ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1211 ทำการทดลองกับต้าป๋าย

หลังจากทำงานมาเกือบทั้งวัน บางส่วนของเถาองุ่นก็ค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าถูกตัดแต่งไปหนึ่งรอบแล้ว
กองหน่ออ่อนขององุ่นขนาดใหญ่อยู่บนชายหาด ฉินสือโอวจึงเทน้ำมันเบนซินราดลงไป หลังจากจุดไฟแล้วควันโขมงสีดำก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้น
“ว้าว ดูเหมือนกับไฟแคมป์ในงานเลี้ยงตอนเย็นเลยว่าไหม?” บูลตะโกนอย่างตื่นเต้น
ชาร์คตบหัวเขาแล้วกลอกตาไปมาและพูดว่า “นายอยากสูดควันดำสักหน่อยไหมล่ะ? ในเมื่อนายเพลิดเพลินกับไฟแคมป์ขนาดนี้ งั้นนายก็มาจัดการกับเรื่องยุ่งๆ นี้เถอะ”
ในช่วงเย็นดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน ขอบฟ้าถูกแผดเผาจนเป็นสีแดงและมหาสมุทรก็ถูกส่องแสงจนกลายเป็นสีแดงเข้ม วาฬหลังค่อมสองตัวปรากฏตัวขึ้นใกล้ทะเล พวกมันลอยไปมาในน้ำและมักจะส่งเสียงร้องเพลงออกมาอย่างสนุกสนาน
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิต้นฤดูร้อน ปลาวาฬจากขั้วโลกเหนือและใต้จะมารวมตัวกัน พวกมันมีไอคิวแน่นอนจึงได้นึกถึงอาหารที่อุดมสมบูรณ์ น้ำที่ใสสะอาดและความปลอดภัยที่สามารถพึ่งพาได้ของฟาร์มปลาต้าฉิน พวกมันทยอยเข้ามาในบริเวณทะเลแห่งนี้และที่นี่แทบจะเปลี่ยนเป็นสถานที่สำหรับการดูวาฬไปแล้ว
ในช่วงที่ปลาทะเลเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์จะคล่องแคล่วว่องไวมากขึ้นและมักจะมีปลาตัวใหญ่กระโดดขึ้นมาเหนือน้ำทะเล ฉินสือโอวที่ยืนอยู่บนท่าเรือและอุ้มเสี่ยวเถียนกวาอยู่ก็มองดูไปข้างหน้า ปลาโลมาตัวหนึ่งเฉียดผ่านขึ้นมาข้างๆ พวกเขา จึงทำให้เกิดละอองน้ำกระเด็นขึ้นมา แน่นอนว่าต้องเป็นบีนอย่างแน่นอนที่กำลังแสดงกายกรรมนี้อยู่
วินนี่ผู้มีความสวยและสง่างามก็เข้ามายืนอยู่ข้างๆ เธอยิ้มและมองไปที่เสี่ยวเถียนกวาที่กำลังตื่นเต้น จึงชี้ให้เธอดูว่านี่คืออะไรนั่นคืออะไร
นับตั้งแต่พูดคำว่าพ่อแม่ได้ เสี่ยวเถียนกวาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะพูดอย่างเป็นทางการ เพียงแค่เธอยื่นมือออกไป ตอนนี้การตอบสนองของทุกคนในครอบครัวจะไม่เอาสิ่งนั้นให้เธอกลับ แต่จะสอนเธอพูดว่านั่นคืออะไร
เรื่องนี้ทำให้เด็กหญิงตัวเล็กรู้สึกยุ่งวุ่นวายมาก อันที่จริงเธอไม่ต้องการเรียนรู้ที่จะพูดอะไรเลย แต่เธอแค่อยากเล่นของเล่นเท่านั้น
เมื่อเห็นบีนที่กระโดดอยู่ในน้ำอย่างต่อเนื่อง เสี่ยวเถียนกวาก็หัวเราะพร้อมกับยื่นนิ้วมือออกไป
ฉินสือโอวเอาเสี่ยวเถียนกวานั่งลงบนขอบดาดฟ้าเรือ จากนั้นเขาก็ปรบมือลงในน้ำ บีนจึงเงยหน้าขึ้นมองและเผยให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส จากนั้นปากใหญ่ๆ ก็แทบจะยิ้มกว้างไปจนถึงรูหูพร้อมกับพยักหน้าอยู่ในน้ำด้วยท่าทางไร้เดียงสา
เสี่ยวเถียนกวาส่งเสียงร้องด้วยความแปลกใจขึ้นว่า ‘อาอา’ พลางยื่นมือเล็กๆ อ้วนๆ ออกไปเพื่อจะสัมผัสบีนและหลังจากที่ได้สัมผัสผิวอันเย็นและเนียนของมันแล้วก็ยิ้มกว้างออกมา เธอทั้งยิ้มและร้องไปด้วยว่า “ปาป๊าๆ”
ฉินสือโอวทั้งยิ้มทั้งพูดว่า “ปาป๊าอยู่ที่นี่แล้วนะ นี่คือปลาโลมา นี่คือบีนๆๆ…”
“ปาป๊าๆ” เสี่ยวเถียนกวายังคงร้องเรียกอยู่อย่างนั้นและดูโลมาน้อยส่งเสียงร้องอย่างตั้งใจ
บีนยิ้มกว้าง ฉินสือโอวจึงจ้องมองอย่างทำอะไรไม่ได้ แต่ไม่ว่าเขาจะสอนอย่างไร เสี่ยวเถียนกวาก็จะเรียกแค่ ‘ปาป๊า’ และไม่พูดออกเสียงตามเขาว่า ‘บีนๆ’ เลย
วินนี่ขึ้นมาเพื่อดูแลควบคุมเสี่ยวเถียนกวาและให้เขาไปสั่งฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในไร่องุ่น
เบิร์ดนอนอยู่บนปีกของรถแทรกเตอร์ทางอากาศและกำลังคุยโม้กับบีบีซวง ฉินสือโอวจึงเข้าไปเอายาฆ่าแมลงที่ผสมกับน้ำปูนขาวที่เตรียมไว้ จากนั้นก็ดีดนิ้วและพูดว่า “เอาล่ะ เบิร์ด ไปทำงานเถอะ”
เบิร์ดยิ้มแล้วพูดว่า “ง่ายมาก ง่ายเกินไปแล้ว”
เครื่องบินเริ่มร่อนขึ้นไปบนอากาศและหันหน้าไปทางทะเล หลังจากบินขึ้นเหนือต้นองุ่นแล้วก็จะเริ่มบินดิ่งลง จากนั้นส่วนท้องเครื่องก็จะเปิดออกและละอองน้ำสีขาวข้นก็พ่นออกมาปกคลุมไร่องุ่นสีเขียว
ในขณะที่กำลังทานอาหารเย็น แซนเดอร์สขยิบตาใส่ฉินสือโอวอย่างมีลับลมคมใน ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกไม่สบายใจ หรือว่างานวิจัยของศาสตราจารย์จะมีอะไรใหม่ๆ อีกแล้ว
ฉินสือโอวเช็ดปากและลุกออกจากโต๊ะอาหาร จากนั้นวินนี่พูดว่า “เฮ้ คุณยังกินไม่เสร็จเลยนะคะ”
“ผมอิ่มแล้ว ไม่กินแล้วล่ะ” ฉินสือโอวกล่าว
วินนี่ขมวดคิ้วและมองไปที่กองที่เหลืออยู่บนจานตรงหน้าเขาแล้วพูดว่า “เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกสาว? ชีวิตไม่อนุญาตให้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา กินทิ้งกินขว้างแบบนี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีไหมคะ?”
เสี่ยวเถียนกวานั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับเด็กและมองดูรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย วินนี่ชี้ไปที่จานอาหารของฉินสือโอวให้เธอดู ดวงตาของเสี่ยวเถียนกวาก็ลุกวาวขึ้นทันที เธอยื่นมือออกไปและส่งเสียงร้องอาอาอูอู
ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังร้องอะไร แต่ในฐานะที่วินนี่เป็นแม่จึงมีสิทธิ์ในการตีความเป็นคนแรก เธอพูดว่า “ดูสิ ลูกสาวเหยียดหยามคุณแล้ว”
ฉินสือโอวพูดอย่างหมดหนทางว่า “ศาสตราจารย์มาหาผม คุณรอผมก่อนนะ แล้วผมจะกลับมากินอาหารพวกนี้ให้หมด”
หลังจากไปที่ห้องนั่งเล่น ฉินสือโอวจึงถามแซนเดอร์สด้วยความตื่นเต้นว่า “เป็นอย่างไร การศึกษาวิจัยยาอายุวัฒนะมีความก้าวหน้าอะไรใหม่ๆ ใช่ไหมครับ?”
 “ยาอายุวัฒนะที่ไหนจะไม่แก่บ้าง ไม่มีสรรพคุณที่มหัศจรรย์แบบนั้นหรอก” แซนเดอร์สยิ้มอย่างเขินอาย
“ถ้าอย่างนั้นงานวิจัยมีความคืบหน้าอะไรใหม่ๆ ล่ะ?”
“ไม่มี”
“ให้ตายสิ! แล้วคุณมาหาผมทำไม?”
แซนเดอร์สที่ดูกระตือรือร้นก็พูดว่า “ฟาร์มปลาของเราไม่ได้ค้นพบแมงกะพรุนเวเลลลาเรืองแสงสายพันธุ์ใหม่หรอกเหรอ? ผมได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยลงในวารสารวิทยาศาสตร์ ‘ธรรมชาติของแคนาดา’ สำนักพิมพ์นิตยสารสนใจพวกมันมากและวางแผนที่จะมาถ่ายภาพและวิดีโอสั้นๆ ที่ฟาร์มปลาเพื่อทำการวิจัย”
ฉินสือโอวโบกมือและพูดว่า “เรื่องนี้คุณพิจารณาเอาเองก็แล้วกัน ผมไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ถ้ามีความคืบหน้าในการวิจัยเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ ก็อย่าลืมรายงานผมตลอดเวลาด้วยและไม่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลการวิจัยส่วนตัวออกไปข้างนอก”
แซนเดอร์สคิดสักพักแล้วพูดว่า “โอเค ผมเข้าใจแล้วบอส จริงๆ แล้วก็มีความก้าวหน้าบางอย่างในการวิจัยเกี่ยวกับแมลงยักษ์คล้ายตะขาบ ไม่สิ หรือนี่ไม่นับว่าเป็นความก้าวหน้านะ สรุปคือก็พบอะไรใหม่ๆ อยู่บ้างเล็กน้อย”
เขาเลียริมฝีปากไปมาและพูดด้วยความท้อใจเล็กน้อยว่า “องค์ประกอบของกระดองชนิดนี้ซับซ้อนมาก ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้บอกว่าได้ค้นพบองค์ประกอบแร่ธาตุชนิดใหม่เหรอ? ผมคิดว่ามันองค์ประกอบชนิดนี้สามารถชะลออัตราการเผาผลาญของเซลล์ได้ แต่หลังจากที่ผมสกัดและทดลองแล้วก็พบว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นมันคืออะไรล่ะ?” ฉินสือโอวถามอย่างสงสัย
แซนเดอร์สยิ้มเจื่อนแล้วพูดว่า “ตอนนี้ผมรู้แค่ว่า ผงของกระดองที่เป็นยาชนิดนี้สามารถลดอัตราการเผาผลาญของเซลล์ได้จริงๆ แต่ยังไม่ได้ค้นคว้าว่าส่วนผสมชนิดไหนที่ใช้ได้ผล นี่จึงยังวิจัยได้ไม่ชัดเจนเท่าไรนัก คุณก็รู้นี่บอส จะอาศัยแค่เพียงกำลังของคนคนเดียวมันก็เป็นเรื่องยากที่จะจัดการเรื่องที่ซับซ้อนแบบนี้”
ฉินสือโอวส่ายหัวอย่างแน่วแน่และพูดว่า “แต่เราไม่สามารถเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปข้างนอกได้ นอกจากผมกับคุณแล้ว คนอื่นห้ามรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณคงรู้ผลที่จะตามมาแล้วใช่ไหม?”
แซนเดอร์สพยักหน้า ถ้าผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องหลุดออกไป เกรงว่าฟาร์มปลาอาจจะเกิดเรื่อง คาดว่าจะกลายเป็นสถานที่ดังของฮอลลีวูด อีกทั้งความปลอดภัยของเขาและฉินสือโอวก็อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครองด้วย
เมื่อส่งแซนเดอร์กลับไป ฉินสือโอวก็กลับไปที่โต๊ะอาหารเพื่อกินอาหารของเขาให้หมด จากนั้นจึงกลับไปนอนบนเตียงที่ห้องนอน
วินนี่กำลังนั่งอยู่บนพรมและกำลังหยอกล้อกับต้าป๋าย ต้าป๋ายดูเหมือนจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวามากเท่าไร จึงไม่เล่นกับเธอ มันแค่เอาหัวถูขาของเธอเบาๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ วินนี่ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยและพูดว่า “ฉิน เราจะพาต้าป๋ายไปโรงพยาบาลดีไหมคะ? ฉันรู้สึกว่าสองวันมานี้มันไม่ค่อยดีเลย”
ฉินสือโอวกำลังนึกถึงปัญหาของกระดองของแมลงยักษ์โบราณคล้ายกับตะขาบอยู่ก็ตกใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่วินนี่พูด จากนั้นจึงไปดูต้าป๋ายและหัวใจของเขาก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างรุนแรง
แซนเดอร์สบอกว่ากระดองประหลาดชนิดนี้สามารถลดอัตราการเผาผลาญของสิ่งมีชีวิตและเพิ่มอายุขัยได้ แล้วถ้าเอามาใช้กับต้าป๋ายล่ะจะเป็นอย่างไร?
เขาป้อนพลังโพไซดอนให้ต้าป๋ายไม่หยุด แต่พลังชีวิตของมันก็ยังไม่แข็งแรงมากนัก ดังนั้นบางทีถ้าเขาลองใช้กระดองของแมลงยักษ์โบราณคล้ายกับตะขาบกับมันดูล่ะ?
……………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset