เมื่อเครื่องบินร่อนลงจอดที่สนามบินเล็กๆ ของเกาะแฟร์เวล ก็เป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ของอีกวันพอดี
พระอาทิตย์ยามเช้ากำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงที่ไม่สว่างจนเกินไปทำให้ท้องฟ้าทิศตะวันออกถูกแต่งแต้มไปด้วยสีขาวนวล เด็กหญิงตัวน้อยยังคงนอนหลับอยู่ ฉินสือโอวอุ้มเด็กน้อยที่อยู่ในกระเป๋าเป้เด็กไว้ที่ด้านหน้า มือและขาของเธอเกาะอยู่ที่ร่างของฉินสือโอว เหมือนกับหมีโคอาล่าที่กำลังหลับ
เมื่อพวกเขาลงมาจากเครื่องบิน ก็มีเสียงเห่าของหู่จือและเป้าจือ รวมถึงเสียงหอนของหลัวปอดังมาจากที่ไกลๆ บนท้องฟ้ามีเงาของสิ่งมีชีวิตสามตัวโฉบลงมาจากท้องฟ้า พวกของบุชบินลงมาหาพวกเขาด้วยความดีใจ
บุชและแคลร์บินลงมาเกาะที่ไหล่ของฉินสือโอว พวกมันกางปีกออกและใช้ปีกตบหน้าฉินสือโอวอยู่หลายที ปากก็ส่งเสียงร้อง พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าด้วยกัน ท่าทางของพวกมันดูน่ากลัวมาก…เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ พวกมันไม่มีวิธีที่จะแสดงความรู้สึกแบบอื่น
แต่ว่าฉินสือโอวก็ตัดสินไปแล้วว่า เจ้าพวกนี้ไม่ได้แสดงท่าทีต้อนรับเขาแต่เป็นการทำโทษเขา ทำไมไม่เห็นหน้าตั้งหลายวัน? ไม่อยากเลี้ยงพวกเราแล้วใช่ไหม? รู้ไหมว่าเป็นห่วงขนาดไหน?
พวกมันทำตัววุ่นวาย จนเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เธอเงยหน้าขึ้นมองพวกมันอย่างไม่พอใจ เจ้าพวกนี้มาทำอะไรกัน?
เมื่อแคลร์เห็นเถียนกวา มันจึงหยุดตบฉินสือโอว แต่หัวมาตบหัวเถียนกวาแทน หลับนะหลับ หลับจนเป็นอัมพาตไปเลย!
เด็กหญิงตื่นเต็มตัว เด็กหญิงตัวน้อยถูกปลุกให้ตื่นแล้วยังโดนตีอีก จู่ๆ เธอก็ยื่นมือออกไป แล้วคว้าปีกของแคลร์กระชากลงมา
นี่คือความโกรธของเด็กหญิงตัวน้อย เธอไม่ได้ร้องโวยวาย แต่เธอลงมือทำทันที!
แคลร์กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มันรีบหุบปีกลงและหลบมือของเสี่ยวเถียนกวา
ในมือของเด็กหญิงมีขนนกติดอยู่ พลางมองไปยังแคลร์ด้วยสายตารังเกียจ ปากเล็กๆ พึมพำออกมาว่า “ตี! กวากวาตี!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมา พลางหันไปพูดกับวินนี่ว่า “ต่อไปถ้ามีลูกชาย ผมจะให้ลูกชื่อว่าโม๋กู่ แบบนี้เถียนกวาก็จะพูดว่า ‘โม๋โม๋ต่า’ ที่แปลว่าจุ๊บๆ แบบนี้คงจะสนุกดี เนอะ?”
วินนี่ที่กำลังช่วยเขาจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของเถียนกวายิ้มออกมาพลางพูดว่า “ดีค่ะ เอาตามที่คุณว่าเลย คุณชอบชื่อไหนก็เอาชื่อนั้น”
หู่จือและเป้าจือวิ่งมาหาแต่ไกล วินนี่ย่อตัวนั่งลงเพื่อกอดพวกมัน เด็กน้อยทั้งสองตัววิ่งวนรอบพวกเขาไปมา จากนั้นก็ยื่นลิ้นออกมาเลียมือของฉินสือโอวและวินนี่
ช่วงเปลี่ยนกะ บีบีซวงและทริกเกอร์ขับรถมารับพวกเขา ฉินสือโอวถามออกไปว่า “สองสามวันมานี้ที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
บีบีซวงหาวแล้วพูดออกมาว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ ไม่มีเรือขโมยปลา ไม่มีเรื่องวุ่นวาย ไม่มีโรคเกิดขึ้นในปลา มีเพียงหู่จือและเป้าจือที่ดูเหมือนหงุดหงิดมาก แต่ดูเหมือนพวกมันจะอยู่ในช่วงติดสัด”
วินนี่ที่กอดหู่จือตะโกนกลับไปว่า “อย่ามาพูดอะไรซี้ซั้วนะ พวกมันเพียงแค่คิดถึงฉันก็เท่านั้น…”
ในหมู่สุนัข มีเพียงตัวเมียเท่านั้นที่มีช่วงเวลาแห่งความต้องการที่จะแสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน แต่เพศผู้นั้นพวกมันสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา เมื่อสุนัขตัวเมียส่งเสียงร้องและส่งกลิ่นพิเศษออกมา เมื่อตัวผู้ได้กลิ่นพวกมันก็จะเข้าไปผสมพันธุ์ด้วย พวกมันไม่มีทางที่จะส่งคำเชิญด้วยตัวเองเด็ดขาด
แต่ว่า ก็จะมีช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงอย่างเช่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เพศเมียมีความต้องการสูง ในช่วงเวลานี้ตัวผู้ก็จะมีอาการตื่นเต้นเช่นเดียวกัน หากว่ากันตามสามัญสำนึกของพวกมันแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่จำเป็นจะต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่น
เป้าจือบิดตัวไปมาอย่างกระสับกระส่ายในอ้อมกอดของฉินสือโอว มันอ้าปากกัดชายเสื้อของฉินสือโอวเบาๆ ฉินสือโอวยื่นมือออกไปลูบหัวของเป้าจือ จากนั้นมันก็หันหัวมางับมือของฉินสือโอวเบาๆ
จากท่าทางของมัน ฉินสือโอวคิดว่าพวกมันคึกคักผิดปกติ สงสัยจะต้องพาพวกมันไปคลายเครียดเสียหน่อย
แลบราดอร์พวกนี้ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป พวกมันอายุสามขวบแล้ว หากนับอายุคนก็เท่ากับวัยรุ่นแล้ว พวกมันสามารถมีความรักได้แล้ว
ไม่นาน วินนี่ก็สังเกตเห็นเช่นกัน เพราะว่าหลังจากที่กลับบ้านไปให้อาหารแลบราดอร์แล้ว พวกมันทั้งสองตัวไม่ยอมกินอาหารดีๆ กินได้สองคำก็เล่นกันเสียงดังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับมากินต่อ
ครั้งนี้พวกเขาอยู่บ้านค่อนข้างนาน ใช้เวลากว่ายี่สิบวัน พอกลับมาก็เป็นช่วงต้นเดือนเมษายนแล้ว อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ทำให้บรรยากาศฝนเกาะจึงเริ่มเห็นสีเขียวขึ้น
ในเวลายี่สิบวันนี้ ฟาร์มปลาเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก สวนดอกไม้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สวนถูกแบ่งออกเป็นสี่แบบ วัสดุที่จำเป็นส่วนใหญ่มาถึงแล้ว หินบางส่วนถูกทำขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีต้นไม้สีเขียวและดอกไม้นานาชนิด ส่วนที่เหลือนั้นอันเดร์ได้สั่งให้คนงานประกอบแล้ว
นอกจากนี้ หม้อน้ำของวิลล่าและท่อประปาได้รับการปรับปรุงแล้วเรียบร้อย ทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่หมด เหล่าเด็กวัยรุ่นกำลังช่วยกันทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านในวิลล่า ชาร์คและคนอื่นๆ กำลังทาสีผนังด้านนอกวิลล่า ตอนนี้แดดกำลังออก เลยทำให้วิลล่าดูสว่างขึ้นมา ราวกับเป็นบ้านหลังใหม่
หลังจากที่ฉินสือโอวกลับมาเขาก็หลับไปอย่างยาวนาน เขาถูกปลุกด้วยเสียงดังของเด็กๆ วินนี่ยังคงนอนหลับอยู่ บนเครื่องบินเขาและเถียนกวาต่างพากันส่งเสียงดัง ซึ่งไม่ง่ายเลยสำหรับเธอ
ฉินสือโอวนั่งพิงฉงต้าอยู่บนสนามหญ้าสีเขียว เขาอุ้มหมีโลลิขึ้นมากอด จากนั้นก็มองไปยังหู่จือกับเป้าจือที่กำลังต่อสู้กันด้วยรอยยิ้ม
พี่น้องเฟอเรทกำลังเดินเล่นอยู่ด้วยกัน ฉินสือโอวกวักมือเรียกพวกเขา พวกมันทั้งสองตัวหันไปรอบๆ อย่างหยิ่งยโส โดยที่ไม่สนใจเขาเลยสักนิด
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา พวกนายเก่งขนาดนั้นเลยหรอ? ดีมาก เขาผิวปากพลางชี้นิ้วไปยังพี่น้องเฟอเรท หู่จือและเป้าจือเงยหน้าขึ้นมามองทันที พี่น้องเฟอเรทรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พวกมันจึงออกวิ่งทันทีตามสัญชาตญาณ
ปรากฏว่าพวกมันออกตัวช้าเกินไป หู่จือและเป้าจือวิ่งเร็วมาก เพียงไม่กี่ก้าว หู่จือก็จับเฟอเรทผู้พี่ได้ และเป้าจือก็จับเฟอเรทผู้น้องได้ พวกมันทำเวลาเกือบจะพร้อมกันเลยมีเดียว
ฉินสือโอวกำลังจะสั่งให้พวกมันพาเฟอเรทมาส่ง ปรากฏว่าแลบราดอร์ปล่อยพี่น้องเฟอเรทลง ภาพตรงหน้าทำให้ฉินสือโอวรู้สึกสับสน หู่จือกับเป้าจือจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?
พี่น้องเฟอเรทวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว หู่จือและเป้าจือมองตากันและกัน พวกมันจ้องมองกันไม่วางตา โดยที่ไม่ได้สนใจเฟอเรทเลย
จนเมื่อพวกเฟอเรทวิ่งหนีไปได้ค่อนข้างไกล แววตาของหู่จือและเป้าจือก็เปล่งประกายขึ้นมา จากนั้นพวกมันก็พุ่งตัวออกไปราวกับจรวด พวกมันพุ่งตัวไล่พี่น้องเฟอเรทอย่างรวดเร็ว
พี่น้องเฟอเรทไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกมันแยกกกันหนี ปรากฏว่าพวกมันทั้งสองก็ถูกหู่จือและเป้าจือจับได้ในเวลาไล่เลี่ยกันอีกครั้ง
และด้วยเหตุนี้หู่จือและเป้าจือก็ปล่อยเฟอเรทลงอีกครั้ง ฉินสือโอวกำลังสับสนเป็นอย่างมาก แลบราดอร์พวกนี้กำลังทำอะไรกันอยู่นะ?
พี่น้องเฟอเรทยังคงวิ่งต่อไป ผ่านไปไม่นาน หู่จือและเป้าจือก็พุ่งตัวออกไปไล่เฟอเรทอีกครั้ง ครั้งนี้หู่จือเป็นผู้จับเฟอเรทผู้พี่ขึ้นมาได้ก่อน เป้าจือช้าไปเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น หลังจากที่จับเฟอเรทผู้น้องได้ มันก็เงยหน้าขึ้นมามอง หู่จืออยู่ที่นั่นทำหน้าอวดอำนาจของตัวเองอยู่
ทันใดนั้นเป้าจือก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที มันสะบัดหัวเพื่อปล่อยเฟอเรทผู้น้องไป หู่จือก็ปลอยเฟอเรทผู้พี่ไปเหมือนกัน หลังจากนั้นมันก็ร้องคำรามให้เป้าจือด้วยความภูมิใจ
การปล่อยเฟอเรทในครั้งนี้ พวกมันไม่ได้วิ่งหนีอีกแล้ว ต่อให้วิ่งก็วิ่งไม่ออก พวกมันมองไปยังแลบราดอร์ด้วยสายตาดุด่า แม่เจ้าพวกนี้สิ คิดว่าเป็นแมวไล่จับหนูรึไง? การแกล้งพวกเราแบบนี้มันดีจริงๆ งั้นเหรอ?
พวกมันทั้งสองตัวเริ่มไม่อยากต่อสู้ จึงวิ่งไปหาฉินสือโอวแทน แค่วิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของฉินสือโอว ก็โอเคแล้ว พวกเรายอมแล้ว เรื่องนี้ให้มันจบลงแบบนี้แล้วกัน โอเคไหม? พวกเรามาจับมือและสงบศึกกันเถอะ โอเคไหม?
หู่จือและเป้าจือไม่สนใจพวกมัน เมื่อได้ยินเสียงร้องของหู่จือ เป้าจือก็มองไปยังหู่จืออย่างมืดมน จากนั้นเป้าจือก็กระโจนเข้าหาหู่จือจนมันล้มลงกับพื้น
หู่จือโดนจับอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่หลังจากนั้นมันก็ตอบสนองกลับไปอย่างรวดเร็ว มันเตะร่างของเป้าจืออย่างแรงจนตัวลอย จากนั้นมันก็ลุกขึ้นและร้องคำรามออกมาพลางพุ่งตัวเข้าใส่…
…………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1574 การต่อสู้ของหู่จือเป้าจือ
Posted by ? Views, Released on January 2, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!