ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1212 คราเคนกินข้าว

จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปในทะเลลึก ฉินสือโอวก็จึงหาคราเคนเจอและวางแผนที่จะพามันไปเตร็ดเตร่ในทะเลลึกสักพัก
เพราะไม่ได้เจอมันมาสักพักแล้ว ขนาดตัวของคราเคนจึงใหญ่ขึ้นและมีลำตัวยาวกว่ายี่สิบเมตรแล้ว หมึกยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดที่ถูกค้นพบในโลกอยู่ที่อ่าวเลยัลประเทศนิวซีแลนด์และหมึกยักษ์ตัวนั้นมีหนวดที่ยาวที่สุดคือสิบหกจุดเจ็ดเมตร รวมกับลำตัวจะยาวประมาณยี่สิบเอ็ดเมตร
ฉินสือโอวไม่ได้วัดขนาดของคราเคน แต่ถ้ามันมีขนาดถึงยี่สิบเอ็ดเมตรก็ไม่มีปัญหา ภายใต้การเร่งปฏิกิริยาของพลังแห่งโพไซดอน มันยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วมันจะสามารถมันจะโตได้มากแค่ไหน นั่นก็ยังบอกไม่ได้
หมึกยักษ์ที่มีความยาวมากกว่ายี่สิบเมตรจะล่องลอยอยู่ในทะเล อานุภาพนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ ฉินสือโอวไม่เคยเจอกับความยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอย่างวาฬเพชฌฆาตและวาฬหัวทุยมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเห็นปลาที่กล้าต่อสู้กับคราเคนด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าโลกใต้น้ำนั้นลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้ คราเคนที่มีความยาวยี่สิบเมตรจึงไม่ใช่ราชาที่ไร้คู่ต่อสู้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ครั้งนี้จะมีเพียงแค่เรื่องแมลงยักษ์คล้ายตะขาบที่เขาต้องไปตามหา ถ้าพวกนี้ได้รวมตัวกันแล้วก็เกือบจะฆ่าสัตว์อย่างคราเคนได้
คราเคนร่อนเร่อยู่ใต้ท้องทะเลทั้งวัน ไม่รู้จะหาเรือเจอได้จากที่ไหน เรือลำนี้ถูกทำลายจนเสียหายอย่างหนักจนตำแหน่งท้ายเรือเป็นโพรง
ตอนนี้คราเคนก็อาศัยอยู่ในเรือลำนี้ โดยมีหนวดแปดเส้นที่โอบล้อมเรือทั่วทุกทิศทุกทางและตัวของมันก็ทะลุจากท้ายเรือเข้าไปในห้องโดยสารเรือ สถานที่นี้มีความเป็น “ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน” มาก เหมือนกับว่ามันเป็นเรือที่ถูกทำลาย
ฉินสือโอวส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปดูภายในเรือและไม่มีสิ่งของมีค่าอะไรเลย ภายในของเรือลำนี้สะอาดมาก เว้นแต่ตัวเรือและทุกอย่างแทบจะเสื่อมโทรมไปจนหมดแล้ว
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมีอำนาจทุกอย่าง สุดท้ายเขาก็พบเหรียญทองแดงสองสามเหรียญในซอกรอยแตกของเรือ จิตสำนึกแห่งโพไซดอนจึงเก็บพวกมันออกมา แต่กลับพบว่ามองเห็นอะไรชัดเจนเลย มีเพียงลายเส้นทรงกลมคร่าวๆ ซึ่งไม่มีค่าอะไร เขาจึงคืนสู่เจ้าของและเอาเหรียญทองแดงส่งคืนให้ตรงซอกรอยแตก
หมึกยักษ์เป็นสัตว์น้ำลึก สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่คราเคนเลือกคือทะเลลึกนอกฟาร์มปลา ที่นี่ไม่มีแสงสว่างใดๆ เลย ดังนั้นถึงแม้ว่าคราเคนต้องการเคลื่อนไหวอย่างอิสระก็ยังลำบาก ต่อให้ตาของมันจะใหญ่พอๆ กับโต๊ะเรียนของเด็กประถมก็ตาม
หลังจากรู้สึกถึงพลังแห่งโพไซดอน มันก็ค่อยๆ โผล่หัวออกมา จากนั้นก็ลอยตามฉินสือโอวไปเหนือน้ำทะเล
คนอื่นๆ มักจะพาสุนัขแมวออกไปเดินเล่นข้างนอก ส่วนเย็นนี้ฉินสือโอวจะพาหมึกยักษ์ไปเดินเล่นและนี่คือหมึกยักษ์ที่มีอาวุธที่ฟัน หนวดแปดเส้นที่มาพร้อมกับกระบองฟันหมาป่า ดังนั้นการเป็นเจ้าถิ่นในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือก็เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับมัน
ฉลามวัวฝูงหนึ่งกำลังเร่ร่อนหาอาหารอยู่กลางน่านน้ำ จู่ๆ พวกมันก็รู้สึกว่าน้ำทะเลไหลเชี่ยวอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นก็หันไปรอบๆ อย่างรวดเร็วและตะแคงมองลงไปด้านล่าง จากประสบการณ์ของพวกมัน นี่เป็นสัญญาณการปรากฏตัวของปลาฝูงหนึ่ง
ฉลามวัวเป็นหนึ่งในนักฆ่าที่น่ากลัวที่สุดในท้องทะเล พวกมันมีขนาดเล็ก แต่นิสัยดุร้าย รับรู้กลิ่นได้ไวและมีการรับรู้ที่รุนแรง พวกมันสามารถตามล่าเหยื่อได้ในระยะหนึ่งกิโลเมตรโดยอาศัยความสั่นสะเทือนและเสียงของทะเล
ดังนั้น เมื่อน้ำทะเลในบริเวณน่านน้ำผืนนี้เกิดการสั่นสะเทือน พวกมันจะรับรู้ได้และพวกมันจะตัดสินขนาดของฝูงปลาที่จะโจมตีจากความถี่ในการสั่นสะเทือนของน้ำทะเล
แต่ครั้งนี้พวกมันพลาดแล้ว หลังจากผ่านไปหลายสิบวินาที ฝูงปลาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาและหมึกยักษ์ที่น่ากลัวตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาแทน
เมื่อเห็นคราเคน ปลาทะเลธรรมดาทั่วไปจะหนีกระเจิดกระเจิง แต่ฉลามวัวไม่หนี พวกมันกลับเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวกว่าตัวเองสิบเท่า คิดไม่ถึงว่าจะจ้องตาเป็นมันและรุมล้อมเข้าไป พวกมันมองคราเคนด้วยสายตาคิดร้ายคล้ายกับว่าต้องการล่ามัน
นี่คือนิสัยที่แท้จริงของฉลามวัว พวกมันมีความสามารถในการโจมตีและมีนิสัยการกินแบบผสมผสาน เมื่อพวกมันหิว เป็นที่รู้กันดีว่าสัตว์ทุกตัวสามารถเป็นอาหารของพวกมันได้ รวมถึงฉลามบางตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าพวกมันด้วย
บังเอิญที่คราเคนก็หิวเช่นกัน เพราะในทะเลลึกไม่มีอาหารให้มันกินเลย
เมื่อเห็นฉลามวัวที่กำลังล้อมรอบเข้ามา คราเคนก็เริ่มออกตัวเคลื่อนไหว มันพ่นน้ำหนึ่งครั้งและเร่งความเร็วทันทีและหนวดทั้งแปดเส้นก็ปล่อยให้วงล้อไฟจัดการฆ่า สักพักก็เห็นแค่น้ำทะเลซัดสาดและมีเลือดสดๆ ไหลออกมา จนฉลามวัวที่อยู่ล้อมรอบอยู่ ไม่สามารถโจมตีได้ทัน จึงถูกกระบองฟันหมาป่าตีจนแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
เหมือนกับผู้ใหญ่รังแกกลุ่มเด็กๆ การโจมตีของฉลามวัวต่อคราเคนนั้นเป็นเพียงแค่ความหยาบคายเท่านั้น จากนั้นก็เกมโอเว่อร์
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที ฉลามวัวฝูงนี้ก็พ่ายแพ้ไป ฉลามวัวหลายสิบตัวก็เป็นเจ้าแห่งมหาสมุทรเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่ได้เผชิญหน้ากับหมึกยักษ์มากพอ โดยเฉพาะหมึกยักษ์ตัวนี้ยังสามารถต่อสู้ได้อีกด้วย
คราเคนจัดการฉลามวัวหกตัวได้อย่างรวดเร็วและอีกสองตัวก็ถูกตีจนเลือดไหลแต่ไม่ตาย เมื่อคราเคนหยุด พวกมันก็หันหลังกลับแล้วหนีทันทีจนแทบอยากจะให้พ่อแม่ของพวกมันเพิ่มหางให้พวกมันมากกว่านี้
เมื่อเห็นฉลามวัวหนีไปแล้ว คราเคนกะพริบตาดวงโตที่มีขนาดเท่ากับโต๊ะเรียนหนังสือด้วยความดูถูกเหยียดหยาม มันใช้หนวดจับซากฉลามวัวไว้และเริ่มกินพวกมันต่อหน้าฉินสือโอว
ท่าทางการกินของหมึกยักษ์นั้นเต็มไปด้วยรสชาติแห่งความป่าเถื่อนและดุร้าย แรงดูดที่หนวดของพวกมันน่ากลัวมาก หลังจากที่ดูดซากของฉลามวัวไว้อย่างโหดร้ายแล้ว มันก็ฉีกเป็นเนื้อชิ้นใหญ่แล้วยัดเข้าปาก มันจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ และฉลามวัวหนึ่งตัวกินได้ไม่กี่คำก็หมดแล้ว
ฉินสือโอวส่ายหัว เขาไม่สนใจที่จะดูการกินของคราเคน ดังนั้นเขาจึงวางจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอีกด้านไว้ใกล้กับหลุมน้ำเงินที่มีแมลงยักษ์คล้ายตะขาบอาศัยอยู่และเตรียมที่จะเอากระดองออกมาอีกครั้ง
ที่ที่แมลงยักษ์คล้ายตะขาบอาศัยก็อยู่ในทะเลลึกเช่นกัน เมื่อก่อนฉินสือโอวเคยมาที่นี่หลายครั้งและที่นี่ก็เป็นที่ที่มืดสนิทแห่งหนึ่ง
แต่หลังจากมาในครั้งนี้เขาก็พบว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น พื้นที่ทะเลที่ใกล้กับหลุมน้ำเงินกำลังส่องแสงเป็นประกายเล็กน้อย…
ให้ตายเถอะ หรือว่าที่นี่จะเป็นที่อยู่ของแมงกะพรุนเวเลลลาเรืองแสง? ฉินสือโอวถึงกับผงะ ปกติแล้วเขาออกลาดตระเวนในฟาร์มปลาและพบว่าแมงกะพรุนเวเลลลาเรืองแสงมีความเกี่ยวข้องกับปูดันเจเนสส์ พวกมันอาศัยอยู่ในน่านน้ำของฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในคอกและเขาไม่เคยพบพวกมันอยู่ที่อื่นเลย
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมน่านน้ำแห่งนี้ ฉินสือโอวจึงสังเกตอย่างละเอียดสักพักถึงจะเข้าใจว่าตัวเองคิดผิด นี่ไม่ใช่แมงกะพรุนเวเลลลา แต่มันคือปลาฝูงหนึ่ง
ครึ่งหน้าของลำตัวปลาชนิดนี้มีรูปร่างแบนคล้ายจานและหางก็เป็นรูปทรงกระบอก มันเคลื่อนที่ช้าๆ เมื่อเข้าใกล้กับก้นทะเล มันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะครึ่งเมตรเหมือนกันเดียวกับเต่า
ท่าทางของพวกมันค่อนข้างดุร้าย ถ้ามองแค่หน้าตา พวกมันต้องเป็นหนึ่งในสี่ชายที่ชั่วร้ายในใต้ท้องทะเลแน่นอน เพียงแค่เห็นเจ้าพวกนี้มีตาสองดวงที่ด้านบนของหัว มีปากใหญ่น่ากลัว ปากของมันกว้างเท่าลำตัวและมีฟันแหลมเรียงกันเป็นแถวที่ขอบปาก
นอกจากนี้ ยังแปลกมากที่ปลาชนิดนี้ยังมีครีบที่คอ สามารถแกว่งไปมาเพื่อช่วยให้พวกมันเคลื่อนไหวได้และสิ่งที่แปลกไปกว่านั้นคือ บนหัวของพวกมันมีโคมไฟขนาดเล็กห้อยอยู่และแสงสว่างเปล่งออกมาจากตรงนี้
ฉินสือโอวรู้ว่าปลาชนิดนี้คือปลาตกเบ็ด มีฉายาว่าปลาโคมไฟ จริงๆ แล้วโคมไฟบนหัวของพวกมันเกิดจากครีบหลังที่ค่อยๆ ยื่นขึ้นไป
ปลายครีบหลังเปล่งแสงเนื่องจากมีเซลล์ต่อมที่สามารถหลั่งลูซิเฟอรินซึ่งเร่งปฏิกิริยาโดยลูซิเฟอเรสและผ่านกระบวนการออกซิเดชันทางเคมีอย่างช้าๆ พร้อมกับออกซิเจนเพื่อเปล่งแสงออกมา
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset