ที่ชายหาดน้ำตื้นของอ่าวไทจิ โลมาราวสี่สิบกว่าตัวกำลังว่ายน้ำอย่างเงอะงะ
ใช่ ว่ายแบบเงอะๆ งะๆ
ตามที่ฉินสือโอวรู้มา ท่ามกลางสัตว์ทะเลมากมายหลากชนิด ที่ว่ายน้ำนานที่สุดก็คือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน พวกมันว่ายน้ำทั้งชีวิต ว่ายได้รวดเร็ว และอึดมาก ปลาที่ว่ายน้ำไวที่สุดคือปลากระโทงสีน้ำเงิน เจ้าพวกนี้ถ้าเกิดว่ายไวขึ้นมาก็กลายเป็นฟอร์มูลาวันแห่งท้องทะเลได้เลย
แต่ถ้าจะบอกว่าใครคือราชาแห่งการว่ายน้ำในท้องทะเล งั้นก็ต้องโลมา
โลมาไม่ได้ว่ายน้ำไวที่สุด ความอึดก็ไม่ที่สุด แต่พวกมันได้พัฒนารูปร่างทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่าว่ายน้ำสวยที่สุด มีจิตวิญญาณที่ปลาชนิดอื่นไม่มี ชาวนอร์เวย์เปรียบโลมาเป็นเอลฟ์แห่งท้องทะเลก็ด้วยเหตุผลนี้
แต่โลมาที่อยู่ต่อหน้าฉินสือโอวตอนนี้ ท่าว่ายน้ำกลับไม่น่าดูเลย พวกมันส่ายหางเงอะงะว่ายไปในน้ำช้าๆ บางครั้งก็ไม่สามารถรักษาสมดุลได้ ได้แต่อยู่กับที่
ปลาดาบเงินแหวกว่ายอยู่ข้างตัวพวกมันตามใจชอบ ทุกครั้งที่ร่างสีขาวหิมะบิดสะบัดพวกมันก็จะพุ่งไปไกลในน้ำอย่างอิสระ โลมาที่นี่เทียบกับปลาดาบเงินแล้วดูเงอะงะอย่างกับโคนมเจอแมวป่า
ภาพนี้ทำให้คนรู้สึกหดหู่ ทั้งสองตัวควรสลับกันสิถึงจะถูก อีกอย่างโดยปกติแล้วปลาดาบเงินต้องไม่กล้าโผล่มาต่อหน้าโลมาถึงจะถูก เพราะพวกมันเป็นอาหารของโลมา
เหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะครีบหางของโลมาพวกนี้แหว่งหายไป ส่วนบนของหางพวกมันหายไป ถ้าเป็นแค่ตัวเดียวก็อาจเพราะสู้กับฉลามจนโดนกัดขาด แต่ที่นี่กลับมีหลายสิบตัวที่เป็นแบบนี้
นอกนั้นปากแผลบนครีบหางโลมาก็เรียบร้อยมาก ถ้าจะบอกว่านี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ฉินสือโอวยินดีโชว์ก้นในรายการดังโตเกียวเลย!
ปลาดาบเงินปรากฏตัวเรื่อยๆ พวกโลมามองดูอาหารที่แต่ก่อนขยี้ได้ง่ายๆ ตาปริบๆ ใจอยากจะเข้าไปจับ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย พวกมันไล่ปลาดาบเงินที่ว่องไวไม่ทันแล้ว
โลมาบางตัวลองไล่ตามปลาดาบเงิน แล้วก็ต้องถูกแกล้งกลับมา
ปลาดาบเงินหยุดอยู่กับที่ในบางครั้ง รอจนโลมาเข้ามาใกล้ก็จะว่ายห่างออกไปทันทีหรือไม่ก็ว่ายวนรอบโลมา ตั้งแต่หัวจนถึงหาง แกล้งโลมาเล่นราวกับหมาวิ่งวนงับหางตัวเอง
มังกรเกยตื้นโดนกุ้งรังแกคืออะไร? ก็คือแบบนี้ไง!
ที่น่าสลดกว่านั้นคือพวกโลมาไม่ได้ใส่ใจเลย พวกเขาไม่มีนิสัยใจคอของเอลฟ์แห่งท้องทะเล แววตาทั้งสองดูตายซาก พยายามส่ายครีบท้องกับหางที่ขาดแหว่งเพียงแค่รักษาสมดุลไม่ให้ตัวเองจมลงก้นทะเล แม้แต่แรงจูงใจจะหาอาหารก็ไม่มี
บางครั้งก็จะมีอาหารถูกโปรยลงมาในทะเล ในตอนนั้นโลมาก็จะอ้าปากรับอาหารราวกับขอทานพิการข้างถนน
พอเห็นภาพแบบนั้น ฉินสือโอวก็โกรธเลือดขึ้นหน้าทันใด!
ชั่วขณะนั้นเขาก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะช่วงก่อนเทศกาลล่าโลมาปีที่แล้วเขาเอาวาฬและโลมาจำนวนมากไปจากอ่าวโตเกียว คนญี่ปุ่นไม่มีโลมาให้ฆ่า สุดท้ายเทศกาลเลยต้องยกเลิกไป
ตอนนั้นเรื่องนี้ยังพาดหัวข่าวไปทั่ว นักชีววิทยาทางทะเลญี่ปุ่นวิเคราะห์ปัญหานี้จากมุมของลมตามฤดูกาล การบลูมของน้ำ มลภาวะทางน้ำ และบอกว่าโตเกียวไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของโลมาแล้วจึงมีโลมาน้อย
เห็นได้ชัดว่าปีนี้สำนักงานประมงของญี่ปุ่นพบปัญหา ไม่ใช่ไม่มีโลมามา แต่พอโลมามาแล้วพักหนึ่งก็จะจากไป
เรื่องหลังจากนั้นฉินสือโอวใช้ก้นคิดก็คิดออก คนญี่ปุ่นที่ทำอะไรก็ทำให้สุดก็เลยจัดการตัดหางไปส่วนหนึ่งเวลาเจอโลมาเสียเลย แบบนี้ต่อให้โลมาอยากว่ายหนีก็หนีไปไหนไม่ได้
สำหรับปัญหาเรื่องหาอาหารของโลมา? ก็มีคนขับเครื่องบินมาโปรยอาหารในอ่าวเป็นช่วงๆ นี่?
พอทำความเข้าใจถึงข้อนี้ได้ ฉินสือโอวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาถ่ายพลังโพไซดอนให้กับโลมาพวกนี้ หลังจากที่ได้พลังโพไซดอนพวกโลมาก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเยอะ น่าเสียดายที่พลังโพไซดอนสามารถเพิ่มพลังชีวิตให้พวกมันได้ แต่กลับไม่สามารถทำให้หางที่ขาดไปงอกกลับขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้เวลาที่ฉินสือโอวเจอว่าคราเคนมีหนวดที่ขาด พอถ่ายพลังโพไซดอนให้คราเคนก็จะงอกหนวดกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว
แต่นั่นก็เพราะยีนของหมึกยักษ์ทำให้พวกมันมีความสามารถในการงอกอวัยวะที่ขาดกลับมาใหม่ โลมากลับไม่มี พวกมันครีบขาดก็คือขาด ไม่สามารถงอกกลับมาได้อีก อย่างน้อยพลังโพไซดอนก็ไม่มีพลังมหัศจรรย์นี้
พอรู้สึกได้ถึงพลังที่หัวใจโพไซดอนปล่อยออกมา โลมาที่สิ้นหวังก็พยายามขยับใกล้เข้ามา
แต่ตำแหน่งของพวกมันกระจายมาก อย่างมากหัวใจโพไซดอนก็ควบคุมเขตทะเลได้แค่ประมาณสิบกว่าลูกบาศก์กิโลเมตร ยังมีโลมาที่อยู่ไกลออกไปที่ได้แต่กระเสือกกระสนที่จะเข้ามาใกล้ ไม่สามารถครอบคลุมได้ในคราวเดียว
ฉินสือโอวลุกขึ้นนั่งในห้องนอนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง วินนี่หันกลับมาก็ต้องตกใจ เธอยื่นมือไปอังหน้าผากเขาแล้วพูดอย่างประหลาดใจ “พระเจ้า สีหน้าคุณแย่มาก เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
ฉินสือโอวฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้น “เมื่อครู่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเหนื่อยขึ้นมา ไม่มีอะไรที่รัก คุณเล่นเป็นเพื่อนลูกไปเถอะ”
วินนี่กลับนึกไปเรื่องอื่น เธอให้ฉินสือโอวพลิกตัวแล้วนวดบริเวณหลังเอวให้เขา จากนั้นก็พูดอายๆ ว่า “ต่อไปอย่าเล่นกันหนักอย่างนี้เลย พวกเราก็แต่งงานกันนานแล้ว”
ฉินสือโอว “…”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะถือโอกาสใช้คำพูดนี้แซวเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จริงๆ ความคิดเขากลับไปอยู่ที่อ่าวไทจิอีกครั้ง และพาโลมาว่ายออกไปอย่างเงอะงะ
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะพาโลมาพวกนี้ออกไป
นอกจากนี้ เขาจะลงโทษวายร้ายพวกนั้น!
โลมาพวกนี้พิการไปแล้ว ไม่มีครีบหางก็เท่ากับว่าพวกมันเสียความสามารถที่จะว่ายน้ำได้อย่างอิสระและหาอาหารได้ตามใจชอบ แบบนี้ถ้ากลับทะเลก็อาจหิวตายได้ การอยู่ที่นี่มีคนคอยโปรยอาหารให้ เวลาที่จะมีชีวิตอยู่ก็อาจจะยาวสักหน่อย
แต่ฉินสือโอวยอมให้เฮยป้าหวังพาฝูงฉลามขาวไปฆ่าพวกมันให้ตาย แต่ไม่ยอมให้พวกมันอยู่ที่นั่นรอจนถึงเทศกาลล่าโลมาแล้วตายอย่างอนาถ!
ใช้จิตสำนึกโพไซดอนสองสายพาโลมาออกจากที่นั่น ส่วนจิตสำนึกโพไซดอนอีกสองสายไปที่อ่าวเพื่อหาวิธีแก้แค้น
เดิมทีเขาอยากจะถ่ายพลังโพไซดอนให้สาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีน้ำตาลในอ่าวให้พวกมันโตขยายพันธุ์เป็นบ้าเป็นหลังและเกิดเป็นปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่งมาแก้แค้น
แต่เขาตระเวนไปรอบหนึ่งก็พบว่า อาจเป็นเพราะลมในฤดูร้อนแรงเกินไป หรือเพราะคนญี่ปุ่นมีฝีมือในด้านการจัดการมลภาวะสิ่งแวดล้อม สาหร่ายนอกอ่าวที่เคยทำให้อ่าวโตเกียวเกิดปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่งจึงไม่ค่อยมีแล้ว ถ้าจะให้พวกมันเพิ่มจำนวนมากภายในเวลาสั้นๆ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้
เรื่องนี้ทำให้เขาเซ็งก็เลยใช้พลังโพไซดอนสร้างคลื่นลูกใหญ่ซัดไปที่ท่าเรือ
เสาของท่าเรือเล็กนี้เป็นไม้โอ๊ก ตามหลักการแล้วมั่นคงมาก แต่พอคลื่นลูกโตซัดเข้าไป เสียง ‘แกร๊ก’ ชวนเสียวฟันก็ดังขึ้นแล้วเสาก็หักลง
ฉินสือโอวตกใจ ทำไมคลื่นที่เขาสร้างถึงมีอานุภาพขนาดนี้?
เสาไม้โอ๊กหักร่วงลงในน้ำ พอเข้าไปดูถึงได้เข้าใจ ตัวเองคิดผิดไปแล้ว ที่ไม้ท่อนนั้นหักง่ายขนาดนี้ จริงๆ แล้วเป็นเพราะตัวมันเอง ดูจากด้านนอกมันไม่มีปัญหา แต่ข้างในที่จริงผุจนพังไปหมดแล้ว
ด้านในของไม้มีรอยผุกลวงเป็นสาย บางอย่างที่ดูเหมือนหนอนแมลงสีขาวโผล่ออกมา เห็นได้ชัดว่าการผุของไม้เหล่านี้ก็คือฝีมือเจ้าพวกนี้
ฉินสือโอวกำลังจะไป แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรออก หนอนแมลงน่าเกลียดพวกนี้เป็นเครื่องมือแก้แค้นอย่างดีเลย
……………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1266 อาวุธล้างแค้น
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!