอบครัวผ่านโทรศัพท์สัญญาณดาวเทียมไว้ก่อนหน้า เพื่อฟ้องว่าพวกเขาถูกโจรสลัดจับเป็นตัวประกัน ในส่วนของปืน หอก และธนูที่ใช้ล่าสัตว์ที่อยู่บนเรือ พวกเขาก็ได้รวบรวมใส่ไว้ในกล่อง และโยนทิ้งลงทะเลไป
เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะจนตรอกเหมือนหมาจนตรอกกำแพง ฉินสือโอวจึงได้เรียกเฮยป้าหวังมา ตอนนี้เฮยป้าหวังยาวได้สี่สิบเมตรแล้ว ให้ความรู้สึกถึงจ้าวแห่งทะเลลึก มันอ้าปากกว้างเพื่อคาบกล่องเอาไว้ และว่ายตามหลังอยู่ตลอด
หลังจากเรือยอชต์และเรือกำปั่นทะเลแล่นมาบรรจบกันได้ไม่นาน ฉินสือโอว นีลเซ็นและชาร์คก็ใช้เชือกโรยตัวกลับไปบนเรือ จากนั้นพอทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเรือทั้งสองเชื่อมกัน เรือกำปั่นทะเลเลยใช้เชือกผูกเรือกับเรือยอชต์เข้าไว้ด้วยกันแล้วลากมันไปข้างหน้า
ฉินสือโอวพาพรรคพวกขึ้นไปบนเรือยอชต์ พวกหนุ่มสาวมองเขาตาแข็ง จากนั้นลินตันก็ตะโกนออกมาอย่างไม่เกรงกลัว “พวกแกทำผิดกฎหมาย! พวกเราแจ้งตำรวจแล้ว แล้วพวกแกจะต้องเสียใจ คอยดู!”
ในตอนที่ตรวจเช็กข้อมูลคราวก่อน ฉินสือโอวเคยเห็นภาพถ่ายของลินตันมาก่อน เขาจำคนคนนี้ได้จึงถามขึ้นพลางยิ้มอ่อน “นายคือลินตันใช่ไหม? ลินตัน วอเทอเรนซ์? ดีล่ะ ฉันรอเสียใจไม่ไหวแล้ว หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”
หญิงสาวหลายคนที่มีรูปร่างงดงาม และมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มีลักษณะผอมสูง ผมสีไวน์แดงพูดออกมาด้วยความหวาดกลัว “คุณผู้ชายคะ ถ้าพวกคุณไม่ทำร้ายพวกเรา เราก็ยินดีที่จะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ”
ประโยคนี้แทนที่จะพูดว่าขอให้ยกโทษให้ แต่กลับเป็นเหมือนคำพูดดึงดูด พวกเธอดูเหมือนจะอยากทำบางสิ่งกับฉินสือโอว เพราะพวกเธอยังไม่รู้ประวัติความเป็นมาของชายที่ถือปืนอยู่นี้ ถ้าหากว่าเป็นมาเฟียท้องถิ่นก็คงจะเกิดเรื่องยุ่งยากแล้ว
เมื่อได้ยินที่เหล่าหญิงสาวพูดคุยกัน ก็ทำให้ลินตันรู้สึกไม่พอใจแล้วตะคอกออกมาด้วยความโกรธ “นังแพศยา หุบปากของเธอไปซะ! พวกมันไม่กล้าทำอะไรพวกเราหรอก เข้าใจไหม? ถ้าพวกมันรู้ว่ากำลังแหยมอยู่กับใคร พวกมันจะต้องเสียใจ!”
ฉินสือโอวมองความอวดดีของเด็กคนนี้ แล้วพยักหน้าให้นีลเซ็นเล็กน้อย นีลเซ็นหิ้วคอเขาออกมา ก่อนที่เขาจะกลิ้งสองตลบกลับเข้าที่เดิมนีลเซ็นก็จัดฝ่ามือฟาดเข้าไปที่หน้าของเขา จากนั้นก็เริ่มใช้ท่ามวยของทหารต่อยเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เก่งเหรอ อวดเก่งกับฉันนักเหรอ ทำไมไม่พูดล่ะ?”
“โอ๊ย พระเจ้า อย่าตีฉัน อย่าตีฉันเลย เจ็บจะตายอยู่แล้ว ฉัน ฉะ ฉะฉัน ไม่กล้าอวดดีอีกแล้ว…”
แล้วฉินสือโอวเดินไปยังหางเรือ ถือโอกาสที่ไม่มีคนสนใจ หยิบเอากล่องที่เฮยป้าหวังกำลังคาบเอาไว้ในปากขึ้นมา
กล่องใบนี้ยาวสองเมตรกว่า กว้างอีกหนึ่งเมตรกว่าๆ และน้ำหนักที่หนักมากๆ ทำให้รู้ได้เลยว่าเฮยป้าหวังนั้นปากใหญ่และกว้างพอ ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นปลาตัวอื่น ก็คงไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นได้
ตอนที่ฉินสือโอวลากกล่องไป เฮยป้าหวังก็โชว์แสดงกายกรรมของตระกูลฉลามขาวที่มันถนัด และขนาดตัวที่ใหญ่มหึมาของมันก็ยืนตรงขึ้น เผยให้ถึงสายตาเว้าวอนมองไปยังฉินสือโอว
เพราะประสาทการรับรู้กลิ่นของมันไวมาก และรอยรั่วของกล่องที่อยู่อีกฝั่งทำให้มันได้กลิ่นสารล่อฉลามที่อยู่ด้านในกล่อง ซึ่งสิ่งนี้ก็ยั่วยวนดึงดูดใจมันเหมือนกัน
นี่คือความเก่งกาจของมนุษย์ ที่สามารถผลิตสิ่งที่ใช้ฆ่าสัตว์ได้อย่างง่ายดายออกมา
แต่ฉินสือโอวไม่มีทางที่จะปล่อยให้เฮยป้าหวังกินสิ่งนี้เข้าไป เพราะมันคือสารเคมีที่เป็นพิษ เขาตีหน้าขรึมพร้อมกับสะบดออกมาหลายคำ เฮยป้าหวังเบะปากอย่างผิดหวัง พลางหมุนตัวและพัดคลื่นลูกใหญ่ในทะเล
เขาไม่สามารถปล่อยให้เฮยป้าหวังปรากฏต่อสายตาผู้คนทั่วไปได้เนื่องจากมันมีขนาดตัวที่ใหญ่เกินไป!
ฉลามขาวที่ยาวสุดที่เคยถูกค้นพบมีความยาวเจ็ดถึงแปดเมตร คาดว่าในทะเลลึกอาจจะมีฉลามยักษ์ที่ยาวถึงสิบเมตรอยู่ แต่เฮยป้าหวังนั้นยาวถึงตั้งสิบสี่เมตร ซึ่งนี่เป็นอะไรที่วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ ถ้าหากมันถูกพบคงต้องเกิดการถกเถียงในเชิงวิจัยและความโกลาหลไปทั่วโลกแน่
หลังจากที่แล่นเรือต่อเนื่องมานานกว่าครึ่งชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์ลำสีดำที่สลักตัวอักษรบนตัวเครื่องด้วยคำว่าซีซีจีศูนย์ห้าศูนย์ก็บินผ่านมา หลังจากนั้นก็บังคับให้ลดระดับลงเพื่อจอดข้างบนของเรือกำปั่นทะเล ใบพัดของมันที่หมุนอย่างรุนแรงก็พัดคลื่นทะเลรอบทิศจนเกิดเป็นเสียงดังกังวาน
ลินตันและพวกหนุ่มสาวมองไปยังฉินสือโอวอย่างยิ้มเยาะและรอดูความพ่ายแพ้ของเขา
ฉินสือโอวยิ้มโดยไม่พูดอะไร เด็กพวกนี้มีแบ็กอัปดีจริงๆ เพียงแค่โทรศัพท์ออกไป หน่วยยามฝั่งก็ขับเฮลิคอปเตอร์บินมาทันที
ซีซีจี ย่อมาจากตำรวจหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งแคนาดา หรือก็คือ แคนาเดียน การ์ด พวกเขาทำงานภายใต้การปกครองของตนเอง มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ และภาระหน้าที่มากมาย ต้องประสานกันกับฝ่ายขนส่ง เพื่อดำเนินการรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในน่านน้ำทะเล ทั้งยังต้องดูแลการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน ปราบปรามยาเสพติด ปราบปรามการก่อการร้ายเข้าสู่เขตมหาสมุทรและยังมีงานอื่นๆ อีกมากมาย
น้อยครั้งมากที่ซีซีจีจะขับเฮลิคอปเตอร์ออกมา นอกจากลาดตระเวนพื้นที่หรือได้รับคดีใหญ่ ปกติเวลาคนโทรแจ้งตำรวจพวกเขาก็มักจะใช้เรือ เช่นหลายครั้งที่ฉินสือโอวแจ้งตำรวจว่ามีเรือจับปลาเข้ามาบุกรุกในเขตฟาร์มปลาของเขา ซีซีจีก็จะใช้เรือลาดตระเวนมาจัดการแก้ปัญหา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไม่ได้มาบินลาดตระเวน ซึ่งเท่านี้ก็อธิบายได้แล้วว่า ทางภายในตัดสินเรื่องนี้เป็นการก่อการร้ายทางทะเลที่ น่า กลัว มาก
จากนั้นนักบินบนเฮลิคอปเตอร์ก็ใช้วิทยุไร้สายประกาศ สั่งให้เรือกำปั่นทะเลไปที่ท่าเรือเซนต์จอห์นเพื่อเข้ารับการตรวจสอบ
ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้องควบคุมอย่างหน้าตาเฉย แล้วจับวิทยุไร้สายขึ้นมาเพื่อตอบกลับไป “ซีซีจี ซีซีจี นี่คือหน่วยจู่โจมกองทัพบกของแคนาดา ผมฉินสือโอวผู้บังคับการกองร้อยหน่วยจู่โจมกองทัพบกเกาะแฟร์เวล ไม่ทราบว่าพวกคุณมาจากหน่วยไหน?”
พอเขาพูดออกมา ก็มีเสียงแทรกเข้ามาในคลื่นวิทยุ จากนั้นก็มีคนแอบกระซิบกันว่า
“เชรด หน่วยจู่โจมกองทัพบก? กองทัพพวกเรายังมีหน่วยนี้อยู่ด้วยเหรอวะ?”
“ไอ้โง่ นี่แกไม่รู้จัก หน่วยจู่โจมกองทัพบกเหรอ? ก็คือทหารกองหนุนยังไงเล่า! ฉันรู้แล้วว่านั่นคือใคร นั่นคือฉินผู้มีอิทธิพลแห่งเกาะแฟร์เวลยังไงล่ะ…”
“คนจีนที่ไม่ควรไปหาเรื่องนั่นน่ะเหรอ?”
“แม่งเอ๊ย! ใครมันโทรมาแจ้งว่าเป็นโจรสลัดกันวะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะและพูดวางยาต่อในสายว่า “ซีซีจีๆๆ ทราบแล้วเปลี่ยน หน่วยของเราได้รับแจ้งมาวันนี้ว่ามีคนที่ทำการฝ่าฝืนกฎหมายในน่านน้ำมหาสมุทร ตอนนี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้แล้ว และจะทำเรื่องดำเนินการฟ้องต่อไป ร้องถามหน่อยว่าพวกคุณจะรับคดีนี้ต่อไหม?”
ยามชายฝั่งรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ไม่ล่ะ หน่วยกองทัพบก พวกเราไม่มีสิทธิ์ที่จะรับคดีนี้ แต่ตามข้อกำหนดของน่านน้ำมหาสมุทรแคนาดาและการก่อการร้ายทางทะเลแล้ว ขอเชิญพวกคุณไปที่ท่าเรือเซนต์จอห์นก่อน พวกเราต้องการที่จะดำเนินการพิสูจน์และตรวจสอบความเป็นจริง”
“รับทราบ เปลี่ยนเส้นทางไปท่าเรือเซนต์จอห์น อ้อ ใช่แล้ว เตรียมหาสื่อมวลชนไว้แล้วหรือยังล่ะ?”
หน่วยยามฝั่ง “ทำไมจะต้องเตรียมสื่อ?”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset