ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1130 นับถอยหลัง

ตอนที่พาต้าป๋ายไปนครเซนต์จอห์น ฉินสือโอวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อก่อนคนในเมืองนี้ถึงได้พากันย้ายออกจากเกาะ นั่นก็เพราะการจราจรของที่นี่มันไม่สะดวกเลยจริงๆ น่ะสิ!
เมื่อก่อนตอนที่เขาไปนครเซนต์จอห์น ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ครั้งนั้นที่วินนี่คลอดลูก ทีแรกเขาร้อนใจแทบแย่ แต่วินนี่บอกเขาว่าเธอแค่แสดงละครเท่านั้น ดังนั้นตอนที่อยู่บนเรือเขาจึงไม่ได้รู้สึกร้อนใจอะไรแล้ว
แต่ครั้งนี้ต้าป๋ายไม่สบาย ฉินสือโอวร้อนใจแล้วจริงๆ แบบนี้เขาถึงได้รู้สึกว่าทำไมเกาะกับแผ่นดินใหญ่มันถึงได้อยู่ไกลกันขนาดนี้ ออกเดินทางมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่ถึงท่าเรือสักที
ฉงต้ากระวนกระวายใจยิ่งกว่า มันนั่งยองๆ อยู่บนดาดฟ้าเรือ อุ้งตีนหยาบหนาเขี่ยราวเหล็กไปมา มองออกไปยังนครเซนต์จอห์นที่ปรากฏให้เห็นอย่างเลือนรางอยู่ห่างออกไปไกล ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ…
นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ไปนครเซนต์จอห์น นั่นก็เพราะมันไม่ชอบนั่งเรือ ทว่าครั้งนี้ต้าป๋ายไม่สบาย ตอนที่ฉินสือโอวพาต้าป๋ายไปขึ้นเรือ ไม่ว่าอย่างไรฉงต้าก็จะปีนขึ้นไปบนเรือให้ได้เหมือนกัน ช่วงแรกๆ ที่เรือขับออกมามันก็คอยอยู่ข้างๆ ต้าป๋ายตลอด
มองดูนครเซนต์จอห์นอยู่สักพัก หลังจากนั้นฉงต้าก็วิ่งจากดาดฟ้าเรือกลับเข้ามาข้างใน พอเจอต้าป๋ายก็ร้องฮือๆ ออกมาอย่างอ่อนโยน ราวกับว่ากำลังปลอบมันอยู่ แล้วก็เหมือนกับว่ากำลังเร่งวิถีความเร็วให้เรือน้อยของมัน หลังจากนั้นฉงต้าก็วิ่งกลับไปที่ดาดฟ้าเรืออีกครั้ง แล้วมองดูแผ่นดินใหญ่ด้วยความร้อนใจ
มิตรภาพอยู่ยั้งยืนยง ในใจของฉินสือโอวรู้สึกซาบซึ้งมากจริงๆ มิตรภาพที่แท้จริงจะสามารถก้าวข้ามความแตกต่างทางสายพันธุ์ได้ อย่างเช่นมิตรภาพของฉงต้ากับต้าป๋ายนั่นเอง
หลังจากเรือเข้าเทียบท่า บิ๊กฟุตเรคขับกระบะที่มีตู้มารออยู่บนท่าเรือแล้ว พอเห็นฉงต้าลงมาจากเรือ เขาก็ตกใจจนตัวโยน แล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “โอ้ พระเจ้า มิน่าล่ะนายถึงให้ฉันขับรถขนส่งสินค้ามา ฉันนึกว่านายจะขนอาหารทะเลมาด้วยเสียอีก ที่แท้ก็ขนของหายากจากภูเขามาด้วย”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ แล้วบอกกับเขาว่า “ขอโทษด้วยเพื่อน ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาล้อเล่น ลูกของฉันตัวหนึ่งไม่สบาย ฉันต้องพามันไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์”
เรคจัดการธุระได้อย่างน่าเชื่อถือมาก เขาเป็นคนขับรถให้เอง อีกทั้งยังศึกษาเส้นทางมาก่อนล่วงหน้าอย่างแม่นยำ รอจนฉินสือโอวกับวินนี่พาต้าป๋ายฉงต้าขึ้นรถ เขาก็เหยียบคันเร่งแล้วขับทะยานออกไปทันที ระหว่างทางนอกเหนือจากที่ติดไฟแดงไม่กี่ครั้ง เส้นทางที่เหลือก็เป็นไปอย่างราบรื่น ขับตรงไปที่ ‘โรงพยาบาลสัตว์เคลต์’
โรงพยาบาลสัตว์เคลต์เป็นโรงพยาบาลที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่มีอำนาจมากที่สุดของนครเซนต์จอห์น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1952 เป็นสถานพยาบาลสำหรับสุนัขและสัตว์วงศ์เสือและแมวแห่งแรกของนิวฟันด์แลนด์ รับหน้าที่ในการตรวจสุขภาพสัตว์ทั้งในและนอกสถานที่ในเขตนครเซนต์จอห์น
พื้นที่สิ่งก่อสร้างของโรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้มีเนื้อที่ราวๆ ห้าพันตารางเมตรกว่าๆ ประกอบไปด้วย ห้องตรวจโรคของแพทย์เฉพาะทางและห้องตรวจอาการทั่วไป ห้องตรวจร่างกายและภูมิคุ้มกันโรค ห้องผ่าตัด แผนกรับเลี้ยงผู้ป่วยใน ห้องปฏิบัติการ ห้องฉีดยา ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ตของใช้สัตว์ แผนกให้บริการด้านความงามของสัตว์เลี้ยงและแผนกอื่นๆ เป็นต้น
เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลของคน ขั้นตอนการทำงานของโรงพยาบาลสัตว์ในแคนาดากลับมีความสมเหตุสมผลมากกว่า จำนวนของสัตวแพทย์ที่ทำงานมีอยู่ค่อนข้างมาก สัตว์ป่วยส่วนมากที่ส่งเข้ามารักษาจะได้รับการรักษาในวันเดียวกัน เนื่องจากโรงพยาบาลสัตว์เหล่านี้เป็นของเอกชน แรงกดดันจากการแข่งขันสูง แพทย์และพยาบาลต้องทำเงินให้ได้มากๆ จึงต้องทำงานให้เยอะตามไปด้วย
ดังนั้น ในเขตพื้นที่ของนครเซนต์จอห์น สัตวแพทย์หลายคนจึงมีรายได้ที่ล่ำซำกว่าแพทย์รักษาคน ซึ่งส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ วัยรุ่นบางส่วนที่รักสัตว์ตัวเล็กๆ เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยก็จะเลือกเรียนสัตวแพทยศาสตร์เป็นอันดับแรกในสายงานนี้
เรคช่วยลงทะเบียนเข้ารักษากับแพทย์เฉพาะทางให้แล้ว พวกฉินสือโอวมาถึงได้ไม่นาน ก็ถึงคิวเข้าห้องตรวจของพวกเขาแล้ว
เห็นวินนี่อุ้มโอพอสซัมเวอร์จิเนียเข้ามา สัตวแพทย์วัยกลางคนท่านนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมา แล้วพูดว่า “คนที่เลี้ยงสัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงพบได้น้อยมากแล้ว ไม่ทราบว่ามันประสบกับเรื่องอะไรมาเหรอครับ?”
“อยู่ๆ ลูกของฉันก็อ้วกเอาเมือกสีขาวกับอาหารที่ยังไม่ย่อยออกมา ขณะเดียวกันเขาก็อ่อนแรงมากๆ ด้วยค่ะ” พูดจบ วินนี่ก็วางต้าป๋ายลงบนโต๊ะทำงานของคุณหมอ ต้าป๋ายพินิจพิเคราะห์รอบๆ ด้านด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วกำลังจะลุกขึ้น วินนี่ลูบตัวมันไว้ด้วยความเร่งรีบ ต้าป๋ายใช้หัวของมันถูกับมือของวินนี่ไปมาราวกับว่ากำลังปลอบประโลมเธออยู่ หลังจากนั้นก็นอนลงไปอย่างว่าง่ายๆ
ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ สัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์กว้างขวางก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาพูดว่า “โอ้ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ มาให้ผมดูหน่อย นอกจากนี้ผมคงต้องขอชมว่า ลูกของคุณแสนรู้มากจริงๆ มันไม่เหมือนโอพอสซัมเวอร์จิเนียเลย ฉลาดจนเหมือนกับหมาแลบราดอร์เลยล่ะ”
“พวกเราเลี้ยงหมาแลบราดอร์น่ารักๆ ไว้สองตัวด้วยค่ะ” วินนี่พูดด้วยรอยยิ้ม
“หู่จือกับเป้าจือ ซูเปอร์สตาร์ตัวน้อยในวงการสัตว์เลี้ยง ผมพูดถูกไหมครับ?” สัตวแพทย์วัยกลางคนกล่าว “คุณฉิน คุณวินนี่”
ฉินสือโอวกับวินนี่พยักหน้า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สัตวแพทย์ท่านนี้จะรู้จักพวกเขา ในวงการของพวกเขาหู่จือกับเป้าจือควรค่ากับการถูกเรียกว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ ฉินสือโอวกับวินนี่ก็นับว่ามีชื่อเสียงในวงการสัตว์เลี้ยงเพราะสุนัขแลบราดอร์ของพวกเขา
คุณหมอวัยกลางคนตรวจรูม่านตาของต้าป๋ายไปแล้ว ต่อมาก็บังคับให้มันอ้าปากเพื่อตรวจดูช่องปาก แล้วหลังจากนั้นก็ใช้สเต็ตโทสโคปฟังตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกายของมัน
เห็นได้ชัดว่าต้าป๋ายไม่ชอบประสบการณ์แบบนี้ รอจนหมอเก็บสเต็ตโทสโคปกลับไปแล้ว มันก็พลิกตัวอย่างคล่องแคล่ว แล้ววิ่งลงจากโต๊ะไปแอบอยู่ข้างหลังฉินสือโอวทันที
คุณหมอวัยกลางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้จริงๆ คุณวินนี่ครับ ดูท่าทางสัตว์เลี้ยงของคุณในตอนนี้ มันไม่ได้อ่อนแรงแม้แต่นิดเดียวเลยนะครับ”
วินนี่พูดด้วยความร้อนใจว่า “ไม่ค่ะ คุณหมอ สภาพของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ดีเลยจริงๆ หลังจากสามีของฉันป้อนน้ำอุ่นให้มันกินไปนิดหน่อยมันถึงได้ดีขึ้นอย่างตอนนี้”
คุณหมอปลอบเธอว่าไม่ต้องกังวลใจไป เขาแค่ล้อเล่นเฉยๆ หลังจากนั้นก็ออกแบบฟอร์ม เพื่อให้ทั้งสองคนไปพาต้าป๋ายไปตรวจอย่างละเอียด เมื่อได้ผลสรุปแล้วค่อยมาหาเขาอีกครั้ง
ความทรงจำที่ฉินสือโอวมีต่อโรงพยาบาลสัตว์ก็คือสถานพยาบาลสัตว์ที่บ้านเกิดของเขา ข้างในมีแต่เข็มฉีดยาน่ากลัวๆ กับยารักษาสัตว์สารพัดอย่าง
ครั้งนี้เมื่อมาที่โรงพยาบาลสัตว์เคลต์ เขาก็นับว่าได้เปิดมุมมองใหม่ พยาบาลถามเขาว่าอยากให้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดเลยใช่ไหม ฉินสือโอวจึงบอกว่าใช่ หลังจากนั้นพยาบาลก็ออกใบชำระเงินให้กับเขา เป็นจำนวนเงินหนึ่งพันสี่ร้อยดอลลาร์แคนาดา!
ในประเทศแคนาดาที่ประชาชนเกือบทั้งหมดได้รับประกันสุขภาพ ค่าตรวจหนึ่งพันสี่ร้อยดอลลาร์ไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจเงินจำนวนนี้ เขารูดบัตรจ่ายค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นก็ให้ต้าป๋ายไปตรวจ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีค่าใช้จ่ายมากขนาดนี้ การตรวจครั้งนี้มีขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก เครื่องมือที่ใช้มีกล้องตรวจระบบทางเดินอาหาร เครื่องตรวจวิเคราะห์ทางเคมีอัตโนมัติ ระบบเอกซเรย์ เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจสำหรับสัตว์ เครื่องมือรักษาทันตกรรมแบบครบวงจร ฯลฯ ต่อจากนั้นยังถึงกับใช้เครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงกับระบบถ่ายภาพเอกซเรย์ดิจิตอล ที่โรงพยาบาลรักษาคนฉินสือโอวยังไม่เคยเห็นของพวกนี้เลยสักครั้ง
ผลการตรวจมีพยาบาลนำไปส่งให้ถึงมือหมอแล้ว ยุ่งกับการตรวจอยู่ครึ่งวัน ฉินสือโอวกับวินนี่ถึงได้พาต้าป๋ายที่ใกล้จะหมดลมหายใจกลับไปที่ห้องตรวจโรคของหมอ
วินนี่อุ้มต้าป๋ายไว้ด้วยความเจ็บปวดใจ ฉินสือโอวรู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่พาต้าป๋ายมาโรงพยาบาลแห่งนี้ แม่งเอ๊ย อย่าทรมานต้าป๋ายให้ตายอยู่ตรงนี้เลย ดูท่าทางตอนนี้ โอพอสซัมเวอร์จิเนียถูกทรมานมาไม่เบาเลย
จะปล่อยให้ต้าป๋ายถูกทรมานอย่างศูนย์เปล่าไม่ได้ ดังนั้นหลังจากเข้ามาในห้องตรวจของหมอ ฉินสือโอวก็ถามด้วยความกระวนกระวายใจว่า “หมอครับ ลูกของพวกเราเป็นอะไรเหรอครับ?”
คุณหมอท่านนั้นไม่ได้ตอบคำถามออกมาตรงๆ เขาวางใบแสดงผลการตรวจกองนั้นลง แล้วพูดว่า “ทั้งสองคนยังจำคำพูดของผมตอนที่พวกเราเพิ่งได้พบกันได้ไหมครับ? ตอนนี้คนที่เลี้ยงโอพอสซัมเวอร์จิเนียเป็นสัตว์เลี้ยงพบได้น้อยมากแล้ว”
วินนี่กับฉินสือโอวพยักหน้ารับ คุณหมอจึงพูดต่อว่า “สาเหตุก็เป็นเพราะโอพอสซัมเวอร์จิเนียเป็นสัตว์ที่มีอายุขัยสั้นมาก ในสภาพแวดล้อมกลางป่า พวกมันจะมีอายุยืนที่สุดสองปี ถ้าถูกเลี้ยงในครอบครัวที่ดูแลอย่างดี ก็มีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดสามถึงสี่ปี”
“ตามผลตรวจสอบจากห้องแล็บ ตัวพอสซัมตัวนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่ามันมีอายุมากแล้ว บางที ชีวิตของมันอาจจะเข้าสู่การนับถอยหลังแล้วก็ได้…”
………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset