ดิคในฐานะพิธีกรที่กำลังพูดอยู่ที่ด้านล่างเวที แต่เดิมที่เขากำลังยิ้มหัวเราะให้กับเหล่าประชาชนอยู่นั้น ปรากฏว่าเมื่อเห็นทุกคนหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน เขาก็หันกลับไปมองด้วยความสงสัย จากนั้นเขาก็เห็นสุนัขท่าทางน่ากลัวตัวหนึ่งกำลังวิ่งมาหาเขา มันทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา…
“โว้ว พระเจ้า!” ดิคร้องออกมา “ฮิวจ์ ผมจะฆ่าคุณ!”
พิตบูลวิ่งมาทางดิค หนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวกลิ้งไปมาบนพื้นพร้อมกันเต็มไปด้วยวุ่นวาย ฮิวจ์คนน้องรีบเข้ามาพาสุนัขอันเป็นที่รักของตัวเองออกมา มิสเตอร์บุชรีบเข้าไปยังอ้อมกอดของเขาทันทีที่เห็นว่าเจ้านายของตัวเองปรากฏตัว มันหวาดกลัวจนหางจุกตูด พลางร้องออกมาด้วยเสียงอันน่ากลัวไม่หยุด
ฮิวจ์พาพิตบูลขึ้นไปยังบนเวทีอีกครั้ง คราวนี้เขาค่อยๆ ปล่อยมืออย่างระมัดระวัง แต่สุนัขตัวนี้ก็ยังคงวิ่งหนีออกมาอยู่ดี
เพราะเหตุนี้ฮิวจ์คนน้องจึงทำได้เพียงอุ้มมันขึ้นมาแล้วเขาก็ยืนอยู่บนเวทีด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ด้านหน้าของเขาคือประชาชนที่พากันหัวเราะและพูดออกมาว่า “เพื่อน การเลือกตั้งได้เริ่มขึ้นแล้ว คุณรีบพูดสุนทรพจน์เร็วเข้า คุณพูดแทนสุนัขของคุณก็ได้ ผมจะสอนวิธีการพูดสุนทรพจน์ให้คุณเอง บ๊อกๆ บ๊อกๆๆ ฮ่าๆ…”
“ฟัคยู ซับลาน นายหุบปากไปเลยนะ!” ฮิวจ์คนน้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห “นายมันหาเรื่อง ดูสิว่าถ้าฉันมีเวลาฉันจะจัดการนายได้อย่างไร!”
ไม่เพียงแต่ซับลานที่หาเรื่องใส่ตัว ฮิวจ์เองก็สร้างเรื่องไว้เหมือนกัน นี่คือการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีไม่ใช่ละครเวที การที่เขาทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม
แต่เขาจนปัญญา พิตบูลนั้นโง่มาก มันไม่ได้มีไอคิวสูง เรื่องนี้ทำให้มันกลัวจนฉี่ราดได้ ไม่ว่าจะปลอบอย่างไรก็ไม่เป็นผล มันอยากจะวิ่งลงเวทีไปอย่างเดียว
ฉินสือโอวพาหู่จือและเป้าจือมา พวกมันทั้งสองตัวมองไปยังบนเวทีที่มีเสียงร้องของสุนัขดังออกมา ทำให้รู้สึกสนุกขึ้นมาทันที จากนั้นพวกมันก็วิ่งกระดิกหางไปยังเวทีอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเพื่อนประเภทเดียวกัน ในที่สุดพิตบูลก็มีจุดอื่นที่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ถูกฝังอยู่ในสายเลือดของมันถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันวิ่งหนีออกมาในช่วงที่ฮิวจ์คนน้องไม่ได้สนใจมัน มันส่งเสียงเห่าและขู่มายังหู่จือและเป้าจือ
หู่จือและเป้าจือเหลือบมองไปยังบุชด้วยสายตาดูถูก ช่างทำให้ตระกูลสุนัขอย่างเราเสียหน้าเสียจริง แม้แต่จะกล่าวสุนทรพจน์ยังไม่กล้าแถมยังมาเห่าใส่พี่น้องอย่างพวกเราอีกงั้นเหรอ? ขี้เกียจที่จะสนใจนายแล้ว!
แลบราดอร์ทั้งสองตัวยืนอยู่บนเวทีกล่าวสุนทรพจน์พลางมองยังฝูงชนที่แน่นขนัดอยู่ด้านล่างด้วยความกระตือรือร้น หรือพูดได้ว่าพวกมันสนุกกับการที่พวกมันเป็นที่จับตามอง หลังจากที่พวกมันได้กลายเป็นสุนัขบำบัดในศาล พวกมันก็ยิ่งชอบที่จะเป็นจุดสนใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเลือกตั้งในวันนี้ทุกคนในเมืองต่างพากันมาที่นี่ คนนับพันอยู่บนถนน ไม่เหมือนกับที่ศาลก่อนหน้านี้ที่มีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น คนเยอะขนาดนี้กำลังมองมาที่ตัวเอง หู่จือและเป้าจือรู้สึกดีมากเลย
ตรงกันข้ามพิตบูลกลับรู้สึกแย่ สายตาของหู่จือและเป้าจือทำให้มันรู้สึกเหมือนได้รับการดูถูก มันจึงเห่าออกมาและพุ่งเข้าใส่
เสียงอุทานของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ด้านล่างดังขึ้น ดิคที่เป็นพิธีกรยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนเวที รวมถึงเจ้าของอย่างฮิวจ์คนน้องด้วย เมื่อพิตบูลเริ่มต่อสู้พวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน หากเข้าไปยุ่งอาจจะถูกมันกัดอย่างน่าเวทนาก็เป็นได้
บุชพุ่งเข้าโจมตีอย่างดุร้าย หู่จือและเป้าจือที่กำลังกระดิกหางไปมาเพื่อโชว์ตัวอยู่หันกลับมามองบุชทันที หลังจากนั้นพวกมันทั้งสองตัวก็รีบหมุนตัวพลางถอยหนีออกมาทันที ทำให้พิตบูลที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้านั้นพุ่งลงไปที่พื้น…
จากหน้ามือเปลี่ยนเป็นหลังมือ ราชาแห่งการต่อสู้ที่ฮิวจ์คนน้องคาดหวังไว้สูงถูกทำให้กลิ้งตกลงไปที่พื้น หู่จือและเป้าจือใช้อุ้งเท้าจับมันไว้ จากนั้นก็แยกเขี้ยวคำรามใส่มัน พิตบูลดิ้นไปมาอย่างรุนแรงแต่มันก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ ท้ายที่สุดแล้วมันจึงทำได้เพียงร้องสะอื้นออกมาเบาๆ
เมื่อเห็นแบบนี้หู่จือและเป้าตือจึงยกเท้าที่จับมันไว้ออก หลังจากนั้นบุชก็ลุกขึ้นมา แล้วมันก็วิ่งหนีออกไปพร้อมกับหางที่ตกลงอย่างเศร้าสร้อย
ฮิวจ์คนน้องวิ่งตามหลังมันไปพลางเรียก ‘บุช’ ไปด้วย คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างพากันหัวเราะออกมา ฮิวจ์คนน้องอุ้มลูกชายของตัวเองขึ้นมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอับอาย แต่ลูกชายของเขากลับถอนหายใจออกมาราวกับเด็กน้อย เขาจึงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ผมถูกลุงทำให้เสียหน้าจนไม่เหลืออะไรแล้ว แล้วแบบนี้ผมจะไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวรีบออกมาเรียกหู่จือและเป้าจือทันที เหล่าประชาชนที่อยู่ด้านล่างเวทีกลับอยากดูเรื่องสนุกสนานพวกนี้อีก พวกเขาตะโกนขึ้นมาว่า “อย่าพึ่งไปเลย! ให้มันอยู่ต่อเถอะ!” “หู่จือเป้าจือ จุ้บๆ!” “พวกเราขอเปลี่ยนตัวผู้สมัครนายกเทศมนตรี ให้หู่จือเป้าจือมาแทนที่!”
หู่จือและเป้าจือนั้นฉลาดมาก พวกมันสามารถรับรู้อารมณ์ที่สูงขึ้นของผู้คนที่อยู่ด้านล่างได้ ดังนั้นพวกมันจึงยิ่งดีใจมากขึ้น มันจึงแสดงท่าทีอวดเบ่งออกมา พวกมันเชิดหัวขึ้น เท้าทั้งสองข้างวางอยู่บนเวที พวกมันแลบลิ้นเลียริมฝีปากออกมาอย่างมีความสุขพลางมองลงไปยังผู้คนด้านล่าง
“รีบลงมาเดี๋ยวนี้!” ฉินสือโอวชูกำปั้นขู่พวกมัน
หู่จือและเป้าจือที่ปกติเป็นเด็กดีตอนนี้ทำตัวดื้อรั้นขึ้นมา พวกมันทั้งสองตัวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พวกมันกระดิกหางไปมาอย่างบนเวทีอย่างมีความสุข บางครั้งพวกมันก็เห่าออกมาเป็นครั้งคราว ผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็ส่งเสียงเชียร์ออกมาตลอดเวลา
สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองนั้นเลี่ยนกับเรื่องพวกนี้ พวกเขาต้องยืนอยู่ที่ถนนเป็นเวลาสองสามชั่วโมงเพื่อฟังคำพูดไร้ประโยชน์พวกนั้น อีกที่จริงพวกเขาต่างก็มีคนที่อยากจะเลือกแล้วอยู่ในใจ ไม่ว่าใครจะพูดดีแค่ไหนพวกเขาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ กิจกรรมการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ก็เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว!
ดังนั้นเมื่อตอนที่ฮิวจ์คนน้องเสนอให้ตัวเต็งในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสุนัขตัวหนึ่งพวกเขาจึงเห็นด้วยกันหมด ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับกิจกรรม ดูอย่างตอนนี้สิ การให้สัตว์มาเข้าร่วมการเลือกตั้งทำให้บรรยากาศครึกครื้นจริงๆ หู่จือและเป้าจือทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
ฉินสือโอวทำได้เพียงแค่ขึ้นไปลากหู่จือกับเป้าจือลงมา เขาจูงสุนัขไว้ในมือละตัว ใบหน้าของหู่จือและเป้าจือแสดงออกมาว่าไม่มีความสุข พวกมันยังไม่ได้แสดงเสน่ห์ออกมาเลย
ชาวเมืองต่างพากันโห่ร้องไล่ฉินสือโอว หลังจากที่เขาลงเวทีไปก็มีคนมาลากเขา แล้วตะโกนใส่ว่า “ฉิน คุณปล่อยให้พวกมันสองตัวกลับขึ้นไปเถอะ พวกเราอยากให้พวกมันมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง!”
“อย่ามากวนๆ พระเจ้า ทุกคนจริงจังหน่อยสิ!” ท่านชายฉินหัวเสียแล้ว
เมื่อไม่มีสุนัขอยู่บนเวที ดิคจึงกล้าที่จะขึ้นไปบนเวทีเพื่อกู้สถานการณ์ เขาก็จนปัญญาเช่นกัน เขาคิดว่าพ่อของเขาในฐานะที่เป็นพิธีกรมาทั้งชีวิตคงไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน แล้วทำไมมันถึงกลับมาตกอยู่ที่เขาได้ล่ะ? นี่มันซวยเกินไปรึเปล่า?
แต่ว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว บรรยากาศการหาเสียงก็จะได้เปลี่ยนเป็นครึกครื้นขึ้นมา
คนอื่นๆ ทยอยกันออกมาบนเวที เนื้อหาการกล่าวสุนทรพจน์ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น สิ่งเดียวที่พวกเขาพูดเหมือนกันคือจะพัฒนาเมืองให้ดียิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เมื่อประชาชนได้ฟังคำพูดพวกนี้พวกเขาไม่ได้มีท่าทีตอบสนองอะไร ตอนนี้เพราะว่าความครึกคักที่เกิดจากหู่จือและเป้าจือ อารมณ์ของพวกเขาจึงพุ่งสูงขึ้น ทำให้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำพูดเหล่านั้น
วินนี่ออกมาเป็นคนสุดท้าย เธอเตรียมการสำหรับการหาเสียงในครั้งนี้มาอย่างตั้งใจ ตั้งแต่การแต่งหน้าแต่งตัว ทุกอย่างดูมืออาชีพ
ชุดสูทเป็นชุดที่ผู้หญิงที่ทำงานต้องมีเก็บไว้อย่างไม่ต้องสงสัย วินนี่เลือกชุดสูทสำหรับสตรีสีดำธรรมดาออกมาสวมใส่ การตัดเย็บเรียบร้อยไม่มีบกพร่อง กางเกงทรงขากระบอกพร้อมกับรองเท้าส้นสูงทำให้เธอดูสูงขึ้นได้ และยังทำให้สัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายและความสงบได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้เมื่อบวกกับการจัดแต่งทรงผมสีดำขลับด้วยการรวบผมหางม้ารวมถึงท่าทีที่สวยสง่างามแล้ว เมื่อเธอเดินออกมา เธอก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม
โดยเฉพาะฉินสือโอวที่โห่ร้องให้กำลังใจเป็นพิเศษ เขามองไปยังพวกทหารที่อยู่ด้านหน้า คนถูกแกล้งพวกนั้นร้องเชียร์ออกมาเบาๆ เท่านั้น เขาลากพวกเขาออกมา แล้วพูดพลางขมวดคิ้วด้วยความโมโหว่า “โบนัสหนึ่งหมื่นดอลลาร์!”
พวกที่ถูกรังแกทั้งหลายยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ชะเง้อคอตะโกนออกมา แบล็คไนฟ์ยกป้ายขึ้นมาแผ่นหนึ่ง ด้านบนเขียนว่า ‘วินนี่ ลูกสาวของพระเจ้า’
ส่วนนีลเซ็นก็คร่ำครวญออกมาว่า “ชิบ ชาร์คเดาถูกจริงๆ เงินของบอสนี่ได้มายากจริงๆ!”
…………………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1234 สุนัขการเมือง
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!