ฉินสือโอวไปหยิบหวีมา เขาเรียกหู่จือกับเป้าจือให้มาอยู่ข้างๆ แล้วหวีขนเส้นละเอียดให้กับสุนัขแลบราดอร์อย่างพิถีพิถัน จากนั้นจึงปัดกวาดขนสุนัขที่ร่วงลงมาให้สะอาด
หู่จือกับเป้าจือคลอเคลียอยู่ข้างๆ ตัวเขาเหมือนกับเด็กๆ ฉินสือโอวหวีขนไปพร้อมๆ กับเกาให้พวกมันไปด้วย สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวมีความสุขมากจริงๆ พวกมันแสยะปากพร้อมกับเอาหัวดันเข้าไปในอ้อมอกของเขาไม่หยุด
ฉงต้าวิ่งออกมาพร้อมกับเนื้อตัวอวบอ้วนที่สั่นสะบัดไปทั่วทั้งตัว มันเห็นว่าหู่จือกับเป้าจือดูสดชื่นแล้วก็สบาย จึงเข้ามาที่ด้านหน้าของฉินสือโอวแล้วร้องอ่าอู้วๆ ออกมาสักพัก ทั้งยังสะบัดเนื้อตัวที่มีแต่ไขมันเพื่อบอกเป็นนัยว่ามันก็ต้องการการดูแลที่อ่อนโยนเช่นกัน
ฉินสือโอวตะโกนเรียกกอร์ดอนให้ออกมาหา แล้วบอกให้เขาลากฉงต้าไปลดความอ้วน
พอฉงต้าเห็นว่ากอร์ดอนกำลังจะพาตัวเองเดินไปที่ริมชายหาด มันก็รู้ว่าสถานการณ์ท่าจะไม่ดีแล้ว จึงวิ่งหนีไปพร้อมกับร้องอ๋าวๆ ออกมา
กอร์ดอนจะยื่นมือออกไปกอดมันไว้ แต่กลับโดนฉงต้าฟาดเข้าไปหนึ่งป้าบจนล้มลงไปกับพื้น ทำให้เขารู้สึกโมโหสุดๆ “แกตายแน่! ฉงต้า แกตายแน่! ฉันจะเอาแกไปทิ้งไว้ที่มหาสมุทรแอตแลนติกใต้!”
ไวส์ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปทำท่ายืนม้า บอกว่าจะเปลี่ยนแปลงพลังงานในอาหารให้กลายเป็นลมปราณ เขาเพิ่งจะเริ่มย่อตัวลง แต่ต่อจากนั้นก็เห็นฉงต้าวิ่งถลันเข้ามา ดังนั้นเขาจึงสูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้ง แล้วแสดงท่าทางแบบหวงเฟยหงเวอร์ชันหลี่เหลียนเจี๋ย ตวาดเสียงดังว่า “ถ้ายังวิ่งฉันจะตีแกให้ตาย!”
ฉงต้าถูกโจมตีทั้งจากด้านหน้าและหลัง จึงทำได้แค่หยุดอยู่กับที่ ในตอนนี้นีลเซ็นกับเบิร์ดกำลังผ่านมาพอดี พวกเขาจึงช่วยกอร์ดอนทั้งดึงทั้งลากฉงต้าไปส่งขึ้นเรือเด็ค แล้วขับพามันไปที่ทะเล เพื่อให้มันว่ายน้ำลดความอ้วน
ฉงต้าหมอบอยู่บนเรือเด็ค ร้องตะโกนไปทางวิลล่าอย่างไม่หยุดหย่อน ด้วยความรู้สึกเศร้าโศกอ้างว้าง หนูง่วงนอนมากๆ ไม่อยากไปอาบน้ำแล้วจริงๆ นะ!
สางขนให้หู่จือกับเป้าจือจนสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว ฉินสือโอวตบก้นของเด็กๆ พวกนี้ พวกมันพากันกระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุข แล้วถูอกฉินสือโอวอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็วิ่งเข้าไปในวิลล่า ไปสร้างความวุ่นวายให้กับวินนี่
ตอนกลางคืน บูลกับแอนนาพาลูกชายตัวอ้วนของพวกเขามาเล่นที่ฟาร์มปลา
เมื่อมองเห็นทั้งสอง วินนี่ก็พูดด้วยความรู้สึกประหลาดใจว่า “แขกที่นานๆ จะมาครั้ง นี่เป็นครั้งแรกเลยใช่ไหมที่พวกเธอเป็นฝ่ายพาลูกมาเล่นที่บ้านของพวกเราเอง? วันนี้ลมอะไรพัดพวกเธอมาล่ะเนี่ย?”
แอนนาเป็นผู้หญิงที่หัวอ่อนและเก็บตัวมาก เมื่อถูกวินนี่หยอกเล่นแบบนี้ เธอจึงค่อนข้างรู้สึกผิด “ฉันออกมาไม่ได้น่ะ ลูกยังเล็กมาก ต่อไปรอให้เขาโตกว่านี้อีกหน่อย แล้วฉันจะพาเขามาเล่นที่นี่กับคุณทุกวันเลยดีไหมคะ?”
บูลเอาลูกชายตัวอวบอ้วนของเขามาวางไว้บนโซฟา ฉินสือโอวเข้าไปลองแกล้งหยอกเล่นดู พอเขายื่นมือออกไป เด็กตัวอ้วนก็ใช้ความรวดเร็วที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันกอดแขนของเขาเอาไว้ แล้วแหงนหน้าขึ้นไปจะกินมือเขา
ฉินสือโอวพูดอย่างทอดถอนใจว่า “บูล ลูกชายของนายกินเก่งกว่าฉงต้าอีกเหรอ? นายต้องควบคุมปริมาณอาหารของเขาให้ดีๆ นะ ถ้าไม่อย่างนั้นนายลองดูฉงต้าเลย ไขมันก้อนหนึ่งชัดๆ!”
บูลหัวเราะอย่างคลุมเครือ หลังจากนั้นเขาก็เอาลูกชายไปวางไว้ข้างๆ กันกับเสี่ยวเถียนกวาทันที พอเห็นแบบนี้ฉินสือโอวก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าเลย เพื่อน ลูกสาวของพวกเราอารมณ์ร้ายมาก เธอไม่อนุญาตให้เพื่อนคนอื่นเข้าไปในอาณาเขตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็หยิกเพื่อนอีก”
บูลหัวเราะแหะๆ พูดว่า “ไม่เป็นไรครับ บอส ครั้งนี้ลูกชายของผมไม่ยอมถูกรังแกง่ายๆ แน่นอน”
ตะแคงหัวหันไปเห็นเด็กตัวอ้วนคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ ตัวเอง เสี่ยวเถียนกวารู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก เธอขมวดคิ้วน้อยๆ ของตัวเอง แล้วหมุนตัวอย่างรวดเร็ว ถีบขาเล็กๆ สั้นๆ ออกไปเพื่อที่จะเตะเด็กอ้วน
แต่ปรากฏว่าเด็กอ้วนก็มีฝีมือเหมือนกัน พอถูกเตะไปสองทีเขาก็รู้สึกไม่สบายตัว จึงพลิกตัวอย่างอ่อนช้อย ขยับตัวแบบนี้ไปด้านหลังอีกหน่อย เพื่อหลบขาเล็กๆ ของเสี่ยวเถียนกวา
เมื่อได้เห็นภาพนี้ ฉินสือโอวก็พูดอด้วยความรู้สึกทึ่งว่า “เฮ้ เพื่อน ลูกชายของนายพลิกตัวได้แล้วเหรอ? น่านับถือจริงๆ ยินดีด้วยๆ!”
ใบหน้าของบูลแสดงความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจออกมา แต่กลับทำทีว่าไม่ใส่ใจ เขาโบกมือปัดแล้วพูดว่า “ไม่เท่าไรหรอกครับๆ เขายังด้อยกว่าเสี่ยวเถียนกวาอยู่มาก เสี่ยวเถียนกวาพลิกตัวได้ตั้งนานแล้วใช่ไหมล่ะครับ?”
เด็กอ้วนหลบออกไป เสี่ยวเถียนกวาพบว่าขาสั้นๆ ของตัวเองเตะไม่ถึงแล้ว ดังนั้นเธอจึงพลิกตัวอย่างปราดเปรียว แขนขาเล็กๆดันตัวขึ้น คลานมาข้างหน้าอย่างเชื่องช้าได้สองก้าว หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกไปสะกิดเด็กตัวอ้วน…
แท้จริงแล้วมนุษย์มีความต้องการที่จะรุกรานมาตั้งแต่กำเนิด เสี่ยวเถียนกวายังไม่รู้จักสิ่งนี้ แต่กลับรู้จักที่จะใช้มือสะกิดคนอื่นแล้ว
สีหน้าอิ่มอกอิ่มใจของบูลจากเมื่อสักครู่แข็งค้างไปแล้ว อีกทั้งแอนนายังรู้สึกช็อกยิ่งกว่า “พระเจ้า เสี่ยวเถียนกวาคลานได้แล้วเหรอเนี่ย?!”
โดยทั่วไปแล้วเด็กจะสามารถคลานได้ก็ต่อเมื่อมีอายุหกเจ็ดเดือน ด้วยการบำรุงร่างกายจากพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเสี่ยวเถียนกวาจึงแข็งแรงกว่าเด็กๆ ทั่วไป ใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่ง เธอก็สามารถคลานได้แล้ว
เห็นลูกสาวคลานตามเด็กตัวอ้วน แล้วหลังจากนั้นก็ไปรังแกคนอื่นด้วยการเตะและสะกิด ฉินสือโอวกับวินนี่ก็รู้สึกประหลาดใจเกินกว่าใครๆ เมื่อก่อนพวกเขาเคยพยายามฝึกความสามารถในการคลานให้กับเสี่ยวเถียนกวา แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังคลานไม่ได้สักที
ทว่า ตอนนี้อยู่ๆ เธอก็สามารถคลานได้แล้ว อีกทั้งความเร็วในการคลานของเธอยังไม่ได้ช้ามากอีกด้วย
ในตอนนี้การพลิกตัวของเด็กอ้วนไม่มีประโยชน์แล้ว คู่ต่อสู้ของเขาสามารถเคลื่อนที่ได้ จึงทำได้แค่เป็นฝ่ายที่ถูกโจมตี
หลังจากถูกตีไปสองครั้ง เด็กอ้วนก็ร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านพ่อท่านแม่รีบมาช่วยฮ่องเต้น้อยที ลูกถูกคนอื่นรังแกแล้ว!
วินนี่เลยต้องอุ้มเสี่ยวเถียนกวาขึ้นมา ความสามารถในการโจมตีของเด็กน้อยค่อนข้างดี วินนี่อุ้มเธอเอาไว้แล้ว ทว่าเธอยังเตะขาอยู่ในอากาศ ไวส์อยู่ข้างๆ กันพอดี เขาพูดด้วยความรู้สึกตื่นตะลึงว่า “ศิษย์น้องเก่งกาจจริงๆ เธอก็มีลมปราณแล้วใช่ไหมครับ? ผมว่าน้องต้องคิดจะปล่อยพลังลูกเตะผ่านทางอากาศแน่ๆ”
ฉินสือโอวใช้มือยกคอเสื้อของไวส์ลากให้เขาเดินตามมา แล้วโยนใบสมัครเข้าร่วมสมาคมให้เขาหนึ่งฉบับ “เขียนใบสมัครอันนี้ ไม่ต้องมาสร้างความวุ่นวายเพิ่ม”
ไวส์มองดูแบบฟอร์มด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงง “นี่คืออะไรครับ ท่านอาจารย์?”
ฉินสือโอวอธิบายเรื่องเกี่ยวกับสมาคมของเขาให้ฟังคร่าวๆ ไวส์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “อาจารย์ ผมไม่เข้าใจ ผมเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เข้าร่วมสมาคมแล้วจะมีประโยชน์อะไรเหรอครับ?”
เมื่อเห็นแบบนี้ ท่านชายฉินจึงเปลี่ยนข้ออ้างว่า “นี่คือใบสมัครเพื่อเลื่อนขั้นศิษย์นอกสำนักให้การเป็นศิษย์ในสำนัก ถ้านายสมัครได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักเรา!”
ไวส์จับกระเป๋านักเรียนขึ้นมาทันที เขาหาปากกาจากในกระเป๋ามาหนึ่งด้าม แล้วก้มลงไปบนโต๊ะทานอาหารแล้วเริ่มเขียนไปสมัครเข้าสมาคมอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง จนเหมือนกับว่ากำลังเขียนใบสมัครเข้าพรรคการเมือง
ทีแรกบูลอุ้มลูกชายจะเอามาอวด แต่ดันถูกโจมตีอีกครั้ง ลูกของเขาเพิ่งจะพลิกตัวได้ แต่เสี่ยวเถียนกวาลูกบ้านนี้กลับคลานได้แล้ว เขาคิดว่า ถ้ารอจนถึงตอนที่ลูกชายเขาเดินได้ ตอนนั้นเสี่ยวเถียนกวาคงจะวิ่งเล่นได้แล้ว
การต่อสู้ถึงจะเป็นแรงขับเคลื่อนในการก้าวหน้าของมนุษย์ เรื่องนี้สามารถยืนยันได้ด้วยตัวของเสี่ยวเถียนกวาเอง ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวกับวินนี่ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจสอนให้เธอคลานแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้พอทะเลาะกันกับเด็กอ้วน เธอกลับสามารถคลานได้อย่างคล่องแคล่ว ดูไม่ออกเลยสักนิดว่านี่คือการคลานครั้งแรก
หลังจากเสี่ยวเถียนกวาคลานเป็น เหล่าสัตว์เลี้ยงในบ้านก็ซวยแล้ว
หนูน้อยมีอารมณ์ไม่คงที่ ตอนที่ยังคลานไม่ได้ เธอยังทำได้แค่เล่นกับนิ้วมือของตัวเอง เหล่าสัตว์เลี้ยงวิ่งมาอยู่ตรงหน้าเธอถึงจะถูกย่ำยี ต่อมาหลังจากที่เหล่าสัตว์เลี้ยงรู้ว่าพญามารตัวน้อยคนนี้ไม่ใช่คนที่ควรจะไปกวนโมโห นอกจากหลัวปอแล้ว สัตว์เลี้ยงตัวอื่นก็ไม่เข้าไปใกล้เธออีก
ทว่าตอนนี้เธอคลานได้แล้ว เสี่ยวเถียนกวาจึงคลานตามก้นไล่ตามพวกสัตว์เลี้ยงอยู่ทางด้านหลัง สัตว์เลี้ยงดวงซวยตัวแรกที่ประสบกับการถูกย่ำยีก็คือลูกนกอินทรีทอง มันติงต๊องที่สุด ทั้งยังชอบวิ่งมาหาวินนี่เพื่อหาอะไรกิน
เสี่ยวเถียนกวาขวางมันเอาไว้ แล้วโผเข้าไปกดมันไว้ใต้ร่างของเธอ มือเล็กๆ ลูบนกอินทรีทองตัวกลมๆ แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา
ทางด้านลูกนกอินทรีทองถูกทับจนอึแทบจะไหลออกมาแล้ว มันร้องแควกๆๆ หาวินนี่ เสียงร้องที่ร้องออกมาฟังดูจนตรอกมาก
หู่เป้าฉงหลัวมองดูภาพเหตุการณ์นี้ ความรู้สึกตามสัญชาตญาณของพวกมันก็สัมผัสได้ว่าท่าจะไม่ดีแล้ว…
…………………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1119 วันพิพากษากำลังจะมาถึงแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!