ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1389 รางวัลชนะเลิศ

พื้นที่ทั้งหมดของตลาดเกษตรถูกใช้เพื่อในการจัดกิจกรรมการแข่งขันฟักทองขนาดใหญ่ มีกลุ่มต่างๆ อยู่ในนั้น จากวิธีการเพาะพันธุ์ ปุ๋ยอินทรีย์คือกลุ่มหนึ่ง ปุ๋ยเคมีเป็นอีกกลุ่มและใช้วิธีการฉีดสารอาหารก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง
หลังจากที่ฉินสือโอวเดินเข้าไป ก็เห็นว่าฟักทองขนาดใหญ่ทั้งหมดวางเกลื่อนในบริเวณนี้ เดาว่าฟักทองที่เล็กที่สุดคงจะมีน้ำหนักหลายพันปอนด์ เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็มาถ่ายรูปกับวินนี่ เพราะมันหาได้ยากมากที่ได้เห็นฟักทองขนาดใหญ่แบบนี้มาอยู่รวมกันแบบนี้
เอ็นซีแอลแอลจัดงานดังกล่าวขึ้นทุกปี กิจกรรมนี้มีอิทธิพลต่อพื้นที่ท้องถิ่นในเซนต์จอห์น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมถึงขั้นมาจากออนแทรีโอและผู้ชมจากที่ต่างๆ ทั่วแคนาดาก็มา
นอกจากการแข่งขันน้ำหนักฟักทองแล้ว ยังมีการแข่งขันระดับการชื่นชมฟักทองอีกด้วย ตอนแรกฉินสือโอวไม่รู้ หลังจากวินนี่เดินเล่นรอบๆ กับเด็กหญิงตัวน้อยกลับมา เด็กหญิงตัวน้อยก็กอดฟักทองสีส้มๆ กลมๆ ไว้ในอ้อมแขน วินนี่บอกว่านี่คือฟักทองที่ซื้อมาในราคาสี่สิบดอลลาร์แคนาดา เขาถึงเพิ่งนึกขึ้นได้
วินนี่ซื้อหมวกฟักทองให้ฉินสือโอวมาใบหนึ่ง ฉินสือโอวจึงเอาไปดู คิดไม่ถึงว่ามันทำมาจากฟักทองจริงๆ แต่ผ่านกรรมวิธีโดยการใช้ฟิล์มพลาสติกและกาวและเหลือเพียงผิวชั้นนอกแค่หนึ่งชั้นเท่านั้น มันจึงค่อนข้างเบา เมื่อสวมไว้ที่หัวก็ดูน่าสนใจอยู่บ้างเล็กน้อย
เมื่อฟักทองลูกใหญ่แต่ละลูกขนส่งมาถึง ก็จะมีคนไปรอรับ จากนั้นก็จะนำไปชั่งน้ำหนักและนำไปวางไว้ในสถานที่จัดแสดง ตามน้ำหนักของฟักทอง ใจกลางของสถานที่จัดแสดงมีบางอย่างที่เหมือนกับแท่นโอลิมปิกอยู่ ซึ่งนั่นจะเป็นที่วางของฟักทองอันดับที่หนึ่ง สองและสาม
ระหว่างรอก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ฉินสือโอวจึงพาเด็กๆ วัยรุ่นไปเดินเล่นรอบๆ ตลาด ไม่เพียงแต่เดินดูฟักทองเท่านั้น แต่ยังซื้อผักมามากมายอีกด้วย…
กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายขอเพียงแค่ส่งฟักทองเข้ามาก็นับจำนวนทั้งหมด ฉินสือโอวได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกลุ้มใจ จะให้เขาเดินไปรอบๆ ตลาดผักทั้งวันเลยเหรอ? พูดอีกอย่างคือสิ่งนี้ก็ไม่ได้สำคัญเท่าไรนักและเขาก็ไม่สนใจอันดับด้วยว่าจะได้ที่เท่าไร
ดังนั้นเขาจึงพาเด็กๆ และวินนี่ขับรถออกไป เซนต์จอห์นมีกิจกรรมมากมาย ข้างๆ ตลาดผักมีโรงยิมอยู่ ซึ่งที่นั่นเป็นที่จัดงานฮาโลวีนสำหรับเด็กทารก ฉินสือโอวจึงมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไร จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปดู
ในนั้นเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่เครื่องแต่งกายแตกต่างกัน แม้แต่เด็กโตอย่างกอร์ดอนก็ยังได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรม ขอแค่พวกเขาไม่รังแกคนอื่นให้เสียหน้าก็พอ
กิจกรรมหลายอย่างล้วนเป็นการแข่งขันและยังมีเกมทางธุรกิจอย่างเช่น แผงขายของเล่นเด็กมือสอง วินนี่บอกว่ากิจกรรมสำหรับเด็กและเกมธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นจุดเด่นของงาน พ่อแม่ชาวแคนาดาให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูเด็กๆ ให้มีพรสวรรค์ในด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวมองไปที่ลูกสาว ก็น่าเสียดายที่เถียนกวายังเล็กเกินไปที่จะเล่นเกมแบบนี้ กอร์ดอนก็กระตือรือร้นที่จะลอง เชอร์ลี่ย์และพาวลิสจึงคอยดึงเขาไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เขาไปรังแกเพื่อนตัวน้อย
เกมประเภทนี้เรียบง่ายมาก เพียงแค่เด็กๆ นำของเล่นมาเอง เพื่อให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ทำธุรกิจการตั้งแผงขายของ ผู้ปกครองสามารถช่วยเด็กๆ ตั้งแผงขายของได้ แต่ขั้นตอนการค้าขายจะต้องไม่เข้าไปยุ่ง ซึ่งสิ่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อฝึกทักษะการสื่อสารแลกเปลี่ยนของเด็กๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน แม้ว่าในระหว่างนั้นเด็กๆ จะขายสินค้าในราคาสูงหรือแลกเปลี่ยนสินค้าหรือจะให้ฟรีก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้
กอร์ดอนมองดูสถานการณ์นี้อย่างกระวนกระวายใจและพูดว่า “ตอนเด็กๆ ผมอยากเล่นเกมนี้มาก แต่ผมไม่มีของเล่นให้แลกเลยเล่นไม่ได้”
ฉินสือโอวจึงมองไปที่พาวลิส กอร์ดอนเจ้าเด็กคนนี้ชอบมีลับลมคมใน จึงไม่สามารถเชื่อทั้งหมดได้
พาวลิสยักไหล่ใส่และพูดว่า “ใช่ เมืองน้ำตกเล็กก็จะจัดงานแบบนี้ด้วย แต่เราไม่สามารถไปเข้าร่วมได้ เราไม่สามารถเอาตั๋วที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้”
“โอเค” ฉินสือโอวจึงใจอ่อน เขาเรียกเด็กวัยรุ่นทั้งสี่คนมาและพูดว่า “ถ้าพวกนายอยากเล่น แล้วทำไมไม่ไปซื้อของเล่นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตถัดจากที่นี่ล่ะ จากนั้นก็เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้แล้วนะ?”
มิเชลส่ายหัวและพูดว่า “นั่นมันโง่เกินไป ฉิน นั่นมันโง่ไป! ของเล่นที่ซื้อมาก็เป็นของใหม่ แล้วเอาไปแลกกับของเล่นเก่าเนี่ยนะครับ?”
ฉินสือโอวยักไหล่ใส่และพูดว่า “ฟังนะเด็กๆ พวกนายจะต้องตัดสินใจนับไม่ถ้วนในชีวิตนี้และการตัดสินใจเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องถูกต้องทั้งหมด พวกนายจะทำธุรกิจจำนวนมากมายและธุรกิจเหล่านี้จะไม่ทำกำไรให้นายได้เลย ดังนั้นบางครั้งสิ่งสำคัญก็คือการลองลงมือทำ แต่ไม่ใช่ทำเพื่อให้ได้กำไร”
เด็กๆ พากันพยักหน้าเหมือนกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็วิ่งอย่างมีความสุขไปที่ประตูที่อยู่ถัดไปข้างๆ และซื้อของเล่นกลับมาเป็นจำนวนมาก เมื่อหาสถานที่ได้ก็ตั้งแผงขายของทันที
ฉินสือโอวและวินนี่จึงเดินดูพร้อมกับลากรถเข็นเด็กไปเรื่อยๆ และพวกเขาก็เห็นบ้านจับรางวัลอยู่ตรงทางออก แม่มดน้อยและพ่อมดน้อยที่สวมแว่นแฮร์รี่พอตเตอร์กำลังแจกใบปลิว เพื่อหาคนเข้ามาจับรางวัล ซึ่งแต่ละคนจะสามารถสุ่มได้หนึ่งครั้งและครั้งละแค่หนึ่งดอลลาร์แคนาดาเท่านั้น
ฉินสือโอวจึงอ่านคำแนะนำ ซึ่งมีทั้งหมดสี่รางวัล รางวัลแรกเป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวมูลค่าสามพันดอลลาร์แคนาดา จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและอื่นๆ จะเป็นสถานที่ตัวเลือก รางวัลที่สองคือตั๋วล่องเรือสองใบ มูลค่าหนึ่งพันดอลลาร์แคนาดา ซึ่งจะสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือสุดหรูท่ามกลางท้องทะเลได้หนึ่งครั้ง ส่วนรางวัลที่สามคือบัตรเติมเงินเดินทางและรางวัลที่สี่คือของเล่น ซึ่งมีราคาไม่แพง ฉินสือโอวจึงจ่ายเงินสามหยวนเพื่อสุ่มจับฉลากสามครั้ง สุดท้ายพอล้วงมือเข้าไปจับก็พบว่าปากกล่องจับสลากนั้นเล็กมากเกินไป ต้องให้เด็กทารกหรือเด็กๆ วัยรุ่นล้วงเข้าไปเท่านั้น
ดังนั้นฉินสือโอวจึงให้เสี่ยวเถียนกวามาล้วงจับสลาก เธอใช้มือเล็กๆ จับฉลากออกมาสามใบ สองใบแรกเป็นสุขสันต์วันฮาโลวีน ส่วนอีกหนึ่งใบคือรางวัลอันดับที่สี่ ซึ่งสามารถแลกเป็นหน้ากากผีน้อยที่คล้ายกับหน้ากากงิ้วเสฉวนมาได้หนึ่งอัน
ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมกับสวมหน้ากากนั้นให้กับเสี่ยวเถียนกวา พวกเขาเดินไปที่ประตูทางออกและพบกับเชอร์ลี่ย์ วินนี่จึงถามว่า “ฮึ ทำไมเธอไม่อยู่ที่แผงขายของล่ะ?”
เชอร์ลี่ย์พูดอย่างไม่พอใจว่า “กอร์ดอนและคนอื่นๆ ไร้ยางอายมาก พวกเขาใช้ไอคิวรังแกเด็กตัวเล็กๆ หนูจะไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายแบบนั้นเด็ดขาด หนูก็เลยมาหาพวกคุณ”
ฉินสือโอวเห็นว่าเธอกำลังโกรธ จึงสลากหนึ่งใบให้เธอจับ แม้ว่าช่องของกล่องจับสลากจะเล็ก แต่มือของเชอร์ลี่ย์ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก
ในขณะที่จับสลากอยู่ ฉินสือโอวจึงพูดติดตลกว่า “เฮ้ สาวน้อย เธอยื่นมือออกไปแตะที่ด้านบนและต้องวนรอบๆ ปากกล่องก่อนนะ”
“หมายความว่าอะไร?” วินนี่ถาม
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่จะล้อเล่น เมื่อก่อนในตลาดบ้านเราก็มีคนทำจับสลาก โดยเอาตั๋วรางวัลที่หนึ่งมาวางไว้บนปากกล่องจับสลาก…”
เขาพูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นสีหน้าของเชอร์ลี่ย์เปลี่ยนไป ทันใดนั้นเขาก็ถามว่า “ไม่ให้หนุพูดแล้วใช่ไหม?”
เชอร์ลี่ย์พยักหน้าแรง จากนั้นก็หยิบสลากออกมา ฉินสือโอวจึงเปิดดูและเห็นว่ามันคือรางวัลที่หนึ่ง!
“ให้ตายเถอะ!” ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา
หลังจากพวกเขาไปแลกรางวัล ชายผู้รับผิดชอบในการแลกรางวัลก็มองดูใบสลากที่พวกเขาถือมาอย่างไม่น่าเชื่อ ฉินสือโอวพาเชอร์ลี่ย์มาด้วย เขาพาแค่เสี่ยวเถียนกวาไปรับรางวัล เมื่อได้เห็นความตกใจของชายคนนั้น เขาจึงยักไหล่และพูดว่า “ลูกสาวของผมนี่ดวงดีจริงๆ”
ชายคนนั้นยิ้มเจื่อนแล้วพูดว่า “ใช่ เธอดวงดีมากจริงๆ”
กิจกรรมของพวกเขาเป็นความร่วมมือกับเครือข่ายการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง รางวัลที่หนึ่งจึงเป็นตั๋วรางวัลหนึ่งใบ ซึ่งจะต้องใช้รหัสคิวอาร์บนตั๋ว ถึงจะสามารถรับแพ็กเกจท่องเที่ยวจากเครือข่ายการท่องเที่ยวได้…
จริงๆ แล้ว นี่แพ็กเกจของขวัญชิ้นใหญ่ มูลค่าสามพันดอลลาร์แคนาดา
หลังจากได้รับตั๋วรางวัลแล้ว ฉินสือโอวที่กำลังจะเดินจากไป จู่ๆ ก็หันกลับมาเหมือนกับว่านึกอะไรบางอย่างออกและพูดว่า “นี่คุณ ลูกสาวของผมมีบางอย่างให้ผมมาบอกคุณ การทำธุรกิจต้องพูดให้มีความน่าเชื่อถือและมีจริยธรรม”
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset