สแตนลีย์พูดคุยอย่างออกรสออกชาติสักพักแล้วก็เตรียมจะกลับ ฉินสือโอวรีบรั้งเขาไว้ พูดว่า “เพื่อน พวกเราชาวจีนให้ความสำคัญเรื่องการต้อนรับแขกมาก ตอนนี้ก็ถึงเวลาทานอาหารแล้ว จะให้คุณกลับไปได้อย่างไรกัน? อยู่กินอาหารที่ฟาร์มปลาสักมื้อเถอะครับ”
นี่คือจะให้ตัวเองอยู่ต่อเพื่อเป็นคนทำกับข้าวให้นี่นา สแตนลีย์ไม่ได้โง่ จึงเดาจุดประสงค์ของฉินสือโอวออกได้ในทันที
แต่ความจริงแล้วเรื่องกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ฉินสือโอวตบอกแล้วพูดว่า “เดี๋ยวผมให้คุณลองชิมอาหารของชาวประมงดู ผมกล้าพูดเลยว่าคุณไม่เคยกินอาหารแบบนี้มาก่อนแน่นอน มาครับ ให้เหล่าชาวประมงของผมแสดงฝีมือให้คุณเห็นกัน”
“แน่ใจว่าไม่ต้องให้ผมเป็นพ่อครัวหลักจริงเหรอครับ?” สแตนลีย์ถามด้วยความไม่ไว้วางใจ เขาไม่ถือสากับการทำกับข้าวเล็กๆ น้อยๆ แต่พอเห็นชาวประมงหลายสิบคนในฟาร์มปลาแล้ว หากว่าให้เขาดูแลรับผิดชอบทั้งหมด งั้นคงต้องเหนื่อยกว่าการบริหารร้านอาหารของตัวเองเป็นแน่ ร้านอาหารสามดาวของเขาก็มีลูกค้าแค่วันละไม่กี่สิบคนเท่านั้นเอง
อย่างไม่ต้องสงสัย กระเพาะของเหล่าชาวประมงนั้นไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษแต่งตัวเนี้ยบสามารถเทียบได้แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นอีวิลสันที่เป็นเหมือนคนยักษ์แล้ว เขาเชื่อว่าเจ้าหมอนี่คนเดียวสามารถกินอาหารในร้านของเขาในปริมาณสำหรับสิบคนได้แน่นอน
ดังนั้น หากว่าให้เขามาทำกับข้าว เขาก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ แต่ว่าถ้าไม่ต้องให้เขาออกโรง งั้นเขาก็เต็มใจที่อยู่ต่ออีกสักพัก แม้จะไม่ได้พูดถึงเรื่องการร่วมมือกันทำร้านอาหาร แต่แค่ทิวทัศน์ของฟาร์มปลา ก็มีค่าพอให้คนอยากอยู่ต่อได้แล้ว
การที่สามารถอยู่บนจุดสูงสุดของหนึ่งสายอาชีพได้นั้น ไม่ว่าจะวิสัยทัศน์หรือประสบการณ์จะต้องไม่ปกติอย่างแน่นอน ฉินสือโอวกับสแตนลีย์คุยกันได้สนุกสนานมาก นอกเหนือจากนี้เขายังได้เรียนรู้เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการทำอาหารตะวันตกอีกด้วย
เคล็ดลับพวกนี้ล้วนเป็นเทคนิคพิเศษที่ตระกูลคาร์ลเบิร์ตกลั่นกรองมาจากประสบการณ์หลายปีของพวกเขาเลย ถ้าเป็นในนิยายยุทธจักรก็คือสุดยอดเคล็ดวิชาที่ถ่ายทอดให้แก่ผู้ชายเท่านั้น แต่สแตนลีย์กลับพูดออกมาหมดเปลือกเลย ขอแค่ฉินสือโอวถามเขาก็จะตอบในทันที ไม่มีอึกอักหรือหมกเม็ดอะไรทั้งนั้น
บางทีเขาอาจจะแสดงให้ฉินสือโอวเห็นถึงความจริงใจของเขาโดยผ่านวิธีการนี้ก็ได้
ทุกครั้งที่เหล่าชาวประมงออกทะเลจะได้ผลเก็บเกี่ยวดีทุกครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะมีเป้าหมายที่กำหนดไว้อยู่แล้ว แต่ว่าในฝูงปลาก็มักจะมีปลาชนิดอื่นปนมาด้วยอยู่แล้ว และก็ยังมีสัตว์ทะเลจำพวกหอยและกุ้งปูอีกด้วย
พอพวกเขากลับมาแล้ว ฉินสือโอวพูดว่า “เพื่อนฝูงทั้งหลาย วันนี้มีแขกพิเศษมาเยี่ยมพวกเรา พวกเราต้องต้อนรับเขาให้ดี มาเถอะ มาทำอาหารทะเลชุดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ของพวกเราชาวประมงที่สุดกันเถอะ”
เหล่าชาวประมงอึ้งไปสักพัก แล้วก็พยักหน้าพูดว่า “ดีๆๆ”
เมื่อเห็นความเป็นมิตรของคนเหล่านี้แล้ว สแตนลีย์ก็ลุกขึ้นมายิ้มแล้วโบกมือให้ ในใจเขารู้สึกเกรงใจเล็กน้อย ดูชาวประมงพวกนี้ช่างซื่อสัตย์ ช่างจริงใจเหลือเกิน ความคิดของเขาเมื่อกี้นี้ใจแคบเกินไปแล้ว
จากนั้นภายใต้การมองดูของสแตนลีย์ เหล่าชาวประมงก็ทำการก่อตั้งหม้อเหล็กใบใหญ่ขึ้นบนชายหาด แล้วเอาปลาโอแถบ ปลากุเรสีทอง หมึกกระดอง แล้วก็หอยเชลล์ ปูเสฉวนบกกับปูแดง ใส่ลงไปในหม้อทั้งหมดแล้วก็เริ่มตุ๋น
แสตนลีย์ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นวิธีการทำอาหารที่ตามใจฉันมาก เสร็จแล้วขั้นต่อไปคืออะไรครับ? พูดตามตรง ผมยังไม่เคยเห็นวิธีการทำอาหารแบบนี้มาก่อนเลย”
ฉินสือโอวพูดว่า “ขั้นต่อไปเหรอ? ไม่มีขั้นต่อไป มีแค่นี้เท่านั้น หลังจากตุ๋นเสร็จออกมาแล้วทุกคนหยิบจานมาคนละใบ ชอบอะไรก็ใช้มือหยิบเอาก็ได้แล้ว โอ้ ถ้าหากคุณอยากจิ้มน้ำจิ้มแล้วล่ะก็ ที่นี่พวกผมมีน้ำขิงกระเทียมบดซีอิ๊วกับน้ำส้มสายชูอยู่นะ คุณจะเอาอะไรครับ?”
รอยยิ้มบนหน้าของสแตนลีย์ได้หายวับไปในทันที ก็เหมือนกับน้ำแข็งเยือกเย็นในฤดูหนาวที่ถูกเทลงไปในน้ำร้อนของขั้วโลกเหนือ ‘ซู้ม’ ทีเดียว น้ำร้อนได้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว
“กินแบบนี้เหรอครับ? อาหารทะเลสไตล์ชาวประมง?” สแตนลีย์ถามด้วยความสงสัย
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูดว่า “ใช่ครับ นี่น่ะคือวิธีการทำอาหารที่มีเอกลักษณ์ที่สุดของที่นี่เลยนะครับ ผมบอกคุณนะ ความจริงแล้วรสชาติไม่เลวเลย โดยเฉพาะน้ำซุปทะเลในตอนท้าย ที่ทุกคนมารวมตัวกันแล้วใช้ช้อนตักดื่มน่ะ เป็นอย่างไร สุดยอดมากเลยใช่ไหมครับ?”
สแตนลีย์มองไปที่เขาอย่างแน่นิ่ง “คุณอย่าบอกผมนะว่า ช้อนของทุกคนจะตักน้ำซุปจากหม้อโดยตรงเลย”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ จะให้ไปตักที่ไหนได้อีกครับ?”
สแตนลีย์มองดูสีหน้าของฉินสือโอวอย่างตั้งใจ หน้าตาได้รูป เค้าโครงหน้าดูแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยว สีหน้าดูซื่อสัตย์และจริงใจ สายตาแน่วแน่และเปิดเผย ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เป็นใบหน้าของคนใสซื่อที่หล่อเหลาคนหนึ่ง
แต่เขาไม่ยอมรับไม่ได้เลย ตัวเองแม่งดูคนผิดแล้ว เจ้าหมอนี่เป็นคนที่เจ้าเล่ห์มากมายคนหนึ่งเลย
ในตอนนี้มีชาวประมงใช้กระบวยไม้อันใหญ่อันหนึ่งตักน้ำซุปจากในหม้อมาชิม จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ดี รสชาติจืดเกินไป โรยเกลือหน่อยสิ” พูดจบ เขาก็เอาน้ำซุปที่เหลือในกระบวยเทกลับไปในหม้อ
มีชาวประมงพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันตรงนั้นอย่างจริงจังอีกว่า “ถ้าให้ดีที่สุดพวกเราน่าจะใส่มันฝรั่งลงไปด้วยนะ ชิ้นมันฝรั่งที่อมน้ำซุปอาหารทะเลนี้เข้าไปน่ะ รสชาติสุดยอดมากเลย!”
“ใส่แอปเปิลกับบลูเบอร์รีลงไปหน่อย แบบนี้อาหารทะเลจะได้มีกลิ่นหอมของผลไม้ด้วย รสชาติจะได้ดียิ่งขึ้น”
“ไม่ดีหรอก อาหารทะเลกับผลไม้จะเอามาต้มรวมกันได้อย่างไร? ให้ฉันพูดนะฉันว่าใส่กระดูกแพะลงไปหน่อยดีกว่า บอสเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ที่ประเทศของเขา ปลากับแพะมารวมกันคือรสชาติที่ดีที่สุดน่ะ”
“ไอ้โง่ ปลากับแพะมารวมกันทำให้ได้เป็นคำว่าสดใหม่ในภาษาจีน ไม่ได้หมายความว่าการทำแบบนั้นรสชาติดีที่สุด…”
มองดูเหล่าชาวประมงที่เถียงกันไปพลางใส่นู่นนี่ลงไปในหม้อไปพลางแล้ว สีหน้าของสแตนลีย์ก็ซีดมากขึ้นเรื่อยๆ เขายังเห็นมีคนหยิบกุ้งมังกรออกมาจากหม้อแล้วเริ่มแกะกินเลย แถมยังใช้มือหยิบออกมาจากหม้อโดยตรงอีกด้วย!
ต้องรีบจบเรื่องทันที เขาปัดมือพูดว่า “คุณฉิน ผมมีข้อเสนออันหนึ่ง ให้ผมมาทำอาหารทะเลหม้อนี่แทนดีไหมครับ? ฮ่าๆ คุณดูสิผมมาเยี่ยมคุณด้วยมือเปล่า ถ้ายังให้คุณต้องเปลืองแรงทำกับข้าวอีก ผมเกรงใจน่าดู”
ฉินสือโอวพูดอย่างลำบากใจว่า “แบบนี้ไม่ดีมั้งครับ? อย่างไรเสียคุณก็เป็นแขก”
สแตนลีย์ยิ้มแล้วพูดว่า “ดี ดีแน่นอนครับ ผมหวังว่าคุณจะไม่เห็นผมเป็นแขก ผมอยากจะทำงานร่วมกับคุณจริงๆ นะครับ”
ฉินสือโอวพยักหน้า “ในเมื่อคุณพูดอย่างนี้แล้ว งั้นผมก็ต้องยอมรับแล้วล่ะ มา เพื่อนฝูงทั้งหลาย ไปเตรียมตัวกัน สแตนลีย์เพื่อนของพวกเราจะเป็นคนรับผิดชอบอาหารมื้อนี้เอง ฉันบอกพวกโง่อย่างพวกนายเลยนะ วันนี้พวกนายโชคดีมาก สแตนลีย์เป็นผู้สืบทอดของตระกูลทำอาหารในอิตาลีคาร์ลเบิร์ต แถมเขายังเป็นเชฟหลักของร้านอาหารมิชลินสามดาวอีกด้วย!”
“ว้าว สุดยอด!” เหล่าชาวประมงชื่นชมโดยชูนิ้วโป้งกันขึ้นมา
สแตนลีย์ยิ้มและพยักหน้าตอบ แต่ทำไมเขารู้สึกว่าสายตาของชาวประมงพวกนี้ไม่ได้เป็นสายตาชื่นชมอย่างเดียว แต่แฝงความนัยอย่างอื่นด้วย? แล้วแฝงไปด้วยอะไรล่ะ? เขาคิดอยู่สักพัก เหมือนครั้งแรกที่ฉินสือโอวไปร้านอาหารของเขา เขาก็ใช้สายตาแบบนี้มองฉินสือโอวด้วยเหมือนกัน
เขาไม่มีเวลามากพอในการคิด เหล่าชาวประมงพากันหลีกทางให้แล้ว จากนั้นก็นำวัตถุดิบมาส่งให้เพื่อเชิญให้เขาแสดงฝีมือ
มีทั้งปลาทูน่าครีบเหลือง หอยงวงช้าง ปลาไหลอเมริกัน ปลาลิ้นหมา ปูดันเจเนสส์ กุ้งมังกร ปลายอดม่วง ปลาลายญี่ปุ่น ปลาหัวเมือก ปลาไหลเจ็ดดาว เพรียงตีนเต่า ปลาอีโต้มอญ ปลาจะละเม็ดเงิน แถมยังมีปลาบรู๊ก ซิลเวอร์ไซด์ที่พบเห็นได้น้อยอีกด้วย….
นู่นนิดนั่นหน่อย วัตถุดิบทุกรูปแบบถูกส่งมาให้ สแตนลีย์ตาค้างอ้าปากหันไปมองฉินสือโอว
รอยยิ้มของท่านชายฉินจริงใจและใสซื่อกว่าเดิม “วัตถุดิบของฟาร์มปลาของเราค่อนข้างเรียบง่าย หวังว่าคุณเชฟใหญ่คาร์ลเบิร์ตอย่าได้ใส่ใจ แต่ว่าที่ห้องแช่แข็งยังมีวัตถุดิบที่ไม่เลวอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักผมให้ลูกน้องไปเอามาให้คุณครับ”
สแตนลีย์ “รอยยิ้มของคุณมีพิษ!”
………………………
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1732 รอยยิ้มมีพิษ
Posted by ? Views, Released on January 21, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!