ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 183 ผักล็อตแรก

บทที่ 183 ผักล็อตแรก
โดย
Ink Stone_Fantasy

ชิ้นปลาเหล่านั้นร่วงลงมาเป็นเส้นแนวเฉียง และลอยอยู่ท่ามกลางทะเล นี่มันเหยื่อล่อให้ทูน่าครีบน้ำเงินเข้ามาติดกับดักชัดๆ
ฉินสือโอวเข้าใจถึงวิธีและขั้นตอนการตกปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ตอนนี้มีคนกำลังโยนเหยื่อ และคนโยนเหยื่อนี่ยังมีฝีมือเสียด้วย ดูจากการกระจายตัว รูปทรง และลำดับของชิ้นปลาแฮร์ริ่งก็รู้ว่าความถี่ของการวางเหยื่อดีมาก
เขาเดาได้เลยว่าขอแค่ว่ายไปข้างหน้าตามเหยื่อล่อ สุดท้ายจะต้องเจอกับเหยื่อเป็นที่เอาไว้ตกทูน่าครีบน้ำเงินโดยเฉพาะแน่ๆ
อย่างที่คิดไว้ เขาคุมให้ทูน่าครีบน้ำเงินว่ายตามเหยื่อล่อไปเรื่อยๆ แค่พักเดียวก็เจอกับปลาแฮร์ริ่งขนาดยี่สิบกว่าเซนติเมตรกำลังดิ้นเอาเป็นเอาตาย เหยื่อเป็นนี้ก็คือไม้ตายของคนตกปลา
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ในทะเลเขตไหน นิวฟันด์แลนด์ติดกับอเมริกา ฉะนั้นช่วงหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นที่สาธารณะ ถ้าน้ำเงินใหญ่ว่ายไปในเขตทะเลสาธารณะ งั้นเขาก็กลับแล้วอย่าไปขวางการทำงานของเรือประมงของคนอื่นดีกว่า
ถ้าน้ำเงินใหญ่ไม่ได้ว่ายไปในทะเลสาธารณะแต่เป็นฟาร์มของเขา งั้นเขาก็ต้องดูสักหน่อยแล้ว
ปกติอาณาเขตที่น้ำเงินใหญ่ว่ายไปก็คือฟาร์มของเขากับทะเลสาธารณะ เกาะแฟร์เวลอยู่จุดใต้สุดของแคนาดา อย่าพูดถึงไปทางใต้ต่อเลย แค่ทางตะวันตกก็เป็นออกัสตา บอสตันของอเมริกาแล้ว
ในทะเลกว้างใหญ่นี้จริงๆ แล้วตรงเขตฟาร์มปลาต้าฉินค่อนข้างแคบในระดับหนึ่ง เพราะทะเลแถบนี้มีแค่สามอาณาเขต เขตทะเลตอนเหนือก็คือฟาร์มปลาต้าฉิน ทางใต้เป็นเขตทะเลอเมริกา ตรงกลางก็คือทะเลสาธารณะ
ตอนนั้นที่ฉินสือโอวเจอเรือดังเคิลออสเตียส จริงๆ แล้วก็เจอในเขตทะเลสาธารณะ
ควบคุมจิตสำนึกโพไซดอนให้ตระเวนไปรอบๆ ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวหาป้ายสัญลักษณ์อะไรไม่เจอ เขาลองคำนวณดูคร่าวๆ เรือลำนี้น่าจะไม่ได้อยู่ในทะเลสาธารณะ แบบนี้ก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว เขาพาน้ำเงินใหญ่จากไป
เขาเพิ่งจะไปฉลามสีน้ำเงินตัวหนึ่งก็พุ่งหน้ามาทางชิ้น ปลาแฮร์ริ่ง พอเห็นปลาแฮร์ริ่งเหยื่อเป็นที่ฉินสือโอวไม่แม้แต่จะมอง มันก็อ้าปากแล้วงับกลืนลงไป
ปรากฏว่ากินลงไปง่าย แต่ตอนจะคายก็ยากแล้ว เบ็ดปลาแหลมคมติดอยู่กับเหงือกของมัน ทำให้มันเจ็บปวดรวดร้าว ออกแรงดิ้นสะบัดสุดแรง
“ติดเบ็ดแล้ว! มันติดเบ็ดแล้ว! เร็วๆๆ! พอคว้าคันเบ็ดได้ก็เอาขึ้นมาดูว่าใช่ทูน่าครีบน้ำเงินไหม! เมื่อกี้ดูจากเครื่องโซน่าร์ ดูท่าจะตัวใหญ่น่าดู!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของกลุ่มชาวประมงบนเรือดังขึ้น
ว่ายไปมาในทะเลอีกพักก็ยังไม่เจออะไรใหม่ๆ ปลาใหญ่ในโลกทะเลลึกก็เยอะอยู่ แต่ปลาหายากที่ฉินสือโอวอยากได้ก็ยังเจอได้น้อย
แถวนี้พวกปลาหิมะ ปลาแมคเคอเรลก็ค่อนข้างเยอะ แต่ในฟาร์มของฉินสือโอวเยอะกว่านี่เสียอีก ว่ายไปพักหนึ่งไม่ได้อะไรเขาเลยกลับไปนอน
หลับไปจนฟ้าสว่าง ฉินสือโอวกลับจากตื่นเช้าออกกำลังก็เจอกับครอบครัวกระรอกดินนั่งอยู่ใต้ต้นราสเบอร์รี เงาร่างสีน้ำตาลแดงปรากฏขึ้นเหนือพุ่มไม้ เสี่ยวหมิงโผล่หัวเล็กๆของมันออกมาแล้วใช้ปากกัดก้านผลไม้สองสามลูก
เห็นราสเบอร์รีร่วงลง ครอบครัวกระรอกดินก็พุ่งเข้าไปอย่างกระตือรือร้น แต่ละตัวหยิบลูกราสเบอร์รีขึ้นมาแล้วพากันกินอย่างเอร็ดอร่อย
ตัวน้อยทั้งห้าในตอนนี้เริ่มมีขนงอกออกมา ดูปุกปุย อ้วนท้วน น่ารักมาก แต่ตอนนี้พวกมันยังไม่มีลายสีดำเหมือนกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะดูดีกว่านี้
พอมาถึงแปลงผัก ฉินสือโอวก็มองดู ผักเหล่านี้โตไวมาก หลายๆ อย่างก็กินได้แล้ว
เขาเขี่ยเถาแตงกวาหาอยู่ครู่หนึ่งก็เจอกับแตงกวาสีเขียวสดอันหนึ่ง ยาวสิบสี่สิบห้าเซนติเมตร เขียวทั้งลูก เขียวจนยั่วน้ำลาย รูปทรงโค้งสวย ดูท่าน่าจะขายได้
แตงกวาชนิดนี้มีอีกชื่อที่บ้านเกิดฉินสือโอวว่า “แตงกวาแห้ง” พืชชนิดนี้เลื้อยโตบนพื้น มีสีเขียวเหลือง ปกติลูกไม่โตนัก หาซื้อข้างนอกยาก อย่างน้อยที่แตนาดาก็ไม่มีแตงกวาชนิดนี้ เพราะงั้นเขาถึงเอาเมล็ดมาจากบ้าน
เด็ดแตงกวานั้นมา ฉินสือโอวก็ใช้มือเช็ดแล้วกัดลงไป ‘เปร๊าะ’ จากนั้นก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
ผักของเขาไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีก็เลยสะอาดมาก นี่สิถึงจะเป็นผักเขียวธรรมชาติของแท้
ไม่รู้ว่าเหตุเพราะเป็นผักธรรมชาติหรือพลังโพไซดอน รสชาติแตงกวานี้เลยหอมมาก
ใช่แล้ว พูดได้เลยว่ารสชาติหอม ไม่ถือว่าหวาน แต่มีกลิ่นหอมที่ชัดมาก พอกินเข้าไปก็ให้ความรู้สึกว่าผักผลไม้ควรจะมีรสแบบนี้ รสพิเศษเป็นเอกลักษณ์แบบนี้บรรยายไม่ถูก พูดให้ดูดีหน่อยก็คือรสชาติของธรรมชาติ
กิน ‘กร๊อบๆ’ คำเดียว ฉินสือโอวโยนก้นแตงกวาไว้บนพื้น ลูกกระรอกดินตัวหนึ่งวิ่งมาอย่างดีใจแล้วคว้ามากิน ‘แจ๊บๆ’ ดูกินอร่อยว่าตอนกินราสเบอร์รีเสียอีก
ฉินสือโอวหาๆดู ก็เจอแตงกวาที่สุกพร้อมกินอีกสองสามลูก ลูกที่ใหญ่ที่สุดยาวกว่าลูกที่เขาเพิ่งเด็ดไปอีกหน่อย ส่วนแตงกวาลูกเล็กก็เยอะกว่านั้น
ไม่ต้องถามเลยว่าแตงกวาดึงดูดกระรอกดินมากกว่าเบอร์รีเป็นไหนๆ มีแตงกวาเยอะขนาดนี้ พวกกระรอกดินกลับไม่แอบขโมยกินเลย?
ฉินสือโอวกระพริบตาปริบๆมองเหล่ากระรอกดินตัวน้อย แม่กระรอกดินก็เงยหน้ามองเขา ดวงตาสีดำขลับแฝงไปด้วยความมีชีวิตชีวาคล้ายกับตาของเสี่ยวหมิง
ฉินสือโอวเกาหัว เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้ถ่ายพลังโพไซดอนให้พวกกระรอกดิน ทำไมพวกมันฉลาดขนาดนี้?
เขาลองเชิงภายใต้ความสับสน เขาเด็ดแตงกวาเอามากัดไปครึ่งหนึ่ง ส่วนครึ่งที่เหลือก็แบ่งเป็นหลายชิ้นให้ครอบครัวกระรอกดิน จากนั้น เขาก็แหวกเถาต้นแตงกวาออก แตงกวาสองสามลูกก็เผยออกมา พอเสร็จแล้วเขาก็แอบเดินออกมาเงียบๆแล้วหาที่แอบดู
เป็นอย่างที่คิด กระรอกดินตัวน้อยสนใจแตงกวามาก มุ่งเข้าไปคว้ากินคนละลูก
หลังจากกินเสร็จ ลูกกระรอกสองสามตัวเห็นแตงกวาที่โผล่ออกมาก็ร้อง ‘จิ๊ดๆ’ แล้ววิ่งไปจะแทะกิน ปรากฏว่าแม่กระรอกก็รีบมุ่งเข้าไปใช้ปากงับกลับมา ไม่ให้ลูกไปแตะแตงกวา
‘ตุบ’ แตงกวาที่ฉินสือโอวคาบไว้ในปากตกลงบนพื้น ตาเขาเบิกโพลง ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ ถ้าจะบอกว่าแม่กระรอกตัวนี้ไม่เคยได้รับพลังโพไซดอน ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ!
ฉินสือโอวกลับคฤหาสน์ไปพร้อมกับความสับสน
เชอร์ลี่ย์ตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าอีกแล้ว เขาบอกตั้งหลายรอบ แต่เธอก็ไม่ฟัง ตื่นมาทำอาหารเช้าทุกวัน พอนานวันไปก็กลายเป็นเรื่องปกติ เด็กผู้หญิงเรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเรือนก็ใช่ว่าจะไม่ดี
พาวลิสก็ตื่นเช้า หน้าตาแช่มชื่น ในมือถือถุงมือมาด้วย ดูท่าว่าเพิ่งจะจัดการซีบิสกิตมา
มิเชลกับกอร์ดอนก็ตื่นมาตามๆ กัน ฉินสือโอวรอให้พวกเขานั่งที่โต๊ะอาหารแล้วจึงพูดขึ้น “ผักในแปลงสุกแล้ว ตอนบ่ายหลังกลับมาเราไปเก็บผักด้วยกัน ตอนเย็นฉันจะทำกับข้าวสไตล์จีนให้ทุกคนกินดีไหม?”
กอร์ดอนกับพาวลิสปรบมือชอบใจ เชอร์ลี่ย์ถามขึ้น “งั้นหนูเรียนกับคุณได้ไหมคะ?”
“ได้แน่นอน ลูกมือตัวน้อยของฉัน” ฉินสือโอวกินไข่ผัดที่สุกกำลังดีแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
มิเชลกอดลูกบาสไปเรียนด้วย ฉินสือโอวจำได้ว่าตัวเขาให้ลูกบาสเธอไปแล้วยังไม่เคยพาเล่นเลยจึงพูดขึ้น “มิเชล ฝึกเล่นบอลดีๆ นะ สุดสัปดาห์นี้เราจะรวมตัวฝึกบาสกัน ฉันพาหนูไปด้วยดีไหม?”
มิเชลได้รับความรักอย่างคาดไม่ถึงจึงพยักหน้ารัวใบหน้าตื่นเต้นแดงระเรื่อ
ฉินสือโอวรู้สึกจนปัญญากับปัญหานิสัยของมิเชลมาตลอด ผ่านการอบรมสั่งสอนไปช่วงหนึ่งนิสัยของทั้งสามคนที่เหลือก็ร่าเริงขึ้นเยอะ มีแต่มิเชลที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก เหมือนปิดใจตัวเองไปแล้ว
ตอนที่พวกชาร์คเข้ามา ฉินสือโอวก็ให้พวกเขาไปบอกกับครอบครัวให้มากินข้าวที่บ้านเขาตอนเย็น ฉลองที่ผักในแปลงกินได้แล้ว อย่างไรเสียผักในแปลงนั้นเขาก็ไม่ได้ปลูกคนเดียว ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ออกแรงเยอะกว่าด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นาน นีลเซ็นกับชาร์คก็ขับเรือออกไปลาดตระเวน ไม่นานเรือก็กลับมา ชาร์คพูดด้วยสีหน้าหนักใจ “บอส มีเรือหาปลาของอเมริกาขับเข้ามาในเขตฟาร์มเรา!”
พอได้ยินแบบนั้น ฉินสือโอวก็นึกถึงเรือใหญ่ที่ปรากฏขึ้นในแถบทะเลสาธารณะในทันที
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset