จากนั้นคาเมรอนได้พูดแนะนำเกี่ยวกับกฎเกณฑ์บางส่วนของการทำภาพยนตร์ ในด้านการเลือกหัวข้อในการทำภาพยนตร์ จุดสำคัญที่สุดคือต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้จัดกับผู้กำกับ
สำหรับผู้กำกับทั่วไปแล้ว จะเริ่มจากการมีบทละครที่เหมาะสมก่อน หลังจากผู้จัดสนใจแล้ว จะทำการเลือกผู้กำกับมาทำการถ่ายทำ จากนั้นก็คือการเลือกผู้แสดงและสถานที่ถ่ายทำ
สำหรับผู้กำกับชื่อดังระดับคาเมรอนแล้ว จะไม่เหมือนกัน เขาจะทำบทละครออกมาก่อน ค่อยไปหาผู้จัดร่วมลงทุน หรือก็คือว่า ขอแค่เงินไม่ขัดสน คาเมรอนอยากถ่ายทำอะไรก็ทำได้ตามใจ
สำหรับวงการภาพยนตร์แล้ว คาเมรอนถือว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะ เขาไม่เคยเข้าเรียนสาขาการถ่ายทำภาพยนตร์มาก่อน ความสามารถในด้านการถ่ายภาพยนตร์ของเขานั้นเกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง หลังจากได้เข้าร่วมการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘แรมโบ้ นักรบเดนตาย 2’ แล้วตัวเขาก็ได้ทำภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่น ‘เอเลี่ยน’ ‘ฅนเหล็ก’ และ ‘ไททานิก’ ออกมา
ระหว่างที่ช้อนคนกาแฟอยู่ คาเมรอนยิ้มแล้วพูดว่า “ผมเคยเป็นคนที่ชื่นชอบในการเป็นวีรบุรุษมาก ดังนั้นผมจึงเข้าร่วมการเขียนบท ‘แรมโบ้ นักรบเดนตาย’ ด้วย” แต่หลังจากนั้นผมก็พบว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำ ผมควรจะทำอะไรที่ผมชอบ และมหาสมุทรก็คือสิ่งที่ผมชอบ”
ฉินสือโอวยักไหล่ พูดว่า “งั้นพวกเราก็มีความชอบเดียวกัน ผมก็ชอบมหาสมุทรเหมือนกัน”
คาเมรอนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เหมือนกันหรอก คุณชอบมหาสมุทรเพราะตัวตนที่แท้จริงของมัน ผมชอบมหาสมุทรเพราะชอบความน่าพิศวงของมัน ชอบสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบของมัน นี่คือพลังชีวิตในการเขียนบทของผม”
เขาไม่ได้พูดอะไรต่ออีก แต่เปลี่ยนเรื่องพูดแทน เขาถามว่า “ตอนเรียนมหาวิทยาลัยคุณชอบอ่านนิยายประเภทไหนที่สุดครับ?”
ฉินสือโอวคิดสักพัก พูดว่า “น่าจะเป็นแนวจอมเทพนะครับ? เป็นวรรณกรรมในอินเทอร์เน็ตของจีนประเภทหนึ่ง น่าสนใจมากครับ”
ระหว่างพูด ก็มีความคิดโผล่ขึ้นมาในใจ “เฮ้ เพื่อน พวกเรามาร่วมกันถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับจอมเทพกันดีไหมครับ? ประเทศของผมมีเนื้อหาที่เหมาะสมเยอะแยะเลย ผมสามารถช่วยเหลือคุณด้านหาข้อมูลได้นะ ว่าอย่างไรครับ?”
คาเมรอนหัวเราะออกมา แต่ไม่ได้พูดต่อคำพูดเขา เขายังคงพูดถึงหัวข้อของตัวเองต่อ “ตอนผมเรียนอยู่นั้นชอบอ่านนิยายไซไฟที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตอนอยู่บนรถโรงเรียนหรือเวลาพักระหว่างคาบเรียน ขอแค่มีเวลาผมก็จะอ่านนิยายไซไฟ”
ฉินสือโอวพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ คาเมรอนเป็นคนที่เกิดในศตวรรษที่แล้วในปี 50 ในช่วงปี 60 และปี 70 ที่เขาเข้าเรียนนั้น เพราะความทั่วถึงของโทรทัศน์รับสัญญาณดาวเทียม ทำให้แคนาดาเข้าสู่ช่วงการระเบิดของความรู้ครั้งใหญ่ เขาเคยได้ยินพ่อแม่ของวินนี่คุยกัน พวกเขาก็เหมือนกับคาเมรอน ในช่วงวัยรุ่นพวกเขาก็หลงใหลในนิยายไซไฟเหมือนกัน
“การสัมผัสกับนิยายไซไฟทำให้ผมคิดได้ว่า เอเลี่ยนไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่แต่นอกโลกเท่านั้น มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่บนโลกของเราด้วย ดังนั้นตอนอายุ 15 ปี ผมจึงตัดสินใจที่จะเป็นนักดำน้ำ คุณรู้ไหมว่าผมมีความคิดอย่างไร?” คาเมรอนถามพร้อมรอยยิ้ม
ฉินสือโอวตอบอย่างคาดเดาว่า “คุณคิดว่าเอเลี่ยนอาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก?”
คาเมรอนหัวเราะร่าพร้อมพยักหน้า ถามว่า “ผมในตอนนั้นโง่มากใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวบอกว่า “ไม่ครับ บางทีใต้ทะเลลึกอาจมีเอเลี่ยนอาศัยอยู่จริงๆ นะครับ แม้ว่าจะไม่มีเอเลี่ยน แต่ก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่มนุษย์ไม่เคยพบมาก่อน หากว่าพวกเราได้ทำความรู้จักใต้ทะเลอย่างถ่องแท้แล้ว จะต้องพบอะไรที่แปลกใจมากแน่”
มีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ ท้องทะเลก็คือสวนหลังบ้านของเขา ฉินสือโอวทำการวนเวียนอยู่แต่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่เป็นเพียงพื้นที่เล็กน้อยของมหาสมุทรทั้งหมดเท่านั้น การได้คุยกับคาเมรอนแบบนี้ การได้ฟังเขาเล่าถึงการคาดเดาเกี่ยวกับท้องทะเล ฉินสือโอวรู้สึกว่าบางทีตัวเองน่าจะออกไปน่านน้ำอื่นๆ ดูบ้าง
เถ้าแก่เริ่มเสิร์ฟอาหาร ระหว่างทานอาหาร คาเมรอนก็พูดเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กและวัยรุ่นของเขา
ฉินสือโอวรู้ว่าผู้กำกับใหญ่คนนี้คือคนแคนาดา แต่ไม่รู้ว่าเขาเกิดในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งในรัฐออนแทรีโอ ที่อยู่ห่างจากทะเลแถบนี้เพียง 6 ไมล์เท่านั้น
หลังได้รู้จักโลกนี้ผ่านทางโทรทัศน์และนิยายไซไฟแล้ว คาเมรอนก็ได้เกิดความคาดหวังกับมหาสมุทรขึ้นมา ตอนเด็กฉินสือโอวก็เต็มไปด้วยความคาดหวังกับมหาสมุทรเหมือนกัน แต่พ่อของเขาไม่ยอมให้เขาลงแม้กระทั่งแม่น้ำ ตอนสมัยประถมทุกครั้งที่เขาแอบไปจับปลาและอาบน้ำในแม่น้ำ ก็หนีไม่พ้นถูกลงโทษอย่างหนักทุกครั้ง
เทียบกันแล้ว คาเมรอนโชคดีกว่ามาก พ่อของเขาสนับสนุนความฝันที่จะสำรวจมหาสมุทรของเขา แถมยังหาโปรแกรมสอนดำน้ำในเมืองบัฟฟาโลที่อยู่ชายแดนทะเลฝั่งตรงข้ามของรัฐนิวยอร์กในอเมริกาให้เขาอีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็ได้รับใบรับรองการดำน้ำจากสระว่ายน้ำใหญ่ในบัฟฟาโล
สมัยยังเด็ก เพราะความจำเป็นในงานของพ่อคาเมรอน พวกเขาจึงย้ายไปรัฐแคลิฟอร์เนียในอเมริกา แคลิฟอร์เนียมีแนวชายฝั่งทะเลที่ยาวมาก เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการดำน้ำในอเมริกา ที่นั่นคาเมรอนใช้ชีวิตวัยเด็กที่สุดวิเศษและได้กลายเป็นนักดำน้ำมืออาชีพที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เรียนจบและได้สัมผัสกับวงการภาพยนตร์ ภาพยนตร์ที่ทำให้คาเมรอนโด่งดังสุดขีดก็คือ ‘ไททานิก’ ภาพยนตร์เรื่องนั้นทำให้ผู้กำกับใหญ่ได้รางวัลออสการ์ในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยม และทำให้เขาได้รู้จักกับความพิศวงและความงดงามของมหาสมุทรอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้คาเมรอนรู้จักมหาสมุทรผ่านการดำน้ำ ทีวีและหนังสือ ตอนที่ถ่ายทำไททานิก ทีมงานเช่าเรือดำน้ำมาหนึ่งลำ คาเมรอนได้เข้าไปสู่พื้นที่ที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อนผ่านเรือดำน้ำนั้น และได้สัมผัสกับสิ่งของมากมายในมหาสมุทร
และเพราะการค้นพบนี้ หลังจากถ่ายทำ ‘ไททานิก’ เสร็จแล้ว คาเมรอนก็หยุดอาชีพการถ่ายภาพยนตร์ของเขา แล้วไปร่วมกับกลุ่มสำรวจมหาสมุทรทันที จวบจนกระทั่งวันนี้ คาเมรอนก็ยังคงรู้สึกดีมากกับมหาสมุทร ภาพยนตร์ที่เขาถ่ายทำส่วนใหญ่จะเป็นแนวแฟนตาซี แล้วมหาสมุทรก็คือโลกแห่งแฟนตาซีที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง
แม้การถ่ายภาพยนตร์ครั้งนี้จะเกี่ยวกับภัยพิบัติเหมือนกับ ‘ไททานิก’ แต่ว่าเป็นคนละแนวกัน ไททานิกเป็นภาพยนตร์แนวโศกนาฏกรรมความรัก แต่การถ่ายทำในครั้งนี้ เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับภัยพิบัติทะเลที่นำเสนอเรื่องการเป็นวีรบุรุษเป็นหลัก
ความคิดนี้ได้เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงของสองปีก่อน จากนั้นก็พอดีกับที่มีเหตุการณ์ช่วยเหลือเรือฮาวิซทในพายุ ตอนนั้นเรื่องนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ใหญ่มาก คาเมรอนจึงเกิดไอเดียขึ้นมา ที่จะใช้ IP นี้มาทำภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
ดังนั้น จึงเกิดความคิดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง ‘วีรบุรุษในทะเลคลั่ง’ ขึ้นมา และเกิดการร่วมมือกันของคาเมรอนและฉินสือโอว ก่อนหน้านี้ที่เขาตอบรับการเชิญของเคอร์ไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกับตระกูลสเตราส์ ก็เพื่ออยากจะทำความรู้จักกับฉินสือโอว เพื่อจะบรรลุการถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านตัวเขานั่นเอง
ตอนนี้ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วขาดก็เพียงแต่ลมบูรพา ขอแค่นิมิตส์กลับไปร่วมทีม เขาก็สามารถถ่ายทำภาพยนตร์ได้แล้ว
ความจริงอาหารมื้อนี้ก็คือคาเมรอนต้องการเร่งฉินสือโอวนั่นแหละ เขาหวังว่านิมิตส์จะรีบเข้าร่วมทีมถ่ายทำให้เร็วที่สุด
กินอาหารของคนอื่นแล้วทำให้ใจอ่อน ตอนจากกันฉินสือโอวตบอกรับรองว่ากลับไปแล้วจะรีบหาทางส่งนิมิตส์ไปให้เขาที่ไมอามี
เมื่อได้คำรับรองจากเขาแล้ว คาเมรอนก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วพูดว่า “ถ้ารู้ว่าข้าวมื้อเดียวก็จัดการปัญหานี้ได้ ทำไมผมถึงไม่เชิญคุณมาทานข้าวให้เร็วกว่านี้นะ?”
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูดว่า “ตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ นิมิตส์เป็นนกที่ฉลาดมาก คุณเตรียมการให้พร้อมก็พอแล้วครับ การถ่ายทำที่เกี่ยวกับมันจะต้องเป็นได้อย่างราบรื่น ไม่มีการใช้เวลามากไปแน่นอนครับ”
…………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1250 ความฝันกับมหาสมุทร
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!