ในหนังฮอลลีวูดและละครอเมริกา คนอเมริกันนำเสนอแต่การแต่งงานอิสระ และความรักที่ประเมินค่าไม่ได้ ที่จริงในประเทศทุนนิยม คนในสังคมชั้นสูงจะให้ความสำคัญกับความเหมาะสมมาก อย่างเรื่องราวความรักระหว่างแจ็คกับโรสในไททานิกที่เหมาะจะอยู่ในหนังเท่านั้น อีกอย่างยังดีที่ในหนังแจ็คสละชีวิตเพื่อความรัก ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขากลับอเมริกามาอย่างปลอดภัย ชีวิตต่อไปคงอลเวงแน่
โครงสร้างสังคมของคนอเมริกันกับแคนาดาคล้ายยุโรปแต่ก็ไม่ได้เหมือนประเทศทุนนิยมรุ่นเก่าพวกนั้นไปทั้งหมด คนหนุ่มสาวสองประเทศนี้ชอบการบริโภคมาก แต่ล่ะชนชั้นมีแนวคิดการบริโภคและชีวิตต่างกัน และแนวคิดนี้ก็เป็นต้นตอของความขัดแย้งระหว่างชนชั้น
เด็กที่เกิดในครอบครัวร่ำรวยกับครอบครัวชนชั้นกลางไม่เหมือนกันเลย และต่อให้เป็นเด็กที่เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางแนวคิดการใช้ชีวิตก็ต่างกับชนชั้นล่าง
ข้อนี้เหล่าคนหนุ่มสาวเองก็รู้ดี ฉะนั้นถ้าเกิดในต่างชนชั้นก็ยากที่จะไปกันรอดในการแต่งงาน
ดูอย่างเบิร์ดกับฮิลตันเป็นตัวอย่าง เบิร์ดเกิดในครอบครัวธรรมดา พอบรรลุนิติภาวะก็เข้ากองทัพเป็นทหาร หลังจากนั้นพอออกมาก็มีช่วงหนึ่งที่ชีวิตไม่ค่อยได้ดั่งใจ ต่อให้ตอนนี้เขาทำงานกับฉินสือโอว รายได้มากขึ้นแล้วก็ยังใช้ชีวิตประหยัด ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการดื่มด่ำมีความสุขกับชีวิต
แต่ฮิลตันไม่เหมือนกัน เธอเกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ตั้งแต่เด็กกินดีอยู่ดี เงินในสายตาเธอเป็นแค่เครื่องมือ เครื่องมือที่ทำให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น และสิ่งที่เธอไล่ตามก็คือมีความสุขและดื่มด่ำไปกับชีวิต ตรงนี้ขัดกับแนวคิดการใช้ชีวิตของเบิร์ด
ดังนั้น ฉินสือโอวเลยไม่คิดว่าสองคนจะไปกันรอด เขาคิดว่าพอผ่านช่วงโปรโมชั่นไปสองคนก็คงเลิกกันโดยดี
มาวันนี้ดูท่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ฮิลตันกลับมาบอกว่าพวกเขาจะแต่งงานกัน? มุมมองของฉินสือโอวก็เหมือนอย่างที่ฮิลตันเพิ่งพูดไป ฐานะและสถานะทางสังคมเป็นช่องว่างที่ขวางกั้นคนทั้งสองไว้
เพราะฉะนั้นพอเจอกับคำถามของเธอ เขาก็ได้แต่พยักหน้ารับ “ใช่ ถ้าเขาเป็นเศรษฐีหนุ่มหรือหนุ่มหล่อบ้านรวยงั้นคุณสองคนจะเหมาะสมกันมาก”
ฮิลตันพูดขึ้นว่า “ปัญหาระหว่างเราก็อยู่ตรงนี้แหละ ฉันรักเขา เขาก็รักฉัน เราต่างฝ่ายก็หวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ที่ขวางกั้นพวกเราก็คือฐานะเงินทอง ฉันแนะให้เขาลาออกจากฟาร์มปลาแล้วฉันจะใช้ทรัพยากรตระกูลฉันช่วยให้เขาทำธุรกิจ เชื่อว่าด้วยความสามารถของเบิร์ดเขาต้องทำได้ดีแน่”
ไม่ต้องพูดต่อฉินสือโอวก็เข้าใจความหมายของเธอ “คุณหวังว่าเขาจะลาออกจากฟาร์มปลาไปสร้างเนื้อสร้างตัวเอง แต่เบิร์ดไม่ยอม ใช่ไหม?”
ฮิลตันพยักหน้า ใบหน้างามเผยแววเศร้าสร้อยอีกครั้ง “ใช่ ฉันอยากให้เขาลาออกจากฟาร์มปลา แต่เขายืนยันว่าไม่ยอม พวกเราทะเลาะกันครั้งแรกก็เพราะเรื่องนี้ ฉันถามเขาว่าจะเลือกฉันหรือฟาร์มปลา คุณรู้ไหมว่าเขาตอบว่าอะไร?”
“ต้องเป็นคำตอบที่ทำร้ายจิตใจแน่ๆ” ฉินสือโอวถอนหายใจ
เขารู้จักเบิร์ดดี สำหรับหนุ่มคนนี้แล้ว ธุรกิจของฟาร์มปลา ความสัมพันธ์กับพวกนีลเซ็น นี่เป็นสิ่งที่เขาตัดไม่ลง
จู่ๆ ฮิลตันก็ยื่นมือมาคว้าข้อมือเขาไว้แล้วพูดว่า “ฉิน คุณสนิทกับเบิร์ดขนาดนั้น คุณคงไม่อยากให้เขาเป็นชาวประมงไปทั้งชีวิตหรอกใช่ไหม? ฉันขอร้องคุณช่วยกล่อมกับเขาที ให้เขาลาออกจากฟาร์มปลา ไปหาอนาคตที่ดีกว่า ได้ไหม?”
พอเจอกับแววตาร้อนใจของหญิงสาวฉินสือโอวก็ยักไหล่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อย่าร้อนใจไป นิกิ เชื่อผมเถอะ ผมก็หวังว่าเบิร์ดจะมีอนาคตที่ดีกว่าเหมือนกับคุณ แต่ว่าทำไมคุณถึงคิดว่าเป็นชาวประมงทั้งชีวิตไม่ได้? ทำไมคุณถึงคิดว่าการอยู่ที่ฟาร์มปลาต่อไปเขาจะมีอนาคตที่ดีไม่ได้?”
ฮิลตันถามกลับโดยไม่รู้ตัว “อยู่เป็นชาวประมงที่ฟาร์มปลาต่อจะมีอนาคตที่ดีได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ก็ได้ ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร เชื่อผมเถอะ เบิร์ดอยู่กับผมต่อมีอนาคตแน่นอน แต่คุณก็พูดถูก เขาต้องทำตัวเองให้เก่งขึ้นถึงจะรับความรับผิดชอบที่มากกว่านี้ได้”
ฮิลตันมองเขาอย่างแปลกใจ ปากเธออ้าๆ หุบๆ เหมือนอยากจะถามอะไร หลังจากนั้นก็เลือกทางที่ฉลาดกว่าซึ่งก็คือไม่ถามต่อ เธอเดาได้อยู่แล้ว ที่ฉินสือโอวพูดแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการรับรองให้เธอ
คนฉลาดคุยกันก็ค่อนข้างราบรื่น ฮิลตันยักไหล่ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเผยยิ้มบางพลางโบกมือ หลังจากนั้นก็เดินไปทางเฮลิคอปเตอร์ สีหน้าท่าทางของเธอตอนนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งต่างกับเมื่อครู่ที่มีแต่ความหม่นหมอง เดินตัวปลิวราวผีเสื้อ
พอเห็นฮิลตันเดินใกล้เข้ามา วินนี่ก็พยักหน้าให้กับเบิร์ด เขากระโดดลงจากเครื่องแล้วจูงมือของฮิลตันเลี่ยงไปทางหนึ่ง
ฉินสือโอวกลับขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาแล้วถามขึ้น “ฝั่งเบิร์ดเรียบร้อยไหม?”
วินนี่ยิ้มบางก่อนจะเปิดเรื่อง “คราวนี้ไปโทรอนโตให้แบล็คไนฟ์กับบีบีซวงตามไปดีกว่า ให้เบิร์ดกับนีลเซ็นอยู่นี่เถอะ งานแต่งของนีลเซ็นก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขาคงจะยุ่งมาก พวกเราลืมเรื่องนี้ไปเลย ไม่สมควรจริงๆ”
ฉินสือโอวโทรเรียกแบล็คไนฟ์กับบีบีซวงมา บีบีซวงก็ขับเฮลิคอปเตอร์เป็น ฝีมือเยี่ยมพอตัวเหมือนกัน สองคนนั้นยังเคยเป็นยามมาก่อน คุณสมบัตินี้เหมาะสมกว่าเบิร์ดและนีลเซ็น
นีลเซ็นอธิบายว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ก็ได้ งานแต่งเขาค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ต้องทำอะไรมาก ให้บริษัทจัดงานจัดการไปก็พอ
วินนี่ก็ยังให้เขาอยู่อยู่ดี ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนแพรีสเยอะๆ เพราะคราวนี้ไปจากฟาร์มปลานานหน่อย พวกเขายังต้องไปเที่ยวที่ฟาร์มของเหมาเหว่ยหลงด้วย
ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ภายใต้การควบคุมของบีบีซวง ดอลฟินลำเล็กก็เหินขึ้นฟ้า
เทียบกับเครื่องบินลำเล็กก่อนหน้านี้ ไม่แปลกเลยที่ดอลฟินขายได้ราคาสูงหลายสิบล้านดอลลาร์แคนาดา เครื่องขึ้นไวกว่านิ่งกว่า อีกอย่างเสียงรบกวนภายในก็ต่ำมาก ฉินสือโอวได้ยินแค่เสียงหึ่งๆ ต่ำๆ ไม่รบกวนการคุยกันระหว่างเขากับบีบีซวงที่ที่นั่งนักบินด้วยซ้ำ
วินนี่เปิดทีวีให้เถียนกวา ใช้เสียงดนตรีกลบเสียงใบพัด สาวน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้กว้างขวางนุ่มสบายพลางกระดิกขาไปตามเสียงดนตรี คงจะไม่ค่อยสัมผัสได้ถึงความสูงที่เปลี่ยนแปลง โรคกลัวความสูงไม่ได้กำเริบ กอดพี่น้องเฟอเรทเล่นคนเดียวอย่างมีความสุข
พอเครื่องขึ้นไปเรื่อยๆ เฮลิคอปเตอร์ดอลฟินลำเล็กก็บินไปโทรอนโตด้วยความเร็วสามร้อยกิโลเมตร นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินสือโอวนั่งเฮลิคอปเตอร์บินระยะทางไกลขนาดนี้ เครื่องบินเล็กเมื่อก่อนไม่มีทางบินไกลขนาดนี้ได้เลย ต่อให้ทำได้ถ้าไม่มีเรื่องฉุกเฉินเขาก็ไม่อยากนั่ง เหนื่อยเกินไป
เบลคบอกที่อยู่ของจุดลงจอดกับฉินสือโอว ตอนบ่ายเฮลิคอปเตอร์ก็เข้าสู่น่านฟ้าโทรอนโตและเริ่มลดระดับลง ฉินสือโอวมองลงไปยังตึกรามบ้านช่องและการจราจรที่คลาคล่ำในใจก็เกิดความรู้สึกอย่างผู้เหนือกว่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ชีวิตที่ไม่ต้องไปเบียดรถเมล์หรือรถไฟนี่ดีจริงๆ
เฮลิคอปเตอร์ลดลงจอดบนลานจอดอากาศยาน พอฉินสือโอวลงไป เบลคก็เข้าไปกอดเขาแล้วพูดกลั้วหัวเราะ “ยินดีต้อนรับๆ พ่อหนุ่มเศรษฐีพันหมื่นล้าน เตรียมร่วมงานกองเงินกองทองที่จะเริ่มเถอะ!”
……………………………….
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1763 รื่นเริงเงินทอง
Posted by ? Views, Released on January 27, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!