ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1222 เสียงร้องเพลงดังขึ้นมา

“เก็บอวนขึ้นมา!” ฉินสือโอวขมวดคิ้วพลางออกคำสั่ง ชาร์คโบกมือไปมา ชาวประมงที่อยู่บนเรือสวมชุดดำน้ำที่เรียบง่ายและแข็งแรงลงทะเลไป พวกเขาใช้ส่วนด้านบนของอวนลอยกลางน้ำผูกเข้ากับเชือก ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งผูกเขากับเรือฮาวิซท จากนั้นก็ลากอวนลอยกลางน้ำขึ้นมา
พลังการทำลายของอวนลอยกลางน้ำนั้นแข็งแกร่งมาก ทรัพยากรประมงที่อุดมสมบูรณ์ การสูญพันธุ์อย่างมักง่ายเกิดขึ้นจากการทอดอวนลงไปสุ่มสี่สุ่มห้า ทำให้ได้รับทรัพยากรมาจำนวนมหาศาล
อวนจับปลาเต็มไปด้วยปลาต่างๆ มีปลาตัวใหญ่จำนวนมากแต่ที่มากกว่าคือปลาตัวเล็กๆ ฉินสือโอวเข้าไปดู มีทั้งปลาจะละเม็ด ปลาซันมะ ปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ ปลากะพงญี่ปุ่น ลูกปลาค็อด นอกจากนี้ยังมีปลาดาบเหนืออีกด้วย
ปลาดาบเหนือเป็นปลาชนิดพิเศษของมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาดาบส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกเท่านั้น  มีเพียงปลาดาบเหนือเท่านั้นที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะว่ายน้ำมาจากมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อมายังมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อวางไข่
ทักษะการว่ายน้ำของปลาชนิดนี้ค่อนข้างแย่ พวกมันเดินทางจากมหาสมุทรแปซิฟิกมายังมหาสมุทรแอตแลติกด้วยความยากลำบาก ปรากฏว่าเมื่อหลีกเลี่ยงจากปากฉลามและเรือประมงได้แล้ว ท้ายที่สุดแล้วกลับมาเจอเข้ากับอวนตาข่ายหลายชั้นนี้
“ไอ้ลูกผสมพวกนี้!” ฉินสือโอวโมโหจนตบหน้าปัดเรือยนต์ เขาพูดผ่านวิทยุสื่อสารออกมาอย่างร้ายกาจว่า “ฟังนะ ต่อไปหากเจอเข้ากับเรือขโมยปลา ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม พวกมันต้องถูกจับและปฏิบัติตามกฎหมายการจับเต่ามะเฟืองทั้งหมด!”
เขามักจะใจอ่อนเกินไป เพราะเขาเข้าใจถึงความยากลำบากในการจัดการเรือประมง ทรัพยากรนอกชายฝั่งนั้นน้อยลงเรื่อยๆ ทุกคนที่ออกทะเลไปหากไม่ได้โชคกลับมาก็ต้องเสียเงินแทน ดังนั้นไม่ว่าจะต้องผ่านวิธีการอะไร ฉินสือโอวก็ยังคงหาทางออกให้พวกขโมยปลาเสมอ
อย่างน้อย เขาก็ไม่เคยทำร้ายชีวิตคนเลย
แต่ว่าตอนนี้เรือขโมยปลาชักจะทำเกินไปแล้ว ถึงขนาดที่ว่าหว่านอวนลงมาในพื้นที่ฟาร์มปลาของเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้อย่างแน่นอน!
ฉินสือโอวตัดสินใจที่จะตอบโต้กลับ หลังจากนี้คราเคนจะไม่อ่อนโยนอีกต่อไป หากเจอเข้ากับเรือประมงอีก พวกมันจะต้องถูกทำลาย!
แต่ว่าเมื่อเป็นแบบนี้ การได้รับผลผลิตของพวกเขาก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมา บนอวนผืนนี้มีปลาจำนวนมากติดอยู่ด้านบน ปลาจำนวนเล็กใหญ่รวมกันหนักราวสองสามตัน โดยมีปลาค็อดแอตแลนติก ปลาแซลมอนแอตแลนติก ปลาแซลมอนโคโฮ ล้วนแต่เป็นปลาเศรษฐกิจอันมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก
พวกชาวประมงทำงานกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาแบ่งปลาตามขนาดตัวเล็กใหญ่ ฉินสือโอวเห็นกล่องใบหนึ่งเต็มไปด้วยลูกปลาที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ ใจของเขาเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาพูดขึ้นออกมาว่า “กล่องใบนี้ให้ฉันเอาไปเองแล้วกัน ฉันจะเอาไปใช้ทำอย่างอื่น”
ลูกปลาก็มีข้อดีของมัน พ่อกับแม่อยู่ที่นี่ ทำให้เขานึกถึงอาหารรสเลิศจานหนึ่งที่ได้กินบ่อยๆ ตอนเด็ก ปลาทอดกระทะ ใช้ปลาพวกนี้ทำได้พอดีเลย
บนเรือปริ้นเซสเมล่อน ความยาวของอวนที่ลากมาค่อยๆ ลดลง ซีมอนสเตอร์ขับเรือไปข้างหน้า แบบนี้อวนจะค่อยๆ คลายออก กลายเป็นการวางตาข่ายดักศัตรู
ฉินสือโอวเลือกใช้อวนที่มีรูตาข่ายขนาดใหญ่ ปลาที่มีขนาดยาวต่ำกว่าหนึ่งเมตรโดยปกติจะไม่สามารถหนีหลุดไปได้ แต่ปลาที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรจะต้องใจเย็นและฉลาด เพียงแค่อย่านอนติดอยู่กับด้านข้างอวน แบบนั้นก็จะสามารถหนีผ่านตาข่ายออกไปได้ง่าย
ทรัพยากรของฟาร์มปลามีจำนวนมาก เขาไม่กลัวว่าพวกมันจะลดจำนวนลงหรอก
เมื่อเทียบกับเรือฮาวิซท เรือปริ้นเซสเมล่อนเป็นเรือประมงระดับสูง ที่เรือมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ที่หางเรือมีหลอดไฟฮาโลเจนติดอยู่ สวิตช์ควบคุมอยู่ที่ห้องควบคุม ทั้งหมดแบ่งเป็นสามประเภท หลอดไฟล่อปลา ไฟลูกลอย และไฟสมอ
ปลาทะเลโดยเฉพาะปลาที่อาศัยอยู่บริเวณชั้นกลางของมหาสมุทรขึ้นไป พวกมันตอบสนองต่อแสงอย่างรุนแรง ปลาแองเกอร์ที่ฉินสือโอวพบเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็ใช้คุณสมบัตินี้ของมันในการล่อพวกมัน
ซีมอนสเตอร์เปิดไฟที่หางเรือ เรือปริ้นเซลเมล่อนเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว
ที่หางเรือไม่เพียงมีแต่ไฟฮาโลเจนเท่านั้น ด้านในยังมีหลอดไส้ร้อนอยู่ หลอดไฟแบบนี้ราคาถูก มันเป็นหลอดแผ่รังสีความร้อน พวกมันเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานความร้อน พลังงานแสงและพลังงานรังสี ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบสนองความต้องการของแสงและความร้อนของปลาทะเล ดังนั้นแม้ว่าประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างจะต่ำ แต่มันก็ยังคงถือว่าไม่ตกรอบ
ที่สำคัญกว่านั้นคือหลอดเมทัลฮาไลด์ หลอดประเภทนี้เป็นหลอดก๊าซดิสชาร์จ ประสิทธิภาพในการส่องแสงของมันสูงมาก เนื่องจากมีเมทัลฮาไลด์อยู่ในหลอด แสงที่ปรากฏออกมาเป็นแสงสีฟ้าสวยงาม ดวงไฟจะปล่อยแสงออกมาที่ระยะห้าร้อยยี่สิบนาโนเมตรและห้าร้อยหกสิบนาโนเมตร
นี่คือพลังของเทคโนโลยีสมัยใหม่ จากผลวิจัยที่หาได้ ปลาทะเลที่อยู่ในระดับชั้นกลางจะมีความไวต่อแสงมากที่สุดต้องอยู่ในช่วงระยะห้าร้อยหกสิบนาโนเมตร หากอยู่ในสภาพที่แสงไม่ดี จะมีความไวต่อแสงมากสุดห้าร้อยยี่สิบนาเมตร หากคลื่นความยาวนี้ถูกใช้เป็นระยะ พวกมันจะสามารถดึงดูดปลาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
เมื่อก่อนเรือฮาวิซทไม่มีคุณสมบัติแบบนี้ การลากอวนเมื่อก่อนใช้เทคนิคล่าขุมสมบัติห้าประการกับการหาแบบโซนาร์ แต่ว่าทั้งสองวิธีเป็นเพียงการตกปลาปกติ เพียงแค่รอปลามารวมกันเป็นฝูง หลังจากที่พวกเขาเจอปลา จึงจะจับได้
ตอนนี้เรือปริ้นเซลเมล่อน ใช้วิธีการตกปลาเป็นหลัก และใช้วิธีการใช้แสงล่อปลา พวกเขาจะสามารถรวมปลาที่กระจัดกระจายเข้ามารวมกันได้ พวกเขากวาดปลาเรียบไม่เหลือ แบบนี้จะทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น
ครั้งแรกที่ฉินสือโอวเห็นเรือประมงใช้เทคนิคนี้ เขาค่อนข้างแปลกใจจึงเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อดูการทำงานของมัน
ซีมอนสเตอร์เคยออกทะเลไปไกล จึงคุ้นเคยกับเครื่องมือพวกนี้มาก เขาเปิดปุ่มกดที่เขียนว่าการไหลของน้ำและโคมไฟขึ้นมา แล้วพูดออกมาว่า “นี่เป็นโหมดใช้ไฟล่อปลา ตอนนี้ไฟที่ส่งบนผิวน้ำและในน้ำเปิดขึ้นพร้อมกัน เมื่อดวงไฟถูกปล่อยออกมา พวกมันจะลอยไปตามกระแสน้ำได้ แบบนี้จะสามารถขยายขอบเขตของกับดักได้”
เรื่องที่ต้องทำต่อเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ซีมอนสเตอร์นั่งลงบนที่นั่งโดยเท้าทั้งสองข้างวางอยู่ที่พนักวางเท้า จากนั้นก็ดื่มกาแฟอย่างสบายใจ เรื่องที่ต้องทำต่อไปนั่นก็คือการรอ รอให้โคมไฟล่อปลาล่อปลาทะเลกลุ่มใหญ่เข้ามา
เรือประมงเคลื่อนออกไปข้างหน้าช้าๆ ราวหนึ่งชั่วโมงแล้ว ซีมอนสเตอร์ก็เรอออกมาแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เริ่มสั่งให้ชาวประมงทำงาน “โอเค โอเค เพื่อนยากทั้งหลาย ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวมาถึงแล้ว! พวกเรามาร้องเพลง ‘ป่าเบิร์ช’ และเริ่มรับของขวัญล้ำค่าจากทะเลกันเถอะ!”
พวกชาวประมงกู่ร้องหัวเราะขึ้นมา การทำงานในทะเลเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก พวกเขาจำเป็นจะต้องหาความสุขให้ตัวเอง บางครั้งเพลงเพลงเดียวก็สามารถทำให้พวกเขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ ดังนั้นทุกคนจึงมักจะร้องเพลงด้วยกัน
พวกชาวประมงทุกคนมีเสียงอันแหบและดัง ไม่มีใครร้องเพลงเพราะเลยสักคน ดังนั้นจึงไม่มีใครหัวเราะเยาะกันและกัน ลูกคอของพวกเขาแต่ละคนเหมือนกับต้องคำสาป พวกเขาไม่สนใจทำนอง ขึ้นอยู่กับว่าเสียงของใครดังกว่า เสียงของคนนั้นก็กลืนเสียงของคนอื่นได้
การทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะพวกเขาแข่งขันกัน แต่เพราะมันเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง พวกชาวประมงเชื่อว่าการร้องเพลงในระหว่างที่จับปลานั้น ยิ่งร้องดังมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งจับปลาได้มากขึ้นเท่านั้น
เพลงดินแดนแห่งเบิร์ชสีเงิน จุดเริ่มต้นเกิดมาจากแตรใหญ่ของเรือประมงที่ดังขึ้นในสมัยก่อน พวกชาวประมงทำงานไปพลางโห่ร้องออกมา ฉินสือโอวได้รับความรู้สึกนั้นจนเขาก็ร้องเพลงออกมาเช่นกัน “ดินแดนแห่งเบิร์ชสีเงิน บ้านเกิดของบีเวอร์…ที่นั่นมีกวางตัวใหญ่ ว่ายน้ำได้อย่างอิสระ…แนวชายฝั่งหินของทะเลสาบสีฟ้า ฉันอยากจะกลับไปอีกครั้ง…”
เมื่อมาถึงท่อนที่ต้องร้องพร้อมกัน ความสนุกก็เกิดขึ้น “บูม ดี ดี บูม บูม บูม ดี ดี บูม บูม บูม! บูม! บูม!..”
ทุกคนตะโกนออกมาพร้อมกัน โดยเฉพาะบลูที่ตะโกนจนหน้าแดงและลำคอปูดโปน
แต่มันก็เป็นแบบที่พวกเขาเชื่อกัน ในขณะที่กำลังร้องเพลงอยู่นั้น อวนขนาดใหญ่ก็ถูกลากขึ้นมาด้วยเครื่องจับปลา ในอวนจับปลาเต็มไปด้วยปลาค็อดแอตแลนติก ปลาแฮดดัค ปลาคาพีลิน ปลาหิมะ อวนจับปลาถูกย้ายไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของจากนั้นมันก็ถูกเปิดออก ราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ปลาจำนวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักออกมาทันที!
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset