ฉินสือโอวพูดให้วินนี่ฟังว่า “อันดับแรก คุณต้องแยกเจ้าพวกนี้ออกจากกันก่อน อย่าให้พวกมันอยู่ในแนวรบเดียวกัน ขอแค่แยกพวกมันออกมา ก็จะไม่มีตัวอย่างให้พวกมันทำตามกันแล้ว และเดี๋ยวพวกมันก็ทำตัวดีขึ้นเอง”
พูดจบ ฉินสือโอวก็กลับเข้าไปในครัวแล้วหาถ้วยข้าวใบใหญ่ของฉงต้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็ใส่สเต๊กกับสลัดผลไม้ใส่น้ำเชื่อมลงไปข้างใน
พอฉงต้าที่กำลังร้องครวญครางอยู่มองเห็นอาหารพวกนี้ มันก็กะพริบดวงตาเล็กๆ สีดำสนิทของมันปริบๆ หันหน้าไปมองหู่จือเป้าจือและเพื่อนร่วมกระทำการตัวอื่นๆ จากนั้นก็วิ่งไปหาฉินสือโอวอย่างไร้ซึ่งความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนพ้อง
“โฮ่งๆ โฮ่งๆ” หู่จือกับเป้าจือยื่นคอเห่าเรียกหลายครั้ง ฉงต้าก็น่าจะรู้สึกว่าการหักหลังแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอาย จึงวิ่งกลับไปที่เดิม
ฉินสือโอวรู้สึกแปลกใจทำไมยอดนักกินอย่างฉงต้าสามารถต้านทานการยั่วยวนของอาหารอร่อยทั้งๆ ที่ท้องกำลังหิวได้ ปรากฏว่าการกระทำของฉงต้าก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลย พอวิ่งกลับไปแล้วมันก็ไปลากต้าป๋าย แล้ววิ่งกลับมาอีก
ฉงต้ากำลังจะกิน ปอหลัวที่มีท่าทีจริงจังก็รีบวิ่งเข้ามา ไม่พูดรำทำเพลงมันก้มหัวลง เขากวางเรียบแบนก็ทิ่มลงไปกับพื้นแล้วยกขึ้นมาอีกครั้ง จนฉงต้ากลายเป็นผลน้ำเต้าที่กลิ้งไปกับพื้นดิน
พอไล่ฉงต้าไปแล้ว ปอหลัวก็ชะโงกหน้าเข้าไปในชามแล้วกินอาหารเข้าไป มันคายสเต๊กออกมา แล้วกินผลไม้เข้าไปอย่างตะกละตะกลาม
ฉงต้าแผดเสียงคำรามด้วยความโมโห ทั้งตีอกทั้งชกพื้น ปอหลัวก็ไม่คิดจะสนใจมัน ก้มหน้ากินต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย
ฉินสือโอวกลัวว่าพวกมันจะตีกัน จึงเข้าไปกอดฉงต้าแล้วปลอบมันว่า “พอแล้วพอแล้ว ไม่ต้องโกรธแล้ว เดี๋ยวป๊ะป๋าจะเข้าไปทำจานใหม่เอาให้อร่อยกว่านี้อีกดีไหม? ไม่ต้องตีอกตัวเองแล้ว แกเป็นหมี ไม่ใช่ลิงอุรังอุตัง!”
พูดจบ เขาก็เข้าไปดุปอหลัวต่อ “แย่งอาหารของเพื่อนตัวเอง ทำไมแกถึงทำได้ลงกันนะ…”
วินนี่บอกกับเขาพร้อมทั้งแย้มรอยยิ้ม “ไม่ใช่ค่ะ ฉิน คุณน่ะผิดแล้ว ชามใส่อาหารอันนี้เป็นของปอหลัวนะคะ ไม่ใช่ของฉงต้า ปอหลัวเห็นฉงต้ากินอาหารในชามของตัวเอง ก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา”
ฉินสือโอวมองดูชามสเตนเลสที่แทบจะเหมือนกันเป๊ะๆ แล้วถามด้วยความงงงันว่า “แตกต่างกันด้วยเหรอครับ?”
วินนี่หยิบอีกอันที่เหมือนๆ กันออกมา เธอเขย่ามันไปมาแล้วพูดอย่างลำพองใจว่า “อันนี้ต่างหากที่เป็นของฉงต้า”
แล้วก็เป็นเช่นนั้น พอมองเห็นชามใส่อาหาร ถึงจะไม่มีอะไรอยู่ข้างใน แต่ฉงต้าก็ยังขยับก้นอ้วนๆ ของมันวิ่งเข้ามาหา
สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวกลุ้มใจก็คือ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉงต้าอยู่กับหู่จือเป้าจือมานานเกินไปหรือเปล่า ตอนที่กำลังเดินล้อมวินนี่ หางเล็กๆ ที่อยู่ตรงก้นด้านหลังก็ยกขึ้นมาขยับส่าย ‘ฟึบฟับๆ’ อย่างรวดเร็ว
“หมีก็ส่ายหางด้วยเหรอ?” ฉินสือโอวรู้สึกเหมือนทัศนคติที่มีต่อชีวิตของเขาถูกทำลายไปหมดแล้ว
เบิร์ดพูดกับเขาว่า “ส่ายได้เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าสั่นได้แค่นิดเดียวเท่านั้น เนื่องจากกระดูกที่หางของพวกมันเสื่อมถอยลงอย่างรุนแรง ส่ายได้แบบต้าฉง ผมเองก็เคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน”
“ชื่อว่าฉงต้า ไม่ใช่ต้าฉง” นีลเซ็นช่วยแก้ให้ถูกต้อง เขาใช้ภาษาจีนพูดคำว่า ‘ฉงต้า’ ออกมา แถมยังออกเสียงได้ถูกต้องอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็สรุปได้แค่ว่าค่ายพันธมิตรของเหล่าสัตว์เลี้ยงก็ล่มสลายลงแล้ว พอเสาหลักอย่างคู่ฉงต้ากับปอหลัววิ่งไปแล้ว หู่จือกับเป้าจือก็เลียหน้าแล้ววิ่งเข้ามาเช่นกัน
ส่วนพวกที่ยืนหยัดที่สุดกลับกลายเป็นเชสเตอร์กับบุช ตัวหนึ่งนอนหมอบอยู่บนพงหญ้า ส่วนอีกตัวก็มุดเข้ามุดออกอยู่ระหว่างปีกของคุณพ่อติดบ้าน ยังไงพวกมันก็ไม่หิวอยู่แล้ว เชสเตอร์บินออกไปแย่งปลาเองได้ อีกทั้งยังเอามาป้อนให้บุชกินจนอิ่มได้อีก
ส่วนเสี่ยวหมิงกับพวกกระรอกดินน่ะเหรอ? พวกมันแค่อยากมีส่วนร่วมเท่านั้นแหละ เออร์บักบอกว่าอาหารของเจ้าพวกนี้ไม่เคยเหลือเลยสักมื้อ
วินนี่ให้อาหารพวกมันทีละตัว รอจนพวกมันกินอิ่มแล้วก็เอาชามใส่อาหารไปขัดให้สะอาด เธอกอดพวกมันอย่างรักใคร่ ไม่ต่างอะไรกับกอดลูกเลย
กลับมาที่วิลล่า เอนตัวอยู่บนโซฟา จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวก็ว่ายวนไปที่ฟาร์มปลา
ที่เขารู้สึกเป็นห่วงที่สุดก็คือเมนล็อบสเตอร์ล็อตนั้น แต่ความจริงก็ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมีอำนาจมากจริงๆ ห่างไปสิบกว่าวันที่ไม่ได้เพิ่มพลังลงไป แต่พวกมันก็ยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างดี
ซากของกุ้งมังกรพวกนั้นถูกปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ ปูเสฉวนบกและปูก้ามดาบกินเข้าไป จนพื้นใต้ทะเลสะอาดหมดจด
กุ้งมังกรที่ยังเหลืออยู่ ก็หาแนวปะการังจนพบ แล้วใช้เป็นถิ่นฐานในการดำรงชีวิต เปลือกภายนอกดูเหมือนจะแข็งขึ้นมาแล้ว ตอนขยับก็ไม่ได้ดูอ่อนยวบ ไร้ชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังวางท่ากร่าง และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
นอกจากนี้ฉินสือโอวยังรู้สึกว่าพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำให้ลักษณะของกุ้งมังกรพวกนี้เปลี่ยนไปนิดหน่อย ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี
เมนล็อบสเตอร์ทั่วไป (มีอีกชื่อว่าอเมริกันล็อบสเตอร์ หรือบอสตันล็อบสเตอร์) จะมีลำตัวสีเขียวมะกอกหรือไม่ก็สีเขียวปนน้ำตาล สีส้ม สีแดงส้มกับสีดำบนตัวเดียวกันก็มีอยู่ค่อนข้างมาก ว่ากันว่ายังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่อีกสองแบบ การเปลี่ยนเป็นสีฟ้าประมาณ 1 ใน 2 ล้านและการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองประมาณ 1 ใน 30 ล้าน
ทว่ากุ้งมังกรที่อยู่ในแนวปะการังตอนนี้ กลับมีสีม่วงอ่อน ฉินสือโอวจำได้แน่ชัดว่า ตอนที่เพิ่งซื้อมาพวกมันมีสีเขียวปนน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ ใครจะรู้ว่าตอนนี้เปลือกของพวกมันจะกลายเป็นสีม่วง
เห็นว่าในที่สุดกุ้งมังกรพวกนี้ก็มีแรงต่อต้านแบคทีเรียขึ้นมาแล้ว ฉินสือโอวจึงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้ว เขาใช้พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนปกคลุมด้านบนแนวปะการังเอาไว้ ส่วนจะได้รับผลอย่างไร ก็คงต้องพึ่งดวงชะตาแล้วล่ะ
โชคดีที่ปลาค็อด ปู ปลาเเซลมอนแปซิฟิก หอยกูอีดั๊ก และสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉินสือโอวคงจะมีเรื่องให้กลุ้มใจแล้ว
เขาไปหาฝูงฉลามขาวอีกครั้ง มองออกไปไกลๆ ก็เห็นว่าในฝูงฉลามขาว มีฉลามขาวยักษ์ที่มีลำตัวขนาดใหญ่เป็นพิเศษรวมอยู่ในนั้นด้วย
ดูเหมือนว่าเฮยป้าหวังจะทำตัวให้กลายเป็นพวกเดียวกันกับฉลามขาวไปแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ในฝูงฉลามอย่างลงตัวแบบแปลกๆ ตามติดฝูงฉลามเหมือนจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ ไล่ปลาค็อดตามจับกุ้งปู ใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้
ช่วงนี้หาอาหารได้ง่าย เฮยป้าหวังได้รับอาหารบำรุงร่างกายอย่างอุดมสมบูรณ์ แผลบนร่างกายผสานกันได้พอสมควรแล้ว เพียงแต่ว่าหนังบนร่างกายตรงส่วนสีดำด้านบน ยังหลงเหลือรอยแผลเป็นน่ากลัว ทำให้มันดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
บอลหิมะกับไอซ์สเกตยังคงเป็นกลุ่มสัตว์สันโดษของฟาร์มปลา พวกมันเป็นเหมือนเจ้าชาย ถึงแม้ว่าตัวจะเล็ก แต่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ฉินสือโอวเพิ่มพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปในตัวของพวกมันมากที่สุด สุขภาพของพวกมันจึงแข็งแรงที่สุด มีมันสมองที่สุด
ช่วงนี้ฉินสือโอวไม่ค่อยได้มาที่นี่ บอลหิมะกับไอซ์สเกตก็เปลี่ยนกิจกรรมความบันเทิงมาเป็นการไล่ตามพี่น้องฉลามกบทั้งเจ็ดตัว ภายใต้ความช่วยเหลือของพวกมัน ตอนนี้พี่น้องฉลามกบทั้งเจ็ดตัวก็มีความระมัดระวังตัว ระดับความรวดเร็วก็เรียกได้ว่าว่องไว
บางครั้ง บอลหิมะกับไอซ์สเกตก็จะเข้าไปแกล้งแหย่ฝูงฉลาม ด้านฝูงฉลามก็ขี้เกียจจะสนใจพวกมัน เฮยป้าหวังขู่ให้พวกมันกลัวไปแล้วสองครั้ง เป็นเพียงพลังในร่างกายที่มีเหมือนกันเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ทำร้ายกันแต่อย่างใด
เรื่องของพวกหู่จือเป้าจือทำให้ฉินสือโอวได้รับประสบการณ์มาแล้ว ต่อไปจะมองแค่ว่าพวกมันเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงไม่ได้ เขาต้องเคารพสติปัญญาของพวกมันด้วย ถึงแม้สติปัญญาจะไม่ได้สูงนัก แต่จะทำร้ายพวกมันไม่ได้เด็ดขาด
ฉินสือโอวปลอบโยนบอลหิมะกับไอซ์สเกต เขาพาพวกมันไปสำรวจฟาร์มปลา หลังจากที่เฮยป้าหวังสัมผัสได้ถึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอนมันก็ว่ายน้ำดุ๊กๆ ดิ๊กๆ เข้ามา แล้วตีเนียนเป็นจิ้งจอกหลอกใช้บารมีเสือต่อไป
ตัวใหญ่หนึ่ง ตัวเล็กสอง หนึ่งดำสองขาว สัตว์น้ำทั้งสามตัวทำตัวอวดเบ่งอยู่ในฟาร์มปลา ฉินสือโอวไม่ได้จะเข้าไปจัดการกับพวกมัน เพียงแค่ตั้งใจพาพวกมันมายังตำแหน่งของดงสาหร่ายสีน้ำตาลเท่านั้น
พอเข้ามาในดงสาหร่ายสีน้ำตาล ทรัพยากรปลาในนี้อุดมสมบูรณ์มาก พวกมันทั้งสามตัวตื่นเต้นดีใจ ว่ายน้ำเพ่นพ่านไปทั่วทุกทิศ
ในตอนสุดท้าย พวกมันต้องเจอกับเรื่องใหญ่เสียแล้ว
พวกงูเหลือมทะเลนึกว่าพวกมันจะเข้ามาบุกรุก ภายใต้การนำพาของพี่ใหญ่ งูเหลือมทะเลหนึ่งฝูงก็ค่อยๆ โอบล้อมเข้ามาอย่างเงียบเชียบจากทั่วทิศทาง ขณะเดียวกันในตอนสุดท้ายก็ปรากฏเงาร่างที่ทั้งเหี้ยมโหดและดุร้าย!
ในตอนแรกเห็นแค่งูเหลือมทะเลหนึ่งตัว เฮยป้าหวังยังแข็งแกร่งอยู่มาก มันอ้าปากใหญ่ปรากฏให้เห็นฟันแต่ละแถวที่แหลมคมยิ่งกว่ามีดดาบขู่จนงูเหลือมทะเลตกใจกลัว
แต่ปรากฏว่า งูตัวแล้วตัวเล่า ฝูงแล้วฝูงเล่า งูเหลือมทะเลก็ยิ่งเยอะขึ้นไปทุกที
เฮยป้าหวังปิดปากของมันอย่างไม่ลังเล ถอยกลับมาอยู่ระหว่างไอซ์สเกตกับบอลหิมะ พวกมันทั้งสามตัวเกาะกลุ่มกันหวังเอาตัวรอด พากันกลัวจนแทบทนไม่ไหว
……………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 316 เคารพความน่ารัก
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!