ฉินสือโอวนั่งยองอยู่บนเรือเด็คแล้วใช้ที่คีบหนีบแมงกะพรุนขึ้นมาป้อนให้เต่ามะเฟืองกิน เมื่อสักครู่ยังอยู่ในสภาพที่คุณก็ดี ฉันก็สบาย ทุกคนดีไปหมด แต่แล้วก็มีแมวน้ำกระโดดออกมา จ้องมองไปที่เต่ามะเฟืองอยู่สักพักแล้วก็เริ่มชุลมุนวุ่นวาย
เมื่อแทรกซึมถึงปัญหาด้านถิ่นที่อยู่ ทุกคนต่างก็ไม่ยอมแพ้ ทันใดนั้นน้ำทะเลรอบๆ ก็มีคลื่นถาโถม เสียงกรีดร้องไม่หยุด ทั้งช่างภาพและเหล่าช่างภาพคนอื่นๆ ต่างมีความสุข เพราะนี่เป็นโอกาสในการถ่ายรูปแล้ว
ฉินสือโอวทำได้เพียงเรียกชาวประมงมาแยกทั้งสองฝั่งออกจากกัน ในความเป็นจริงแล้วฉินสือโอวได้ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสั่งให้เต่ามะเฟืองไปใช้ชีวิตอยู่ในน่านน้ำฝั่งใต้ และให้แมวน้ำไปอยู่ทางทิศเหนือ ไม่มีใครสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้
พวกเต่ามะเฟืองไม่พอใจ นี่เป็นดินแดนที่พวกมันต้องปกป้องนะ เมื่อก่อนพวกมันยินดีที่จะอยู่ที่ไหนก็ได้
พวกแมวน้ำไม่พอใจยิ่งกว่า พวกมันใช้ดวงตากลมเล็กของพวกมันจ้องไปที่ฉินสือโอวด้วยท่าทีไร้เดียงสา พ่อฉินดูพวกเราสิ พวกเราเป็นลูกรักของคุณไง คอยเล่นกับลูกสาวของคุณ คุณจะมาไล่พวกเราไปไม่ได้
ฉินสือโอวแสดงออกว่า แม่งเอ๊ย รีบหนีไป ถ้ายังไม่ไปจะเอาเต่ามะเฟืองมาตุ๋นแกงจืด เอาเนื้อแมวน้ำมากินแล้วนะ!
เมื่อทำเช่นนี้ อีกทั้งมีการขับไล่จากพวกชาวประมง ในที่สุดเต่ามะเฟืองและแมวน้ำก็แยกออกจากกันได้สำเร็จ
แต่ทว่าพวกมันก็ได้ฝังความแค้นไว้ในใจแล้วตอนที่ทั้งสองฝ่ายว่ายผ่านกัน ต่างใช้สายตาเตือนฝ่ายตรงข้าม ถือว่าแกโชคดีไป ครั้งหน้า ครั้งหน้าถ้าเจอพวกแกอีกแล้วไม่ได้ทุบพวกแก พวกฉันก็คงไม่มีวันเป็นสุขแน่!
เหล่าช่างภาพรู้สึกเสียดาย ถามขึ้นว่า “ทำไมพวกมันไม่ต่อสู้กันแล้วล่ะ?”
ฉินสือโอวกลอกตามองบนแล้วตอบว่า “พวกคุณหมายความว่าอย่างไร? อยากหาเรื่องหรือไง?”
เหล่าช่างภาพรีบหัวเราะ “คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณฉิน จริงๆ แล้วนี่ก็เป็นการโปรโมตที่ดีเลยนะครับ”
วินนี่ตอบว่า “ผู้กำกับ ไม่ต้องออกอากาศตอนนี้นะ เป็นแค่พิธีการพบปะกันของเจ้าสัตว์น้อยในฟาร์มปลาเฉยๆ พวกมันชอบสร้างความวุ่นวาย”
เทียบไม่ได้กับร่างกายกำยำของฉินสือโอว วินนี่เล่นในน้ำได้ชั่วโมงกว่าก็เหนื่อยจนไม่ไหวแล้ว แต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกเหนื่อยอะไร เขาลากเอาหู่จือและเป้าจือไปในทะเลเพื่อถ่ายทำต่อ
โต้คลื่นครั้งนี้ยิ่งน่าสนุกกว่าเดิม หู่จือกอดขาซ้ายเขา ส่วนเป้าจือกอดขาขวาเขาไว้ จึงทำให้ดูเหมือนว่าฉินสือโอวใส่รองเท้าบูตขนสัตว์สไตล์รัสเซีย
ด้านหลังเขาอุ้มเจ้าลิงซ์ตัวน้อยไว้ ราชาซิมบ้ากลัวจนฉี่ราด ทุกครั้งที่มีคลื่นซัดเข้ามา มันจะหดตัว อ้าปากค้างทำตาโต แต่ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา กลัวจนร้องไม่ออก
ฉินสือโอวลองพาฉงต้าลงไปในทะเลบ้าง ฉงต้าไม่กลัวคลื่นทะเล สามารถดำน้ำได้ แต่กระดานโต้คลื่นอันนี้รับน้ำหนักของมันไม่ไหว เมื่อมันขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น กระดานกลับจมลงไปในน้ำทะเล
ช่วยไม่ได้ ชาร์คและซีมอนสเตอร์จึงได้ทำการดัดแปลงกระดานโต้คลื่นอย่างง่ายๆ โดยติดตั้งห่วงชูชีพไว้อย่างละอันตรงหัวทั้งสองฝั่งของกระดาน เมื่อเป็นแบบนี้พอฉงต้าปีนขึ้นไป มันจึงไม่จมลงไปในน้ำ
ขณะที่ปีนอยู่บนกระดานโต้คลื่น ฉงต้าเงยหน้าขึ้นมองผู้คนกลุ่มหนึ่งด้วยสายตาว่างเปล่า ฉินสือโอวที่ถ่ายทำอยู่บนเรือเล็กโบกมือให้กับมัน ฉงต้าเลยโบกอุ้งมือของมันด้วยท่าทางทึ่มๆ ตาม
เหล่าช่างภาพรวมตัวกันเนืองแน่น ร้องตะโกน เดี๋ยวอัดเทป เดี๋ยวถ่ายภาพนิ่ง จนฉงต้าตกใจกระโดดลงไปในน้ำ ดำน้ำไปจับปลาค็อดแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารเย็น ฉินสือโอวและวินนี่ใช้ประโยชน์จากอุณหภูมิที่สูงของน้ำจากดวงอาทิตย์ในตอนเที่ยงเปลี่ยนเสื้อผ้าไปดำน้ำ ครั้งนี้เป็นการดำน้ำลงไปที่ตำแหน่งบริเวณใกล้ๆ กับแนวปะการัง
เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือในการถ่ายทำโปรโมต และเก็บความทรงจำที่ดีไว้ พวกเขาจึงไม่ได้สวมชุดดำน้ำ แต่สวมชุดที่ดูทางการหน่อย
ฉินสือโอวสวมชุดสูท และวินนี่สวมชุดกระโปรงยาวสไตล์ชุดแต่งงานสีแดงสด เสื้อผ้าเหล่านี้ทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ใช่ผ้าฝ้าย แต่เป็นพลาสติก ดังนั้นจะไม่ดูดซับน้ำและยึดติดกับร่างกายของพวกเขาหลังจากลงไปในน้ำ
อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าประเภทนี้ใส่แล้วไม่รู้สึกสบายเนื้อสบายตัว แต่ได้รับการจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับการถ่ายภาพใต้น้ำ
ทั้งสองคนจูงมือกันและกันดำดิ่งลงไปในน้ำทะเล เบิร์ดและนีลเซ็นก็ตามลงไปด้วย หนึ่งในนั้นได้ถือถังก๊าซออกซิเจนไปด้วย เพราะถ้ารู้สึกว่าหายใจไม่ออกแล้ว ฉินสือโอวและวินนี่ก็สามารถไปสูดออกซิเจน แล้วค่อยถ่ายทำต่อได้
พวกเขาดำน้ำด้วยกันทั้งหมดสองรอบ รอบหนึ่งใช้เวลา 20 นาที รอบแรกเป็นการถ่ายรูป ให้ตั้งท่าโพสต่างๆ เป็นการถ่ายภาพแบบศิลปะ ส่วนครั้งที่สองเป็นการอัดวิดีโอ โดยทำตามความต้องการของผู้กำกับ นั่นก็คือการเต้นแลมบาดา
ฉินสือโอวผ่อนคลายสบายๆ เมื่ออยู่ในน้ำเหมือนกับตอนอยู่บนบก เขาจับมือวินนี่นำท่าเต้นในน้ำ วินนี่แค่ทำตามเขาก็พอแล้ว เพลงวอลซ์ชุดหนึ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ฉินสือโอวเคยดูพวกนี้บ่อยๆ ดังนั้นทุกอย่างจึงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากที่พวกเขาขึ้นฝั่ง ฉินสือโอวก็ถอดชุดพลาสติกออกแล้วเช็ดตัวเองให้แห้ง ผู้กำกับด้านหนึ่งก็ดูวิดีโอที่ถ่ายทำ อีกด้านหนึ่งก็พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า “เพื่อนผอง ผมต้องบอกจริงๆ เลยว่า เมื่อกี้ที่พวกคุณอยู่ในน้ำสวยงามสุดยอดไปเลย! รอดูคลิปที่ผมตัดต่อนะ พอตัดต่อเสร็จ ผมกล้าพนันเลยว่า คลิปนี้ต้องเป็นคลิปดีที่สุดแห่งปีในยูทูบอย่างแน่นอน!”
“ก็หวังว่านะครับ” ฉินสือโอวยิ้มตามระเบียบ เขาเดินเข้าไปดู
ตอนนี้ยังมองภาพไม่ออก เพราะว่าการเต้นในน้ำของพวกเขาแยกกันถ่ายทำ เพราะระหว่างนั้นต้องคอยสูดออกซิเจน ทุกๆ 20-30 วินาทีก็ต้องตัดเป็นหนึ่งเทค แต่ถ้าตัดต่อออกมาก็คงไม่เหมือนกันแล้ว
หลังจากขึ้นฝั่งเขาก็พักผ่อนสักพัก หลังจากนั้นก็ทำการกระโดดน้ำเป็นสิ่งสุดท้าย
ตอนเริ่มแรกง่ายดายมาก เขากระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร หลังจากที่เขาเช็กความสูงแล้ว เขาจึงพาหู่จือและเป้าจือขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ด้วย หัวเราะแล้วพูดว่า “เดี๋ยวสักพักโดดด้วยกันนะ”
เจ้างี่เง่าไร้เดียงสาพวกนี้ไม่รู้ว่ามีอะไรกำลังรอพวกมันอยู่ ดังนั้นเมื่อขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์จึงดีใจกันมาก หู่จือและเป้าจือแสยะยิ้มแล้วแลบลิ้นออกมา พวกมันนึกว่าจะได้บินขึ้นท้องฟ้าไปโต้ลม
แต่เมื่อประตูห้องโดยสารเปิดออก พวกมันก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่ละตัวจึงถอยหนีหดตัวไปหลบอยู่ในมุม
ฉินสือโอวลากหู่จือออกมา พอหู่จือยื่นหน้าออกไปมองที่ด้านนอกมันก็ฉี่ราดทันที อ้าปาก ร้องว่า “บูวว เอ๋งๆๆ!”
ลมที่เกิดจากการหมุนปีกของเฮลิคอปเตอร์นั้นแรงมาก แค่หู่จืออ้าปาก ลมก็เข้ามาเต็มปาก จะร้องอย่างไรก็ไม่มีเสียง
ฉินสือโอวจับอุ้งมือของหู่จือไว้ทักทายกับช่างภาพที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ หน้าของหู่จือสลดอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงร้องได้ มันจึงทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมา
“กระโดดละนะ!” ฉินสือโอวตะโกนร้องอย่างมีความสุข กอดหู่จือแล้วกระโดดจากห้องผู้โดยสาร
บนท้องฟ้ามีน้ำกระเซ็นสายหนึ่ง ในเวลานี้เองหู่จือทนต่อไปไม่ได้ จึงฉี่ราดออกมา…
ใต้น้ำก็มีกล้องถ่ายรูปเช่นกัน พอฉินสือโอวตกลงไปในน้ำก็ปล่อยหู่จือออก ก่อนอื่นเลยหู่จือทำท่าทางถลึงตาโตเหมือนจะตายแบบนั้น แต่พอเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงขยับขาทั้งสี่ข้างดำน้ำไปตามกระแสน้ำ แล้วจึงค่อยว่ายผุบขึ้นมา
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร่อนลง ทั้งเป้าจือ หัวไชเท้าน้อย และราชาซิมบ้าต่างอยากจะออกไปวิ่งข้างนอก แต่ฉินสือโอวกั้นเอาไว้ บินขึ้นไปต่อแล้วเริ่มดำเนินการในลำดับถัดไป
ตัวถัดมาก็คือเป้าจือ เป้าจือยังดีหน่อย ดูทึ่มๆ ไม่ได้หวาดกลัวอะไร แค่กระโดดลงไปก็จบ
หัวไชเท้าน้อยกับราชาซิมบ้ากลัวน้ำ ตอนที่ฉินสือโอวกอดพวกมันไว้ พวกมันดิ้นไปดิ้นมาเต็มที่ หัวไชเท้าน้อยใช้เล็บอันแหลมคมที่อุ้งเท้าของมันฉีกหนังแท้ที่หุ้มเบาะนั่งบนเฮลิคอปเตอร์ขาดเป็นชิ้นๆ ทำอย่างไรก็จะเกาะไว้ไม่ยอมกระโดดลงไป
วินนี่พูดว่า “ช่างเถอะค่ะ ที่รัก อย่าทำให้พวกมันลำบากเลยนะ พวกเรามาโดดกันดีกว่า”
แม่ที่รัก หัวไชเท้าน้อยและราชาซิมบ้ารู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ตัวหนึ่งพยายามใช้หัวถูๆ ไปที่วินนี่
คนสองคนจับมือกันกระโดดลงไปในน้ำ หลังจากลงไปในน้ำแล้ว ฉินสือโอวก็โอบกอดวินนี่ไว้แล้วจูบอย่างดูดดื่มกับเธอ เหมือนกับให้ออกซิเจนเธอไปด้วย
หลังจากกระโดดน้ำ วินนี่ยังคงรู้สึกติดใจอยู่ เธอจึงขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์อีกครั้ง แล้วให้ฉินสือโอวรอรับเธอข้างล่าง หลังจากนั้นเธอก็มองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไปที่หัวไชเท้าน้อยและราชาซิมบ้า…
…………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1595 มากระโดดด้วยกัน
Posted by ? Views, Released on January 2, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!