ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1169 อัญมณีที่ซ่อนอยู่

ฉินสือโอวตัดสินใจพูดให้ดูไม่เกินจริงจนเกินไป แนวปะการังใต้ทะเลลึกแนวนั้นได้รับการกระตุ้นจากพลังโพไซดอน มีขนาดเกินกว่า 1,000 ตารางเมตรอยู่แล้ว ส่วนความสูงน่าจะถึง 2 เมตรกว่า เจ้าสิ่งนี้มีความหนาแน่นสูงมาก ถ้าอย่างนั้นพุ่มปะการังนี้อย่างน้อยก็ต้องหนักถึง 180 ตัน
พอได้ยินคำที่เขาพูด บิลลี่บีบกระป๋องเบียร์จนแบน ร้องเสียงหลงออกมา “หนึ่งตัน? พระเจ้า นายล้อเล่นอะไรนี่ ใครจะไปมีปะการังแดงทะเลลึกหนึ่งตันกัน? เขาเจอพุ่มปะการังแนวใหม่ที่ใต้ทะเลเหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่ ตอบอย่างคลุมเครือว่า “มั้ง จริงๆ แล้วฉันก็เดามั่วไปอย่างนั้น แต่เพื่อนฉันก็น่าจะมีปะการังใต้ทะเลที่ขนาดพอได้สักหนึ่งถึงสองชิ้น อย่างน้อยก็เอามาทำแหวนได้”
บิลลี่มองเขาด้วยความสงสัย “เพื่อนที่นายพูดถึงคงไม่ใช่ตัวนายเองหรอกนะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะ “นายจะคิดแบบนี้ก็ได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เขาเป็นผู้อพยพมาจากไต้หวันมาที่เมืองเซนต์จอห์น ความสัมพันธ์พวกเราก็ใช้ได้”
เขาไม่ได้เลือกสถานที่สุ่มสี่สุ่มห้า แหล่งกำเนิดของปะการังแดงมีความแน่ชัดอยู่ ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ส่วนมากมาจากช่องแคบไต้หวัน ช่องแคบญี่ปุ่น ช่องแคบทะเลบอลติก และในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในบรรดาสถานที่เหล่านั้น ที่ที่พบปะการัง AKA คุณภาพดีที่สุดก็คือช่องแคบไต้หวัน
เป็นไปตามคาด พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ บิลลี่ก็แสดงออกอย่างชัดเจน “ถ้าอย่างนั้นนายควรคุยกับเพื่อนนายคนนั้นให้เข้าใจอย่างละเอียด เพราะบ้านเกิดของเขาเป็นแหล่งปะการังแดงคุณภาพดี ถ้าหากสามารถเจอต้นปะการังที่สมบูรณ์ได้ตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รวยแล้ว”
การเจริญเติบโตของปะการังแดงช้ามาก เพราะโดยปกติมันอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก และเนื่องจากสารอาหารในการบำรุง และสภาพแวดล้อมก็ย่ำแย่ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา ปะการังแดงที่ผู้คนพบเจอก็เริ่มน้อยลงไปทุกที ยิ่งเป็นต้นปะการังยิ่งหายาก ไม่มีที่สูงเกินครึ่งเมตรเลยสักต้น
ฉินสือโอวยังไม่เข้าใจในตลาดของปะการังแดงตอนนี้ แต่รู้ว่าพุ่มปะการังที่ใต้ทะเลของตัวเองมีมูลค่ามากมายอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าพวกมันอาศัยอยู่ในใต้ทะเลมานานแค่ไหนแล้ว ต้นปะการังที่สูงเกินครึ่งเมตรมากมายคณานับ!
หลังจากนี้ก็ไม่ได้มีหัวข้อให้พูดถึง บิลลี่จึงยังคงอธิบายให้ฉินสือโอวฟังเกี่ยวกับความรู้เรื่องตลาดทั่วไปของปะการังแดง
ปะการังแดง AKA ที่มีมูลค่ามากที่สุด สีที่พบบ่อยๆ คือสีแดง ในบรรดาสีแดงแต่ละสีความเข้มก็ไม่เหมือนกัน ที่พบเห็นบ่อยๆ ก็จะมีสีแดงส้ม สีแดงสด สีแดงกลาง สีแดงเข้ม สีแดงดำ ซึ่งตอนนี้ตลาดหลักๆ ในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็นเฉด 5 สี สียิ่งเข้มก็ยิ่งแพง
“แน่นอนว่า ปะการัง AKA ก็มีสีชมพู ชมพูพีช หรือว่าชมพูอมส้ม แต่ไม่ได้พบเห็นบ่อยๆ ราคาเทียบไม่ได้กับสีแดง ยกเว้นว่าจะเจออันที่ถูกใจมาก” บิลลี่ดื่มไปหนึ่งอึกแล้วพูด
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวยังแหวกว่ายอยู่ตรงพุ่มปะการังใต้ทะเล ในดงปะการังนี้ก็มีปะการังสีชมพูและสีชมพูพีชอ่อนๆ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณขอบรอบนอก ราวกับว่าพอมันโตแล้วก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
เขาถามคำถามนี้ขึ้นมา “สาเหตุอะไรบ้างที่ส่งผลต่อสีของปะการัง AKA เหรอ? สีพวกนี้มันอย่างไรกันนะ?”
บิลลี่ส่ายหน้าไปมา “ตัวปะการังแดงมีปริศนาอยู่มากมาย บางคนก็คิดว่าสีเป็นไปตามอายุที่สั่งสม แต่ว่าพวกมันเติบโตได้ช้ามาก ช้ามากจริงๆ พันกว่าปีผ่านไปก็โตขึ้นมาได้ไม่เท่าไร ดังนั้นจึงไม่ง่ายที่จะศึกษาเรื่องนี้”
“ไม่มีการคาดเดาที่เกี่ยวข้องเลยเหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยความสงสัย
บิลลี่ตอบ “มี ส่วนมากแบ่งเป็น 2 กระแส อย่างแรกคือสั่งสมตามอายุปี ปะการังจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเจริญเติบโตของมัน อย่างที่สองก็เกี่ยวข้องกับเวลาเช่นกัน แต่เชื่อว่าสีปะการังเกิดหลังจากสกัดของสารเหล็กในทะเลแล้วเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ซึ่งการคาดเดานี้เกิดจากการทำให้น้ำทะเลบริสุทธิ์โดยหนอนปะการัง”
“นอกจาก AKA แล้ว ปะการัง MOMO ก็มีมูลค่าสูงเช่นกัน วัสดุธรรมดาราคาสูงได้ถึง 1,000 ดอลลาร์แคนาดาต่อกรัมโดยประมาณ”
เหมาเหว่ยหลงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ของพวกนี้มันของเล่นของคนรวยชัดๆ หนึ่งกรัมหลายพันดอลลาร์แคนาดา ถ้าซื้อสร้อยข้อมือปะการังแดงจำพวกนั้นหนึ่งเส้น ราคาจะเท่าไรกัน?”
ฉินสือโอวอยู่ดีๆ ก็นึกถึงสร้อยลูกปัดยาวทำจากปะการังแดงที่ประมูลไป จึงพูดขึ้นว่า “ฉันจำได้ สร้อยลูกปัดของพวกเราประมูลไปในราคา 2.25 ล้านดอลลาร์แคนาดาใช่ไหม? แต่สร้อยนั่นมันมีความโบราณที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ด้วย แต่ฉันรู้สึกว่าน้ำหนักของสร้อยนั้นน่าจะ 1 กิโลได้มั้ง?”
บิลลี่โบกมือ แล้วพูดว่า “เปล่า ไม่ใช่นะ น้ำหนักแค่ 652 กรัม แต่นายรู้ไหมว่า ลูกปัดเส้นนั้นไม่ได้มีคุณภาพดีมาก เดิมทีวัสดุทำจากปะการังซาร์ดินที่เป็นเกรดต่ำสุด แล้วยังเคยแช่อยู่ในน้ำทะเลมาหลายปี ถ้าเป็นแค่ปะการังแดง ราคาก็ไม่ได้ดีอะไร”
ถัดมาบิลลี่จึงแนะนำปะการังแดง MOMO ต่ออีก ปะการังชนิดนี้ที่พบเห็นบ่อยคือเนื้อวัสดุที่มีสีอ่อน อย่างเช่น สีขาว สีชมพูอ่อน สีชมพู สีชมพูอมส้ม สีชมพูพีชพวกนี้ แต่ถ้าเป็นสีแดงส้ม สีแดงพีช สีแดงสด สีแดงกลางพวกนี้จะหายาก
หัวใจฉินสือโอวเต้นตึกๆ เขารู้สึกว่าปะการังที่ใต้ทะเลของเขา น่าจะเป็นปะการัง AKA เพราะว่าในบรรดาทั้งหมดสีที่อ่อนที่สุดก็อยู่บริเวณขอบคือสีแดงชมพู โดยรวมจะมีสีแดงเป็นหลัก นานๆ ทีถึงจะเจอสีแดงเข้มและสีแดงดำอ่อน
พอทานข้าวเสร็จ ฉินสือโอวก็ส่งทั้งสองคนกลับห้องของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ไปเดินเล่นริมทะเลตามความเคยชิน ซึ่งตอนนี้งูเหลือมทะเลก็อยู่ใกล้ชายฝั่งแล้ว มันค่อยๆ โผล่หัวขึ้นจากน้ำอย่างเงียบๆ แล้ววางปะการังสีแดงชิ้นหนึ่งที่มีขนาดประมาณฝ่ามือที่ท่าเรือ
งูเหลือมยักษ์ตัวนี้ยาวประมาณ 14-15 เมตร หัวมันมีขนาดราวกับถังน้ำ พวกงูมันจะแสดงสีหน้าทางอารมณ์ไม่ได้ จะมีก็แต่อารมณ์เย็นชาทะมึนตึงๆ ดังนั้นตอนที่เจ้างูนี่โผล่หัวขึ้นมา มันช่างน่ากลัวจริงๆ
ฉินสือโอวอยู่กับงูไททันโอโบอามานาน ตอนนี้เขากลับรู้สึกกลัวพวกงูตัวเล็กๆ ทั่วไป แต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลยกับงูไททันโอโบอา
เขาเข้าไปลูบหัวเจ้างูไททันโอโบอาตัวนี้ แล้วให้มันกลับไปยังทะเลลึก ส่วนตัวเขาเก็บปะการังแดงชิ้นนี้ขึ้นมาแล้วกลับไปนอน
หลังจากออกกำลังกายตอนเช้า ฉินสือโอวเร่งรีบกินข้าว แล้วรีบบอกเบิร์ดให้สตาร์ทเฮลิคอปเตอร์เพื่อพาเขาไปเมืองเซนต์จอห์น แน่นอนว่าแกล้งทำเป็นไปหาเพื่อนเพื่อเอาปะการังแดง แต่จริงๆ แล้วเขาก็เดินเล่นในเมืองเพื่อตรวจดูโรงแรมที่จองไว้
เดิมทีเขาอยากเหมาโรงแรมหนึ่งเลย แต่ตอนหลังพบว่ามันอาจจะไม่ค่อยเหมาะสม จำนวนของห้องที่ระดับเดียวกันก็มีไม่มากพอ เขาก็เลยตัดสินใจด่วนๆ เลย จองห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทของโรงแรมระดับ 4 ดาวและ 5 ดาวทั้งหมดในเมืองเซนต์จอห์น ตั้งแต่วันที่ 1-4 เดือนมิถุนายน!
เดือนมิถุนายนถือว่าเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ดังนั้นห้องในโรงแรมจึงมีราคาสูงมาก อย่างเช่นโรงแรมฮิลตันในเครือกลุ่มฮิลตัน เวิลด์ไวด์ ค่าโรงแรมหนึ่งคืนคือ 4,000- 5,000 ดอลลาร์แคนาดา แต่ฉินสือโอวไม่ได้ขาดเงิน จอง!
เดิมทีทางโรงแรมไม่ยอมรับจองห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทโดยคนคนเดียวทั้งหมด ฉินสือโอวยังคงโชว์บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสถึงจะได้ผล ซึ่งนี่ก็คืออภิสิทธิ์เหนือระดับ บริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรส กรุ๊ป มีทรัพยากรที่สมบูรณ์ในด้านการบริการมากที่สุด ในเมื่อสามารถรับอภิสิทธิ์แบบนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นทำไมฉินสือโอวจะต้องไม่ใช้ด้วยล่ะ?
นอกจากนั้นแล้ว บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสนี้ยังสามารถใช้ลดราคาได้ สุดท้ายแล้วฉินสือโอวจ่ายไปยังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ส่วนลดของแต่ละโรงแรมก็ไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ 40% – 60% แต่จะไม่สูงไปกว่านี้แล้ว
พอกลับไปที่ฟาร์มปลา ฉินสือโอวก็เอาปะการังแดงให้กับบิลลี่
แสงแดดยามเช้าส่องแสงเจิดจ้า ช่วงที่ฉินสือโอวหยิบปะการังแดงออกมา แสงอาทิตย์ส่องตรงไปบนปะการัง เปล่งประกายเป็นแสงอ่อนๆ แต่เจิดจ้า เมื่อเอาปะการังแดงชูขึ้นมา ก็จะเปล่งแสงสีแดงอ่อนๆ เป็นประกาย…
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset