ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1116 ท่านชายฉินคนเนื้อหอม

ทั้งสองฝ่ายไร้ซึ่งหนทางที่จะตกลงกันได้ บรรยากาศจึงตึงเครียดขึ้นยิ่งกว่าเดิม ชไนเดอร์ยังอยากพยายามอีกสักหน่อย จึงถามเขาว่า “คุณฉิน ไม่ทราบว่าคุณรู้จักสมาคมพี่น้องบิ๊กแซมไหมครับ?”
ฉินสือโอวไหวไหล่แล้วตอบเขาว่า “แน่นอนอยู่แล้วครับ สมาคมพี่น้องบิ๊กแซมเป็นสมาพันธ์ความร่วมมือที่มีชื่อเสียงมาก ผมคิดว่าใครก็ตามที่ไม่ได้หูหนวกตาบอด ก็คงจะรู้จักสมาคมนี้กันทั้งนั้น”
ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ใบหน้าของชไนเดอร์ก็เผยรอยยิ้มอิ่มอกอิ่มใจออกมา อีกทั้งคามี่ เชเรนส์ที่อยู่ข้างๆ กันก็พูดรับว่า “คุณวอเทอเรนซ์เป็นสมาชิกของสภาภราดรภาพ คุณฉิน หากคุณมีความสนใจเกี่ยวกับสมาคมอยู่บ้าง ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะรู้ว่า สมาชิกสภาภราดรภาพเป็นสมาชิกผู้ให้การเสนอแนะที่ดีที่สุดของสมาคม”
ฉินสือโอวยิ้มออกมา นี่คือไม้แข็งที่คงไม่มีการโอนอ่อนอีกแล้ว ชไนเดอร์เริ่มแสดงความประสงค์ดีออกมา น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับสมาพันธ์ความร่วมมือจำพวกนี้จริงๆ ถ้าเป็นองค์กรฟรีเมสันถึงจะน่าสนใจหน่อย
ดังนั้นเขาจึงตอบกลับไปอย่างสบายๆ ว่า “โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากๆ เลยครับ”
ชไนเดอร์กับคามี่กำลังจะยิ้มออกมาอีกครั้ง ทว่าฉินสือโอวก็พูดต่อจากเมื่อสักครู่เสียก่อน “แต่เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกันกับผมไม่ใช่เหรอครับ?”
ทั้งสองคนเป็นคนฉลาด พวกเขาไม่เชื่อว่าฉินสือโอวจะโง่จนไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่คามี่พูดออกมา ไม่ต้องสงสัยเลย ฉินสือโอวเลือกที่จะปฏิเสธกิ่งใบสมอ[1] ที่สมาคมพี่น้องบิ๊กแซมยื่นให้
ตามลักษณะนิสัยของชไนเดอร์ เมื่อก่อนถ้ามีคนปฏิเสธคำเชิญชวนของเขา เขาคงจะสะบัดแขนเสื้อเดินหนีไปตั้งนานแล้ว แต่ครั้งนี้จะทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพราะเขามีเรื่องจะขอร้องฉินสือโอว แต่ยังเป็นเพราะประธานสภาภราดรภาพสมาคมพี่น้องบิ๊กแซมขอให้เขาลากคนจีนคนนี้มาเข้าร่วมสมาคมด้วย
จนถึงทุกวันนี้ สมาคมพี่น้องบิ๊กแซมไม่ใช่สมาคมนักศึกษาของอเมริกาเพียงอย่างเดียวมาตั้งนานแล้ว ขอแค่มีศักยภาพเพียงพอ ก็จะได้รับการเชิญชวน ในสมาคมมีประเภทคนที่ซับซ้อนจนเกือบจะเป็นเหมือนสหประชาชาติแล้ว
ของหายากจึงดูมีคุณค่า เส้นทางการพัฒนาของสมาคมพี่น้องบิ๊กแซมเป็นความผิดพลาด ก็เหมือนกับมหาวิทยาลัยของจีนที่ขยายการรับนักศึกษาจนทำให้ได้นักศึกษาที่ไร้ค่ามา สมาพันธ์ของพวกเขาขยายการพัฒนาอย่างมืดบอด อาจจะดูเหมือนว่ามีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น มีทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร สมาชิกที่เป็นทรัพยากรก็กลายเป็นสิ่งไร้ค่า
แน่นอนว่า ชไนเดอร์ไม่มีทางคิดอย่างนี้แน่ๆ สำหรับคำปฏิเสธของฉินสือโอวแล้ว เขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไรนัก จึงพูดขึ้นอีกว่า “คุณฉิน คุณไม่อยากเข้าสมาคมพี่น้องบิ๊กแซมเหรอครับ? คุณแน่ใจใช่ไหมว่ารู้จักสมาคมของพวกเราดี?”
ภายใต้ความฉุกละหุก เขาจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มัวสงวนท่าทีอย่างเมื่อสักครู่อีกต่อไป เห็นได้ว่าเขาเริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว
ฉินสือโอวแสร้งทำท่าทางเสียดายออกไป แล้วกล่าวว่า “ขอโทษจริงๆ ครับ คุณวอเทอเรนซ์ ผมเป็นสมาชิกของซีซีเอส สมาคมของพวกเรามีข้อกำหนดว่าไม่อนุญาตให้สมาชิกเข้าร่วมสมาคมอื่นอีก ดังนั้นสำหรับความรักและเมตตาของคุณ ผมคงพูดได้แค่ขอบคุณ”
ซีซีเอสเป็นชื่อเรียกสั้นๆ ของสมาคมช่วยเหลือชาวแคนาดาเชื้อสายจีนและชาวจีนโพ้นทะเล ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เอี๋ยนตงเหล่ยเคยเชิญให้เขาเข้าสมาคม ทว่าฉินสือโอวไม่มีความสนใจที่จะเข้าสมาคม เนื่องจากสมาคมพวกนี้มีกิจกรรมและเงื่อนไขเยอะเกินไป บุคคลที่ปลอดจากการผูกมัดของโลกียวิสัยอย่างเขา ไม่เหมาะที่จะเข้าไปในกรงขังประเภทนี้
ต่อให้กรงขังพวกนี้จะชุบไปด้วยทองก็ตาม
ชไนเดอร์และคนอื่นๆ ย่อมไม่รู้ว่าฉินสือโอวกำลังพูดเรื่องไร้สาระ พวกเขารู้สึกทดท้ออย่างถึงที่สุด โชคดีที่ทั้งสองคนยังไม่ถึงขั้นสมองพิการ จึงไม่ได้พูดว่าให้ฉินสือโอวออกจากซีซีเอสมาเข้าสมาคมพี่น้องบิ๊กแซม ไม่เช่นนั้นฉินสือโอวคงจะมีเหตุผลให้ไล่พวกเขากลับไปแล้ว
หลังจากนั้นคนทั้งคู่ก็ใช้วิธีการโน้มน้าวเขาสารพัด แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรฉินสือโอวก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าร่วม เขากับวินนี่เอาแต่ชักชวนให้ทั้งสองคนดื่มชา ดื่มไปดื่มมาทั้งสอนคนก็ถึงกับต้องเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างไม่หยุดหย่อน…
คุยกันมาหนึ่งชั่วโมงแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ชไนเดอร์เริ่มสูญเสียความมั่นใจแล้ว จึงละทิ้งความคิดที่จะพูดโน้มน้าวให้ฉินสือโอวเข้าร่วมสมาคมพี่น้องบิ๊กแซม แล้วเข้าสู่เรื่องสุดท้ายที่จะพูดเลยทันที “คุณฉิน ไม่ทราบว่าพวกเราต้องใช้เงื่อนไขอะไร คุณถึงจะยอมเพิกถอนการฟ้องร้องลูกๆ ของพวกเราครับ?”
สมาคมพี่น้องบิ๊กแซมเป็นเพียงแค่สมาพันธ์ความร่วมมือของเอกชนเท่านั้น ไม่มีทางมีอิทธิพลเหนือกฎหมายได้ วัยรุ่นทั้งสี่คนทำผิดกฎหมายจริงๆ หากศาลดำเนินการอ่านคำตัดสิน เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะต้องถูกตัดสินลงโทษแน่ๆ
ดังนั้น ชไนเดอร์ถึงได้เอาใจใส่กับเรื่องนี้มาก ถึงแม้ว่าลินตันจะเป็นลูกล้างลูกผลาญที่ไม่มีอะไรดีเลยสำหรับครอบครัว แต่เขาก็ไม่อยากให้คนที่จะรับช่วงต่อจากเขาต้องถูกจับเข้าคุก
ผู้คนในสังคมชั้นสูงของแคนาดาต่างก็ต้องรักษาหน้าตากันทั้งนั้น หากลินตันถูกจับเข้าคุก หลังจากออกมาเขาก็คงจะเข้าสังคมนี้ได้ยากแล้ว
ฉินสือโอวเองก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้วเช่นกัน “คุณวอเทอเรนซ์ คุณมาหาผิดคนแล้วครับ ตอนนี้ผมเพิกถอนการฟ้องร้องไม่ได้แล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ข้อพิพาทส่วนตัว แต่เด็กๆ พวกนั้นทำผิดกฎหมายจริงๆ! ถ้าจะให้ผมพูด คุณมาหาผมที่นี่ก็เสียเวลาเปล่า สู้คุณเอาเวลาไปหาทนายเก่งๆ ดีกว่านะครับ”
ชไนเดอร์เห็นอีกฝ่ายยังดึงดัน ในที่สุดเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา กล่าวว่า “คุณฉิน ลูกๆ ของพวกเราก็แค่ทำลายผลประโยชน์ของฟาร์มปลาของคุณไม่ใช่หรอกเหรอ พวกเขาสร้างความสูญเสียให้คุณไปเท่าไร? ผมจะชดใช้ให้สิบเท่าเลยโอเคไหม? หนึ่งแสน? ห้าแสน? หรือหนึ่งล้าน?!”
พอพูดถึงเรื่องนี้ ท่านชายฉินก็เผยความจริงใจออกมา “คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณวอเทอเรนซ์ พวกเราเพิ่งรู้จักกันแต่ก็เหมือนคนสนิทกันมานาน ผมจะให้คุณชดใช้เงินให้ผมได้อย่างไรล่ะครับ? ในเรื่องนี้ผมไม่มีกำลังพอที่จะช่วยเหลืออะไรได้จริงๆ เพราะพวกเขาทำผิดกฎหมายจริงๆ”
คามี่สอดปากพูดขึ้นมาว่า “ใช่ พวกเขาทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่คุณสามารถเพิกถอนคำฟ้องคดีที่พวกเขายิงเต่ามะเฟืองได้ ใช่ไหมครับ? พวกเราต่างก็รู้ว่า เด็กๆ พวกนั้นไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเต่ามะเฟือง พวกเขาก็แค่เบื่อ เลยยิงปลาอย่างปลาคาร์ฟเอเชียไปเรื่อยก็เท่านั้น”
ที่แคนาดาการยิงปลาคาร์ฟเอเชียเป็นการกระทำที่ได้รับการสนับสนุน หากฉินสือโอวเพิกถอนคำฟ้องร้องต่อหน่วยเรนเจอร์ ถ้าอย่างนั้นการจัดการคดีก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ทนายก็จะมีเหตุผลเพียงพอที่จะช่วยให้วัยรุ่นพวกนี้หลุดพ้นจากความผิด
ทว่าฉินสือโอวไม่อยากเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ดังนั้นเขาจึงชำเลืองมองคามี่ แล้วพูดอย่างจองหองว่า “ปลาคาร์ฟเอเชียมีชีวิตอยู่ในทะเลเหรอครับ? แล้วก็ คุณรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเต่ามะเฟือง?”
ความหมายนอกเหนือจากคำพูดที่กล่าวออกมาคือ นายเป็นใคร ถึงคิดว่าจะมีสิทธิ์มาต่อรองกับฉันอยู่ที่นี่?
ในความคิดของนักธุรกิจยี่ห้อเก่าแก่อย่างชไนเดอร์ บนโลกนี้ไม่มีปัญหาอะไรที่ใช้เงินจัดการไม่ได้ ถ้าแก้ไขไม่ได้จริงๆ นั่นก็หมายความว่าราคาที่เสนอออกไปไม่ชวนให้อีกฝ่ายรู้สึกสนใจ ถ้าอย่างนั้นแค่เพิ่มเงินเข้าไปอีกก็แก้ปัญหาได้แล้ว
ทว่าในวันนี้ ความเชื่อของเขาถูกทำลายลงแล้ว ฉินสือโอวไม่ต้องการเงินของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว อะไรก็ไม่ต้องการ ต้องการแค่ความยุติธรรมเท่านั้น!
ถือสิทธิ์อะไร ลูกๆ ของพวกนายใช้สารล่อฉลามกับลูกศรไดนาไมต์มาฆ่าสิ่งมีชีวิตในทะเลเหล่านั้นได้ตามใจเหรอ? ถ้าเป็นเพราะต้องการเอามากินหรือเอามาหาเงินเลี้ยงครอบครัว เขาก็คงจะเข้าใจได้ แต่คนพวกนี้ทำแค่เพราะความสนุก นี่เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้!
ท้ายที่สุดชไนเดอร์กับคามี่ก็ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ทำได้แค่กลับออกไปพร้อมกับความผิดหวัง ก่อนจะกลับชไนเดอร์ยังโน้มน้าวให้ฉินสือโอวลองไตร่ตรองดูให้ดีๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
ฉินสือโอวก็พูดยิ้มๆ ว่าเขาจะลองพิจารณาดู พิจารณากับผีน่ะสิ
หลังจากส่งพวกชไนเดอร์กลับไปแล้ว ผ่านไปไม่นาน ก็มีสายโทรศัพท์จากเอี๋ยนตงเหล่ยโทรเข้ามา หลังจากถามไถ่เรื่องคดีความของเขา เอี๋ยนตงเหล่ยก็ตัดเข้าสู่ประเด็นหลัก “เสี่ยวฉิน ถ้าอย่างนั้นนายเข้าร่วมสมาคมช่วยเหลือชาวจีนโพ้นทะเลในนิวฟันด์แลนด์ของพวกเราเลยเถอะ ถ้าพวกสมาคมพี่น้องบิ๊กแซมเล่นงานนาย พวกเราจะได้มีเหตุผลที่เหมาะสมไปช่วยนายได้”
ฉินสือโอวไม่สนใจจริงๆ จึงตอบกลับไปว่าเขาจะลองพิจารณาดู แล้วหลังจากนั้นค่อยให้คำตอบ
…………………………………………………

[1]กิ่งใบสมอ หมายถึง สัญลักษณ์ของสันติภาพ

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset