ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1215 กัปตันบราบัสและลูกเรือของเขา

พลังโพไซดอนสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคราเคน จุดที่เปลี่ยนไปมากที่สุดไม่ใช่การเติบโตที่รวดเร็ว แต่เป็นการปรับตัวให้เข้ากับแรงดันน้ำที่เปลี่ยนไปต่างหาก
 แม้ว่าสัตว์ไร้กระดูกจะมีเซลล์อนินทรีย์บางส่วนเกิดการไหลย้อนกลับไป เหตุการณ์นี้นำไปสู่การเสียสมดุลของน้ำในเซลล์ จากนั้นก็จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือไม่ก็เป็นตะคริว
ความสามารถในการปรับเซลล์ให้สมดุลกับแรงดันของคราเคนนั้นดีมาก ตราบใดที่แรงดันไม่ได้เปลี่ยนแปลงในเวลาอันสั้น มันก็จะสามารถปรับสมดุลให้เหมาะสมกับแรงดันได้เสมอ มันสามารถขึ้นมารับแสงแดดบนผิวน้ำได้ตามใจ และยังสามารถต่อสู้กับฉลามที่ใต้ท้องทะเลลึกได้อีกด้วย
ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมมันให้ลอยไปลอยมาบนผิวน้ำทะเล
บนผืนน้ำทะเล เรือลากอวนขนาดห้าร้อยตันล่องน้ำมาด้วยเสียงอันดังลั่น ชาวประมงที่อยู่บนเรือทิ้งอวนขนาดใหญ่ลงมาในทะเลอย่างระมัดระวัง กัปตันเรือควบคุมไฟเลเซอร์ขนาดใหญ่ให้สาดส่องไปทั่วผืนน้ำ แสงเลเซอร์แสบตาราวกับแสงจากคมดาบ แสงนั้นส่องทะลุหมอกทึบที่อยู่บนผืนน้ำได้ในที่สุด
“ระวังกันหน่อย เจ้าพวกโง่ ถ้าหากพวกแกไม่อยากรีบไปเจอพระเจ้าล่ะก็ ระวังงานที่พวกแกกำลังทำอยู่ให้มากๆ!” เสียงแหบทุ้มต่ำของกัปตันดังขึ้น เสียงของเขาดังมากราวกับเสียงแตรของรถแทรกเตอร์
ลูกเรือหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่งหัวเราะออกมาเสียงดัง “กัปตันบราบัส คุณวางใจเถอะ พวกเราไม่อยากจะรีบจากโลกอันสวยงามนี้ไปเร็วนักหรอก ก็แค่วางอวนจับปลาไม่ใช่เหรอ? แม้จะหลับตาอยู่พวกเราก็สามารถทำได้สบายๆ ใช่ไหมพวก?”
ชายหนุ่มสองคนที่ร่วมถอดอวนด้วยหัวเราะขึ้นมาร่วมวงกับเขา
กัปตันบราบัสพึมพำขึ้นมาว่า ‘ไอ้เด็กเวร’ จากนั้นก็ดันรถลากที่ใส่เครื่องส่องไฟเลเซอร์ย้ายไปยังหัวเรือ
บนดาดฟ้ามีคนคนหนึ่งมองไปยังท้องทะเลอย่างไร้จุดหมายยืนอยู่ กัปตันบราบัส ใช้ไฟส่องไปที่ชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าสติของชายคนนั้นเลื่อนลอยเขาก็โมโหขึ้นมา พลางตะโกนออกมาว่า “เฮ้! นอร์ริส แกนี่ควรลงนรกไปซะจริงๆ! ฉันบอกแกว่าอย่างไร? ให้ตั้งใจทำงาน ตั้งใจทำงาน ตั้งใจทำงาน!”
นอร์ริสเป็นชาวประมงแก่คนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณสี่สิบกว่าปี ท่าทางเหลาะแหละและไม่น่าไว้วางใจ เมื่อได้ยินเสียงคำรามของกัปตัน เขาก็ถือกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมาแล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า “พี่ชาย นายเป็นคนชอบทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เหรอ? น่านน้ำทะเลแห่งนี้เดิมทีไม่มีแนวปะการังเลย พวกเรามายืนทำอะไรกันอยู่ที่หัวเรืองั้นเหรอ? นายรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนี้ทำให้ผมดูเหมือนเป็นลูกเรือทาสผู้ดูต้นทางโง่ๆ ในศตวรรษที่สิบห้าเลย”
กัปตันบราบัสถลึงตาพลางตะโกนร้องออกมาว่า “หุบปากหมาๆ ของแกไปเลย นอร์ริส บนเรือแกไม่ได้รับอนุญาตให้เรียกฉันว่าพี่ชาย! เรียกฉันว่ากัปตันบราบัส! อีกอย่าง ฉันแม่งก็เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องของแก ไม่ได้เป็นพี่แท้ๆ อย่ามากเรียกฉันอย่างสนิทขนาดนั้น!”
นอร์ริสทำปากมุ่ย จากนั้นก็ยกกล้องโทรทรรศน์ส่องไปข้างหน้า พลางบ่นออกมาว่า “เอาล่ะเอาล่ะ กัปตันบราบัส กัปตันเรือผู้ยิ่งใหญ่ กระผมน้อมรับคำบัญชา ผมจะตั้งใจเป็นผู้ดูลาดเลาอย่างขยันขันแข็ง ผู้ดูต้นทางงี่เง่า!”
บราบัสกลอกตาแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “ฟังนะ นอร์ริส อย่าหาว่าฉันพล่ามเลย ฉันน่ะก็ไม่ใช่พระเจ้า ไม่อยากฟังแกพูดอะไรไร้สาระ! ฉันจะบอกแกไว้นะ ทางที่ดีแกควรจะเบิกตาของแกให้กว้าง แนวปะการังน่ะฉันไม่กลัวหรอก ฉันกลัวเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์พวกแม่งนั้นมากกว่า!”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์’ คำนี้ นอร์ริสก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที เขาหันกลับมาถามว่า “พี่ชายที่รัก นายช่วยพูดอะไรดีๆ ในที่ที่มีบรรยากาศแบบนี้ได้ไหม? เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ ใช่แล้ว เรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์ พวกเราทุกคนรู้ว่าน่านน้ำแห่งนี้มีเรือผีอยู่ แล้วทำไมนายยังยืนกรานที่จะมาจับปลาที่นี่ล่ะ?”
บราบัสยังคงตะโกนออกมาเสียงดังเหมือนเดิม “แกว่าเพราะอะไรล่ะ? เพราะว่าฟาร์มปลาของไอ้คนจีนคนนี้มันมีทรัพยากรที่โคตรจะอุดมสมบูรณ์อย่างไรล่ะ! เพราะว่าราคาของปลาที่นี่สูงที่สุด! เข้าใจไหม?”
“ถ้าแกอยากจะได้เงิน ก็เบิกตากว้างๆ ของแกมองไปรอบๆ ให้ดี เพียงแค่ใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยหมอกนี้เติมปลาให้เต็มตู้ก็พอ ถ้าทำได้ฉันรับประกัน ช่วงวันที่เหลือของปีนี้แกสามารถใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ได้เลย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น นอร์ริสก็ดีใจขึ้นมาทันที เขาพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าว่า “สบายใจได้ ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน เมื่อกี้แคนเมลไม่ได้บอกกับนายแล้วหรืออย่างไร? เขาติดต่อมาทางวิทยุ เรือของตาแก่โคเฮนก็มาจับปลาที่นี่เหมือนกัน หากว่ามีเรือผีอยู่จริงๆ โอกาสที่พวกเราจะเจอเรือผีก็มีเพียงแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ใช่เหรอ?”
บราบัสไม่พอใจในคำพูดของนอร์ริสขึ้นมาทันที เขาถลึงตาขึ้นมาด้วยความโมโห ตอนนั้นเองที่ห้องโดยสารก็มีหัวโตๆ ของใครบางคนโผล่ออกมา ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยอันดังที่เต็มไปความตื่นตระหนกทันทีว่า “กัปตัน รีบมาดูเร็ว แย่แล้ว! พระเจ้า! รีบมาเร็วเข้า รีบมาเร็ว!”
“เกิดอะไรขึ้น แคนเมล นายเจอเข้ากับอะไรเหรอ?” กัปตันบราบัสรีบเดินออกมาถามด้วยความร้อนใจทันที
แคนเมลรีบตอบกลับว่า “เครื่องตรวจจับปลาน่ะสิ กัปตัน เครื่องตรวจจับปลาเจอเข้ากับปลาขนาดใหญ่แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันกำลังเข้ามาใกล้พวกเรา! มันคือตัวอะไรกันนะ? ตั้งแต่หาปลามาผมไม่เคยเจอเจ้าตัวนี้มาก่อนเลย!”
นอร์ริสวิ่งตามกัปตันบราบัสไปยังห้องควบคุมเรือ เขามองไปยังเครื่องตรวจจับปลา จากนั้นเขาก็ตกใจ และร้องออกมาด้วยตะลึงทันทีว่า “พระเจ้า! พวกนายเห็นรูปร่างของมันไหม รูปร่างมันเหมือนกับเรือที่กำลังลอยขึ้นมาจากทะเลเลยใช่ไหมนะ?”
บราบัสหันกลับมาจ้องเขา แล้วถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “นายหมายความว่าอะไร?”
นอร์ริสพูดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกว่า “นายหมายความว่าอะไร? รายงานก็มีบอกไว้ไม่ใช่เหรอ ไม่เคยมีใครเคยเห็นว่าเรือผีปรากฏออกมาได้อย่างไร? มันอาจจะลอยขึ้นมาจากใต้ทะเลก็ได้ไม่ใช่เหรอ? เหมือนกับเครื่องบินของชาวดัตช์หรือเปล่า?”
เมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ แคนเมลก็กรีดร้องออกมาทันที เสียงร้องของเขาราวกับเขาถูกแมงป่องกัด “เรือผีเหรอ? พวกเราเจอเข้ากับเรือผีเหรอ?! ไม่ พระเจ้า ไม่เอาแบบนี้สิ เดือนหน้าผมจะแต่งงานกับแม็กกี้แล้วนะ!”
บราบัสชกเข้าไปที่แคนเมลพลางตะโกนออกมาว่า “หุบปาก ไอ้โง่!  คนบ้าขี้เหล้าอย่างนอร์ริสพูดอะไรนายก็เชื่อหมดเลยเหรอ? รีบนำเรือออกจากที่นี่ แจ้งปีเตอร์ด้วย ให้พวกเขารีบเก็บอวนที่ทอดลงไปแล้วขึ้นมา!”
อันที่จริงแล้ว ตอนนี้ในใจของบราบัสว้าวุ่นเป็นอย่างมาก แต่เพราะว่าเขาเป็นกัปตัน เขาจำเป็นที่จะต้องนิ่งสงบเพื่อรักษาสถานการณ์ เขาจึงต้องใช้เสียงดังในการปกปิดความว้าวุ่นใจของตัวเอง และพยายามสงบสติอารมณ์แล้วสั่งให้ลูกเรือรีบทำงาน
ในขณะที่นอร์ริสกำลังไปยังท้ายเรือเพื่อบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องที่บราบัสประกาศ ปรากฏว่าเมื่อเขาเดินออกไป เขาก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจมาจากท้ายเรือ
บราบัสก็ได้ยินเช่นกัน เขาผลักนอร์ริสออกแล้วตะโกนไปทางท้ายเรือว่า “เจ้าพวกโง่ พวกนายร้องโวยวายหาเรื่องตายทำไมกัน? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
มีคนตะโกนกลับมาจากท้ายเรือว่า “กัปตัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อวนของพวกเราถูกลากลงไปยังใต้ทะเลแล้ว! คุณรีบมาดูเร็วเข้า พวกเรามองไม่เห็นแม้แต่เงาของอวนเลย!”
อวนอันหนึ่งราคาไม่ได้ถูกเลย บราบัสวิ่งไปยังท้ายเรื่องพลางสบถด่าอากาศที่ไม่ดี และด่าฟาร์มปลาบ้าบอนี่และเหตุการณ์บ้าๆ ทั้งหมด
ที่ประตูห้องควบคุมเรือ นอร์ริสจ้องมองเข้าไปยังหมอกหนาสีขาวอันกว้างใหญ่ข้างหน้า ทันใดนั้นเขาก็เข้าไปในห้องควบคุมและปิดประตูทันที
แคนเมลที่กำลังเร่งเครื่องยนต์อยู่ถามออกมาว่า “นายปิดประตูทำไม?”
นอร์ริสพูดออกมาด้วยท่าทีสุขุมว่า “เพื่อน นายไม่สังเกตเหรอ หมอกมันหนาขึ้นเรื่อยๆ เลยใช่ไหม? นายรู้ไหม? ภรรยาคนก่อนของฉันเป็นยิปซี ชนเผ่าของเธอเป็นนักโหราศาสตร์และแม่หมอ ฉันได้เรียนรู้อะไรบางอย่างมาจากเธอเล็กน้อย และฉันก็เข้าใจเรื่องพวกนี้”
“นายหมายความว่าอะไร นอร์ริส?” แคนเมลแสดงท่าทางราวกับเห็นผีออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ความหมายของฉันก็คือ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์อันน่ากลัวบางอย่างขึ้นที่ทะเล!”
………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset