บทที่ 235 อัศวินนิมิตส์
โดย
Ink Stone_Fantasy
เพราะไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าบริเวณน่านน้ำนี้มีปลาทูน่าอยู่ เรือบอลหิมะจึงไม่ได้ลงสมอไว้ เพียงแต่ยังไม่ทันออกเรือ ก็ค่อยๆ ถูกซัดตามคลื่นไป
เมื่อเห็นเรือแห่งชีวิตกำลังตกอยู่ในอันตราย ฉินสือโอวก็พูดอย่างไม่ลังเล “รีบสตาร์ทเรือเร็ว ไปดูว่าพอจะช่วยตัดหรือปลดสมอพวกเขาได้บ้างไหม!”
นีลเซ็นรีบหมุนหางเสือ เครื่องยนต์เรือบอลหิมะสองเครื่องคำรามพุ่งฝ่าคลื่นไปอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันปัญหาทางฝั่งเรือแห่งชีวิตก็เริ่มเคร่งเครียดขึ้น เรือตกปลาโดนลากไปด้วยแล้ว แสดงว่าสมอถูกอวนของเรือประมงเกี่ยวเข้าแล้วแน่นอน
เรือบอลหิมะเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว ชาลส์ที่อยู่บนเรือแห่งชีวิตตะโกนว่า “พวก ขอบใจมาก ขอบใจจริงๆ! แต่พวกนายรีบหนีไปเสีย! ให้ไวเลย! บ้าเอ้ย พวกเราใช้เชือกสมอเหล็กเบอร์สิบสองเชียวนะ!”
เพราะเรือตกปลาไม่ได้มีขนาดใหญ่ และระบายน้ำออกได้น้อย จึงใช้เชือกสมอเรือที่เป็นลวดเหล็กถักทั้งหมด มีทั้งแบบหนาแบบบาง ตั้งแต่เบอร์สองถึงเบอร์ยี่สิบสี่
ซึ่งเหล็กเบอร์สิบสองมีความหนาเท่ากับนิ้วหัวแม่มือของชายหนุ่มทีเดียว ขนาดเรือยอชต์อวนลากนางนวลของฉินสือโอวยังใช้เหล็กแค่เบอร์สิบสี่ ไม่รู้ทำไมเรือแห่งชีวิตต้องใช้สมอหนาขนาดนั้น การจะตัดเชือกสมอจึงแทบเป็นไปไม่ได้
เดิมฉินสือโอวคิดจะใช้เรือบอลหิมะเชื่อมกับเรือแห่งชีวิต แล้วขับออกไปพร้อมกันเพื่อให้เชือกสมอแบบธรรมดาขาด ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาทั่วไปเวลาเรือตกปลาโดนเรือประมงเกี่ยวสมอ
ทว่าดูท่าตอนนี้ วิธีนั้นคงใช้ไม่ได้ผลแล้ว เหล็กเบอร์สิบสองไม่ใช่จะตัดได้ง่ายๆ มีแต่จะลากเรือบอลหิมะลงน้ำไปด้วยกัน!
ฉินสือโอวไม่สามารถทนมองความตายโดยไม่ช่วยไม่ได้ ชาร์คและนีลเซ็นเองก็ร้อนรนไม่ต่างกัน คนที่ใช้ชีวิตในทะเลก็อย่างนี้ แม้พวกชาวประมงจะทะเลาะกันเพราะเรื่องจับปลาอยู่บ่อยๆ
แต่ในยามคับขัน เหล่าชาวประมงก็ไม่อาจทนมองอย่างเลือดเย็นได้ หากช่วยอะไรได้ก็จะพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่
เพราะการออกทะเลก็เสี่ยงมากพอแล้ว โดยเฉพาะการกู้ภัยน้ำลึก หรือตกปลาแทบเหมือนการเสี่ยงตาย ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะประสบเคราะห์ในน้ำเมื่อไร
พวกเขาต่างมีครอบครัว ล้วนเข้าใจความรู้สึกของการรอคนที่รักกลับบ้านอย่างปลอดภัยทั้งนั้น ทะเลาะก็ส่วนทะเลาะ แต่เวลาช่วยชีวิตก็ไม่มีใครลังเล
เรือประมงลำนั้นยังคงแล่นไปตามปกติ ไม่มีทีท่าจะชะลอลง นอกจากนี้การจะชะลอกลางทะเลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เพราะแรงเสียดทานบนน้ำน้อยเกินไป ถ้าจะเบรกเรือประมงยักษ์พันตันให้หยุดภายในสามสี่พันเมตรคงเป็นไปไม่ได้
ตอนนี้ปัญหาคือ กัปตันเรือลำนั้นดูเหมือนจงใจเข้ามาทางเรือแห่งชีวิต เว้นแต่ว่าทางนั้นจะไม่สามารถทิ้งสมอได้
ฉินสือโอวกัดฟัน เอ่ยน้ำเสียงเด็ดขาด “นีลเซ็น พุ่งเข้าไปเลย ช่วยฉันหยุดไอ้เรือบ้านั่นที!”
แล้วหันไปหาชาลส์บนเรือแห่งชีวิตกล่าวว่า “เร่งความเร็วสูงสุด รักษาระยะไว้!”
เรือบอลหิมะยังคงเร่งความเร็ว ตรงไปยังเรือประมง จนเข้าใกล้แล้วซีมอนสเตอร์จึงลั่นแตรบนดาดฟ้าให้เรือหยุด แต่คนบนเรือไม่สนใจ ยังคงแล่นต่อ
“บ้าเอ้ย!” นีลเซ็นเริ่มโมโหกับความเลือดเย็นและโหดเหี้ยมต่อชีวิตของคนบนเรือนั้น เขาดึงกล่องเก็บของข้างสะพานออกมาหยิบปืนลูกซองเรมิงตันแล้วเตรียมวิ่งออกไป
แต่ฉินสือโอวห้ามเขาอย่างใจเย็น เขาเงยหน้าผิวปาก พร้อมนิมิตส์ที่หุบปีกดิ่งลงมากลางอากาศทันที
เขาเหยียดแขนให้นิมิตส์เกาะ ฉินสือโอวหยิบก้อนน้ำแข็งเท่าลูกบอล ที่นีลเซ็นใช้มีดทหารเจาะเป็นรูไว้สำหรับกรงเล็บของนิมิตส์ออกมา
รอจนมันจับไว้ ฉินสือโอวจึงชี้ไปที่กระจกหน้าต่างหน้าห้องบังคับการของเรือประมงพร้อมตะโกนว่า “โยนใส่เลย โอเคไหม? โยนแรงๆ ให้แตกไปเลย! นิมิตส์เป็นเด็กฉลาด นิมิตส์ทำได้แน่นอน โอเคนะ?”
นิมิตส์อ้าปากร้องแกว๊กๆ เหมือนตอบรับสายตาฉินสือโอว
เห็นดังนั้นฉินสือโอวก็ยิ้ม เขายกนิมิตส์ขึ้นเหนือหัวแล้วโยนส่งมัน
ไม่เสียทีที่นกฟรีเกตได้รับขนานนามว่าเป็นราชาแห่งท้องฟ้าของอเมริกาเหนือ มันคว้าก้อนน้ำแข็งห้าหกกิโลกรัม กางปีกทะยานขึ้นไปและพุ่งใส่เรือประมงอย่างบ้าคลั่ง
ความหวังอยู่ที่ตัวนิมิตส์แล้ว ฉินสือโอวหัวใจเต้นรัว พวกนีลเซ็นก็มองอย่างกังวล
นิมิตส์บินขึ้นสู่ความสูงยี่สิบกว่าเมตร ก่อนจะพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว นีลเซ็นเห็นดังนั้นก็ตะโกนว่า “ดูสิ นิมิตส์เหมือน B-17 ที่กำลังจะโจมตีเลย เล่นมันเลยเพื่อน ลุย!”
B-17 ก็คือหนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดแสนยิ่งใหญ่ของฝ่ายสัมพันธมิตรช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง คนอเมริกันตั้งชื่อเล่นให้มันว่าฟลายอิงฟอร์เทรส มันยิงระเบิดใส่อย่างสง่างาม จนถูกเรียกว่า ‘อัศวินชั้นสูงผู้หยิ่งทระนง’
‘ปัง เคล้ง…’
นิมิตส์โยนก้อนน้ำแข็งไปยังห้องบังคับการ ด้วยการโจมตีของนกฟรีเกตก่อให้เกิดพลังงานจลน์รุนแรง ทำให้กระจกหน้าต่างแตกทันที!
เพียงพริบตา กระจกหนาก็ถูกชนจนแตกละเอียด
ลูกเรือที่กำลังสวมหูฟังฟังเพลงสะดุ้งร้องด้วยความตกใจ เขามองนกฟรีเกตที่บินไปไกลอย่างหวาดๆ ไม่นานถึงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาวิ่งไปหยิบปืนไรเฟิลในห้องโดยสารมา ตะโกนว่า “เวรเอ้ย ฉันจะฆ่าแกไอ้นกบ้า”
ชาวประมงบางส่วนที่ล็อกประตูห้องเล่นพนันกันต่างตกใจนายคนขับเรือ พอสอบถามเรื่องราวจนเข้าใจ ถึงรู้ว่ากระจกหน้าเรือประมงตัวเองโดนนกฟรีเกตยักษ์ตัวหนึ่งขว้างของใส่จนแตก จึงเดือดดาลเร่งรุดไปยังดาดฟ้าเรือกัน
เมื่อพวกเขาออกมาก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรือตกปลาลำหนึ่งขับมาขวางหน้าเรือประมงพวกเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งจวนจะชนกันอยู่รอมร่อแล้ว
“เฮ้ย พวกนายบ้าไปแล้วหรือไง?” กัปตันเรือประมงตวาด
พอเห็นคนร้ายเริ่มกล่าวหาเหยื่อ ฉินสือโอวก็เค้นหัวเราะ เขาชี้ไปยังเรือแห่งชีวิตที่โดนลากจนโคลงเคลงอยู่ด้านหลัง แล้วคำราม “หยุดเรือสิ! พวกนายคิดจะฆาตกรรมหรือไง? พวกนายคิดจะฆ่าคนกันใช่ไหม?”
คนบนเรือหันมองตามถึงได้เห็นสภาพน่าสยดสยองของเรือแห่งชีวิตเต็มตา มันดูน่าหวาดหวั่นมาก เรือตกปลาจะตามความเร็วของเรือประมงทันได้อย่างไรกัน? ตัวเรือแห่งชีวิตโงนเงนเสียจนเหมือนจะจมน้ำได้ทุกเมื่อ
ทันใดนั้น บนเรือประมงก็เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งผู้คนที่รีบทิ้งสมอลงเบรกเรือ และคนขับที่เข้าไปดับเครื่องยนต์
ใบพัดจึงค่อยๆหยุดหมุนพร้อมกับสมอเรือใต้ทะเลที่ช่วยดึงไว้ ทำให้ความเร็วเริ่มลดลง
ในที่สุดเรือแห่งชีวิตที่โดนลากแทบพลิกคว่ำก็หยุดตาม
ชาลส์โกรธมาก ตาสองข้างเขาแดงก่ำ ในมือถือปืนยิงปลา ผู้หญิงคนหนึ่งบนเรือกำลังพยายามห้ามเขาไว้
รอจนเรือเข้ามาใกล้ ชาลส์กัดฟันเอ่ยกับพวกคนบนเรือประมงว่า “ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้! ไอ้พวกระยำเอ้ย! ถ้าวันนี้ฉันเอาวินเชสเตอร์ เอ็ม1887 ที่พ่อส่งต่อให้ฉันมาด้วยล่ะก็ ฉันได้เป่าหัวพวกแกกระจายแน่…”
คนบนเรือต่างอับอายและหวาดกลัว จนกัปตันที่พิงอยู่ท้ายเรือต้องอธิบาย “พวกเราไม่ได้ตั้งใจนี่นา ก็ได้ ผมขอโทษ แต่พวกเราเล่นไพ่กันอยู่ คุณก็รู้ว่าเวลาเล่นมันต้องจดจ่อแค่ไหน พวกเราไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เสียหน่อย”
“ต้องจดจ่อบ้านแกสิ! ฉันสาบานเลย ขึ้นฝั่งเมื่อไรฉันจะฟ้องพวกแกข้อหาพยายามฆาตกรรมโดยเจตนา!” ชาลส์คำรามอย่างเกรี้ยวกราด
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเลวร้ายจริงๆ หากไม่ได้ฉินสือโอวช่วยเหลือ ถึงเขากับภรรยาไม่ตายแต่ก็ต้องเสียเรือลำนี้ไปอยู่ดี
เมื่อคนบนเรือเก็บอวนขึ้นมาพันเข้ากับสมอและโยนลงน้ำเรียบร้อย กัปตันก็รีบสั่งออกเรือหนีอย่างไม่ลังเลโดยทิ้งไว้เพียงควันสีเทาคลุ้ง
…………………………………………………