ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 236 ร่องรอยของฝูงปลา

บทที่ 236 ร่องรอยของฝูงปลา
โดย
Ink Stone_Fantasy

ชาลส์ดูทั้งเสียขวัญทั้งโมโห เขากระทืบเท้าด่าทอใส่เรือประมงกระทั่งลับสายตาไป จึงนั่งถอนหายใจแรงตรงท้ายเรือ
เรือฉินสือโอวจอดอยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตร นิมิตส์ร่อนลงมาเกาะราวพลางเพลิดเพลินกับสัมผัสของฉินสือโอว มันส่งเสียง ‘กรู้กรู้ กรู้กรู้’ ในลำคอ
พอเห็นชาลส์ใจเย็นลงแล้ว เขาก็ยกลำโพงขึ้นตะโกนเรียก “เฮ้ เฮ้ พวก เป็นยังไงบ้าง?”
ชาลส์เก็บสมอเรือขึ้นและขับเข้ามา แน่นอนว่าเขาเอาหัวเรือเข้าประชิดกับท้ายเรือบอลหิมะ
ในทะเล เรือสองลำไม่สามารถเข้าประชิดจากด้านข้างได้ นี่ถือเป็นความรู้ทั่วไปเลย
เพราะตอนที่เรือกำลังแล่น ถ้ามีเรืออีกลำเข้ามาใกล้มากๆ ความเร็วในการไหลของน้ำระหว่างเรือทั้งสองจะรุนแรงกว่าน้ำด้านนอก บริเวณที่ไหลเร็วแรงดันจะหนาแน่นน้อยกว่า และบริเวณที่ไหลช้าแรงดันจะหนาแน่นมากกว่า ดังนั้นแรงดันน้ำด้านในที่น้อยกว่าแรงดันน้ำด้านนอก ส่งผลให้เกิดแรงผลักระหว่างกันได้นั่นเอง
แต่ถ้าเป็นส่วนหัวท้ายเรือก็ไม่มีปัญหาอะไร แค่มาชนท้ายกันก็ได้แล้ว
เมื่อถึงหน้าเรือ ชาลส์ก็เข้ามาโค้งฉินสือโอวทั้งหน้าแดง กล่าวขอบคุณว่า “ขอบใจนายมาก พวก ฉันไม่รู้จะแสดงความขอบคุณกับนายยังไงจริงๆ “
ฉินสือโอวโบกมือปฏิเสธ กล่าวยิ้มๆ “ปลอดภัยก็ดีแล้ว ผมแค่ทำสิ่งที่ชาวประมงควรทำก็เท่านั้น”
ชาลส์เป็นคนรูปร่างปานกลาง หัวล้าน ไว้หนวดข้างแก้ม ผิวเป็นสีแดงจากแดดเผากลางแจ้ง ถึงมองเผินๆ จะเหมือนอันธพาลข้างถนน แต่ความจริงนิสัยและบุคลิกของเขาไม่เลวทีเดียว ไม่งั้นตอนเพิ่งออกทะเลเขาคงไม่เตือนฉินสือโอวเรื่องเติมน้ำแข็งหรอก
พอเห็นผิวไหม้แดดสีแดงของชาลส์ ฉินสือโอวก็แอบสงสัย ชาวคอเคเซียนเวลาโดนแดดเผาผิวจะเป็นสีดำ ส่วนคนขาวผิวกลับเป็นแค่สีแดง ช่างน่าประหลาดเสียจริง
ชาลส์ลูบหัวโล่งเตียนตัวเองแล้วหัวเราะ “ถึงตอนนี้ฉันยังไม่มีอะไรจะพูด แต่ว่านะเพื่อน ไว้ขึ้นฝั่งเมื่อไรฉันจะตอบแทนนายอย่างดีเลย แล้วก็ ที่ฉันตามนายก่อนหน้านี้ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ดีเอง”
ฉินสือโอวบอกว่าไม่เป็นไร หลังชาลส์ขอบคุณเสร็จก็ขอตัว เพราะเรือไม่สามารถจอดชิดไว้นานได้ ถึงอย่างไรพวกเขาก็มาตกปลากัน อย่างที่เขาบอก เรื่องตอบแทนหลังขึ้นฝั่งค่อยว่ากันอีกที
หลังแยกย้าย ชาลส์ก็ออกห่างจากฉินสือโอวไม่ได้ตามต่อ
ความจริงฉินสือโอวไม่ค่อยสนใจเท่าไร เพราะจิตสำนึกโพไซดอนแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีปลาทูน่าครีบน้ำเงินอยู่ที่นี่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เพราะปลาทูน่าครีบน้ำเงินต้องว่ายในทะเลอย่างรวดเร็วตลอด ชายหาดน้ำตื้นจอร์จเป็นแค่สถานที่ที่พวกมันชอบมาหาอาหารเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ามันจะยอมอยู่ให้โดนตกกัน ปลาพวกนี้มักเดินทางไกลเสมอ
ไม่ไกลนั้นมีเรือชื่อ ‘นักท่องอ่าว’ ลำหนึ่งตกปลาตัวใหญ่ได้ ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปดู ปลาตัวนี้มีขนาดสองเมตรกว่า หนักไม่ต่ำกว่าแปดร้อยปอนด์ได้ เจ้าของฟาร์มปลาเห็นดังนั้นก็ดีใจ
พวกเขายังไม่ได้ทานมื้อเที่ยง ช่วงบ่ายสองครึ่งรอกระทั่งแสงอาทิตย์ร้อนน้อยลงกว่านี้ ฉินสือโอวถึงตั้งเตาเล็กย่างไส้กรอกกับแฮมเบอร์เกอร์กิน
ซีมอนสเตอร์และชาร์คดูไม่ค่อยกระตือรือร้นกับการกินเท่าไร พวกเขาเคี้ยวอาหารอย่างไม่ใส่ใจ สายตาไล่มองสำรวจแถวชายหาดน้ำตื้นจอร์จ
แม้จะเป็นชาวประมงเก่า แต่ทั้งสองไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการตกปลาทูน่านัก
งานนี้ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพสูงมาก แค่ตกปลาน่ะง่าย แต่ที่ยากคือจะหาร่องรอยของปลาอย่างไรต่างหาก ทั้งสองเคยแค่ตามเรือประมงอื่นไปไม่กี่ครั้ง จึงไม่ค่อยเข้าใจวิธีหาปลาเท่าไร
จู่ๆ เครื่องโซนาร์หาปลาก็ส่งเสียงแหลมขึ้น ชาร์คผุดลุกไปดูด้วยความตื่นเต้น แล้วก็ห่อเหี่ยวกลับมา “บ้าเอ้ย ก็แค่ฉลามสีน้ำเงินตัวหนึ่ง ถึงอย่างไรก็พวกเราก็ต้องเก็บเบ็ดตกปลากันก่อน”
การตกฉลามถือเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มมาก เสียเหยื่อไม่เท่าไร แต่ตอนดึงขึ้นมาคันเบ็ดกับตะขอจะเสียหายง่ายมาก
อย่าดูถูกว่าแค่คันเบ็ดอันเดียวเชียว เพราะอุปกรณ์ตกปลาทั้งหมดยังต้องใช้ถึงสองร้อยกว่าดอลลาร์
ฉินสือโอวทำท่าให้ทุกคนใจเย็นๆ เขาหยิบไส้กรอกให้ฉงต้ากินพร้อมเอ่ยว่า “เอาน่า ใจเย็นก่อน พวกเราเพิ่งมาที่นี่ได้สองวันเอง ไม่ต้องรีบตกปลาขนาดนั้นก็ได้? ดูทะเลสิก็สวยดีออก?”
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ยักไหล่ พูดอย่างจนใจ “ช่างเถอะ บอส พวกเราไม่ได้มีอารมณ์เดียวกับคุณ สำหรับพวกเราการทุ่มทุนเงินขนาดนี้ ให้ได้มาตกปลาตัวใหญ่ที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จก็เพื่อจะทำเงินเท่านั้น”
ทั้งสองสำรวจแผนที่ทะเลสักพัก พอตัดสินใจเลือกบริเวณที่น่าจะมีโอกาสจับปลาได้สูง ก็ทิ้งสมอเรือแล้วเริ่มโปรยเหยื่อปลา
ฉินสือโอวส่ายหัวยิ้มๆ พวกเขาใจร้อนเกินไปแล้ว คิดจะเชื่อตามแผนที่ทะเลห้าดอลลาร์อเมริกานี่จริงๆ หรือ? ถ้ามันใช้ได้จริง งั้นทำไมน่านน้ำนี้ถึงไม่มีใครมาตกปลาเลยล่ะ? ชัดเจนว่ามันก็แค่ของหลอกต่างชาติดีๆ นั่นเอง
เมื่ออากาศเย็นลง นกทะเลก็เยอะขึ้น ที่ชายหาดจอร์จมีปลาอยู่เยอะเพราะเป็นเขตน้ำตื้น ทำให้นกนางนวลจำนวนมากในระยะไม่กี่ร้อยไมล์มาล่าเหยื่อกัน
นางนวลไม่เพียงสามารถล่าปลาเป็นๆ ในน้ำได้ พวกมันถึงขั้นไปคาบปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะที่พวกชาวประมงโยนลงน้ำได้อีก และยังกินอย่างรวดเร็วคราวละเกือบเจ็ดแปดตัว แทบจะมากกว่าครึ่งที่โดนพวกมันคาบไป
ฉินสือโอวตบมือ นิมิตส์ตวัดตามองหงุดหงิด มันกระพือปีกบินขึ้น แสดงตัวตนที่แท้จริงให้เห็นกลางอากาศ ทั้งผลักทั้งแย่งอาหารจนนางนวลที่อยู่รอบ ๆ ต้องเผ่นหนีไป
ปรากฏจากนั้นไม่นาน พวกนางนวลก็กลับมา พร้อมนกฟรีเกตยักษ์อีกจำนวนหนึ่ง
วิธีเดิมของนิมิตส์คงใช้ไม่ได้ผลแล้ว เพราะนกพวกนี้มาเพื่อล้างแค้นโดยเฉพาะ ถือเป็นการรวมพลครั้งประวัติการณ์ พวกมันตรงเข้ารุมจิกนิมิตส์จนวุ่นวาย
นิมิตส์ที่เคยถูกพลังโพไซดอนวิวัฒนาการมาแล้ว จึงรวบรวมกำลังบินฝ่าออกไปอย่างรวดเร็ว ฉวยโอกาสหนีไปบนเรือประมงด้วยเกรงว่าจะถูกไล่ต้อนจนลงน้ำ
นิมิตส์ไม่พอใจมาก ปากทำเสียงกริ๊กกริ๊ก กระโดดไปมาอยู่บนเรือ ดูเหมือนหญิงปากร้ายที่กำลังกระทืบเท้าด่าทอ แต่มันไม่สามารถบินไปไหนได้แล้ว พวกนกทะเลเข้าล้อมสี่ด้านแฝงเจตนาร้าย
เห็นดังนั้นฉินสือโอวก็กลุ้มใจ บ้าจริง ถ้าพวกนกทะเลยังอยู่แถวนี้ก็โปรยเหยื่อไม่ได้ แล้วจะตกปลาได้อย่างไร? แม้จิตสำนึกโพไซดอนสามารถควบคุมให้พวกทูน่ามารอบๆ ได้ แต่ถ้าไม่มีเหยื่อล่อก็ตกพวกมันไม่ได้อยู่ดี
ฉินสือโอวทดลองอยู่หลายครั้ง ก็พบว่าจิตสำนึกโพไซดอนไม่ได้ควบคุมปลาทะเลได้ทุกอย่าง ถ้าควบคุมแค่การเคลื่อนไหวของปลา ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่หากควบคุมให้พวกมันมาโดนตกหรือเข้าไปในอวน ฯลฯ พลังจะลดลงไวมาก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าหัวใจโพไซดอนไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายพวกปลา ถ้ายังใช้จิตสำนึกควบคุมพวกมันมาทำร้ายเช่นนี้อีก พลังจะอ่อนแอลง
เขาไม่เคยตระหนักเรื่องนี้มาก่อนเลย ตอนนี้การจะใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมปลาขนาดใหญ่ที่มีพลังชีวิตและสติปัญญาดูจะเป็นปัญหาเสียแล้ว
สักพักเรือแห่งชีวิตก็เปิดหวูดขับเข้ามาหา ชาลส์เอ่ยยิ้มๆ ผ่านวิทยุกับฉินสือโอวว่า “พวก ดูเหมือนนายจะเจอปัญหาอยู่ใช่ไหม? ท่าทางมีพวกน่ารำคาญมาพัวพันกับนายเข้าสินะ?”
ฉินสือโอวตอบอย่างจนใจ “ใช่เพื่อน เจ้าพวกนางนวล กับเหยี่ยวออสเปรนี่มันสลัดไม่หลุดจริงๆ “
ชาวประมงต่างจนปัญญากับนกทะเลไม่น้อย เพราะถึงนางนวลจะไม่ได้จัดอยู่ในกฎหมายคุ้มครองนก แต่ทางรัฐบาลแคนาดาและอเมริกานั้นเข้มงวดเรื่องการฆ่านกทะเลแบบผิดกฎหมายมาก หากถูกคนถ่ายรูปไปแจ้งขึ้นมา อย่าหวังว่าจะได้ออกทะเลตกปลาอีกเลย
ชาลส์เอ่ยทั้งรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้แก้ไม่ยาก ฉันพอมีจรวดโพแทสเซียมเล็กๆ อยู่บ้าง นายมีถังเหล็กหรือเปล่า? ถ้ามีก็มาเอาไปเลย อย่าดูถูกของเล็กๆ พวกนี้เชียว มันใช้จัดการนกทะเลได้มีประสิทธิภาพมาก”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset