ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1455 สงครามคนเหล็ก

กลุ่มคนทั้ง 10 รู้สึกเสียหน้ามาก คอร์กินถลึงตามองทอโร คนอื่นก็ถลึงตามองทอโรเหมือนกัน ฉินสือโอวมองตามโดยธรรมชาติ คนคนนี้ชื่อว่าทอโรเป็นชาวอินูเปียต หน้ากลมและปากใหญ่ เหมือนดาราหนังจินเป่าบราเทอร์นิดหน่อย ซึ่งมาพร้อมกับความสามารถในการแสดงตลก
ทอโรสูดลมหายใจเข้าทางจมูก และเดินออกจากโรงแรมไปอย่างหดหู่ เขานั่งเหม่อลอยอยู่กับตัวเองบนสโนว์โมบิลคันหนึ่ง
คอร์กินพยักหน้าให้ฉินสือโอว และพูดว่า “โอเค ตอนนี้พวกเราต้องจริงจังหน่อย ต้องแข่งแล้วถูกไหม? แต่เมื่อคืนฉันเห็นไม่ชัด คิดไม่ถึงว่านายก็เป็นชาวอินูเปียตเหมือนกัน ถ้านายยอมแพ้ตอนนี้ ซึ่งก็เพื่อประโยชน์ของเพื่อนชาวอินูเปียตของฉัน ฉันจะ…”
“อย่าฝันเลย พระอาทิตย์โผล่แล้วไม่ใช่เหรอ? บอกมาเถอะ เดิมพันด้วยอะไร?” ฉินสือโอวขัดจังหวะคำพูดของคอร์กิน เขาชี้ออกไปข้างนอก และไม่ได้สนใจอารมณ์โกรธของคอร์กิน
คอร์กินกัดฟันด้วยความแค้น “นายเป็นชาวอินูเปียตที่ปากแข็งจริงๆ ฉันชื่นชมนายเลย งั้นก็ให้ฉันสอนบทเรียนอย่างดีให้นายเถอะ”
ฉินสือโอวยักไหล่ “ขอบคุณมากสำหรับคำชมของนาย แต่ถึงแม้ว่านายจะพูดถึงซ้ำๆ ฉันคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแก้ไขให้นายสักหน่อย ฉันไม่ใช่ชาวอินูเปียต ฉันเป็นคนเชื้อสายจีน คนจีน”
เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของเขา คนกลุ่มหนึ่งก็ส่งเสียงโห่ออกมา ชายผิวเหลืองคนหนึ่งยื่นนิ้วออกมาหาเขา “ลืมรากเหง้าของตัวเองแล้วเหรอ โอ้ แกมันคนสารเลว แกลืมรากเหง้าของตัวเองใช่ไหม? ครอบครัวแกออกจากขั้วโลกเหนือไปเมื่อไหร่? ปู่แก พ่อแกรุ่นนั้น?”
ฉินสือโอวไม่มีพลังจะไปหักล้างกับพวกเขา ชาวอินูเปียตกับคนจีนเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มองโกเลีย ซึ่งดูเหมือนว่าจะเหมือนกันนิดหน่อยจริงๆ แต่ก่อนยังมีความแตกต่าง คนจีนจัดเป็นเผ่าพันธุ์มองโกเลียแท้ แต่ชาวอินูเปียตจัดเป็นเผ่าพันธุ์มองโกเลียแถบขั้วโลก แต่ถ้าทุกคนสวมหมวก และใส่หน้ากากเพื่อป้องกันความเย็น นั่นดูเหมือนจะแตกต่างกันไม่มากนัก
คอร์กินจับมืออย่างดูถูก “ดูสิๆ แกเป็นชาวอินูเปียตที่ดีคนหนึ่งจริงๆ! ครอบครัวของแกอพยพไปนานแค่ไหนแล้ว ตอนนี้พวกแกคิดว่าตัวเองมีเผ่าพันธุ์ใหม่แล้วงั้นเหรอ? เฮอะ ตลกจริงๆ วันหนึ่งเป็นชาวอินูเปียต ตลอดชีวิตก็เป็นชาวอินูเปียต!”
ฉินสือโอวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดทนอธิบาย “ฉันเป็นคนจีน โอเค? เพื่อน พวกนายไม่รู้จักคนจีนใช่ไหม? พวกนายไม่เคยเจอนักท่องเที่ยวจีนใช่ไหม?!”
คนพวกนี้หัวเราะเยาะ แต่ลักษณะใบหน้าดูไม่มั่นใจ แบล็คไนฟ์ทนไม่ไหวจึงพูดว่า “บอส คุณอย่าไปเถียงกับคนโง่พวกนี้เลย พวกเขาอาจไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของสามเผ่าพันธุ์ใหญ่ในโลก”
“แข่งกันเถอะ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” ฉินสือโอวกลอกตาและพูดว่า “บอกมาสิว่า เดิมพันด้วยอะไร?”
คอร์กินพูดว่า “ถ้าพวกฉันแพ้ เรื่องเมื่อคืนนั้นจบลงทั้งหมด พวกแกก็ไม่ต้องจ่ายเงินให้พวกฉันและก็ไม่ต้องขอโทษด้วย แต่ถ้าพวกฉันชนะ แกก็ต้อง…”
ฉินสือโอวขัดจังหวะการพูดของเขาอีกครั้ง และพูดว่า “ได้ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันยอมรับการเดิมพันของพวกนาย งั้นก็เริ่มเลยเถอะ”
คอร์กินถูกเขาขัดจังหวะตอนพูดซ้ำๆ จึงโกรธมาก และตะโกนว่า “เฮ้ย ทำไมแกไม่มีมารยาทขนาดนี้? พ่อแม่แกไม่ได้สอนมารยาทของชาวอินูเปียตให้แกเหรอ? แกมันชาวอินูเปียตสารเลวที่ไม่มีมารยาท!”
“ฉันจะพูดอีกรอบ ฉันไม่ใช่ชาวอินูเปียต ฉันเป็นคนจีน!” ท่านชายฉินเริ่มโกรธนิดหน่อย
แน่นอนเขารู้ว่าคนที่ขัดคนอื่นเป็นคนไม่มีมารยาท แต่นี่ไม่ใช่การเสแสร้งเหรอ? น่าเสียดายที่วันนี้เขาโชคไม่ดี เมื่อเจอกับศัตรูที่โง่เขลากลุ่มนี้ ทำให้เขาแกล้งเป็นคนโง่ไปด้วย
คอร์กินพูดว่า “ดีมาก ในเมื่อแกยอมรับ ถ้าพวกแกแพ้ แกต้องสักคำว่า ‘ทั้งครอบครัวของฉันเป็นชาวอินูเปียต’ บนหน้า! นอกจากนั้นแกต้องใช้วิธีสักด้วยก้างปลา!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ก็อ้าปากค้าง และพูดว่า “ป่าเถื่อนจริงๆ”
แอร์แบ็คดึงมือฉินสือโอวมาอย่างระมัดระวัง และพูดเสียงเบาว่า “บอส ผมรู้สึกว่าคุณเพิ่งจะประมาทไปนิดหน่อยที่ยอมรับ”
ประมาทไปนิดหน่อยจริงๆ ฉินสือโอวคิดไม่ถึงว่าเขาจะเสนอการเดิมพันแบบนี้ และยังคิดอีกว่าเขาจะต้องเสียเงินเท่าไร
การเดิมพันนี้ของคอร์กินแสบมาก ถ้าไม่พูดถึงคำพวกนี้ก่อน ก็พูดได้ว่าวิธีสักด้วยก้างปลานั้นทรมานคนมาก นี่เป็นวิธีการสักที่ชาวอินูเปียตกับชาวอินเดียแดงคิดค้นขึ้นมา โดยใช้ก้างปลาที่เปื้อนเชื้อเพลิง หลังจากนั้นก็ใช้ค้อนขนาดเล็กทุบก้างปลา และทุบให้เชื้อเพลิงเข้าไปอยู่ในผิวหนัง ซึ่งเจ็บมาก
ในใจของฉินสือโอวหัวเสียไม่หยุด ตัวเองเสแสร้งอย่างยากลำบากครั้งเดียว ทำไมกลายเป็นคนโง่ไปได้? เอาจริงดิ โคตรเสียเปรียบเลย
ตอนนี้ได้แต่ส่งความหวังว่าตัวเองจะแพ้ไม่ได้ เขามองสโนว์โมบิลที่อยู่ข้างนอก และรู้สึกว่าไม่แน่ใจนัก
เหมือนกับที่พนักงานเปิดประตูพูดไว้เมื่อวาน ตั้งแต่เด็กพวกเขาก็เริ่มขี่สโนว์โมบิลแล้ว นี่คือยานพาหนะที่สำคัญที่สุดของพวกเขา ฝึกฝนบ่อยจนเชี่ยวชาญ คนพวกนี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญการขี่สโนว์โมบิล
กลับกันฉินสือโอวและพรรคพวก มีแค่มาที่นี่ถึงจะได้เริ่มขี่สโนว์โมบิล ช่องว่างทางเทคนิคระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใหญ่มาก นี่ไม่ใช่เรื่องที่สมรรถภาพทางกายจะสามารถเติมเต็มได้
โชคดีที่ท่านชายฉินมีปฏิกิริยาตื่นตัว การแข่งสโนว์โมบิลก็คือการหาการละเมิด แต่เขายังมีวิธีอื่น จึงพูดอย่างใจเย็น “พวก พวกฉันไม่มีสโนว์โมบิล…”
“พวกเราจะให้นายยืม” คอร์กินพูดอย่างยิ้มเยาะ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสขัดจังหวะการพูดของฉินสือโอว ดังนั้นจึงเป็นการขัดจังหวะอย่างตั้งใจ
ฉินสือโอวเหล่มองเขา “อย่าขัดจังหวะการพูดของฉัน นายช่างเป็นชาวอินูเปียตที่ไม่รู้มารยาทจริงๆ”
คอร์กินหัวเราะเยาะ “ไอโง่ ฉันเป็นคนผิวขาว ดูผิวหนังของฉันสิ ฉันเป็นคนเดนมาร์ก รู้ไหม? ไม่ใช่ชาวอินูเปียต”
ฉินสือโอวพูดอย่างหมดความอดทน “พวกแกยังอยากแข่งอยู่ไหม? ให้ตายสิบอกว่าอย่าขัดจังหวะการพูดของฉัน ไอ้ชาวอินูเปียตโง่นี่! ฟังฉันพูดนะ พวกฉันไม่สามารถใช้สโนว์โมบิลของพวกแกได้ ใครจะรู้ว่าพวกแกมีกลอุบายหรือไม่มี?”
คอร์กินโกรธ “แกหมายความว่าอะไร? เห็นพวกฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวพูดว่า “ถ้าอยากแข่ง งั้นก็แข่งของที่แกร่งยิ่งกว่านั้นดีกว่า เจ็ทสกี!”
ทอโรที่อยู่ข้างๆ เบิกตากว้างและพูดว่า “นายบ้าไปแล้วเหรอ? สภาพอากาศแบบนี้เล่นเจ็ทสกี? นายรู้ไหมว่าน้ำทะเลมันหนาวแค่ไหน? นายรู้ไหมว่าบนผิวน้ำทะเลมีภูเขาน้ำแข็งเยอะแค่ไหน?”
ฉินสือโอวยักไหล่ “แน่นอนฉันรู้ ดังนั้นฉันถึงพูดว่า นี่เป็นการแข่งของคนเหล็ก ถ้าพวกนายยอมรับว่าตัวเองไม่แข็งแกร่งพอ งั้นก็แข่งสโนว์โมบิล!”
คอร์กินและพรรคพวกเลือดขึ้นหน้า พวกเขาตอบตกลงอย่างถึงใจ “งั้นก็แข่งเจ็ทสกี!”
ฉินสือโอวยักไหล่ให้แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ “ดู พวกเราชนะแล้ว”
แบล็คไนฟ์พูดเสียงเบา “คนพวกนี้ไม่มีสมอง ชนะพวกเขาไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงความสำเร็จเลยสักนิดจริงๆ”
ในฐานะเมืองที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง แน่นอนว่าอิลูลิสซัตมีเจ็ทสกี เมื่อวานฉินสือโอวเห็นมันที่บ้านของเจ้าของเรือ ดังนั้นเขาจึงเสนอการแข่งขันนี้ขึ้นมา
ทั้งสองฝ่ายขี่สโนว์โมบิลไปที่ชายฝั่ง หลังจากขึ้นสโนว์โมบิลแล้ว ฉินสือโอวก็อดไม่ได้ที่จะกดไลก์ให้กับไหวพริบของตัวเอง สโนว์โมบิลคันนี้ควบคุมยากมาก การกระจัดก็ใหญ่มาก นึกไม่ถึงว่าจะมากกว่า 1 พันซีซี ซึ่งเกือบจะเหมือนกับรถยนต์ขนาดเล็กในประเทศคันหนึ่ง
ฉินสือโอวขับสิ่งนี้เป็นครั้งแรก เขาเร่งความเร็วสองสามครั้งจนเกือบจะโยนตัวเองออกไป ช่วงเวลานี้มีการเลี้ยวโค้งครั้งหนึ่ง จึงเกือบจะพลิกคว่ำลงกับพื้นทั้งคนและรถ!
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset