ฉลามกบเป็นฉลามที่ตัวเล็ก พวกมันยาวประมาณสามเมตรเท่านั้น แต่สำหรับฉลามทั้งเจ็ดพี่น้องไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะพลังโพไซดอนทำให้พวกมันมีการวิวัฒนาการในด้านอื่นๆ พวกมันไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่เท่าไร ตอนนี้พวกมันยาวเพียงประมาณสองเมตรเท่านั้น
ความยาวสองเมตรถือว่าเล็กสำหรับปลาทะเล ไม่ต้องพูดถึงฉลามและวาฬพวกนั้นที่มีความยาวหลายสิบเมตร ขนาดปลาค็อดยังมีความยาวได้ถึงสองเมตรกว่า ปลาทูน่าครีบเหลืองและปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็สามารถยาวได้ถึงสี่ถึงห้าเมตร
ดังนั้น เมื่อในฟาร์มปลามีปลาตัวใหญ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องก็ต้องยิ่งระวังตัวมากขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อสามเกลอมีขนาดตัวที่โตมาก เลือดฉลามเสือทรายในตัวของไอซ์สเกตเริ่มแสดงออกมาให้เห็น จู่ๆ มันก็ดูท่าทางดุร้ายขึ้นมา แม้ว่าสโนว์บอลจะมีท่าทางดูนุ่มนวลและอ่อนโยน แต่มันก็ยาวถึงเกือบห้าเมตร ตัวของมันถือว่าใหญ่กว่าฉลามเจ็ดพี่น้องมาก
เพราะแบบนี้เมื่อฉลามแมวเจ็ดพี่น้องมาถึงน่านน้ำบริเวณแนวปะการังพวกมันจึงทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะปลาและกุ้งที่อยู่น่านน้ำบริเวณแนวปะการังรสชาติอร่อยและมีพลังโพไซดอนอยู่มากล่ะก็ แบบนั้นพวกมันก็ไม่ได้อยากที่จะมาที่นี่ เจ้าสามเกลอมีอารมณ์หงุดหงิดและไม่มั่นคง ทำให้พวกมันได้สัมผัสได้กับความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กับเสือได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้ ความรู้สึกนั้นกลับมาอีกแล้ว
ฉลามพี่น้องทั้งเจ็ดตัวว่ายน้ำไปมาอย่างกระตือรือร้น ปรากฏว่ากลับชนเข้ากับเจ้าสามเกลอที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ พวกมันต้องการหนีออกไปให้เร็วที่สุด แต่ว่าก็ช้าเกินไป เมื่อเจ้าสามเกลอเจอเข้ากับพวกมัน แววตาของพวกมันก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
มันเดย์คายปลาหัวเมือกสีแดงออกมาจากปาก มันหมุนตัวแล้วหลับหนีไปอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายที่ตอนแรกมันเป็นผู้นำฝูง แต่เมื่อมันหันกลับไป ตอนนี้มันกลับกลายเป็นผู้โชคร้ายที่อยู่ด้านหลังสุด แต่ว่าหลานชายตัวนี้ฉลาด เมื่อมันสังเกตเห็นความผิดปกติมันก็รีบมุดดำลงไปใต้น้ำทันที พวกมันหาถ้ำตามแนวปะการังแล้วหลบเข้าไปข้างใน
พี่น้องอีกหกตัวยังคงว่ายน้ำต่อไปด้วยความตื่นตระหนก สโนว์บอลและไอซ์สเกตยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะตามมันเดย์เข้าไปที่ถ้ำในแนวปะการัง เพราะว่าร่างของมันไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าหากเข้าไปในถ้ำไม่ได้ก็ไม่สามารถจับมันเดย์ได้
มันเดย์ที่เข้าไปในถ้ำยิ้มออกมาด้วยความลำพองใจ เหอๆ เจ้าพวกโง่ ข้าไม่ได้เพียงแต่เกิดมาก่อนหน้านี้ไม่นาน แต่ยังมีสติปัญญาที่เฉียบแหลมอีกด้วย และเจ้าพวกโง่เหล่านั้น ที่กลั่นแกล้งอะไรโง่ๆ ขอให้เทพโพไซดอนอวยพรให้พวกเจ้าถูกจับกินให้หมด!
หลังจากลำพองใจได้อยู่ครู่หนึ่ง มันเดย์ที่ฉลาดก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง อย่างนี้ในแต่ละวันจะเป็นอย่างไรกันล่ะ แม้ว่าเจ้าพวกนั้นจะโง่และอ่อนแอ แต่หากพวกนั้นยังอยู่ มันก็ไม่สามารถออกไปหาอาหารแถวแนวปะการังได้
ในขณะที่กำลังรู้สึกเศร้าอยู่นั้น มันเดย์ก็จับสัมผัสของคลื่นเสียงในทะเล เมื่อมันรู้สึกได้ว่ารอบๆ ไม่มีร่องรอยของปลาขนาดใหญ่อยู่ มันจึงขยับตัวไปข้างหลังและค่อยๆ ออกมาจากถ้ำ
เมื่อออกมาจากถ้ำปะการัง มันเดย์ก็หันกลับมาด้วยท่าทีราวกับผู้สูงส่ง หลังจากนั้นมันก็เห็นดวงตาคู่หนึ่งมองมาทางมันด้วยแววตาสดใส แววตานั้นมองมายังมันด้วยเจตนาที่ไม่ดีเลย
ท่าทางไม่ดีแล้ว นี่มันถูกหลอกหรือเนี่ย! ทันใดนั้นมันเดย์ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด โชคดีที่มันมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว มันไม่ให้กลับไปอย่างไร้ประโยชน์ มันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะหันกลับไป แล้วกลับเข้าไปหลบอยู่ในแนวปะการังเหมือนเดิม
หลังจากที่ตัดสินใจและเข้าไปในแนวปะการังเพื่อปกป้องตัวเองแล้ว มันเดย์ก็ถอนหายใจออกมา เมื่อกี้มันกลัวจนแทบตาย ยังดีที่มันตอบสนองเร็ว ไม่อยากนั้นคราวนี้มันโดนโกงอีกแน่ๆ
ในตอนที่มันกำลังถอดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่หนีตายราวกับสุนัขออกมานั้น หัวใหญ่หัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในถ้ำปะการัง หลังจากนั้นก็มีดวงตากลมโตเป็นประกายจ้องมองมาที่มัน ดวงตาคู่นั้นมองมาอย่างประสงค์ร้าย
มันเดย์ตกตะลึงจนนิ่งจนเหมือนปลาไม้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? ทำไมมันถึงไม่ได้โง่แล้วล่ะ?
บีนที่มีขนาดยาวสองเมตรกว่ามองมายังเชมันเดย์พลางยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา หนีไปสิ หนีต่อไปสิ ข้าจะตามเจ้า ไล่ตามเจ้าก็เพราะว่าข้าอยากคุยกับเจ้า ฮี่ๆ…
มันเดย์คิดอยากจะหนี แต่จะให้มันหนีไปที่ไหนล่ะ? ที่ด้านหลังของหางมันคือก้นถ้ำปะการังแล้ว
จบกัน ชีวิตข้าจบแล้ว มันเดย์ผู้ฉลาดหลักแหลมที่หนึ่งของโลกตอนนี้จนมุมแล้ว มันรู้ว่าในครั้งนี้มันจะต้องเจอกับความทรมาน!
ฉินสือโอวมองดูมันเดย์ที่กำลังทุกข์ใจอย่างสนุกสนาน สามเกลอมีเพื่อนเล่นก็ดีแล้ว แต่จะเล่นกับใครเขาก็ไม่สนใจ
พอไม่มีสามเกลอมากวนใจ เขาก็เก็บหอยนางรมลอยใส่ในตาข่ายได้อย่างรวดเร็ว เขาว่ายน้ำขึ้นมาบนผิวน้ำพร้อมกับอวนตาข่าย เขาอุ้มตาข่ายนั้นขึ้นเรือลำเล็กอย่างง่ายดาย จากนั้นก็เทหอยออกมา
เขาทิ้งเปลือกหอยทั้งหลายไว้บนเรือ จากนั้นฉินสือโอวก็ลงน้ำไปอีกครั้ง และก็ไปเก็บอวนตาข่ายขึ้นมาอีกครั้ง กระบวนพวกนี้ไปในทิศทางเดียวกันตลอดๆ เขาเก็บตาข่ายไปเรื่อยๆ จนเจอเข้ากับนีลเซ็นและเบิร์ด เขาจึงกลับขึ้นเรือ
เรือที่พวกเขาขับมาคือเรือฮาวิซท ไม่ต้องพูดถึงกองเปลือกหอยที่กองรวมกันราวกับภูเขาลูกหนึ่งเลย นี่ยังถึงว่าเก็บขึ้นมาได้ค่อนข้างน้อย นีลเซ็นและเบิร์ดขับเรือประมงเข้ามาใกล้ ในเรือของพวกเขาก็มีกองหอยนางรมลอยขนาดใหญ่อยู่หนึ่งกองเช่นกัน
ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมไข่มุกสีดำ ไข่มุกดำจะเป็นไข่มุกทะเล ที่ไม่เหมือนกับไข่มุกในน้ำจืด สามารถแบ่งพวกมันได้โดยดูจากลักษณะทั้งเจ็ดคือจากสี ขนาด ความเงางาม รูปร่าง การจับคู่ และความหนาของมัน โดยทั้งหมดสามารถแบบได้เป็นสี่ระดับ
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นและเบิร์ดนำหอยนางรมจากเรือของพวกเขามาไว้ที่เรือฮาวิซท เขาได้เตรียมกล่องน้ำแข็งเอาไว้สองสามใบ หลังจากที่แกะเปลือกหอยและนำไข่มุกออกมาแล้ว เขาก็จะทำการแยกระดับของไข่มุกเบื้องต้นและเก็บไว้ในกล่องน้ำแข็ง
แต่ว่าหอยนางรมลอยไม่ได้แกะได้ง่ายๆ กล้ามเนื้อของหอยป่านั้นมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เปลือกหอยก็ค่อนข้างแข็ง การจะนำไข่มุกออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ฉินสือโอวมีเคล็ดลับในการแกะเปลือกหอย เพียงแค่วางพวกมันลงในน้ำและใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสั่งให้พวกมันเปิดออก แต่ต่อหน้านีลเซ็นและเบิร์ด เขาไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ จึงเหลือเพียงทางเดียวเท่านั้น นั่นคือการ…ย่างไฟ!
เตาไฟถูกหยิบออกมาสองเตา ฉินสือโอวเลือกหอยรางรมลอยขึ้นไปวางไว้บนเตา อีวิลสันก็รีบเข้าไปในห้องโดยสารทันที ไม่นานเขาก็วิ่งออกมา เขาขวดหลายขวดที่ถือออกมาพลางพูดว่า “เกลือ หยี่หร่า พริกไทย ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู พริกป่น…”
ฉินสือโอวไม่ได้พูดอะไร เขาอธิบายออกมาว่า “อีวิลสัน ตอนนี้ยังกินไม่ได้ หอยพวกนี้สกปรกเกินไป รอให้เปิดเปลือกของพวกมันแล้วเอาไข่มุกออกมาก่อน จากนั้นก็ทำความสะอาดให้สะอาดถึงจะกินได้ เข้าใจไหม?”
อีวิลสันพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาอย่างตั้งใจว่า “สกปรกก็กินได้ ของในขยะก็สามารถกินได้”
คำพูดนั้นทำให้ฉินสือโอวนึกถึงเมื่อสี่ปีก่อนที่เขาพึ่งเจอกับอีวิลสัน ตอนนั้นอีวิลสันกำลังคุ้ยถังขยะเพื่อหาของกินที่อยู่ด้านใน หลังจากนั้นเขาก็พาอีวิลสันมาที่ฟาร์มปลา ตอนนั้นอีวิลสันใช้ชีวิตอย่างไม่สนใจที่เลือกกินและดื่ม ฟังดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา เขาตบเบาๆ เข้าที่แขนของอีวิลสันแล้วพูดว่า “โอเค งั้นก็ย่างก่อนกินนะ”
หอยนางรมลอยที่ถูกเลี้ยงในทะเลที่สะอาด รสชาติของมันไม่ได้แย่อยู่แล้ว ฉินสือโอวให้เปลือกหอยย่างอยู่บนความร้อนราวสิบนาที เมื่อความถูกส่งผ่านเปลือกหอยนางรมลอย เปลือกของพวกมันก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นไข่มุกสีดำและสีขาวอมแดงหลายเม็ดที่มีขนาดเล็กใหญ่ต่างกันที่อยู่บนเนื้อหอย
ฉินสือโอวใช้มีดตัดเนื้อของหอยออกมา เขาเลือกเนื้อหอยที่อยู่ด้านใน จากนั้นเขาตัดกล้ามเนื้อของหอยและหยิบเนื้อของมันออกมา เนื้อหอยค่อนข้างสะอาดทีเดียว เขาจึงให้นีลเซ็นหาไม้ไผ่มา จากนั้นก็นำเนื้อหอยเสียบเข้าไปและวางไว้บนตะแกรงเตาไฟ ไม่นานเนื้อหอยสีขาวอมแดงก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง
……………………………
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1635 เนื้อหอยสีเหลืองทอง
Posted by ? Views, Released on January 2, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!