ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1392 ค่ำคืนที่สนุกสุดเหวี่ยง

ฉินสือโอวพูดอย่างหนักแน่นว่า “ผมจะไม่เป็นสิงโตตัวน้อยเด็ดขาด ผมมีตัวแสดงของตัวเองแล้ว”
“คืออะไรคะ?” วินนี่ถามพร้อมรอยยิ้ม
ฉินสือโอวเอาชุดที่ตัวเองซื้อออกมาพร้อมกับโล่ป้องกันและกระบี่สั้น “นักรบสปาร์ตา! ฮ่าฮ่า!”
เขาเป็นผู้เชิดชูสุนทรียะแห่งความรุนแรง ภาพยนตร์เรื่อง ‘สามร้อยขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก’ เคยทำให้เขาเลือดร้อนจนเขาอยากเป็นนักรบเหมือนพระเจ้าลีออนิดัสราชาแห่งสปาร์ตา ในที่สุดเขาก็คว้าโอกาสนี้แต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครนี้
 “หนาวขนาดนี้ คุณยังอยากใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเหรอคะ? ไม่ได้ ถ้าคุณเป็นหวัดขึ้นมาจะทำอย่างไร? คุณลืมไปเหรอว่าปีที่แล้วคุณก็เป็นหวัดก่อนที่ฉันจะมีลูกแล้วก็ต้องให้ฉันไปอยู่ที่บ้านของคุณลุงฮิคสัน” วินนี่กล่าว
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่พอใจว่า “นั่นก็ไม่ได้เกิดจากการใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นสักหน่อย สมรรถภาพทางกายของผมดีมากอยู่แล้ว ผมวิ่งเช้าเย็นทุกวัน ยังจะให้ผมใส่เสื้อคลุมหนาๆ อีกเหรอ”
วินนี่เข้ามากอดเขาแล้วพูดว่า “คนดี ใส่ชุดสิงโตนี้เถอะ มันจะทำให้คุณอบอุ่นมากนะ”
ฉินสือโอวส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ได้จริงๆ ที่รัก ผมและชาร์คเรานัดกันไว้แล้วว่าคืนนี้พวกเราจะเป็นนักรบสปาร์ตา!”
วินนี่ส่ายหัวไปมาและใช้มือลูบวนที่หน้าอกของเขาแล้วพูดด้วยสายตาที่แสดงถึงความรู้สึกรักใคร่ว่า “หรือว่าคุณไม่เข้าใจความหมายของชุดของฉันเหรอคะ? คืนนี้กลับบ้านไปเราจะได้เป็นโฉมงามกับเจ้าชายอสูรไง”
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นี้ ฉินสือโอวถึงกับกลืนน้ำลายถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงพอได้
วินนี่พูดต่อว่า “ปีหน้าคุณจะตัดสินใจแล้วหรือยัง? อันที่จริงเดิมทีปีนี้ฉันอยากจะแสดงเป็นนางพญางูขาว คุณก็แสดงเป็นสวี่เซียน แต่ฉันหาซื้อเสื้อผ้าไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแสดงเรื่องนี้เท่านั้น”
ฉินสือโอวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมรับสิ่งที่วินนี่พูด เมื่อเขาได้เห็นภรรยาแสนไร้เดียงสา…
ในพ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ นอกจากสิงโตตัวน้อยที่เป็นเพื่อนตัวน้อยของโดโรธีแล้ว ยังมีหุ่นไล่กาอีกด้วย
ฉินสือโอวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกว่าแม้ว่าสิงโตตัวน้อยจะไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ที่สูงส่งและสง่างามของเขาสักเท่าไร แต่ถ้าทำให้วินนี่แล้วให้ไปอยู่บนหญ้าแทน นั่นจะยิ่งน่าสมเพชมากกว่า
เมื่อเขาสวมชุดสิงโตเดินลงไปข้างล่าง พ่อฉินก็หัวเราะชอบใจและพูดว่า “โอ้ ไอ้ลูกชาย แกจะไปเป็นเล่นสิงโตเหรอ?”
ฉินสือโอวเดินออกจากประตูอย่างหดหู่ และข้างๆ โคมไฟฟักทองอันสลัวข้างๆ มีหัวที่เปื้อนเลือดก็ขยับไปมาอย่างรุนแรง ทำให้เขากระโดดและร้องตะโกนว่า “ให้ตายเถอะ!”
เสียงของเออร์บักดังขึ้น “เป็นอะไรไปฉิน นายกลัวฉันเหรอ?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่เขาและพูดว่า “ปู่อะ อะ อะเออร์? ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?”
เออร์บักหัวเราะแหะแหะแล้วพูดว่า “แบบนี้ไม่ดีเหรอ? ซอมบี้ไง กำลังนิยมแต่งแบบนี้กันมากในตอนนี้เลยนะ”
ฉินสือโอวก็หัวเราะ ปู่นี่เข้าใจเล่นจริงๆ เลย ทำตัวเป็นเด็กไปได้ แก่แล้วยังแต่งตัวแบบนี้อีก?
เขาขับรถไปในเมือง ขณะนี้ถนนในเมืองเต็มไปด้วยโคมไฟฟักทองและผีต่างๆ ในชุดแปลกๆ กำลังกวัดแกว่งไปมา
ฉินสือโอวหยุดรถ ชายกลุ่มหนึ่งสวมผ้าคลุมสีแดงมือซ้ายถือโล่และมือขวาถือดาบสั้นเข้าล้อมรอบเขา
“เพื่ออิสรภาพ! เพื่อเกียรติยศ! บุก! นักรบของข้า! ตายซะพวกเปอร์เซีย!” ฉินสือโอวร้องตะโกน
ชาร์ตและคนอื่นๆ ก็เข้ามารวมตัวกันรอบๆ และมองเขาอย่างเย็นชา “พระเจ้าลีออนิดัส คุณใส่ขนสิงโตมาหมายความว่าอย่างไร?”
วินนี่ผลักประตูรถออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชายิ่งกว่าว่า “เหล่าทหาร พวกนายมาล้อมรอบสิงโตของฉันไว้หมายความว่าอะไร?”
เมื่อเห็นวินนี่ ชาวประมงและทหารก็โศกเศร้ากันทันที แบล็คไนฟ์พูดว่า “ไปกันเถอะ พระเจ้าลีออนิดัสทรยศต่อความศรัทธาของเขา! ปล่อยให้เราไปรับมือกับพวกเปอร์เซียกันเอง!”
“เฮ้เฮ้! พระเจ้าลีออนิดัสไปตายซะ!”
“เฮ้เฮ้! หนาวจะตายแล้ว ใครสาดน้ำ?!”
“ใช่ ใครสาดน้ำวะ? รนหาที่ตายเหรอ?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดเกล็ดปลาสีทองและกางเกงขายาวสีเขียวกลอกตาไปมาพร้อมพูดว่า “ฉันคืออะควาแมน ทำไมฉันจะสาดน้ำไม่ได้ล่ะ?”
ฉินสือโอวและวินนี่ที่เดินอยู่บนถนน ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังข้ามผ่านอะไรบางอย่างไป ซอมบี้กระหายเลือดกำลังเผชิญหน้ากับเขา ฉินสือโอวจึงทักทายว่า “เฮ้ ปู่เออร์ คุณเดินได้ค่อนข้างเร็วนะ”
ซอมบี้ตัวนั้นกะพริบตาและพูดว่า “ไม่ฉิน ผมคือแซนเดอร์ส ไม่ใช่เออร์บัก”
“ให้ตายสิ!” ฉินสือโอวแทบจะพูดอะไรไม่ออก
จากนั้นกัปตันอเมริกาและวูล์ฟเวอรีนก็เดินเข้ามา ในขณะที่เดินวูล์ฟเวอรีนก็ลูบแขนไปด้วยแล้วบ่นว่า “มันหนาวเกินไปแล้ว คุณเอาโล่ที่หลังให้ผมเถอะ มันป้องกันลมหนาวที่พัดมาจากด้านหลังได้”
มนุษย์หมาป่ากลุ่มหนึ่งก็ผลักออกจากกันและดันตัวเองเดินเข้ามาจากข้างหลัง คนที่เป็นหัวหน้าก็พูดอย่างพึงพอใจว่า “ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าเราควรซื้อเสื้อผ้ามนุษย์หมาป่าตั้งแต่แรก มันอุ่นมากใช่ไหมล่ะ? และเรายังสามารถสลับกันใช้ในปาร์ตี้พระจันทร์สีเลือดกับวันฮาโลวีนได้อีกด้วย มันมีประโยชน์มากใช่ไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวฟังออกว่าเป็นเสียงของฮิวจ์คนน้อง จึงทักทายว่า “เฮ้ มนุษย์หมาป่า ไปดื่มด้วยกันสักแก้วไหม?”
ฮิวจ์คนน้องมองเขาด้วยความประหลาดใจและสังเกตเขาอย่างละเอียดสักพักแล้วถามอย่างสงสัยว่า “นายคือฉินเหรอ? ให้ตายเถอะ นายนี่เอาเรื่องจริงๆ นี่คือมนุษย์สิงโตใช่ไหม?”
มนุษย์สิงโตเป็นเกมแฟมิคอม ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นหัวขโมยอย่างฮิวจ์คนน้องที่เล่นเกมนี้เป็นจึงจำสิ่งนี้ได้
ฉินสือโอวพยักหน้ายอมแพ้ ฮิวจ์คนน้องจึงมองไปที่ วินนี่ที่อยู่ข้างๆ ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้น “นายพยักหัวนกเหรอ? นายเป็นมนุษย์สิงโตที่กลัวเสียงนกใน ‘พ่อมดมหัศจรรย์แห่งเมืองออซ’ ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างไม่พอใจว่า “ใช่แล้วพวกฮัสกี แล้วพวกนายมีความคิดเห็นอย่างไร?”
หนุ่มสาวที่อยู่รอบๆ ฮิวจ์คนน้องจึงพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “พวกเราเป็นมนุษย์หมาป่า ไม่ใช่ฮัสกี!”
ฉินสือโอวหัวเราะเยาะและพูดว่า “ฉันไม่เรียกพวกนายว่าชิวาวาก็ดีแค่ไหนแล้ว รู้จักพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีเถอะ!”
เสียงอุทานของผู้คนมาแต่ไกล ฉินสือโอวและคนอื่นๆ จึงหันไปมอง และเห็นว่ามีคนขี่ม้าบนถนนในขณะที่แสงไฟสว่างขึ้นก็จะเห็นหน้าตาของคนที่อยู่บนม้า หน้าตาหล่อเหลาและดูดี ซึ่งเข้ากันกับม้าตัวเล็กสง่างามที่อยู่ข้างล่าง ซึ่งหล่อและดูดีจริงๆ
โดยปกติแล้วนี่คือพระถังซำจั๋งที่เชอร์ลี่ย์แต่ง พาวลิสจูงม้าอยู่ข้างหน้าให้เธอและมิเชลก็ลากคราดเดินอยู่ข้างหลังอย่างหดหู่ ส่วนกอร์ดอนไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีหมีอีกหนึ่งตัวตามหลังหลังม้าตัวน้อยมาติดๆ และหมีตัวนี้ยังถูกมัดด้วยห่วงสีขาว
ฉินสือโอวจึงสังเกตดูอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่าห่วงนี้น่าจะเป็นที่คาดหัวของมิเชล ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ซับเหงื่อบนหัวของเขาเมื่อเล่นบาสเกตบอล…
“ว้าว หนุ่มหล่อคนนี้เป็นใคร? อย่าได้ให้กลุ่มชาวเกย์ของเซนต์จอห์นเห็นเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นฉันกล้าพนันได้เลยว่าดอกเบญจมาศของเขาจะระเบิดแน่” ฮิวจ์คนน้องพูดพร้อมหัวเราะชอบใจ
ฉินสือโอวได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มแปลกๆ เแล้วร้องตะโกนว่า “เชอร์ลี่ย์ ฮิวจ์คนน้องของเธอพูดกับเธอไม่ดีเลยนะ!”
เมื่อได้ยินเสียงร้องตะโกนของเขา เชอร์ลี่ย์ก็สะบัดบังเหียนของม้าและลู่ม้ายก็วิ่งเข้ามาก้าวสั้นๆ เข้ามาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าอันเรียวยาวของม้าจะแสดงให้เห็นถึงความโอ้อวดแสนยานุภาพ ราวกับว่ามันเป็นม้ามังกรขาวจริง เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ฉินสือโอวจึงมองดูอย่างละเอียด ก็พบว่าร่างกายของชายคนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ระยิบระยับเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันเหมือนกับเกล็ดมังกร…
“หมีดำ มาสิ มาให้ฉันจัดการพวกชั่วร้ายต่างถิ่นอย่างพวกแกเถอะ!” เชอร์ลี่ย์โบกไม้เท้าของเธอและชี้ไปที่ฮิวจ์คนน้องอย่างน่าเกรงขาม
ฮิวจ์คนน้องหัวเราะและพูดว่า “ที่แท้ก็คือโลลิต้าตัวน้อยนี่เอง เธอเป็นหมีตัวใหญ่จริงๆ ด้วย ให้ตายสิ เธอโยนอะไรออกมา? ”
เชอร์ลี่ย์โบกไม้เท้าและโยนอะไรบางอย่างออกมา ทันใดนั้นเขาเหล้าก็หกใส่เขา
ทันทีหลังจากนั้น ฉงต้าก็โผเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง…
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset