ท่าทีขี่วาฬยักษ์ของฉินสือโอวซื้อใจพวกหนุ่มห่ามนี่ได้ทันใด พอเข้าเทียบฝั่ง ตอนที่เขากับวาฬเลาะชายฝั่งทะเล ก็มีคนเห็นมากขึ้น และมีคนสนใจมากขึ้น
เรคร้องอยากขอขึ้นไปขี่หน่อย ฉินสือโอวปฏิเสธโดยไม่ลังเล ไอ้บ้า นี่คือพาหนะโพไซดอน มนุษย์อย่างเจ้าจงหลบไป!
เจอแบบนี้เรคก็โมโหยกใหญ่ ตะคอกออกมาว่า “ฉิน นายไม่รักเพื่อนเลยนะ! ไอ้งี่เง่า ใครกันที่หาอานวาฬมาให้จนได้? พระเจ้าสอนเราว่าต้องรักกันช่วยเหลือกัน เห็นแก่พระเจ้าเถอะ พาผมไปด้วยเถอะนะ!”
ฉินสือโอวหันมาเงยหน้าหัวเราะร่า “ฝันไปเถอะ ไม่มีวันเสียหรอก รู้ไหมนี่คืออะไร? พาหนะราชาแห่งท้องทะเล ใครคือราชาท้องทะเล? ฉันสิราชาแห่งท้องทะเล!”
พูดไปเขาก็เห็นเจ้าสามตัวปรากฏตัวบนท้องฟ้า พอเห็นแบบนั้นเขาก็ตาเป็นประกาย รีบผิวปากเสียงดัง
เจ้าสามตัวก้มมองมาทางด้านล่าง จากนั้นก็พากันบินลงมาเกาะที่อานวาฬ บุชกระโดดสองทีแล้วกระพือปีกบินไปเกาะบนไหล่เขาแทน แบบนี้ฉินสือโอวก็ยิ่งมีออร่าของราชาแห่งท้องทะเล
ภาพขี่วาฬในทะเลทำให้คนสนใจมาก ไม่ใช่แค่พวกชาวประมงเห็นแล้วสนใจ แม้แต่ฮิลตันคนน้องที่เห็นโลกมาเยอะก็สนใจ เธอให้เบิร์ดขี่เจ็ทสกีตามมาแล้วพูดว่า “ฉิน ให้ฉันขึ้นไปหน่อยได้ไหม?”
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินฉินสือโอวปฏิเสธพวกชาวประมง ฉะนั้นตอนที่ขอร้องจึงจงใจทำเย้ายวน แล้วยังยักคิ้วหลิ่วตาด้วย
น่าเสียดายฉินสือโอวไม่สะเทือนใดๆ เลย “ไม่ นิกิ อย่าโทษผมเลย ผมไม่ยกที่ให้ใครเด็ดขาด!”
ฮิลตันคนน้องทั้งขอร้องทั้งสั่ง ฉินสือโอวก็ไม่สนใจ ตอนหลังเธอเลยโกรธ ตาดวงโตกลอกไปมาก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะแล้วกลับขึ้นฝั่ง จากนั้นก็ล้วงมือถือออกมาโทรศัพท์
ฉินสือโอวไม่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะจัดการได้ในการโทรแค่ครั้งเดียว อาจโทรไปหาคนซื้ออานวาฬมาได้ แต่กลับไม่มีทางหาวาฬหัวทุยที่ทั้งใหญ่ทั้งเชื่องแบบนี้ได้
พอวินนี่เลิกงานกลับมาก็มาเห็นภาพนี้พอดี ฮิลตันคนน้องวิ่งไปบ่นกับเธออย่างน่าสงสาร บอกว่าฉินสือโอวเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว พวกเขาช่วยใส่อานวาฬ แต่เขากลับจะเล่นคนเดียว
หลังจากที่ความคิดขี่วาฬผุดขึ้นฉินสือโอวก็เคยบอกวินนี่แล้ว วันนี้ตอนเขาไปเอาอานวาฬก็พูดอีกรอบ ดังนั้นสำหรับตอนนี้ที่เห็นภาพตรงหน้า วินนี่ไม่ตกใจหรือแปลกใจสักนิด เธอมีการเตรียมใจมาแล้ว
ได้ยินฮิลตันคนน้องบ่นมาเธอก็เรียกฉินสือโอวให้ขึ้นบก “ฉิน ทำไมคุณทำเหมือนเด็กๆ แบบนี้ล่ะ? ให้ทุกคนผลัดกันเล่นไม่ดีเหรอ?”
พอเหล่าชาวประมงได้ยินวินนี่พูดแบบนั้นก็พากันยกนิ้วโป้งให้ เรคชมว่า “อย่างไรนายหญิงก็ใจดีที่สุด!”
น่าเสียดาย พอฉินสือโอวขึ้นฝั่งมา วาฬหัวทุยที่เล่นด้วยเป็นครึ่งวันก็เหนื่อยหอบแล้ว มันรีบหันว่ายลงทะเลลึกไปในทันที แถมยังว่ายดำลงลึกไปเรื่อยๆด้วย พริบตาเดียวก็ว่ายลงไปในเขตทะเลลึก
แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวประมงหรือวินนี่ พวกเขาก็เล่นไม่ได้แล้ว เห็นวินนี่ไม่ค่อยสบอารมณ์ ฉินสือโอวจึงได้แต่สัญญาว่า “พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ รอวาฬหัวทุยมันขึ้นมา ผมจะดึงมันมาให้ทุกคนแน่นอน แล้วใครจะขี่เล่นก็ได้ โอเคไหม?”
เรครีบพูดขึ้นทันที “งั้นผมก็ไม่กลับไปแล้ว คืนนี้กินข้าวที่ฟาร์มปลาคุณนี่แหละ แล้วก็คุณหาห้องให้ผมที”
หลังจากนั้นพอพวกเด็กๆ เห็นวิดีโอที่พวกชาวประมงถ่ายไว้ก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้น “พรุ่งนี้หนูก็จะขี่วาฬด้วย”
ฉินสือโอวพูดอย่างจำยอม “ก็ได้ๆ ได้เล่นทุกคน พวกเธอผลัดกันไปขี่!”
หู่เป้าฉงก็ร้องขึ้นมาแล้วมุงเข้ามาร่วมวงด้วย
มื้อเย็นรับเรค ฉินสือโอวนึกขึ้นได้ว่าปูดันเจเนสส์ของฟาร์มปลาก็ใกล้เอาออกขายได้แล้วเลยให้พวกชาร์คไปจับปู
การจะจับปูในน่านทะเลทั่วไปนั้นไม่ง่าย อย่างน้อยต้องโยนลอบไว้ครึ่งวันถึงจะได้ แต่ฟาร์มปลาต้าฉินอุดมสมบูรณ์มาก พวกชาวประมงก็ตรวจดูสถานการณ์ปลาของฟาร์มทุกวัน หาจุดที่ปูรวมตัวกันเยอะๆ โยนลอบดักปูลงไป ครึ่งชั่วโมงค่อยดึงขึ้นมา ในนั้นก็จะมีปูที่จับได้อยู่
ฤดูร้อนลมแรง ลมทะเลโหมพัดเข้าท่าเรือคลื่นสาดกระเซ็น เพรียงทะเลจำนวนหนึ่งก็เผยตัวออกมาเนืองแน่นไปหมด จำนวนทั้งหมดเยอะแยะมากมาย
เรคเห็นจึงชี้ไปที่เพรียงทะเลแล้วตะโกนว่า “กินอันนี้ๆ อันนี้อร่อยสุด!”
ฉินสือโอวให้เบิร์ดกับนีลเซ็นปีนลงไป ทั้งดึงทั้งขูดเพรียงทะเลมาได้จำนวนหนึ่ง
อย่าเห็นว่าเพรียงทะเลขึ้นอยู่ที่ปลอดภัยอย่างท่าเรือ ที่จริงเทียบกับโขดหินโสโครกแล้วยังเก็บยากกว่า เพราะใต้ท่าเรือไม่มีที่ให้ยืนแถมยังมีคลื่นซัดตลอดเวลา คนยืนอยู่ข้างล่างไม่มั่น การจะเก็บเพรียงทะเลสักส่วนล้วนยากเป็นพิเศษ
เดือนกรกฎาคมลมฤดูกาลก็มาถึง นี่เป็นช่วงดีที่จะกินปลาโอแถบ เหล่าชาวประมงออกทะเลได้ปลาโอแถบมามากมาย ส่วนมากจะทำเป็นปลาโอแถบแห้งส่งร้านต้าฉินตามที่ต่างๆ แต่ยังมีปลาสดอีกส่วนหนึ่งอยู่ในห้องแช่ ที่เหมาะกับการเอามาย่างกิน
ปีนี้ฉินสือโอวปลูกข้าวโพดไว้ส่วนหนึ่งที่พื้นที่ไร่ ตอนนี้ข้าวโพดก็ออกฝักแล้ว เพราะปัญหาเวลาการปลูกไม่แน่นอน ข้าวโพดพวกนี้ไม่ต้องรอจนสุกในเดือนสิงหากันยา ตอนนี้มีฝักใหญ่ที่กินได้แล้ว
เชอร์ลี่ย์ถามว่าต้องต้มกินใช่ไหม ฉินสือโอวบอกว่าต้องต้มให้สุกก่อนถึงจะย่างกินได้ ข้าวโพดย่างถึงจะอร่อย
เล่นสนุกมาทั้งวันเขาก็หิวแล้ว อาหารทะเลกับเนื้อย่างมีคนจัดการอยู่ เขาเลยเอาฝักหนึ่งมาแทะ
เดิมทีเหล่าเด็กๆ ได้ยินคำเขาที่ว่าย่างสุกถึงจะอร่อยก็รอกินข้าวโพดย่าง ปรากฏว่าทางฉินสือโอวต้มเสร็จก็เริ่มกินเลย พวกเขาจึงรีบเข้าไปแย่งทันที ต่างเอามาแทะกันคนล่ะฝักอย่างเอร็ดอร่อย
เถียนกวาก็ก้าวขาสั้นๆ เข้าไปแย่งฝักหนึ่ง ฟันน้ำนมเธองอกมาครึ่งหนึ่งแล้ว แต่จะแทะข้าวโพดก็ยังลำบากอยู่ดี แทะไปสองคำก็รีบยื่นให้วินนี่แล้วกอดขาเธอร้องไม่หยุดปากว่า “แม่ กินๆ แม่ กินๆ”
ใบหน้างดงามของวินนี่เผยรอยยิ้มแห่งความเป็นแม่อันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็แทะข้าวโพดไปพูดอย่างมีความสุขไปว่า “ลูกสาวช่างกตัญญูจริงๆ จ้ะ แม่กิน อร่อยจังเลย”
เถียนกวาเบ้ปากจีบเล็กแล้วร้องไห้ทันที…
ฉินสือโอวกินข้าวโพดรองท้องไปฝักหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเตาย่างอีกเตาก็ติด เขาเลยเอาข้าวโพดไปย่าง
เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว เริ่มจากทาน้ำมันบนข้าวโพดก่อน จากนั้นก็ทำข้าวโพดย่างรสชาติต่างๆ คนที่ชอบหวานก็ทาซอสมะเขือเทศ ชอบเปรี้ยวก็ทาซอสบลูเบอร์รี ชอบเผ็ดก็ทาซอสพริก ชอบหอมก็ทาไขมันหมูดำ
ข้าวโพดย่างสีเหลืองส้มย่างจนสุกเป็นสีต่างๆ ไฟก็ควบคุมยาก ข้าวโพดย่างเลยไหม้นิดหน่อย ฉินสือโอวกินข้าวโพดย่างซอสพริกฝักหนึ่ง รู้สึกว่าอร่อยมาก เหตุเพราะเม็ดข้าวโพดทั้งเม็ดใหญ่ทั้งอวบ มีกลิ่นหอมหวานและเหนียวนุ่ม นี่คือสิ่งที่ข้าวโพดธรรมดาไม่มี
นี่คือครั้งแรกที่ฮิลตันคนน้องเข้าร่วมปาร์ตี้หลังจากที่มาที่ฟาร์มปลา เธอถามขึ้น “มีค็อกเทลไหม?”
ฉินสือโอวโยนเบียร์ที่กลั่นเองให้เธอขวดหนึ่ง เธอยักไหล่แล้วพูดว่า “ก็ได้ เบียร์ คืนนี้ฉันคงเป็นกุลสตรีไม่ได้แล้ว กุลสตรีไม่ดื่มเบียร์!”
………………
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1696 ข้าวโพดย่างรสท้องถิ่น
Posted by ? Views, Released on January 16, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!