ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 265 หญิงสาวตัวสูงน่ารัก

บทที่ 265 หญิงสาวตัวสูงน่ารัก
โดย
Ink Stone_Fantasy

ฟาร์มปลาชั้นบนจะมีสาหร่ายทะเลที่งอกงามและสาหร่ายสีน้ำตาลที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ ที่ก้นทะเลคือโลกของปูเสฉวนบกและเหล่าปูก้ามดาบ และแน่นอนสิ่งที่มีมากที่สุดก็คือกุ้งแดง
กุ้งแดงคือนักล่าที่อยู่ชั้นต่ำที่สุดในฟาร์มปลา พวกมันล่าได้แค่เพียงแพลงก์ตอนและสาหร่ายทะเลมาเป็นอาหารเท่านั้น และปลาชนิดอื่นๆ แทบที่จะล่าพวกมันเป็นอาหาร แม้แต่หอยที่มีรูปร่างเหมือนภูเขาไฟอย่างหอยนมสาวทะเลยักษ์ก็ยังสามารถที่จะรังแกพวกมันได้
ใต้ท้องทะเลมีฝูงปลาจำนวนมากกำลังเกาะกลุ่มรวมกันเคลื่อนที่ไปมา ซึ่งปลาที่มีจำนวนมากที่สุดคือปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะและปลาค็อด ปลาเหล่านี้จะเป็นตัวสำคัญในการประคับประคองฟาร์มปลาต้าฉินไว้ นอกจากนี้ เพราะความขยันในการดึงปลาเข้ามาในฟาร์มของฉินสือโอวและการที่ฝูงปลาได้เข้ามาหาด้วยตัวเอง ทำให้ปัจจุบันปลาชนิดต่างๆ ในฟาร์มปลาต้าฉินจึงมีจำนวนเยอะมากแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลตัวแบนมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีขนาดใหญ่มหึมา ปลาลิ้นหมาที่มีรสชาติสดอร่อย ฝูงปลาแฟงค์ทูธที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ครอบครัวปลาขี้ตังเบ็ดที่อยู่โดยไม่อาศัยผู้อื่น และฝูงปลาแซลมอนชินูกที่ฉินสือโอวได้หามา เงาร่างของพวกมันก็มักจะปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ยังมีปลาต่างๆ อาทิเช่น ปลาตาเหลือก ปลาจวด ปลาแอนโชวี่มหาสมุทรแอตแลนติก ปลากะพง ปลากระโทงร่ม ปลาอมไข่ครีบยาว ปลาโอขาวและปลาโอหลอด ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่ฟาร์มปลาเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวแปลกประหลาดใจมากที่สุดก็คือ การได้พบเจอกับปลาไหลอเมริกันจำนวนหนึ่งโดยไม่คาดคิด เจ้าพวกนี้เหมือนกับปลาไหลนาไม่มีผิด ชอบที่จะหลบซ่อนอยู่ในทราย เมื่อมีกุ้งแดงผ่านมา พวกมันจะยื่นหัวออกมาทันทีทันใด และใช้ความกะทันหันนี้กลืนเขมือบกุ้งเหล่านั้นเข้าไป จากนั้นก็เข้าไปซ่อนตัวในทรายอีกครั้ง
ฉินสือโอวได้ให้พลังงานโพไซดอนแก่ปลาไหลอเมริกันบ้างเล็กน้อย เขายังจำคำพูดของชาร์คได้ดีว่า ปัจจุบันปลาไหลอเมริกันนั้นใกล้จะสูญพันธุ์หมดแล้ว ซึ่งสาเหตุเกิดจากสภาพแวดล้อมของแหล่งที่อยู่อาศัยนั้นไม่ดี ดังนั้น หากเจ้าปลาไหลเหล่านี้สามารถแพร่พันธุ์ที่ฟาร์มปลาได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากเช่นกัน
เมื่อนึกถึงความอร่อยของปลาไหลอเมริกัน ฉินสือโอวจึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย สำหรับในส่วนของไข่ปลาไหลนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรคิดเลยจริงๆ !
หลังจากที่สำรวจใต้ท้องทะเลเสร็จแล้ว เรือยอชต์ก็ค่อยๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้ท่าเรือ
รอบๆ ท่าเรือจะมียางรถเก่าผูกติดไว้ เรือยอชต์และเรือต่างๆ เพียงแค่มาหยุดจอดเทียบท่า ถ้าหากไม่มียางรถที่ช่วยทำให้แรงปะทะลดลง ท่าเรือก็จะถูกกระแทกเข้าได้ง่ายและทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อตัวเรือและท่าเรือ
เมื่อเรือเทียบท่าและได้วางพาดแผ่นไม้สำหรับให้เดินลงเรือแล้ว หู่จือและเป้าจือก็ได้พุ่งลงไป ส่วนฉงต้าก็ได้เดินตามมาติดๆ ขาทั้งสี่ได้โยกย้ายก้นอันตุ้ยนุ้ย คาดไม่ถึงว่ามันจะวิ่งได้ไม่ช้าไปกว่าลาบราดอร์ทั้งสองตัวมากนัก ทำให้ต้าป๋ายถูกทิ้งไปไกลมาก
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บุชร้อนใจ มันสะบัดปีกอันเล็กยื่นคอออกมาและร้อง ‘แควกแควก’ อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างขากลับพวกหู่จือและเป้าจือก็ได้พามันเล่นสนุกสนานตลอดเวลา ในตอนนี้ก็ได้ขึ้นมาบนพื้นดินกันหมดแล้ว เมื่อพบเจอกับเขตพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย บุชจึงไม่กล้าที่จะขึ้นไปและหมุนไปมาอย่างกังวล
ฉินสือโอวยิ้มหัวเราะและจับบุชขึ้นมา เชอร์ลี่ย์ พาวลิส กอร์ดอนและมิเชล เด็กทั้งสี่คนส่งเสียงร้องแสดงความดีใจและให้การต้อนรับทุกคนขึ้นมา หู่จือและเป้าจือโถมตัวขึ้นมา พาวลิสและกอร์ดอนจึงวิ่งเข้าไปกอดสุนัขหนึ่งคนต่อหนึ่งตัวและนอนกลิ้งไปมาบนหาดทราย
ต้าฉงก็โผเข้าหาเชอร์ลี่ย์ เชอร์ลี่ย์วิ่งเข้ามาและยิ้มอย่างเบิกบานใจ ฉงต้าคิดว่าตัวเองนั้นยอดเยี่ยมมาก จึงเข้าไปขู่ให้มิเชลตกใจกลัวเช่นกัน
มิเชลจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย และจับลูกบาสเกตบอลดึงไปทางข้างหลังและโยนออกไปเหมือนกับเล่นกีฬาทุ่มน้ำหนักไม่มีผิด
‘โครม!’ ลูกบาสได้ตกลงไปโดนกลางหน้าผากของฉงต้าพอดี ฉงต้าจึงร้องเสียงดังออกมาอย่างน่าสงสาร มันแกว่งไปมาสองรอบอยู่บนหาดทรายเหมือนกับเมาเหล้าและล้มคว่ำลงไปที่พื้น!
ฉินสือโอววิ่งเข้ามา ฉงต้าได้กอดขาเข้าไว้และเริ่มร้อง ‘โฮโฮ’ ออกมา อวัยวะบนใบหน้าที่อวบอ้วนต่างก็แทบจะรวมเข้าด้วยกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเสียใจนะ
เมื่อไม่มีทางเลือก ฉินสือโอวจึงต้องจำใจลากฉงต้าขึ้นมาบนฝั่ง เออร์บักสวมกางเกงชายหาดสบายๆ นั่งตากอากาศอยู่ ทั้งสองคนต่างยิ้มให้กันโดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ทั้งหมดเป็นที่รู้กันของทั้งสองฝ่าย
พลังแห่งโพไซดอนนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ มันได้ช่วยกำจัดเนื้องอกในสมองของเออร์บักให้หายไปอย่างฉับพลัน และภายใต้การรักษาของพลังแห่งโพไซดอนทำให้ในตอนนี้ร่างกายของตาเฒ่าได้ฟื้นตัวมากขึ้นแล้ว กลับมามีพละกำลังอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ในระหว่างที่ฉินสือโอวไม่อยู่ เขาสามารถขับเรือลาดตระเวนออกไปทะเลด้วยตัวเองได้อย่างเป็นประจำ
หลังจากที่ขึ้นฝั่งมาแล้วชาร์คและซีมอนสเตอร์ก็กลับไปที่บ้านก่อน ฉินสือโอวได้ให้พวกเขาหยุดพักผ่อนสองวัน แม้ว่าการออกทะเลในครั้งนี้จะไม่ได้เหนื่อยอะไรนัก ซึ่งเหมือนกับไปท่องเที่ยวในวันหยุดไม่มีผิด แต่ทว่าถึงอย่างไรก็เป็นการจากบ้านไปกว่าครึ่งเดือน พวกเขายังอยากที่จะอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว
อีวิลสันและนีลเซ็นยังคงอยู่ที่ฟาร์มปลาต่อ ฉินสือโอววิ่งไปที่สวนแตงกวา เขาหาแตงกวาที่เขียวสดมาเช็ดๆ สองลูก จากนั้นก็ใช้ฟันกัด ‘กร๊อบกร๊อบ’ กินน้ำที่แตกกระจายอยู่ข้างในปาก
กระรอกเสี่ยวหมิงได้เกาะตามขากางเกงและปีนขึ้นไปบนไหล่เขาอย่างว่องไว ฉินสือโอวจึงบิดแตงกวาชิ้นหนึ่งส่งให้มัน
เมื่อรับแตงกวามาแล้ว มันจึงกระโดดลงมาจากบนไหล่ของเขาโดยตรง ขนปุยที่อยู่บนหางของมันจึงแผ่ขยายออกมา ราวกับว่ากำลังสะพายร่มชูชีพไว้และลงมาที่พื้นอย่างสบายๆ มันกัดแตงกวาแบ่งเป็นสามสี่ชิ้น เหล่ากระรอกดินที่กำลังเล่นกันอยู่ไม่ไกลนัก ได้วิ่งหัวซุกหัวซุนเข้ามาคว้าแตงกวาด้วยสองมือและกินเข้าไป
ฉินสือโอวเห็นฉากนี้เข้าจึงหัวเราะชอบใจออกมา เขาได้พูดกับเออร์บักที่อยู่ด้านหลังขึ้นว่า “รีบดูสิ คุณปู่เออร์ คิดไม่ถึงว่ากระรอกดินพวกนี้จะกินอาหารเหมือนกับเสี่ยวหมิง พวกมันกำลังเรียนรู้จากเสี่ยวหมิงเหรอ?”
เออร์บักยักไหล่ หัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า “แบบนี้เห็นได้บ่อย ในความคิดของพวกมันตอนนี้เสี่ยวหมิงได้กลายเป็นพ่อไปแล้ว”
วันเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่ฉินสือโอวคิดถึงมากที่สุดคือผักผลไม้ของที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีไก่และเป็ดจำนวนมากที่เลี้ยงโดยธรรมชาติ
ที่เมืองกลอสเตอร์ผู้คนได้กินอาหารเหมือนกับที่ต่างๆ ในอเมริกาไม่มีผิด นั่นก็คือกินเนื้อไก่ เนื้อแกะ และเนื้อวัว ไม่ต้องคาดหวังถึงเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อวัว และเนื้อแกะที่มีการเลี้ยงดูเป็นพิเศษจนมีคุณภาพดีและนำออกมาขายเหมือนกับเมืองเล็กๆ เนื้อสัตว์ที่ขายตามร้านค้าต่างก็เป็นเนื้อสัตว์ที่ถูกเลี้ยงมาโดยการให้อาหารสัตว์
เขาคุ้นชินแล้วกับการกินเนื้อไก่และเนื้อเป็ดที่ถูกเลี้ยงโดยธรรมชาติ เมื่อมากินเนื้อสัตว์ที่นี่อีกครั้ง ช่างไม่มีรสชาติอะไรเลยจริงๆ
เออร์บักเข้าใจเขามากที่สุด จึงหัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า “ในบ้านได้เก็บไข่ไก่และไข่เป็ดไว้ประมาณสี่ร้อยกว่าฟองแล้ว นอกจากนี้ นายสามารถไปดูๆ ที่คอกได้ มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อย่างหนึ่ง”
ฉินสือโอวสงสัยว่าเรื่องเซอร์ไพรส์คืออะไร แต่ว่าก็ไม่มีอะไรให้คาดหวัง เขาจึงเก็บแตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว ถั่วฝักยาว ถั่วแขกและพริกขึ้นมาเล็กน้อย และยังขุดคื่นฉ่ายขึ้นมาอีกสองต้น มันฝรั่งอีกเล็กน้อย เมื่อจัดการผักในสวนผักเสร็จแล้วเขาถึงจะไปที่คอกเลี้ยงสัตว์
หลังจากไปดูที่คอกเลี้ยงสัตว์ ฉินสือโอวก็ได้เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์จริงๆ
ภายในคอกเลี้ยงสัตว์ที่กว้างขวาง มีลูกไก่ขนปุกปุยสีเหลืองและลูกเป็ดที่ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในพงหญ้า ซึ่งเมื่อนับคร่าวๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีจำนวนประมาณหนึ่งร้อยกว่าตัว
ในตอนนี้ไก่ตัวผู้ได้เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งมากขึ้นแล้ว มันเดินยืดหน้าอกผายไหล่ผึ่งอยู่ในคอก ราวกับจักรพรรดิกำลังสำรวจอาณานิคม ซึ่งเรียกว่าความยิ่งยโสอย่างหนึ่ง
ลูกหมูป่าและเหล่าหมูบ้านได้ถูกไก่กับเป็ดต้อนไปที่มุมคอก เพียงแค่พวกมันกล้ามารุกล้ำเขต ไก่ตัวผู้ก็จะร้อง ‘กะต๊ากกะต๊าก’ และใช้ปากที่แหลมไปจิกพวกมัน ไล่พวกมันถอยกลับไป
เชอร์ลี่ย์มีความสุขจนพูดกับฉินสือโอวขึ้นว่า “ลูกไก่พวกนี้หนูเป็นคนเจอเอง พวกมันพึ่งจะฟักไข่ได้อาทิตย์หนึ่ง วันนั้นตอนที่หนูมาเก็บไข่ก็เห็นแม่ไก่เจ็ดแปดตัวฟักไข่ออกมา ต่อมาพวกเราก็ไม่ได้มาเก็บไข่ไก่และไข่เป็ดอีก ทำให้ลูกไก่และลูกเป็ดที่ฟักออกมามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น”
ฉินสือโอวกลืนน้ำลายและเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าเป็นอย่างที่พูด ในนี้มีไข่ขน[1]เหรอ?”
“อะไรคือไข่ขนเหรอคะ?” เชอร์ลี่ย์เบิกตากว้างเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เมื่อผ่านการอบรมเลี้ยงดูในฟาร์มปลา เธอจึงไม่มีท่าทางที่เหมือนกับสาวน้อยลี้ภัยผู้อ่อนแออีกแล้ว ตอนนี้ผิวของเธอขาวนุ่ม เส้นผมตรงสีทองนุ่มสลวยปล่อยลงมาประบ่า ดวงตาสีเขียวมรกตสะอาดราวกับหินโมรา ริมฝีปากนุ่มเป็นสีชมพู รูปร่างของร่างกายก็เจริญเติบโตอย่างอรชรอ้อนแอ้นและมีเสน่ห์ ช่างเป็นเหมือนกับหญิงสาวตัวสูงน่ารักที่ส่งกลิ่นความหอมสดชื่นจริงๆ เลย
………………………………………………………………

[1]毛蛋 ไข่ขน หรือในภาษาไทยเรียกว่า ไข่ข้าว(ไข่ค้างฮาง) เกิดจากแม่ไก่ที่ออกไข่มาแต่ไม่ได้ฟักต่อหรือเรียกว่าแท้งลูก ซึ่งในไข่นั้นจะมีตัวอ่อนของไก่ที่กำลังจะเป็นลูกเจี๊ยบอยู่หรือไข่บางฟองที่กำลังเป็นตัวอ่อนแต่ตายแล้วจึงกลายมาเป็นไข่ข้าว

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset