ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1210 เถาองุ่นล่อแมลง

ตำรวจทางทะเลพาเบนสันและลูกน้องไปที่เรือของพวกเขาและเรื่องก็จบลงตรงนี้
ดูเหมือนว่าเรื่องเรือเฟอเรทแบลคฟุตจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่มีใครอยากพูดถึงเลย ทั้งสองฝ่ายพยายามปกปิดร่องรอยที่เคยมีอยู่ของพวกมัน
เหตุการณ์นี้ทำให้ทหารอย่างออสเปรที่ไม่ค่อยพูดถึงกับถอนหายใจและพูดด้วยความรู้สึกสลดใจว่า “ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ทั้งสองตัวหายไปแบบนี้ เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่สามารถช่วยพวกมันได้และยังไม่สามารถช่วยพวกมันให้ได้รับความยุติธรรมกลับคืน”
แบล็คไนฟ์มองเขาแปลกๆ และพูดว่า “นี่เพื่อน นายหมายความว่าอะไร? คิดมากไปแล้ว อยากจะเป็นนักปรัชญาหรือกวีหรือไง?”
ออสเปรยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “ไม่ใช่ ฉันแค่นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ตอนที่เราอยู่ในกองทัพ นายดูเฟอเรทสองตัวนี้สิเหมือนกับเราในตอนนั้นมากแค่ไหน? บางครั้งตอนที่เราข้ามน้ำข้ามทะเลไปปฏิบัติภารกิจนอกประเทศ พอมีปัญหานอกจากประเทศจะช่วยเราไม่ได้แล้ว ยังจะทำทุกวิถีทางเพื่อแยกเราจากกันอีกด้วย”
ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมาพร้อมกับสีหน้าที่อดจะนึกถึงไม่ได้
แบล็คไนฟ์กลอกตาไปมาและขี้เกียจที่จะสนใจเขา จึงหันหน้ามาถามฉินสือโอวว่า “บอส คุณกำลังมองหาอะไร?”
ฉินสือโอวยกปลายเท้าขึ้นและมองไปที่ชายหาดพร้อมกับบ่นพึมพำว่า “ฉันจะดูว่าเจ้าเด็กที่น่าสงสารทั้งสองตัวจะบังเอิญถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดหรือเปล่า? มา มาช่วยฉันหาร่องรอยของพวกมันด้วยกัน ถ้าหาเจอจะมีรางวัล”
แบล็คไนฟ์เดินเข้ามาตบไหล่เขาเบาๆ และปลอบว่า “เรื่องนี้คุณไม่ผิดเลย บอสไม่ต้องหาแล้วและก็ไม่ต้องรู้สึกผิด ตอนนี้พวกมันอาจจะไปอยู่บนสวรรค์แล้วก็ได้ ถ้าจะหาพวกมัน เราก็ต้องเงยหน้ามองขึ้นไป”
ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่ ใครบอกว่าฉันรู้สึกผิด? ใครบอกว่าพวกมันไปถึงสวรรค์แล้ว? อย่างน้อยพวกมันก็ไม่ได้ตายในทะเล
เมื่อถึงฝั่ง ฉินสือโอวก็พาหู่จือและเป้าจือไปหาเฟอเรทแบลคฟุต เขาเดินไปตามชายหาด แต่ไม่ได้อะไร จึงทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก
เมื่อเห็นฉินสือโอวหาซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น แบล็คไนฟ์จึงพูดด้วยความหดหู่ใจว่า “บอสเป็นคนที่รักและผูกพันกับสัตว์มากจริงๆ”
“ใช่ เขาเป็นคนอารมณ์ลึกซึ้งมาก ตอนนี้เขาคงรู้สึกทุกข์ใจอยู่ลึกๆ แน่นอน ความจริงแล้วการตายของเฟอเรททั้งสองตัวนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย” ชาร์คยังพูดอีกว่า “แต่เขาไม่คิดอย่างนั้นน่ะสิ เขาเป็นคนแบบนี้แหละ มีความรับผิดชอบ มีภาระอันหนักอึ้งและมีความรักใคร่เอ็นดู”
ฉินสือโอวอยากจะบอกว่าเขาเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้น…
เขาพาหู่เป้าฉงหลัวมาเดินนำหน้าหาเฟอเรทตัวน้อย แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอ เขาจึงเดินตรงไปตามชายหาดไม่หยุดเหมือนกับว่ากำลังเดินเล่นรับลมทะเล
หลังจากเดินมานาน คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท ด้านหลังเป็นไร่องุ่นอยู่และเขายืนอยู่บนชายหาดและมองดูอยู่ข้างหลัง จึงเห็นพื้นที่สีเขียวชอุ่มขนาดใหญ่บนเนินเขาเล็กๆ
ใบองุ่นเขียวชอุ่มสะบัดพลิ้วไหวท่ามกลางลมทะเล เถาองุ่นอันบอบบางดึงเอากิ่งไม้ออกและเลื้อยขึ้นไปตามต้น ไร่องุ่นในช่วงนี้กำลังเจริญเติบโตและเขียวชอุ่มเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
ฉินสือโอวเดินเข้าไปและสำรวจดูสักพัก กลับพบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเถาองุ่นที่เติบโตจากระยะไกล ใบไม้จำนวนมากขาดเป็นรูและถ้าสังเกตอย่างละเอียดจะเห็นแมลงสีขาวขนาดเล็กจำนวนหนึ่ง นี่มันเป็นการล่อแมลงมาชัดๆ
มีแมลงอยู่บนใบไม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อปีที่แล้วก็มีและผลกระทบก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
แต่เขายังเห็นว่ามีรูบนเถาวัลย์ด้วย โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับหน่ออ่อนบางส่วน ผิวของเถาองุ่นเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อใช้มือดึงเบาๆ ก็สามารถดึงส่วนนี้จนขาดได้ เขาจึงลองมองเข้าไปข้างในและเห็นว่าในหน่ออ่อนมีแมลงกำลังเจาะรูและยังมีมูลแมลงสีเหลืองอ่อนอีกด้วย
ฉินสือโอวเห็นแบบนี้แล้วจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาจึงโทรหาบิลและอธิบายสถานการณ์นี้ให้บิลฟังหนึ่งรอบพร้อมกับถ่ายรูปสองสามรูปส่งไปให้เขา จากนั้นก็ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
บิลบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล เขาจะไปถามผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร แล้วจะโทรกลับมาและให้รอเขาสักพัก
รอได้ไม่นาน บิลก็โทรกลับมาและพูดว่า “นี่มันน่าจะเกิดจากหนอนเจาะลำต้น แมลงชนิดนี้เกิดขึ้นปีละครั้งและตัวอ่อนจะอยู่ในกิ่งองุ่นจนข้ามผ่านฤดูหนาวไป พฤติกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของปีหน้าและยังคงสร้างความเสียหายต่อภายในของกิ่งก้านอย่างต่อเนื่อง บางครั้งตัวอ่อนจะกัดทำลายกิ่งไม้จนทำให้กิ่งไม้หักได้”
“แล้วการรักษาล่ะต้องทำอย่างไรบ้าง?” ฉินสือโอวกล่าว
บิลพูดอย่างลังเลว่า “แน่นอนว่ามีการรักษา แต่การป้องกันไว้ก่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุด ต่อมาเมื่อถึงฤดูหนาว คุณต้องตัดแต่งเถาองุ่นตรงที่เป็นสีดำออก หน่ออ่อนที่เป็นสีดำ บริเวณนี้ก็ต้องตัดและเผาทิ้ง”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ประโยชน์ของเขา ฉินสือโอวก็รู้สึกหดหู่ใจมากและพูดว่า “ฉันเข้าใจ แต่ตอนนี้มันเป็นฤดูใบไม้ผลิ แล้วนายบอกวิธีการจัดการในฤดูหนาวกับฉันมันจะมีประโยชน์อะไร? ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ควรทำอย่างไร?”
“รวมถึงการตัดแต่งด้วยมือและการพ่นยาฆ่าแมลงสองวิธีนี้ด้วย” บิลพูดว่า “ถ้าบอกทางโทรศัพท์คงจะไม่เข้าใจเท่าไร งั้นพรุ่งนี้ผมจะเอาเครื่องมือก่อสร้างและยาฆ่าแมลงไปหาคุณ”
จากนั้นฉินสือโอวก็ยังคงสำรวจดูต่อ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนหน้านี้เขาประมาทเกินไปในการจัดการดูแลไร่องุ่นและตอนนี้ต้นองุ่นจำนวนมากก็ยังล่อแมลงมาอีก ถ้าเขาไม่บังเอิญมาเห็นพอดี ต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าจะพัฒนาเป็นอะไรได้อีก
ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่สามารถโทษเขาได้ทั้งหมด ฤดูหนาวเมื่อปีที่แล้วมีหิมะตกหนักและอากาศหนาวมาก ผู้เชี่ยวชาญทางสถานีโทรทัศน์อธิบายว่า อากาศแบบนี้มีทั้งข้อดีและเสีย ข้อดีคือจะทำให้ศัตรูพืชแข็งตาย ปีนี้ฟาร์มและทุ่งหญ้าจึงมีผลเก็บเกี่ยวที่ดี
จึงทำให้ฉินสือโอวเชื่อฟังคำพูดของผู้เชี่ยวชาญและไม่ใส่ใจกับปัญหาโรคศัตรูพืช
วันรุ่งขึ้นพอบิลมาถึง เขาพาคนงานดูแลไร่องุ่นมาสองสามคนและพูดกับฉินสือโอวว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเขาจะช่วยคุณแก้ไขปัญหาแมลงในต้นองุ่น แต่เมื่อถึงฤดูหนาวคุณจะต้องจัดการเอง ถ้าเกิดภัยพิบัติหนอนเจาะลำต้นองุ่นจะทำให้ยากต่อการจัดการกับมัน”
ฉินสือโอวพาชาวประมงไปที่ไร่องุ่น คนงานหนึ่งคนพาชาวประมงตามไปด้วยสองคนและสอนวิธีตัดแต่งหน่ออ่อนที่ล่อแมลงมาบนต้นองุ่นให้กับพวกเขา
บิลเอาถังยาฆ่าแมลงขนาดใหญ่ให้กับฉินสือโอวและพูดว่า “ผสมนี่กับน้ำปูนขาวให้เข้ากัน ที่นี่มีเครื่องบินทางการเกษตรใช่ไหม? พอถึงตอนเย็นก็แค่กระจายมันลงไปก็พอและหนอนเจาะลำต้นพวกนี้จะตายภายในคืนเดียว”
สำหรับเรื่องยาฆ่าแมลงแล้ว ฉินสือโอวค่อนข้างละเอียดรอบคอบมาก จนถึงตอนนี้สวนผัก ฟาร์มปลาและไร่องุ่นของเขาก็ยังไม่เคยใช้ยาฆ่าแมลงเลยสักครั้ง
เมื่อได้ยินบิลพูดแบบนี้ เขาจึงถามอย่างระมัดระวังว่า “แล้วผลตกค้างของยาฆ่าแมลงพวกนี้จะเป็นอย่างไร?”
บิลหัวเราะแล้วพูดว่า “นี่คือยาไพรีทรัมกำจัดแมลงรุ่นที่สอง มันจะละลายทันทีที่ถูกแสงแดดส่อง ดังนั้นผมถึงให้คุณพ่นมันในตอนเย็น ไม่ต้องกังวล แค่แสงแดดส่องพวกมันสองวันก็จะหายไปจนหมดแล้ว อีกอย่างตอนนี้องุ่นของคุณก็ยังไม่เจริญเติบโตเลยแล้วจะกลัวอะไรกัน?”
สำหรับไร่องุ่นหมักไวน์แล้ว การระบาดของศัตรูพืชเป็นเรื่องที่จัดการได้ยากมาก สาเหตุก็คือไม่สามารถใช้สารกำจัดศัตรูพืชกับมันได้ เมื่อมีสารตกค้างในองุ่นแล้วก็จะไม่สามารถผลิตไวน์ที่มีคุณภาพสูงออกมาได้
ปีนี้ฉินสือโอวต้องการหมักไวน์คุณภาพดีเอง เขาจะพึ่งคุณลุงฮิคสันไปตลอดไม่ได้หรอกจริงไหม?
หลังจากได้ฟังบิลพูดแล้วเขาก็สบายใจขึ้นและรับยาฆ่าแมลงมา เขาหยิบชุดเครื่องมือและเข้าไปในไร่องุ่น หลังจากพบรูเล็กๆ สีดำในหน่ออ่อนแล้วก็ให้เขาตัดส่วนนั้นทิ้งและรวบรวมมันไว้ตามที่บิลสอน
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset