ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 284 ซื้อ ซื้อ ต้องซื้อ

“ถ้านายยินดีที่จะจ่ายเงินสิบสองล้านดอลลาร์ เช่นนั้นฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท ก็จะเป็นของนาย” รอทเป็นคนฉลาดหลักแหลม ไม่จำเป็นต้องอารัมภบท ไม่จำเป็นต้องพูดหว่านล้อม เขาตรงเข้าประเด็นเลยทันที
ฉินสือโอวส่ายหัวแล้วพูดกับเขาว่า “ไม่ๆ มิสเตอร์รอท คุณก็รู้ว่าผมเคารพคุณ แต่ว่าแต่ราคาที่คุณต้องการในตอนนี้ทำให้ความเคารพของผมที่มีต่อคุณลดน้อยลงแล้ว มันไม่คุ้มกับราคาสิบสองล้านเลยนะ คุณเองก็รู้ถึงสถานการณ์ของฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ในตอนนี้ดี”
“อาจจะไม่คุ้มค่าสำหรับคนอื่น แต่มันคุ้มค่าสำหรับนายแน่ๆ” รอทยิ้มด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดว่า เจ้าหนุ่มนี่ไม่ได้กล้าได้กล้าเสียอย่างที่เขาแสดงออก แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ยังไงซะเจ้านี่ก็เป็นลูกหลานของนายทุนเก่านี่นะ
ฉินสือโอวพูดกับเขาว่า “ใช่ครับ ผมมีความคิดหนึ่ง นั่นก็คือซื้อฟาร์มปลาเอกชนทุกแห่งบนเกาะแฟร์เวล แต่จุดประสงค์ของผมไม่ได้อยู่ที่ว่าจะได้ปลามากน้อยแค่ไหน ผมแค่อยากจะรับรองพัฒนาการการพึ่งพาตัวเองของเกาะแฟร์เวล เมืองเล็กๆ แห่งนั้น สำหรับผมแล้ว มันคือดินแดนในอุดมคติ”
รอทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขาพูดขึ้นมาว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ที่เกาะแฟร์เวลนานเท่าไรนัก แต่พูดกันจริงๆ แล้ว ที่นั่นก็เป็นเหมือนดินแดนในอุดมคตินั่นล่ะ โอเค พูดกันตรงๆ เลยแล้วกัน นายอยากจะให้ฉันเท่าไรล่ะ?”
“สิบล้าน!”
“โอ้ พ่อหนุ่ม นายบ้าไปแล้วจริงๆ ราคาสิบล้านยังไงก็ไม่ได้แน่ๆ นั่นมันทะเลหนึ่งผืน ทะเลผืนใหญ่หนึ่งผืนเลยนะ ถ้านายไปที่อื่น แล้วอยากจะได้มหาสมุทรที่ใหญ่ขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เงินสามสิบล้านก็ซื้อไม่ได้แน่ๆ! เอาล่ะ ฉันจะช่วยนายสักหน่อยแล้วกัน สิบเอ็ดล้านกับอีกห้าแสน”
“มิสเตอร์รอท คุณต้องรู้ว่า ที่นั่นตอนนี้นอกจากน้ำทะเลก็ไม่มีอะไรแล้ว น้ำทะเลจะมีราคาเท่าไรกันเชียว? สิบล้านสองแสน”
“ไอ้หนุ่ม นายคิดว่าพวกเรากำลังซื้อผักอยู่ในตลาดหรือยังไงกัน? อย่างน้อยต้องได้ถึงราคาขั้นต่ำ เห็นแก่วินนี่ ฉันจะให้ราคาพิเศษกับนายแล้วกัน สิบเอ็ดล้านห้าแสน!”
“ผมจะเสนอราคาเป็นครั้งสุดท้าย มิสเตอร์รอท สิบล้านห้าแสน ถ้าคุณไม่เต็มใจจะขายราคานี้ ถ้าอย่างนั้นผมคงทำได้แค่พาแฟนของผมกลับเมืองแฟร์เวลแล้วล่ะครับ คุณต้องคิดให้ดี เงินทุนสิบล้าน จะขว้างทิ้งลงทะเลให้มันเสียเปล่าหรือจะหยิบมันขึ้นมาเพื่อขยับขยายกิจการของคุณ เงินก้อนนี้คุณต้องคิดให้ดีกว่าผม”
“น่าตายจริงๆ ฉันเคยได้ยินมาว่าคนจีนเก่งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนฉันยังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ฉันต้องยอมรับแล้วจริงๆ พวกนายนี่มันเป็นพ่อค้าหน้าเลือดจริงๆ! เอาล่ะ สิบล้านห้าแสน ตกลง!”
รอทยื่นมือออกมาด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม ฉินสือโอวเองก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส ทั้งสองคนจับมือกัน น่าเสียดายที่ไม่มีนักข่าวมาถ่ายรูปไว้สักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็คงจะเอาไปลงข่าวได้
สาเหตุที่เขากล้าต่อราคาได้เด็ดขาดขนาดนี้ ก็เพราะเขาจำที่แฮมเล็ตเคยบอกไว้ได้ว่า ราคาที่รอทเสนอให้กับเทศบาลอยู่ที่สิบสองล้าน แฮมเล็ตบอกเขาไว้ว่าราคานี้ยังสามารถต่อได้อีก ถ้าเขาขอลดราคาสักสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ราคาที่รอทรับได้ คือราคาที่ใกล้เคียงกับเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสิบสองล้าน
สำหรับรอทแล้ว ฟาร์มปลาแห่งนั้นเป็นสิ่งไร้ประโยชน์สำหรับเขาอย่างแท้จริง ถ้าไม่ลงทุนก็ไม่เกิดผลผลิตอะไร ปล่อยไว้อย่างนั้นในแต่ละปีจำนวนปลาที่ได้ก็ขาดแคลน ถ้านำเงินสิบล้านดอลลาร์มาฝากไว้ในธนาคาร ก็ยังได้ดอกเบี้ยมากกว่าราคาปลาที่จับขึ้นมาได้
ดังนั้น แท้จริงแล้วเขากำลังรอ ‘คนซื่อบื้อ’ อย่างฉินสือโอว ที่จะมาซื้อกิจการต่อ ขายได้ในราคาสิบล้านห้าแสน ก็นับว่าทำให้เขาพอใจมากแล้ว
ฉินสือโอวโทรศัพท์หาเออร์บัก ให้เขามาที่นครเซนต์จอห์นเพื่อเตรียมสัญญา รอทเองก็โทรหาทนายของเขาเหมือนกัน ทั้งสองคนต่างก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าการเจรจาจะเป็นไปอย่างราบรื่นขนาดนี้ นับว่าสมดังใจกันทั้งสองฝ่าย
คนที่รอทเรียกมาไม่ใช่ทนาย แต่เป็นทุกๆ คนในฝ่ายกฎหมายของโรงงานผลิตอาหารของเขา ทางด้านฉินสือโอวมีเพียงเออร์บักคนเดียวที่ลงสนามช่วยเขา แค่ได้ยินชื่อเสียงของชายชรา ฝ่ายตรงข้ามก็พากันกลัวจนฉี่แทบราดแล้ว
ในช่วงบ่าย เมื่อร่างสัญญาเสร็จแล้วก็ส่งมาที่โรงแรมนอร์ธเทิร์น ไลท์ อินน์ ในตอนสุดท้ายทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเล็กน้อย จากนั้นจึงเซ็นชื่อขอตัวเองลงไปในสัญญา ดังนั้นขั้นตอนต่อไปจึงเป็นการดำเนินการตามสัญญา ฝ่ายหนึ่งไปโอนเงินอีกฝ่ายหนึ่งไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ฟาร์มปลา ต่างก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันนี้
เวลาที่เหลืออยู่ ก็ถูกใช้เพื่อดื่มด่ำกับเทศกาลแมวน้ำ ฉินสือโอวถือเอาโทรศัพท์ไว้ข้างๆ เพื่อแอบเล่นอินเทอร์เน็ต ที่ตรงนี้นอกจากจะไม่มีสาวสวยแล้วก็ยังไม่มีสาวฮ็อตๆ อีก แต่ถึงจะมีก็พากันสวมเสื้อผ้าหนาๆ จนมองไม่ออกกันทุกคน
สิ่งเดียวที่ดึงดูดฉินสือโอวได้ ก็คืองานเลี้ยงที่มีจุดเด่น คือเนื้อย่างน้ำแข็ง
งานเลี้ยงตอนเย็นเปลี่ยนสถานที่จัดงาน ไปอยู่ที่หาดทรายแห่งหนึ่งในนครเซนต์จอห์น รถขนน้ำแข็งแต่ละก้อนก็ถูกส่งเข้ามา งานเลี้ยงที่ฉินสือโอวเคยไปเข้าร่วมเมื่อก่อนล้วนแต่เป็นงานเลี้ยงที่มีแคมป์ไฟ แต่ครั้งนี้กลับเปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงที่ใช้ก้อนน้ำแข็ง ทำให้เขารู้สึกแปลกใหม่มากจริงๆ
บาร์บีคิวจะถูกทำขึ้นบนก้อนน้ำแข็ง ฉินสือโอวนั่งอยู่ด้วยกันกับภรรยาของรอท ถือเอาปลาแซลมอนชัมเนื้ออวบนุ่มมาย่างไว้บนตะแกรง
วินนี่นั่งอิงแอบอยู่ข้างๆ เธอถามเขาเสียงเบาว่า “คุยธุรกิจเป็นยังไงบ้างคะ?”
ฉินสือโอวจูบลงไปบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ เขาหัวเราะพร้อมทั้งบอกกับเธอว่า “เพราะว่าเห็นแก่คุณ รอทเลยลดราคาให้เราหนึ่งล้านห้าแสน”
วินนี่หยิกเขาเบาๆ หนึ่งครั้ง เธอมองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย พร้อมทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วพูดกับเขาว่า “ฉันมีหน้ามีตาขนาดนั้นเลยหรือยังไงกันคะ? คุณแกล้งแหย่ฉันต่างหาก”
ฉินสือโอวเล่าสถานการณ์ขณะที่กำลังเจรจาซื้อขายให้เธอฟัง วินนี่ก็ยิ้มแล้วหัวเราะคิกคักออกมา สุดท้ายจึงพูดกับเขาว่า “เหมือนกับว่าพวกคุณต่อราคาผักในตลาดจริงๆ ค่ะ ถ้าเป็นในห้างคงต่อรองราคาแบบนี้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? คุณไม่ได้เตรียมตัวเลขอ้างอิงของฟาร์มปลาไว้เลยเหรอคะ?”
ฉินสือโอวแบะปาก เขาบอกกับเธอว่า “ยังจะต้องใช้ตัวเลขอ้างอิงอะไรกัน ยังไงก็ซื้อมาได้แล้ว แถมยังต่างกันแค่สิบล้านกับสิบสองล้านเอง”
“คุณนี่รวยจนไร้สติจริงๆ!”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ ภรรยาของคนรวยไร้สติ”
ทาน้ำมันมะกอกลงไปบนตัวปลาอย่างต่อเนื่อง ไม่นานก็ย่างจนสุกแล้ว หนังปลาเปิดออก เนื้อปลาสีเหลืองทองนุ่มๆ โรยยี่หร่าลงไปเล็กน้อย กลิ่นหอมของปลาก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว
ฉินสือโอวกำลังจะทาน รอทก็ยื่นถ้วยใบเล็กให้กับเขาหนึ่งใบ แล้วพูดว่า “ทาเคเวียค ลงไปหน่อย ฉิน ลองชิมของขึ้นชื่อของขั้วโลกเหนือดู รสชาติมันเยี่ยมยอดมากจริงๆ”
ภรรยาของรอทช่วยเสริม “ตอนที่กินไปคำแรก คุณอาจจะยังไม่ชิน แต่ถ้ากินเข้าไปอีกไม่กี่คำ คุณอาจจะหลงรักเคเวียค แถมมันยังช่วยเสริมวิตามินได้อย่างดีด้วยนะ”
ฉินสือโอวรับถ้วยใบเล็กมาดู ข้างมีซอสสีดำๆ อยู่จำนวนหนึ่ง เขาลองดมดูก็ไม่ได้กลิ่นอะไร เขาเห็นว่าคนอื่นๆ ต่างก็กำลังทามันลงไปบนเนื้อย่างไม่ก็ปลาย่าง เขาจึงทามันลงไปหนึ่งชั้น
เมื่อทาเสร็จแล้ว เขาก็ส่งปลาย่างไปให้วินนี่ แล้วบอกกับเธอว่า “ที่รักครับ คุณเลือกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดไปเถอะ”
ใบหน้าสวยงามของวินนี่ขาวซีด เธอส่ายหัวแรงๆ ท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ทว่าเมื่อมองเห็นภรรยาของรอทที่มองมาอย่างเฝ้ารอแล้ว เธอกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ พยายามฝืนยิ้มออกมาจากนั้นก็หยิบผักขึ้นมาหนึ่งไม้ แล้วพูดว่า “วันนี้ฉันแค่อยากย่างผักทานแค่นิดหน่อยก็พอค่ะ”
เมื่อเห็นว่าวินนี่ไม่ทาน ฉินสือโอวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหยิบเนื้อปลากลับไปฉีกกินเอง
เนื้อปลาแซลมอนชัมมีความนุ่มนวลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อปลาย่าง แต่เมื่อกัดลงไปกลับยังมีความชุ่มฉ่ำจากเนื้อไหลออกมา สำหรับซอสสีดำที่ทาลงไปแล้วหนึ่งชั้น ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เลวเลย มันให้ความรู้สึกนุ่มนวล ค่อนข้างคล้ายกับมันฝรั่งบด
ทว่าเมื่อลองชิมดูดีๆ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าซอสมีรสเหม็นอยู่หน่อยๆ  แต่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นแบบที่เกินจะทนไหว ถ้าจะให้ลองเทียบดูก็คงคล้ายกับกลิ่นของเต้าหู้เหม็น ดมครั้งแรกค่อนข้างเหม็น แต่เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดก็จะได้กลิ่นหอม
“เป็นยังไงบ้าง?” รอทถามเขาด้วยความคาดหวัง
ฉินสือโอวทั้งเคี้ยวไปด้วยและยกนิ้วโป้งไปด้วย “รสชาติเยี่ยมยอดมาก! เนื้อของปลาแซลมอนชัมพวกนี้ดีมากๆ เป็นของดีจริงๆ”
“ฉันหมายถึงซอสเคเวียค รสชาติของมันเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เลวเลย แปลกๆ อยู่นิดหน่อย แต่ว่าพอดีกับรสชาติแบบที่ผมชอบเลย วินนี่ คุณอยากลองกินสักคำไหมครับ?”
วินนี่มองดูเนื้อปลาย่างที่ถูกทาด้วยซอสเคเวียค ที่ถูกส่งมาต่อหน้าเธอ ทันใดนั้นแววตาของเธอก็แข็งขึ้นมา เธอสะอึกแล้วทำท่าทางคล้ายกับว่าอยากจะอาเจียน
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset