ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1713 ปลาเก๋าลายจุดตัวอวบอ้วนสวยงาม

พอเห็นความดีใจและได้ใจของพวกซีมอนสเตอร์แล้ว ฉินสือโอวจึงปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในดงสาหร่ายสีน้ำตาลของฟาร์มปลาเพื่อสำรวจดู
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าฟาร์มปลาของตัวเองจะมีฝูงปลาใหม่เข้ามา ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยแต่กลับเป็นชาวประมงใต้อาณัติเขาที่รู้ก่อนซะงั้น ถ้าอยู่ที่ฟาร์มปลาต้าฉินไม่มีทางที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแน่นอน เพราะว่าเขาตามเฝ้าติดตามฟาร์มปลาแห่งนี้เป็นพิเศษ ถึงขั้นออกไปตรวจตราทุกวันเลย
ส่วนทางฝั่งฟาร์มปลาต้าฉินสอง เพราะว่าเพิ่งจะซื้อมาคุณภาพน้ำก็ขุ่นจึงไม่ค่อยมีปลาอะไร เขาจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องปลาเท่าไร เพราะอย่างไรเสียก็ไม่ได้พึ่งมันในการเพาะพันธุ์ปลาอะไรอยู่แล้ว ทุกครั้งที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปในฟาร์มปลา ก็จะมุ่งเน้นไปที่สภาพการเจริญเติบโตของพวกสาหร่ายและพืชน้ำมากกว่า
ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาคือปลาทะเลที่ค่อนข้างมีมูลค่าสูงในทะเลแถบมหาสมุทรแอตแลนติก เดิมทีพวกมันจะอาศัยอยู่ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของอเมริกาและมอสโก แต่ภายหลังเพราะการกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก ทำให้พวกมันว่ายไปทางเหนือแล้วเข้ามาสู่น่านน้ำของแคนาดา แต่ว่าก็เป็นน่านน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกแคนาดาหรือไม่ก็ทางฝั่งตอนใต้เท่านั้น
ปลาชนิดนี้เติบโตเร็ว ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี อัตราการสร้างเนื้อสูง คุณค่าทางอาหารก็สูง แน่นอนว่าราคาก็สูงด้วย ตลาดในปัจจุบันส่วนมากจะเห็นแต่ปลาที่เลี้ยงไว้มากกว่า หนึ่งปอนด์สามารถขายได้ถึงสิบหนึ่งยี่สิบดอลลาร์แคนาดา เมื่อเทียบกับราคาปลาเลี้ยงในแคนาดาที่ค่อนข้างต่ำ ราคานี้จึงถือว่าสูงแล้ว
ส่วนปลาเก๋าลายจุดอเมริกาตามธรรมชาติราคาจะสูงกว่า ในตลาดทั่วๆ ไปสามารถขายได้ราคาปอนด์ละห้าสิบดอลลาร์แคนาดา หากว่าเข้าไปอยู่ในโรงแรม งั้นหนึ่งปอนด์ก็จะสามารถขายได้ราคาถึงหลายร้อยดอลลาร์แคนาดาได้แบบสบายๆ เลย
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวเคยคิดที่จะเลี้ยงปลาเก๋าลายจุดอเมริกาอยู่ ในงานประมูลปลาก็มีการปรากฏตัวของมันด้วย แต่ว่าพอคิดๆดูแล้วก็ตัดสินใจไม่เลี้ยงดีกว่า ตลอดทั้งปีทางฟาร์มปลาต้าฉินมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำค่อนข้างมาก ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงปลาประเภทนี้
แต่ความจริงแล้วปลาเก๋าลายจุดอเมริกานั้นเลี้ยงให้โตได้ง่ายมาก เพราะพลังชีวิตแข็งแกร่ง ปลาเก๋าลายจุดล้วนมีจุดเด่นในเรื่องนี้ทั้งนั้น อึดและทนทานมาก แต่ว่าพวกมันอยู่ในปลาจำพวกปลาอบอุ่นที่มีช่วงความทนต่ออุณหภูมิและความเค็มของน้ำค่อนข้างกว้าง อุณหภูมิน้ำที่เหมาะแก่การดำรงชีวิตคือ  5 ถึง 30 องศาเซลเซียส ในจุดนี้ทางฟาร์มปลาต้าฉินสามารถทำได้แบบเฉียดฉิว
แต่ว่า นี่น่ะเป็นแค่อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิตของพวกมันเท่านั้น สิ่งที่ฟาร์มปลาต้องการคืออุณหภูมิที่เหมาะแก่การเจริญเติบโต ซึ่งปลาเก๋าลายจุดอเมริกาต้องการที่ 17 ถึง 25 องศาเซลเซียส ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นตามทฤษฎีแล้วพวกมันไม่มีทางเติบโตที่ฟาร์มปลาต้าฉินได้เลย
ดังนั้นหลังจากฉินสือโอวคิดทบทวนดูแล้ว จึงไม่ได้ทำการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องทำเลของฟาร์มปลาต้าฉินแล้ว ไม่ถือว่าเป็นฟาร์มปลาที่ดีเลย มีปลาหลายชนิดเลยที่ไม่สามารถเลี้ยงได้ เขาแปลกใจจริงๆ ว่าตอนแรกทำไมคุณปู่รองถึงไม่ไปหาเกาะเล็กๆ ที่ไร้ผู้คนในมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อทำการเพาะเลี้ยง
แต่ว่าเมื่อคิดถึงว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว เซนต์จอห์นก็คือเมืองเล็ก สถานที่อย่างเกาะแฟร์เวลก็เป็นที่ที่นอกจากมีชาวประมงอยู่อาศัยแล้วก็ไม่มีใครอีกเลย
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวเข้าไปในน้ำแล้วก็ทำการสำรวจอยู่สักพัก แต่ก็ยังไม่พบปลาเก๋าลายจุดอเมริกาเลย ดังนั้นเขาจึงถามพวกซีมอนสเตอร์อย่างแปลกใจว่าไปเจอที่ไหน
ซีมอนสเตอร์บอกตำแหน่งกับเขา ว่าให้มุ่งไปทางใต้เรื่อยๆ อยู่ประมาณทางตอนใต้ของดงสาหร่ายสีน้ำตาล พวกเขาได้พบกับปลาเก๋าลายจุดอเมริกาที่นั่น แล้วก็จับมาได้อีกหนึ่งแหด้วย
พูดจบ เขาก็ผิวปากให้บูลทีหนึ่ง บูลชูปลาใหญ่ตัวหนึ่งขึ้นมาให้เขาดู รูปร่างของปลาตัวนี้ออกสีน้ำตาลเข้ม ตัวปลาบางแต่เนื้อแน่น มองจากด้านข้างเป็นรูปทรงวงรี ด้านบนมีเกล็ดปลาเล็กจำนวนมากขึ้นอยู่ มีลายสีขาวอ่อน แล้วก็มีปากที่ใหญ่
ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาตามธรรมชาติสามารถเติบโตได้มาก เคยมีคนตกได้สุดยอดปลาใหญ่ชนิดนี้ที่มีน้ำหนักกว่าสองสามร้อยปอนด์ และมีความยาวสองเมตรกว่าด้วย ตัวที่บูลชูขึ้นมาตัวนี้ก็มีความยาวครึ่งเมตร คืนนี้พวกเขาจะกินปลาตัวนี้นั่นแหละ
เมื่อหาสถานที่เจอแล้ว ฉินสือโอวก็เข้าไปดูอีกครั้ง ในที่สุดครั้งนี้ตรงดงใบสาหร่ายน้ำตาลเขาก็เจอเข้ากับปลาทะเลชนิดนี้สักที ว่าไปพวกมันซ่อนตัวได้แนบเนียนเสียจริง…
ไม่ใช่เพราะสายตาเขาไม่ดี แต่เพราะปลาเก๋าลายจุดอเมริกานั้นเก่งเรื่องการซ่อนตัวมาก ไม่สามารถพบเจอได้ง่ายและไม่สามารถจับได้ง่ายด้วย ดังนั้นราคาของพวกมันถึงได้สูงขนาดนี้
แต่ว่าที่ปลาชนิดนี้ต้องหลบซ่อนตัว ไม่ใช่เพราะต้องหลบศัตรูธรรมชาติหรือการถูกมนุษย์จับหรอก แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนพันธุ์เดียวกันเห็นมากกว่า ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาเป็นสัตว์ที่ชอบการต่อสู้แต่กำเนิด เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วมักจะเกิดการต่อสู้กันเป็นประจำ
การเพาะปลาชนิดนี้ของฟาร์มปลาแถบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกทางตอนใต้ของอเมริกามักจะเลี้ยงโดยใส่อุปกรณ์สำหรับซ่อนตัวไว้ในกระชังด้วย ไม่อย่างนั้นก็รอเก็บศพปลาทุกวันได้เลย
เหตุผลที่ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาชุดนี้หนีมาที่นี่ น่าจะเป็นเพราะถูกสาหร่ายสีน้ำตาลดึงดูดมานั่นแหละ อุณหภูมิน้ำที่อ่าวโกลเด้นท์ก็สูงกว่าน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือแถบอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงอยู่ที่นี่ต่อเลย
มีปลามากมายที่หน้าตาตอนมีชีวิตและตอนตายจะแตกต่างกันมาก อย่างเช่นปลาอีโต้มอญในฟาร์มปลาต้าฉิน ปลาชนิดนี้ตอนมีชีวิตจะมีสีเขียวเข้มสวยสด แต่พอตายแล้วสีก็จะซีดลงแล้วเปลี่ยนไปเป็นสีเทาขาวทันที
ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาก็เหมือนกัน ปลาที่บูลชูขึ้นมาตัวนั้น ดูเหมือนจะหน้าตาน่าเกลียดมาก แต่ตอนนี้ฉินสือโอวได้เห็นปลาใต้น้ำที่ยังมีชีวิตอยู่ กลับรู้สึกว่าสวยงามอย่างมาก
ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาพวกนี้มีครีบที่ใหญ่มาก หลังจากตายแล้วครีบนั้นจะหุบลง แต่ตอนนี้พอมีชีวิตอยู่ก็จะสยายเปิดออก เผยให้เห็นลวดลายกับจุดสีขาวจำนวนมาก ส่วนหัวและขอบครีบของพวกมันมีสีเขียวหยก บนตัวมีสีหลากหลายสวยงาม มีลายจุดหลากสี แต่ว่าตัวปลาจะออกสีเขียวหยก เมื่อเป็นแบบนี้ พอพวกมันซ่อนตัวอยู่ในใบไม้แล้วทำให้หาเจอได้ยาก
ถือว่าปลาเก๋าลายจุดอเมริกาพวกนี้โชคดี ที่มาถึงที่นี่ตอนฤดูร้อน หากว่าเป็นฤดูหนาวแล้วล่ะก็ แม้พวกมันจะไม่หนาวตายแต่ก็อยู่ไม่ดีอยู่ดี อย่างน้อยๆ ก็ไม่สามารถเติบโตตามปกติได้
ฉินสือโอวออกตามหาปลาเก๋าลายจุดอเมริกาเพื่อจะแผ่พลังโพไซดอนให้พวกมัน แต่หลังจากหาไปหามาสักพักก็พบว่าปลาพวกนี้มีจำนวนไม่น้อยเลย แต่พวกมันอยู่กันแบบกระจัดกระจาย ทำให้การแผ่พลังโพไซดอนให้ค่อนข้างวุ่นวาย
จนปัญญา เขาขี้เกียจหาต่อไปแล้ว จึงทำเหมือนแสงแดดส่องประกาย น้ำค้างหยดลง คือการแผ่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนคลุมไปทั่วทะเลแถบนี้ จากนั้นก็แผ่พลังโพไซดอนออกไปคลุมไปทั่วทะเลอีกแถบหนึ่ง พร้อมกับปล่อยพลังโพไซดอนจำนวนมากออกไป
หลังจากเขาสาดพลังโพไซดอนออกไปเสร็จแล้ว ความมืดก็เริ่มกล้ำกรายเข้ามา พระอาทิตย์ตกดิน เมฆสีแดงได้ย้อมสีให้กับท้องฟ้า
เหล่าชาวประมงกำลังจัดการกับปลาเก๋าลายจุดอเมริกาที่จับขึ้นมาได้ ซีมอนสเตอร์บอกว่าหว่านแหไปครั้งหนึ่ง แต่ความจริงก็ไม่ได้จับปลาได้เยอะเท่าไร พวกมันไม่ได้อาศัยอยู่กันเป็นกลุ่ม แถมยังมีสาหร่ายสีน้ำตาลให้ซ่อนตัวอีก การจะจับมันจึงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ฉินสือโอวเห็นเหล่าชาวประมงพากันยกเตาปิ้งย่างออกมาอีกแล้ว เขาจึงเริ่มหมดคำจะพูดขึ้นมาทันใด เจ้าคนเถื่อนพวกนี้นอกจากปิ้งย่างแล้วเหมือนจะไม่รู้จักวิธีทำอาหารอย่างอื่นอีกเลย ไม่ว่าอะไรก็สามารถเอามาปิ้งย่างได้หมด
ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปปัดมือ บอกให้ไปเก็บกวาดทำความสะอาดห้องครัว เดี๋ยวเขาจะไปจัดการปลาพวกนี้เอง ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาเป็นปลาตระกูลหนึ่งของปลาเก๋าลายจุด ไม่สามารถใช้วิธีการปิ้งย่างได้ หากนำไปเผาไฟโดยตรงจะทำให้สูญเสียสารอาหารในตัวพวกมันได้
ปลาเก๋าลายจุดอเมริกาเป็นประเภทปลาดุร้ายที่กินเนื้อเป็นอาหาร ชื่นชอบการหาอาหารโดยการซุ่มโจมตีสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง ปลาตัวเล็กทุกชนิดและสัตว์ชั้นเซฟาโลพอด เพราะว่าพวกมันล่าปลา กุ้ง ปูเป็นอาหารเป็นประจำ จึงได้ทำการดูดสารแอสตาแซนธินที่มีมากในตัวกุ้งกับปูไปด้วย สารแอสตาแซนธินพวกนี้มีคุณค่ามากกว่าโปรตีนหรือไขมันเป็นอย่างมาก การนำไปย่างไฟโดยตรงจะเป็นการลดปริมาณของสารแอสตาแซนธินนี้ลง
ฉินสือโอวเลือกใช้วิธีการนึ่งมาทำอาหาร วิธีการทำง่ายเหมือนกัน แต่ว่าสารอาหารที่รักษาไว้ได้กลับมากในแบบที่การปิ้งย่างให้ไม่ได้เลย อีกอย่างการนำไปนึ่งยังสามารถรักษาความสดของปลาเก๋าลายจุดอเมริกาได้อีกด้วย
…………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset