ทั้งหมดเป็นเงินหนึ่งหมื่นหยวน ฉินสือโอวได้เอาลูกสุนัขกลับไปด้วยฝูงหนึ่ง
หลักก็คือร็อตไวเลอร์ราคาแพงมาก ทำให้เถ้าแก่คนนั้นอยากจะให้เขาไปดูให้ได้ สุนัขแบบนี้แม้จะเป็นสายพันธุ์ปกติ ตัวหนึ่งก็ต้องห้าพันหยวน ขอแค่หน้าตาพอใช้ได้ ก็จะสามารถขายได้หนึ่งหมื่นกว่าหยวนเลย
การนำลูกสุนัขยี่สิบห้าตัวนี้กลับบ้าน ไปปล่อยไว้ที่สนามในบ้าน ก็ราวกับโปรยเมล็ดงา ไม่ทันใดทั้งสวนก็เต็มไปด้วยลูกสุนัขที่มีขนฟูฟ่อง แต่ว่ามีบางตัวกำลังอึอยู่บางตัวก็ฉี่อยู่ และมีบางตัวที่เบิกตาโตจ้องไปที่สภาพแวดล้อมที่แปลกตา วุ่นวายไปหมด
พ่อแม่ของฉินสือโอว วินนี่และเสี่ยวเถียนกวาถูกดึงดูดให้มาที่สวน เมื่อเห็นลูกสุนัขพวกนี้แล้ว สีหน้ายัยตัวเล็กก็เต็มไปด้วยความดีใจแล้ววิ่งเข้าไป ใช้มือถือขึ้นมาข้างละหนึ่งตัว หนีบไว้ข้างรักแร้แล้วก็ไปไล่อีกตัว
เสี่ยวฮุยก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เขาอุ้มลูกสุนัขตัวสีดำล้วนมาตัวหนึ่งแล้วพูดว่า “คุณตาคุณนายดูสิครับ มีเสี่ยวเฮยอีกตัวแล้ว!”
พ่อของฉินสือโอวยิ้มเหอๆ แล้วพูดว่า “ใช่แล้ว มีเสี่ยวเฮยอีกตัวแล้ว แล้วก็ยังมีเสี่ยวหวงเสี่ยวไป๋ด้วยนะ เสี่ยวโอว สุนัขพวกนี้ไปซื้อมาจากไหน? ทั้งหมดใช้เงินไปเท่าไร?”
เรื่องนี้ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบัง ฉินสือโอวจึงพูดไปตามจริงว่า “ทั้งหมดใช้ไปหนึ่งหมื่นหยวน…”
เขาอยากจะอธิบายต่อว่าหนึ่งหมื่นหยวนนี่ใช้อะไรไปบ้าง แต่พึ่งพูดจบเท่านั้น พ่อกับแม่ของฉินสือโอวก็ตกใจ พ่อของฉินสือโอวยิ่งแล้วใหญ่ถึงขั้นตะคอกออกมาตัดบทเขาว่า “แกพูดโกหก? ลูกสุนัขพันธุ์พื้นเมืองฝูงหนึ่ง แกใช้ไปถึงหนึ่งหมื่นหยวนเลยเหรอ? แกจะทำให้พ่ออกแตกตายเหรอ?”
พ่อของฉินสือโอวโกรธมากจริงๆ ขนาดพูดยังพูดไม่ชัดเจนเลย คำว่าโง่หรือเปล่าดันพูดเป็นโกหกหรือเปล่าไปแล้ว (สองคำออกเสียงเหมือนกันในภาษาจีน)
ฉินสือโอวพูดออกไปอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า “พ่อฟังผมพูดก่อน นี่น่ะไม่ใช่ฝูงสุนัขพื้นเมือง…”
ตอนนี้ สุนัขดำเกี๊ยวซ่าที่เป็นองครักษ์ประจำตัวของเสี่ยวฮุยได้วิ่งออกมาอย่างขี้เกียจ พอเห็นพวกเดียวกันที่เป็นรุ่นน้องพวกนี้แล้วตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จึงวางท่าว่าเป็นผู้อาวุโส เข้าไปใช้อุ้งเท้าพลิกลูกสุนัขพวกนี้จนหงายท้องไปทีละตัว เมื่อทำการทักทายเสร็จแล้ว ก็รีบวางอำนาจต่อทันที
แต่พอมันเดินไปอยู่หน้าร็อตไวเลอร์ตัวน้อยเท่านั้น มันเพิ่งจะยื่นเท้าออกไปร็อตไวเลอร์ก็รีบตอบสนองอย่างรวดเร็ว มันถอยหลังไปสองก้าวจ้องไปที่เกี๊ยวซ่าแล้วร้อง “โฮ่งๆๆ!”
เกี๊ยวซ่าตกใจไปเลย อั้ยยะ เจ้าพวกลูกสุนัขพวกนี้มีตัวที่แข็งข้อด้วย ดีมาก ตัวฉันถนัดรับมือกับพวกลูกสุนัขที่คิดว่าตัวเองเก่งอยู่แล้ว มันยังคงเข้าไปอย่างอุกอาจเพื่อยื่นเท้าไปอยากจะพลิกร็อตไวเลอร์น้อยให้หงายอีกครั้ง แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ม่านการต่อสู้ได้เปิดออกแล้ว…
ร็อตไวเลอร์น้อยย่นจมูก แล้วก็พุ่งเข้าไปราวกับลูกระเบิดลูกเล็กเพื่ออ้าปากใช้ฟันน้ำนมงับไปที่เท้าของเกี๊ยวซ่า จากนั้นก็สะบัดหัวเพื่อฉีกกัดสุดฤทธิ์
เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวก็หัวเราะแล้วพูดว่า “เห็นหรือยังครับ? พ่อ พ่อนึกว่านี่เป็นสุนัขพื้นเมืองเหรอครับ? สุนัขตัวนี้เป็นพันธุ์ร็อตไวเลอร์! เป็นพันธุ์ของสุนัขตำรวจที่มีชื่อเสียงมากของโลก กล้าหาญเป็นพิเศษ ซื่อสัตย์เป็นพิเศษ แล้วก็ฉลาดเป็นพิเศษ!”
คำว่าเป็นพิเศษสามคำได้ถูกพูดออกมาพร้อมกัน ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลังพูดชื่นชมประชาชนที่ปลดปล่อยทหารอยู่เลย ทนลำบากได้เป็นพิเศษ สู้รบได้เก่งเป็นพิเศษ เสียสละมากเป็นพิเศษ!
“แต่ไม่ว่าแม่ดูอย่างไร สุนัขพวกนี้ก็เป็นสุนัขพื้นเมืองนี่นา?” แม่ของฉินสือโอวถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวโอว ลูกไม่ได้ถูกคนอื่นเขาหลอกเอาใช่ไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ครับ มีแค่ตัวนี้ที่เป็นร็อตไวเลอร์ ตัวอื่นๆ เป็นสุนัขพื้นเมืองนั่นแหละครับ”
พูดเสร็จ เขาก็เข้าไปผลักเกี๊ยวซ่าที่กำลังโกรธอยู่ออก แล้วอุ้มร็อตไวเลอร์ตัวน้อยที่โกรธอยู่เช่นกันมาไว้ในอ้อมอกแล้วเอาไปโชว์ให้พ่อกับแม่ดู
วินนี่ช่วยเขาอธิบายให้ทั้งสองคนว่า “ร็อตไวเลอร์นั้นมีราคามากค่ะ สุนัขตัวนี้ก็น่าจะราคากว่าเก้าพันหยวน ที่แคนาดาสุนัขพันธุ์นี้ที่สายพันธุ์ดีหน่อย สามารถขายได้ถึงสี่ห้าพันดอลลาร์แคนาดาเลยค่ะ”
เมื่อมีองครักษ์คอยปกป้องแล้ว ต่อไปก็คือการเริ่มสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างจริงจังแล้ว
เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำคลื่นน้ำขึ้นมา ฉินสือโอวไม่สามารถหยุดเพียงเพราะซื้ออ่างเก็บน้ำแล้วได้ การทำแบบนี้จะทำให้คนในเมืองสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติได้ง่าย นายบอกจะเช่าอ่างเก็บน้ำนี้ อ่างเก็บน้ำก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น นายเพิ่งเช่าเสร็จไป อ่างเก็บน้ำก็กลับไปเป็นปกติ นั่นน่ะไม่ปกติเสียแล้ว
พอดีเลย ฉินสือโอวได้เช่าเรือลำเล็กมาจำนวนหนึ่ง เพื่อลากแหตกปลาไปมาบนน้ำเพื่อจัดการขยะที่ลอยอยู่บนน้ำด้วย
ความผิดปกติของอ่างเก็บน้ำเสียวหย่งจวงทำให้ผู้คนในเมืองประหลาดใจ ทั้งเมืองนี้และเมืองข้างๆ ก็ต่างพากันมาดู แถมยังดึงความสนใจของช่องรายการทีวีของเขตมาด้วย ช่องรายการทีวีถึงกับมาถ่ายทำข่าวถึงที่นี่เลย
เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำของตัวเอง ฉินสือโอวจึงดูการรายงานข่าวของเย็นนั้นอย่างตั้งใจ พิธีกรสาวสวยที่มักจะออกมาตอนท้ายการสัมภาษณ์ไม่ค่อยได้ออกกล้องเท่าไร แต่มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งที่ไม่รู้ไปเชิญมาจากไหนมาพูดเป็นต่อยหอยแทน มีการวิเคราะห์ตั้งแต่สภาพพื้นดิน อากาศ และสิ่งมีชีวิตใต้น้ำด้วย
แม้ว่าจะเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ แต่การวิเคราะห์ในครั้งนี้มีส่วนช่วยในการรักษาสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าใต้น้ำมีแก๊สจำพวกแก๊สธรรมชาติระเบิดออก ทำให้น้ำในแม่น้ำเกิดการม้วนตัวขึ้นมา ส่วนเรื่องที่ว่าแก๊สพวกนี้มาจากไหนนั้น? แน่นอนว่ามาจากการที่ขยะหมักหมมกันทำให้ก่อเกิดเป็นแก๊สนี้ขึ้นมา
เถ้าแก่ร้านวัสดุก่อสร้างได้ช่วยพวกเขาจ้างคนงานมา เริ่มจากการขึงรั้วเล็กก่อน ฉินสือโอวไปดูหน้างานด้วยตัวเอง เพื่อปรึกษาหารือกับหัวหน้าคุมงานก่อสร้าง เรื่องการปกป้องอ่างเก็บน้ำ
เครื่องตอกเสาสองเครื่องได้แบ่งกันทำงาน โดยเริ่มจากการตอกเสาหินลงไปจากทั้งสองฝั่ง เสาหินพวกนี้มีความสูงประมาณสองเมตร มีขนาดใหญ่ประมาณแขนของผู้ใหญ่ มีรูปร่างสี่เหลี่ยม หลังจากตอกลงไปในพื้นแล้วขึงรั้วเหล็กไว้ด้านบนก็ได้แล้ว
เขื่อนของอ่างเก็บน้ำไม่สามารถตอกเสาเข็มได้ นี่เป็นกฎของรัฐบาล ฉินสือโอวจึงเลือกใช้เสาหินแบบตั้งพื้น เสาหินแบบนี้เป็นเสาหินทรงสี่เหลี่ยมที่ติดไว้กับฐานแผ่นหิน จึงไม่จำเป็นต้องตอกลงพื้น แค่วางไว้ก็มั่นคงแล้ว
หลังจากตั้งเสาหินเรียงเป็นแถวเสร็จแล้ว คนงานก็นำรั้วเหล็กไปขึงไว้ข้างบน พอขึงรั้วเหล็กที่ส่องประกายนั้นเสร็จหนึ่งชั้นแล้ว ก็เท่ากับอ่างเก็บน้ำทั้งหมดได้ถูกปกป้องแล้ว
ในตอนนี้การงมเก็บขยะก็สำเร็จไปได้มากแล้วด้วย ฉินสือโอวกลับถึงบ้านแล้วก็จัดการติดต่อซื้อพืชน้ำเพื่อให้ส่งมาที่เขา เขาจะใช้วิธีเดียวกัน ในการทำให้อ่างเก็บน้ำเสียวหย่งจวงให้เป็นบ่อปลาไป๋หลงเจียงขนาดใหญ่
อยู่ที่บ้านนอกไม่สามารถหาเช่าเครื่องบินได้ ฉินสือโอวจึงเลือกใช้เรือพายเหล็กในการโปรยเมล็ดพันธุ์แทน เรือพายเหล็กลงน้ำ พายไปได้ทุกหนึ่งสองร้อยเมตรแล้วก็เริ่มโปรยพืชน้ำลงไปถุงหนึ่ง จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสร้างคลื่นลับอยู่ใต้น้ำ เพื่อพัดเมล็ดพืชพวกนี้ออกไปโดยทั่ว เท่านี้ก็สามารถกระจายออกไปได้เท่าๆ กันแล้ว
หลังจากทีมคนงานก่อสร้างตอกเสาหินเสร็จแล้ว ก็ไปทำการสร้างบ้านเล็กๆ แบบง่ายๆ ข้างๆ อ่างเก็บน้ำ แล้วทำการปูหลังคาสีสายรุ้ง เพื่อเป็นที่พักของพนักงานที่จะจ้างหลังจากนี้แล้วก็ของพ่อกับแม่ด้วย
รอให้ล้อมอ่างเก็บน้ำเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็จะนำพวกลูกสุนัขมาปล่อยที่นี่ การที่พวกมันอยู่ที่บ้านนั้นเรียกได้ว่าเหมือนก่อกบฏกันเลยทีเดียว ไม่ต้องพูดเรื่องอะไร แค่เรื่องที่อึฉี่ไม่เป็นที่ก็เป็นปัญหาใหญ่เอาเรื่องแล้ว
ฉินสือโอวถือโอกาสตอนที่อาบน้ำให้แผ่พลังโพไซดอนให้พวกมัน แต่เพราะพวกลูกสุนัขตัวเล็กมาก แถมไอคิวของสุนัขพื้นเมืองก็อยู่ในระดับทั่วไปอีก มีแต่ร็อตไวเลอร์ตัวน้อยเท่านั้นที่รู้จักไปอึนอกบ้าน ตัวอื่นๆ เรียนไม่เป็นสักที ยังพากันอึฉี่ตามใจตัวเอง
หลังจากพาไปที่อ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ถือว่าฉินสือโอวได้จัดการปัญหาอึฉี่ของลูกสุนัขได้แล้ว แต่ปัญหาอีกเรื่องก็เข้ามาอีก ลูกสุนัขพวกนี้ชอบวิ่งไปเรื่อย
ฉินสือโอวไม่เคยคิดจะเลี้ยงพวกมันโดยขังไว้หรือมัดไว้อยู่แล้ว อ่างเก็บน้ำใหญ่ขนาดนี้ จำเป็นต้องเลี้ยงแบบปล่อยให้สุนัขพวกนี้มาเฝ้า
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการเลี้ยงสุนัขแบบปล่อยก็คือสอนพวกมันยาก พวกมันสามารถวิ่งไปเรื่อยหรือไม่ก็วิ่งไปทำร้ายคนได้ แต่ฉินสือโอวเชื่อว่าภายใต้การเสริมสร้างพัฒนาการของพลังโพไซดอน สุนัขพวกนี้ไม่ทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1567 อ่างเก็บน้ำเสร็จสมบูรณ์
Posted by ? Views, Released on January 2, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!