บทที่ 278 คุณผู้หญิงกลับมาแล้ว
โดย
Ink Stone_Fantasy
ซ่งไป๋ลู่ยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันไม่กล้าไปหรอก เท่าที่ฉันรู้ ชาวบีโอธัคสูญพันธุ์ในปี 1829 ใช่ไหม? ผู้หญิงคนสุดท้ายดูเหมือนจะชื่อชานาวดิธิต และเสียชีวิตจากวัณโรคใช่ไหม? ถ้าคุณบอกว่าคุณเป็นชาวบีโอธัค ฉันเริ่มรู้สึกกลัวแล้วล่ะ คุณเป็นคนหรือวิญญาณล่ะ?”
ฮิวจ์คนน้องชะงัก กะพริบตาปริบๆ และไม่รู้จะพูดอะไรดี
จงฉูฉู่ใช้นิ้วชี้ปัดหน้าตัวเองไปมาแล้วพูดว่า “อายไหมล่ะ คุณคิดว่าเรามานิวฟันด์แลนด์โดยไม่ได้ศึกษาอะไรเลยใช่ไหม? อย่าคิดว่าเราเป็นเหมือนแจกันที่มีความสวยเพียงอย่างเดียวสิ ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องอับอายก็คือคุณ”
“เขาไม่รู้จักอายหรอก เขาหน้าด้านสักขนาดนี้ ดูสิ กล้ามากนะที่บอกว่าตัวเองเป็นชาวบีโอธัค งั้นฉันขอถามหน่อยสิว่าชนเผ่าบีโอธัคหายไปได้ยังไง? เพราะถูกคนผิวขาวอย่างพวกคุณฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยังไงล่ะ”
ฮิวจ์คนน้องรีบโบกมือและพูดว่า “เรื่องที่ผมอยากสานสัมพันธ์กับพวกคุณคือเรื่องจริงนะ แต่การสูญพันธุ์ของบีโอธัคไม่เกี่ยวกับเรา เราเป็นลูกหลานของชาวอังกฤษที่อพยพมาจากสหรัฐอเมริกา คนที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บีโอธัคคือชาวฝรั่งเศสต่างหาก”
นี่คือเรื่องจริง ตามที่เราทุกคนรู้กันว่าแคนาดาเป็นประเทศที่จัดตั้งขึ้นโดยผู้อพยพ คนผิวขาวส่วนใหญ่ในนิวฟันด์แลนด์เป็นลูกหลานของชาวอังกฤษ ในปี 1776 สหรัฐอเมริกาประกาศเอกราช ผู้เข้าข้างอังกฤษจำนวนมากหวังที่จะรักษาความภักดีต่อจักรวรรดิอังกฤษจึงหนีไปแคนาดาเพื่อขอลี้ภัย
สถานที่ที่คนเหล่านี้อพยพไปก็คือรัฐโนวาสโกเชีย รัฐนิวบรันสวิกและนิวฟันด์แลนด์ ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบๆ เกรตเลกส์เพื่อต้องการขยายอาณาเขต พวกเขาขับไล่ชาวบีโอธัคในรัฐออนแทรีโอ (ตอนนั้นเรียกว่ารัฐอัปเปอร์แคนาดา) และรัฐควิเบกออกไป แล้วยึดสถานที่สองแห่งนี้
แต่อย่ามีเหตุผลกับผู้หญิงเลย เพราะพวกเธอไม่มีเหตุผล
ฮิวจ์คนน้องพยายามปกป้องบรรพบุรุษของเขา แต่ซ่งไป๋ลู่พูดว่า “คุณกล้ารับประกันไหมว่าบรรพบุรุษชาวอังกฤษของคุณไม่เคยฆ่าชาวบีโอธัคเลยแม้แต่คนเดียว?”
ฮิวจ์คนน้องไม่มีอะไรจะพูด หยิบกระดานโต้คลื่นที่เขาเอาไว้สร้างภาพแล้วเตรียมจะออกไปจากที่นี่ แต่เขาไม่ได้เอากลับไปทั้งกระดานโต้คลื่นและสกีน้ำ เพราะหญิงสาวคนหนึ่งต้องการยืม เขาจึงเอาไว้ที่นี่
ฉินสือโอวและฮิวจ์ดื่มเครื่องดื่มไปหัวเราะไปเมื่อเห็นฮิวจ์คนน้องต้องยอมแพ้ ความรู้สึกนี้ไม่เลวเลย
พวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งเป็นหนุ่มพรหมจรรย์อีกคนเป็นสามีที่ถูกภรรยาจับจ้องอย่างไม่ละสายตา สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือคนอย่างฮิวจ์คนน้องที่มีสาวๆ รายล้อม และทำตัวเรียกร้องความสนใจจากผู้หญิง
สาวๆ บางคนกำลังอาบแดดบนชายหาดบางคนขับเรือโต้คลื่น มื้อเที่ยงมีคนเข็นรถเข็นเสิร์ฟอาหารไปส่งให้ พวกเธอมีหน้าที่จ่ายเงินเท่านั้น
ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนแต่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยจริงๆ อย่างน้อยก็ชำนาญกับการเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต เวลาซื้อของไม่เคยต่อราคา ธนบัตรถูกจ่ายออกไปไม่หยุด ทิปที่ให้แสดงให้เห็นถึงความใจกว้าง กลุ่มทัวร์ยี่สิบคนมีระดับการใช้จ่ายที่สูงเท่ากับกลุ่มทัวร์หนึ่งร้อยคน
“คนจีนรวยจริงๆ เลย” ฮิวจ์พูดอย่างตื้นตันใจ
ฉินสือโอวยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “คนจนเยอะกว่า เพียงแต่นายไม่เห็นก็เท่านั้น อย่างฉันไง ก่อนมาแคนาดา ค่าครองชีพรายเดือนของฉันอยู่ที่ 400 ดอลลาร์แคนาดาเท่านั้นเอง!”
ฮิวจ์หัวเราะเสียงดัง “เรื่องตลกนี่น่าสนแฮะ ถ้าเชื่อนาย ฉันคงเป็นกวางมูสแล้ว”
มันไม่สำคัญเลยว่าฮิวจ์จะเชื่อหรือไม่ แต่ฉินสือโอวหวังอยากให้ผู้หญิงเหล่านี้เชื่อเขา แต่ดูจากสีหน้าของพวกเธอแล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อ
เมืองแฟร์เวลได้เตรียมมัคคุเทศก์ไว้สองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ทั้งสองคนมีความคุ้นเคยกับเมืองแฟร์เวลมากกว่าฉินสือโอว กับเซนต์จอห์นก็รู้จักมากกว่าเหมือนกัน แต่พวกเขาพูดภาษาจีนไม่ได้
ดังนั้นแม้ฉินสือโอวไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลนักท่องเที่ยวเหล่านี้ตลอดทริป แต่ก็ต้องไปปรากฏตัวสักหน่อย
ในตอนกลางวันโต้คลื่นริมทะเล ในตอนบ่ายๆ อากาศเย็นลงแล้ว สาวๆ ก็ไปยิงปลาที่ทะเลสาบเฉินเป่า
ผู้หญิงอ้อนแอ้นเหล่านี้จะมีแรงดึงลูกธนูได้อย่างไร ในบ้านของซีมอนสเตอร์มีปืนยิงปลากว่าสิบชุด พวกมันถูกสร้างขึ้นตอนที่เขาว่าง และตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์แล้วล่ะ
เขาให้ภรรยาตั้งแผงขายของที่ริมฝั่งทะเลสาบ ให้เช่าปืนยิงปลา สิบห้าดอลลาร์ต่อครึ่งชั่วโมงและมีลูกดอกให้
ตั้งปืนยิงปลาในเรือเล็ก ในที่สุดสาวๆ ก็สามารถใช้ได้แล้ว
ปลาคาร์ฟ ปลาเฉาฮื้อ ปลาซ่งกระโดดไปมาในทะเลสาบเฉินเป่า สาวๆ กรีดร้องและลั่นไกอย่างเมามัน พวกเธอยิงธนูออกไปตามอําเภอใจ เพราะถึงอย่างไรธนูก็ถูกมัดด้วยสายเบ็ดอยู่แล้ว สามารถดึงกลับมาได้
แฮมเล็ตให้ชาวประมงหลายคนมาช่วยดูแลและให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของปลาคาร์ฟเอเชีย
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง สาวๆ เต็มอิ่มกับการยิงปลาแล้ว แต่ได้ปลามาแค่เจ็ดหรือแปดตัวเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ได้มาด้วยความบังเอิญและถือว่าเป็นความโชคร้ายของปลาคาร์ฟเอเชียเหล่านี้
ร้านอาหารของคุณลุงฮิคสันได้เตรียมเตาและเครื่องปรุงไว้แล้ว ถ้าสาวๆ ต้องการทำเมนูปลาด้วยตัวเองก็สามารถลงมือทำได้ หรือสามารถบอกคุณลุงฮิคสันได้ว่าอยากกินปลาต้มพริก ปลาเปรี้ยวหวานหรือปลาน้ำแดง คุณลุงทำได้ทุกอย่าง
ปู่รองของฉินสือโอวเคยสอนคุณลุงฮิคสันทำอาหารจีนดั้งเดิม ดังนั้นเมนูที่เกี่ยวกับปลา เขาสามารถทำได้เกือบทำหมด
วันรุ่งขึ้นสาวๆ ที่ได้พักผ่อนแล้วกำลังจะไปช้อปปิ้งที่เซนต์จอห์น คราวนี้ไม่จำเป็นต้องให้ฉินสือโอวนำทีมแล้ว ไกด์นำเที่ยวเหมาะสมมากกว่า ความคุ้นเคยกับเซนต์จอห์นของพวกเขาฉินสือโอวไม่สามารถเทียบได้เลย
ตอนบ่าย ฉินสือโอวกำลังดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ และตากลมทะเลอยู่บนชายหาด เพลิดเพลินกับความสงบที่ไม่ได้มีบ่อยๆ และแล้ววินนี่ก็โทรเข้ามา เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “ที่รัก ฉันถึงเซนต์จอห์นแล้ว รู้สึกเซอร์ไพรส์ไหม?”
ฉินสือโอวรู้สึกเซอร์ไพรส์จริงๆ มันเร็วเกินไปไหม ไม่ได้มาเพื่อจับผิดเขาใช่ไหมเนี่ย?
วินนี่อธิบายว่า เธอเริ่มมีความคิดที่อยากลาออกตั้งแต่ย้ายเธอไปยังเที่ยวบินนานาชาติไมอามี-โทรอนโต
เดิมทีเธอต้องเซ็นสัญญาใหม่ทุกๆ สี่ปี และสัญญาของเธอกำลังจะหมดอายุในเดือนนี้ เธอลังเลอยู่นานว่าจะลาออกหรือไม่ และได้ยื้อเวลาการต่ออายุสัญญาของเธอตลอดเรื่อยมา ดังนั้นการตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ สามารถลาออกโดยการยกเลิกสัญญาโดยตรง
สำหรับการให้รอหนึ่งเดือนเพื่อให้เวลาบริษัทแอร์แคนาดากรุ๊ปในการจัดหาคนมาแทนนั้น วินนี่คงไม่มีความเมตตาอย่างนั้น เพราะคนทำงานชาวแคนาดาล้วนแต่ทำงานตามกฎหมาย กฎหมายกำหนดว่าเมื่อสัญญาหมดอายุก็สามารถลาออกได้โดยตรง แน่นอนว่าวินนี้ต้องทำอย่างนี้
ฉินสือโอวรีบขับเรือไปรับวินนี่ เรือยอชต์ถูกคนอื่นขับไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ขับเรือลาดตระเวนแล้วกัน สามารถอยู่กันแค่สองคนอย่างหวานชื่นพอดี
เมื่อเจอวินนี่ เธอสวมเสื้อยืดเปิดไหล่ผ้าเนื้อผสม มีภาพสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์และหมีสีน้ำตาล 3 มิติบนเสื้อ เมื่อดูอย่างตั้งใจจะเห็นว่ามันมีลักษณะเหมือนหู่จือ เป้าจือและฉงต้า ดูเซ็กซี่และขี้เล่นในเวลาเดียวกัน
ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงผ้าก๊อซสองชั้นที่มีความยาวระดับหัวเข่า มันปลิวสะบัดไปตามลม เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ลึกลับ แสดงให้เห็นถึงมุมเซ็กซี่ของแอร์โฮสเตสขาเรียวอย่างชัดเจน
เมื่อเห็นวินนี่ บนใบหน้าของฉินสือโอวก็ปรากฏรอยยิ้ม ทันทีที่เรือเทียบท่า เขาก็กางแขนออก
วินนี่วางกระเป๋าหนังลงแล้ววิ่งตรงไปมาหาเขา ฉินสือโอวกำลังคิดว่าจะจูบอย่างดุเดือดก่อนหรือกล่าวคำกลอนสักบทก่อนเพื่อปรับบรรยากาศ แต่หู่จือและเป้าจือวิ่งเข้าไปก่อน วินนี่ย่อตัวลง ทั้งสองกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ
ฉินสือโอวยังคงกางแขนค้างไว้ หลังจากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว เหลือแต่เสียงหัวเราะของชาวประมงกลุ่มหนึ่งและนักท่องเที่ยวที่อยู่บนท่าเรือ…
………………………………………………………..