ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 323 น่านน้ำของฟองน้ำทะเล

ทันทีที่เข้าสู่ทะเล จิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็ได้เห็นฉากชีวิตใหม่ที่กำเนิดขึ้นบนโลก ฉินสือโอวรู้สึกตื่นเต้นมาก และยังคงเดินหน้าต่อไป
เต่ามะเฟืองก็อาศัยอยู่รอบๆ เขตนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเต่าลายจุด เจ้าพวกนี้เป็นยักษ์ใหญ่ที่สมควรได้รับการขนานนาม
นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เหมือนกัน ตามหลักแล้วเต่ามะเฟืองมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าเต่าลายจุด เนื่องจากเต่าลายจุดจะออกไข่มากที่สุดเจ็ดถึงแปดไข่ฟอง แต่โดยปกติเต่ามะเฟืองจะออกไข่ประมาณ 130-140 ฟอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวผิดหวังคือมีเต่ามะเฟืองกว่ายี่สิบตัวในฟาร์มปลาของเขา แต่กลับไม่มีไข่ฟักออกมาเลย
นอกจากนี้เขายังกังวลอยู่หน่อยๆ หรือเพราะเขากำหนดอาณาเขตการทำกิจกรรมของเต่ามะเฟือง เลยทำให้ความเคยชินในการดำเนินชีวิตของพวกมันเปลี่ยนไป?
อย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่าเต่ามะเฟืองเป็นนักว่ายน้ำในมหาสมุทรที่เก่งกาจ ในช่วงชีวิตของพวกมันสามารถว่ายน้ำใต้มหาสมุทรรอบโลกได้สองรอบ ฉินสือโอวทำเพื่อปกป้องพวกมัน พยายามที่จะไม่ปล่อยให้พวกมันออกจากฟาร์มปลา เขารู้สึกว่าอาณาเขตของฟาร์มปลามีขนาดใหญ่เพียงพอ แม้แต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินยังดำรงชีวิตอยู่ได้ เต่าเพียงไม่กี่ตัวจะอยู่ไม่ได้เชียวหรือไง?
แต่สำหรับตอนนี้เหมือนกลายเป็นว่าเขามีเจตนาดีแต่ทำไม่ถูก ซึ่งทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขาจึงยกเลิกการควบคุมเต่ามะเฟืองและปล่อยให้พวกมันมีชีวิตรอดตามธรรมชาติ
เข้าปากแม่น้ำจากทิศตะวันออกและว่ายน้ำเรื่อยๆ ไปทางทิศตะวันตก ฉินสือโอวเดินสำรวจบริเวณอย่างคร่าวๆ ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต ฟาร์มปลาพัฒนาได้ดีมาก ฝูงปลาแข็งแรงอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นปีหน้าก็คงเก็บเกี่ยวผลผลิตประมงได้จำนวนมหาศาล
เมื่อเขาไปถึงน่านน้ำของฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามีฟองน้ำทะเลมากมายในน่านน้ำ
ในน่านน้ำของสถานที่อื่นๆ ก็มีฟองน้ำทะเลเหมือนกัน แต่มีไม่มากเหมือนที่นี่ ในน้ำทะเลที่นี่เต็มไปด้วยฟองน้ำ บางชนิดเหมือนโคมไฟสีแดง บางชนิดเหมือนแจกันที่งดงาม ซึ่งดูสวยงามมาก
ฉินสือโอวรู้สึกสงสัยเพราะมันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ปกติจะไม่ค่อยพบฟองน้ำทะเลได้มากนัก แต่ที่นี่มีการแพร่กระจายตัวอย่างฉับพลันของฟองน้ำทะเล ซึ่งเกี่ยวข้องกับนิสัยการใช้ชีวิตของพวกมัน พวกมันไม่มีความสามารถในการเคลื่อนที่อย่างอิสระด้วยตัวเอง ดังนั้นในบางพื้นที่ที่มีฟองน้ำทะเลจำนวนมาก อาจเป็นเพราะพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย
แม้ว่ามันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ แต่ฟองน้ำทะเลนั้นเป็นสัตว์ไม่ใช่พืช มันเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะที่มีเซลล์ภายในและภายนอกเพียงสองชั้น ไม่มีการแบ่งเนื้อเยื่อเป็นอวัยวะที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่ามันเป็นสัตว์ที่มีโครงสร้างง่ายที่สุดในโลก
ในฟาร์มปลา ฟองน้ำที่ปรากฏอยู่เหล่านี้หรือที่ลอยอยู่ในน้ำหรือที่ยึดติดกับบนหินบางชนิด พวกมันไม่มีปากและไม่มีโพรงย่อยอาหาร แต่มีส่วนที่ยื่นออกมาจำนวนมากบนพื้นผิวของลำตัว ตรงกลางของส่วนที่ยื่นออกมามีรูใหญ่ ด้านข้างมีรูเล็กๆ น้ำทะเลจะไหลเข้ารูเล็กๆ และไหลออกมาจากรูขนาดใหญ่ แพลงก์ตอนเล็กๆ ในน้ำทะเลจะไหลเข้าสู่ลำตัวของฟองน้ำทะเลด้วยวิธีนี้ การไหลของน้ำจะให้สารอาหารเพื่อความอยู่รอดและการเจริญเติบโตของพวกมัน
ฟองน้ำทะเลไม่ใช่แมงกะพรุน สิ่งนี้มีเยอะก็ไม่มีพิษมีภัยต่อฟาร์มปลา มีเพียงประโยชน์ เพราะพวกมันมีความสามารถในการกรองน้ำ พวกมันสามารถกรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำทะเลได้ และมีบทบาทในการควบคุมโลหะหนักและจุลธาตุต่างๆ
นอกจากนี้ ฟองน้ำทะเลยังเป็นอาหารโปรดของปลิงทะเลอีกด้วย ฉินสือโอวต้องการเพาะพันธุ์ปลิงทะเลอยู่เสมอ ทรัพยากรฟองน้ำทะเลในน่านน้ำนี้อุดมสมบูรณ์มาก อีกหน่อยสามารถโยนต้นกล้าปลิงทะเลที่นี่ได้เลย
นอกจากปลิงทะเลแล้ว ฟองน้ำทะเลก็ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติในมหาสมุทรใดๆ อีก สิ่งมีชีวิตทางทะเลขนาดเล็กจำนวนมากชอบที่จะใช้ชีวิตกับฟองน้ำทะเล
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนตรวจสอบน่านน้ำแห่งนี้ ฉินสือโอวมองเห็นในน้ำนี้มีกลุ่มปูตัวเล็กๆ กลุ่มหนึ่งเจอฟองน้ำทะเลแล้วฉีกมันเป็นชิ้นๆ จากนั้นแขวนไว้บนขาและบนกระดอง ดังนั้นดูเหมือนว่าพวกมันสวมชุดเกราะอยู่ลักษณะของลำตัวใหญ่ขึ้นสองรอบ สามารถป้องกันและข่มขู่ศัตรูธรรมชาติได้ดียิ่งกว่า
ที่มากไปกว่านั้น กุ้งก้ามกรามอเมริกันที่เมื่อก่อนรอดชีวิตมาได้ พวกมันเกือบทั้งหมดว่ายน้ำมายังบริเวณทะเลนี้ และพวกมันก็เลียนแบบปูตัวเล็กๆ ใช้ฟองน้ำทะเลห่อกระดองไว้ อย่างนี้เมื่อฟองน้ำทะเลอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ดูแล้วมีพลังเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวต้องการหาเหตุผลว่าทำไมอยู่ๆ จึงมีฟองน้ำทะเลจำนวนมากในน่านน้ำแห่งนี้ หาอย่างไรก็ไม่พบต้นเหตุ จึงทำได้เพียงพักความคิดนี้ไว้ก่อน
หลังจากนั้นก็ไปดงสาหร่ายสีน้ำตาล ที่นั่นมีความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลสูงที่สุด สาหร่ายสีน้ำตาลดึงดูดปลาและหอยจำนวนมากให้มาดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ หากทรัพยากรของสถานที่เหล่านี้มีการสะสมอยู่ตลอดเวลาผลประโยชน์ที่สามารถผลิตได้ก็มีจำนวนมากเช่นกัน
หลังจากที่วนไปรอบๆ ฟาร์มปลาแล้ว ฉินสือโอวก็ยึดจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไว้กับเฮยป้าหวัง
ตอนนี้เขามีประสบการณ์เพิ่มขึ้น เขาไม่เพียงยึดมันติดกับลำตัวของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอย่างง่ายๆ ต่อไป แต่จะเลือกสิ่งเล็กๆ ที่อยู่บนปลาตัวใหญ่ เขาติดมันเข้ากับสิ่งเล็กๆ นั้นเป็นใช้ได้ ไม่เช่นนั้นมุมมองจะแคบ ครั้งที่แล้วเอาติดไว้บนตัวฉลามขาว เขาถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงฉลามขาวมองไม่เห็นอะไรเลย
ฉินสือโอวแขวนเพรียงตีนเต่าไว้บนหัวของเฮยป้าหวัง แต่เฮยป้าหวังก็ไม่สนใจ มันมีรูปร่างที่น่ากลัวยาวกว่าสิบเมตรและมีเพรียงเป็นปรสิตบนหน้าผาก เหมือนกระเล็กๆ ที่ขี้นบนใบหน้าของคนทั่วไปไม่เป็นที่สะดุดตา
เมื่อใช้พื้นที่บนหัวของเฮยป้าหวัง ทัศนวิสัยของฉินสือโอวจึงเปิดกว้าง
เมื่อก่อนเขาทำเช่นนี้ไม่ได้ ตอนนั้นเขาสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตได้ทีละตัวเท่านั้นเพราะควบคุมไม่ทั่วถึง ตอนนี้เขาสามารถควบคุมทั้งสองตัวได้ในเวลาเดียวกัน เขาไม่พอใจกับทิศทางของเฮยป้าหวังจึงเข้าสวมร่างโดยตรงเพื่อใช้มันทำตามความต้องการของเขา
ตั้งแต่ต้นจนจบ จิตสำนึกเหนือศีรษะของเพรียง ล้วนเป็นลานนั่งตกปลาที่มั่นคง
ออกตระเวนมาทั้งวันก็ไม่มีผลอะไร ฉินสือโอวจึงให้เฮยป้าหวังเดินทางด้วยตนเอง เขานั่งบนชายหาดหลังพิงปอหลัว ดูหู่จือและเป้าจือหยอกล้อกัน
กำลังมองอย่างมีความสุข ทันใดนั้นปอหลัวลุกขึ้นแล้วเดินออกไป โชคดีที่เอวของฉินสือโอวดี ไม่อย่างนั้นการดึงพนักพิงออกทันทีอาจทำให้เอวของเขาเคล็ดได้
เขาเงยหน้าขึ้นมอง ปอหลัวเดินลงไปในทะเลอย่างไม่มีความสุข ท่าทางที่ดูหดหู่เหมือนจะโดดทะเลเพื่อฆ่าตัวตายยังไงอย่างนั้น ฉินสือโอวมองอย่างตกตะลึง
ด้านหลัง ร่างของฉงต้าปรากฏขึ้น ฉงต้าลากต้าป๋ายเพื่อนตัวน้อยของมันเดินอย่างช้าๆ และไม่รู้ว่ากำลังเคี้ยวอะไรในปากกินง๊วบๆ อย่างมีความสุข เมื่อสังเกตเห็นว่าฉินสือโอวมอง แล้ววิ่งส่ายสะโพกตามมา
ฉินสือโอวมองดูปอหลัวที่จากไปแล้วเห็นฉงต้าที่ปรากฏตัวขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขานึกขึ้นได้ที่วินนี่พูดว่าปอหลัวและฉงต้าเป็นปรปักษ์ต่อกัน ทั้งสองตัดความสัมพันธ์อย่างไม่เหลือใย
เหมือนเด็กๆ ที่งอแง ฉินสือโอวพาฉงต้า หู่จือและเป้าจือไปที่ท่าเรือ หาที่โยนเบ็ดตกปลาอย่างง่ายๆ และนั่งลงใช้ท่าเรือเป็นเวทีตกปลา ว่างๆ ก็ตกปลาเล่น
กวางอููฐเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่ว่ายน้ำเก่งที่สุด ปอหลัวแช่ในน้ำว่ายขึ้นลงตามคลื่น ดูมันสบายใจมาก รอเวลาที่คลื่นสงบ มันมุดหัวลงไปและเมื่อลอยขึ้นอีกครั้ง ในปากจะคาบพืชน้ำประเภทหญ้าทะเลขึ้นมาด้วย
หลังจากเก็บเบ็ดแล้วสองคัน เบ็ดของฉินสือโอวได้ปลาลิ้นหมาขนาดพอประมาณ 1 ตัวและปลากะพงทะเลจอมตะกละ 1 ตัว ปลาลิ้นหมาเอาไว้ทำกับข้าวเย็น ปลากะพงทะเลเอาให้ฉงต้า จัดการเคลียร์ในทันที
เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวป้อนอาหารให้ฉงต้า ปอหลัวไม่เต็มใจนัก มันแกล้งทำเป็นว่ายน้ำอย่างสบายๆ กระทั่งว่ายไปใต้ท่าเรือโดยไม่ตั้งใจ เมื่อมีมันว่ายตีปีกพั่บๆ อยู่แบบนี้ คงมีแต่วาฬเพชฌฆาตตัวใหญ่อย่างนั้นที่จะกล้ามางับเบ็ดกินเหยื่อ
พอเถอะ ไม่คิดจะตกปลาแล้ว ฉินสือโอวกลัวตะขอเบ็ดไปโดนเจ้าปอหลัวเข้า จึงดึงขึ้นมาหมุนเก็บ
ทางด้านฉงต้ายังคงรอกินปลาสด มันมองฉินสือโอวพร้อมกะพริบตาดวงน้อย ฉินสือโอวก็มองมัน ดวงตาใหญ่จ้องดวงตาเล็ก ฉินสือโอวโยกโชว์คันเบ็ดตกปลาที่สะอาดกว่าปากใหญ่ของฉงต้าไปมา พูดว่า “ไม่แล้ว ตกปลาไม่ได้แล้ว”
ฉงต้ากะพริบตาด้วยความสับสน มันกลัวมหาสมุทร มันหมอบลงที่ท่าเรือไม่กล้ามองลงไป ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าปลาขึ้นมาได้อย่างไร มันรู้ว่าแค่ว่าฉินสือโอวโยนคันลงไปแล้วดึงขึ้นมาก็มีปลาติดเบ็ดมาด้วย
ดังนั้นหลังจากที่พยายามคิดอย่างหนัก ฉงต้าค่อยๆ เยื้องเท้าไปนั่งลงข้างคันเบ็ด มันเหยียดอุ้งมือขนปุยขนาดใหญ่ไปแตะเบาๆ คันเบ็ดก็กระเด็นเพราะถูกมันตบแล้วตกน้ำไป
ฉินสือโอวรีบไปจับแต่ก็จับไว้ไม่ได้ เขามองฉงต้าด้วยความเซ็ง ฉงต้ามองเขาอย่างไร้เดียงสา ในที่สุดมองไปสักพักก็ยื่นคอขึ้นคำรามสองครั้ง คงจะหมายความว่านายเอาปลามาให้ฉันกินสิ
“ไม่มีปลาอีกแล้ว คันเบ็ดถูกนายทิ้งไปแล้วยังอยากจะกินปลาอีก” ฉินสือโอวพูดด้วยความโกรธ
ฉงต้าไม่เข้าใจ ดังนั้นมันจึงยังมึนงงและมองฉินสือโอวอย่างมีความหวัง
อย่างไรก็ตามเบ็ดตกปลาก็ไม่หาย จิตสำนึกแห่งโพไซดอนถูกปล่อยออกไป บอลหิมะและไอซ์สเกตก็มาทันที เมื่อถ่ายทอดคำสั่งแล้ว ทั้งสองแย่งชิงกันเพื่อจะเอาเบ็ดตกปลาขึ้นไปให้เขา
ฉินสือโอวเก็บเบ็ดตกปลาแล้วเตรียมเดินออกไป ฉงต้ารีบขึ้นมาแล้วนอนลงที่เท้าของเขา กรงเล็บอ้วนท้วมโอบกอดขาเขาไว้หนึ่งข้าง ในลำคอส่งเสียงหึๆๆ จุดประสงค์ของท่านี้ชัดเจน ‘ไปไม่ได้นะ ตกปลากินต่อเถอะ’
ใต้ท่าเรือ ปอหลัวลอยตามกระแสน้ำ มองดูแล้วไม่เหมือนกวางอูฐจอมงุ่มง่าม แต่กลับเป็นเหมือนกระแสน้ำ มันยกหัวขึ้น กระแทกจมูกของมันเป็นครั้งคราวด้วยความหมายง่ายๆ มีฉันอยู่ อย่าคิดตกปลาเด็ดขาด
ฉินสือโอวถูกสองตัวนั้นทำให้ลำบากใจขึ้นมา โชคดีที่เรือเด็คของเออร์บักขับมาด้วยเสียงดัง ‘ครืนครืน’ ชาร์คพานีลเซ็นกระโดดขึ้นท่าเรือ เห็นฉงต้ากอดขาของฉินสือโอวก็หัวเราะออกมาดัง ๆ
ชาร์คถาม “บอส ฉงต้ากำลังกอดขาอ่อนของคุณอยู่เหรอ? ขาอ่อนของคุณยังมีที่ว่างไหม?”
ฉินสือโอวโบกมืออย่างหัวเสีย พูดว่า “ตอนนี้ไม่มีที่ว่างหรอก แต่ถ้านายดึงฉงต้าออกไปได้ ฉันจะให้ตำแหน่งที่ว่างกับนาย”
ชาร์คหัวเราะ “งั้นก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉงต้ายังเล็กอยู่ ช่วงนี้ของปีหน้าผมคงเอาชนะมันไม่ได้แล้ว ผมไม่อยากสร้างศัตรูทรงพลังที่มีศักยภาพและมีภูมิหลังอันแข็งแกร่งให้ตัวเอง”
ฟังชาร์คพูดแล้วก็สนุก ฉินสือโอวลูบหูกลมขนปุยของฉงต้า อดนึกถึงนิยายเรื่องหนึ่งที่เคยอ่านเมื่อก่อนไม่ได้ มักจะมีประโยคหนึ่งที่พูดว่า ‘ยอมรังแกอาวุโสสูงวัย ดีกว่ารังแกเยาว์วัยผู้ยากไร้’
ชาร์ครายงานเกี่ยวกับการรวบรวมจุดคงที่ของปลาตัวอย่างซึ่งผลทั้งหมดนั้นค่อนข้างดีให้กับฉินสือโอว
ฉินสือโอวนึกถึงฟองน้ำทะเลที่เขาเห็นในน่านน้ำแห่งนั้น ถามว่า “ดูเหมือนว่าทางตะวันตกประมาณสามสิบกิโลเมตร สถานที่แห่งนั้นมีฟองน้ำทะเลเยอะมาก นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ชาร์คถาม “เป็นฟองน้ำทะเลชนิดไหนล่ะ? ฟองน้ำทะเล? ฟองน้ำแก้ว? หรือว่าฟองน้ำแข็ง? ผมไม่ได้ตรวจสอบสถานการณ์ในช่วงสองวันที่ผ่านมา มันเลยไม่ชัดเจนเท่าไร”
มันอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล ฉินสือโอวจึงเดินเครื่องเรือเด็คพาทั้งสองคนไป
บริเวณนี้มีฟองน้ำมากมายจริงๆ ถึงจะไม่ลงไปดูในน้ำ แค่อยู่บนเรือเด็คแล้วมองลงไปก็สามารถมองเห็นกลุ่มฟองน้ำทะเลได้
มองเห็นฟองน้ำทะเลมากมายอย่างนี้ ใบหน้าของชาร์คก็เริ่มเคร่งเครียด และพูดว่า “ถึงผมจะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมคิดว่าสิ่งนี้ผิดปกติมาก…”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าประโยคนี้คุ้นๆ หู เขาเลยปล่อยจิตสำนึกแล้วหันกลับมาพูดกับนีลเซ็นว่า “หยวนฟาง เจ้าคิดยังไง?”
นีลเซ็นไม่ค่อยเข้าใจคำที่ใช้เรียก เข้าใจแค่คำถามเท่านั้น เขาจึงครุ่นคิดก่อนจะตอบ “เอ่อ ผมยืนดูบนดาดฟ้าแล้วยังไม่แน่ใจ งั้นดำน้ำลงไปดูไหมครับ?”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset