ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 380 หิมะตกหนัก

เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม กระแสลมหนาวจากขั้วโลกเหนือก็พัดมาสู่ทางใต้ ฉินสือโอวกลับมาจากอ่าวฮัดสันได้ไม่นานก็มีหิมะตกลงมาครั้งใหญ่ เกล็ดหิมะพัดปลิวโปรยปราย ตกติดต่อกันถึงสองวันสองคืน!
ฉินสือโอวได้เห็นหิมะตกหนักขนาดนี้เป็นครั้งแรก ตอนเป็นเด็กที่บ้านเกิดของเขาก็เคยมีหิมะตกติดต่อกันสองวันแบบนี้ ทว่าล้วนแต่เป็นเกล็ดหิมะเล็กๆ ที่ตกติดต่อกันเท่านั้น
หิมะที่ตกลงมาในเกาะแฟร์เวลคราวนี้ไม่ใช่แบบนั้น นี่คือหิมะที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก!
ไม่มีลมเหนือ มีเพียงแต่เกล็ดหิมะที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าใช้คำพูดของกอร์ดอนก็คือ มันเหมือนพระเจ้าเกาหัวหลังจากที่ไม่ได้สระผมมาแล้วหนึ่งเดือน รังแคเยอะเกินไปแล้ว!
ใช้เวลาแค่สองชั่วโมง เกาะแฟร์เวลทั้งเกาะก็กลายเป็นสีขาว ดูขาวโพลนไปทั่วทุกหนแห่ง ภูเขาที่อยู่ไกลออกไปก็ไม่ใช่ภูเขา ผืนดินที่อยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ใช่ผืนดิน มีเพียงท้องทะเลสีฟ้าครามเท่านั้นที่ยังดูเหมือนดังวันเก่า เมื่อหิมะโปรยลงมา มันก็ละลายหายไปทันที
เกาะแฟร์เวลในช่วงนี้ อุณหภูมิในตอนกลางคืนลดลงจนถึงลบสิบองศา ฉงต้าที่มีหนังหน้าหนาขนาดนั้น เพียงแค่วิ่งออกไปแค่รอบเดียวก็ยังรู้สึกหนาวสั่นจนเจ็บหน้า
ทะเลสาบเฉินเป่ากลายเป็นน้ำแข็งมานานแล้ว ชั้นน้ำแข็งก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ฟาร์มปลาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะหนึ่งคือพื้นผิวทะเลมีกระแสน้ำอุ่น สองคือคลื่นทะเลที่หมุนวน น้ำให้ทะเลไม่มีทางกลายเป็นน้ำแข็ง
ข้างนอกกำลังมีหิมะตกหนัก ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ จึงพากันดื่มกาแฟร้อนๆ และนั่งเล่นไพ่อยู่ในวิลล่า
เมื่อไม่มีอะไรทำฉินสือโอวจึงสอนชาร์คและคนอื่นๆ เล่นไพ่นกกระจอก ด้วยเหตุนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ หลังจากทานอาหารเสร็จคนทั้งสี่คนก็กางโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกด้วยความตื่นเต้นสนุกสนาน
ในที่สุดหิมะที่ตกหนักติดกันสองวันสองคืน ก็หยุดลงในช่วงกลางเดือน ครั้งนี้ฉินสือโอวจึงสัมผัสได้ถึงความลำบากของการมีพื้นที่ในฟาร์มปลาที่มีขนาดกว้างใหญ่เกินไป เขาต้องกวาดหิมะ!
ฉงต้ามองดูผืนหิมะหนาๆ ด้วยความสนอกสนใจ มันยื่นอุ้งเท้าใหญ่ๆ ออกไปดู คิดว่ามันคงรู้สึกเย็นสบายไม่น้อย มันหันกลับไปแล้วพุ่งตัวหาฉินสือโอวพร้อมทั้งร้องฮึมฮัมออกมาอย่างมีความสุข
ฉินสือโอวนวดหัวกลมๆ ของมันไปมา ฉงต้าก็กระโดดโผเข้าใส่เขา กดเขาลงไปกับกองหิมะ หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นบ้าๆ บอๆ มุดเข้ามุดออกกองหิมะไม่หยุด
ฉินสือโอวยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม ทำไมพอเจ้าหมีติ๊งต๊องฉงต้าได้เห็นหิมะแล้วถึงคึกขนาดนี้?
“พวกคุณว่า ฉงต้าจะจำศีลบ้างไหม?” ฉินสือโอวถามด้วยความคาดหวัง
วินนี่มองไปที่ฉงต้า เธอส่ายหน้าไปมาแล้วตอบเขาว่า “อย่าหลอกตัวเองเลยค่ะ คุณก็เห็นว่าในบ้านมันอบอุ่นขนาดนั้น แถมมันยังกินอยู่ดีทุกวัน ถ้าฉงต้าจะจำศีลก็คงเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้วล่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว มันจะจำศีลก็ต่อเมื่ออาหารการกินไม่ดีเท่านั้น” เออร์บักมองไปที่ฉงต้าแล้วแย้มรอยยิ้มใจดีออกมา
ฉินสือโอวก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง โอเค ยังไงฉันก็คิดไว้แล้วล่ะว่าเจ้าหมีติ๊งต๊องตัวนี้คงไม่มีทางจำศีล
ชั้นหิมะที่อยู่บนพื้นหนามาก น่าจะเกือบครึ่งเมตร พอก้าวเท้าเหยียบก็จมลงไปถึงเข่า หู่จือกับเป้าจือกระโดดลงมาจากประตูวิลล่า จากนั้นพวกมันก็หายเข้าไปในกองหิมะทันที…
ก่อนหน้านี้ที่เกาะแฟร์เวลก็มีหิมะตกหลายครั้ง ทว่าล้วนแต่ตกลงมาเบาๆ คิดไม่ถึงว่าคราวนี้อยู่ๆ จะประสบภัยพายุหิมะครั้งใหญ่ แต่โชคดีที่ไม่มีผลกระทบอะไรกับเกาะแฟร์เวล
ช่วงนี้เสี่ยวหมิงก็ย้ายฐานที่มั่นหนีเข้ามาอยู่ในวิลล่าเหมือนกัน ทั้งมันยังใจดีพาเพื่อนกระรอกตัวเมียของมันเข้ามาอีกด้วย กระรอกแดงอเมริกาเหนือที่ไม่ได้เห็นมากว่าครึ่งปีตัวนั้น
ฉินสือโอวนึกว่าเสี่ยวหงจะถูกพวกงู แมวป่า เหยี่ยวเอยอะไรเอยพวกนั้นกินเข้าไปแล้ว แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอะไร ไม่รู้ว่าช่วงก่อนหน้านี้มันหายไปไหนมา พออากาศไม่ดีถึงค่อยกลับมาที่นี่อีก
ครอบครัวกระรอกดินก็ย้ายรังแล้วเหมือนกัน พวกมันยังพอทนได้อยู่ จึงไม่ได้ย้ายเข้ามาข้างในวิลล่า เพียงแต่สร้างรังไว้ตรงระเบียงทางเดินเท่านั้น วินนี่ช่วยพวกมันเอาฟองน้ำทะเลกับขนของบุชที่ร่วงลงมาเข้าไปยัดไว้ข้างใน นี่จึงเป็นรังเล็กๆ ที่อบอุ่นเช่นกัน
พอเห็นว่าในที่สุดตอนนี้ท้องฟ้าก็สดใสแล้ว พวกมันจึงพากันวิ่งออกมา กระรอกก็เหมือนกันกับกระรอกดิน พอมุดเข้าไปในหิมะก็พากันหายตัวไป ตอนที่พวกมันมุดออกมาก็อาจจะไปโผล่ที่ไหนก็ได้
ฉินสือโอวพาทุกๆ คนไปกวาดหิมะ พวกเขาพากันกวาดหิมะออกจากบนถนนก่อนเป็นอันดับแรก
เป็นครั้งแรก ที่ฉินสือโอวรู้สึกว่าวิลล่าอยู่ไกลจากท่าเรือมาก ระยะทางจากประตูทางเข้าก็ไกลแสนไกล พื้นหิมะก็หนาเกินไป ปัดกวาดมาขนาดนี้แล้ว จนชั่วโมงกว่าๆ ยังกวาดได้แค่ร้อยสิบกว่าเมตรเท่านั้น
ไม่ทนแล้วล่ะ เขาเดินกลับไปแล้วโทรศัพท์หาเจนนิเฟอร์ทันที ให้เธอช่วยสั่งซื้อรถกวาดหิมะมาหนึ่งคัน
รถกวาดหิมะที่เจนนิเฟอร์แนะนำคือเชฟโรเลต เอสเอ็นไฟฟ์ มันใช้ฐานแบบเดียวกันกับรถกระบะ บริเวณส่วนหน้าสามารถติดตั้งเกลียวสำหรับปัดหิมะกับใบไถสำหรับตักหิมะได้ แค่ถอดชิ้นส่วนออก ก็จะสามารถกำจัดหิมะออกไปและหลังจากนั้นก็จะปัดหิมะได้แล้ว
นอกจากนี้ บริเวณด้านข้างของรถรุ่นนี้ยังติดตั้งใบปีกที่สามารถกางออกได้ จึงเพิ่มพื้นที่สำหรับกำจัดหิมะได้มากยิ่งขึ้น ขณะที่รถกำลังทำงาน กงล้อที่หมุนแบบเส้นศูนย์กลางในแนวดิ่งที่ติดตั้งอยู่ตรงส่วนหน้า ก็จะหมุนโดยใช้แรงขับเคลื่อนของรถ ใบพัดที่อยู่บนล้อหมุนจะหมุนแล้วปัดเอาหิมะที่อยู่บนพื้นออกไปให้พ้นทาง
การบริการของบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรสสามารถทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หลังจากฉินสือโอวโทรศัพท์ไปได้แค่สองชั่วโมงกว่าๆ รถจากนครเซนต์จอห์นก็ถูกส่งเข้ามา ฉินสือโอวโอนเงินเพื่อรับรถ หลังจากนั้นก็ขับย่ำไปทั่วฟาร์มปลา
เห็นได้ชัดว่าฉงต้ารักพื้นหิมะหนาๆ พวกนี้ มันมุดตามกระรอกกับลูกกระรอกดินที่กำลังไปมุดไปมาอยู่ในกองหิมะ และวิ่งเพ่นพ่านอย่างมีความสุข
นานๆ ครั้งหู่จือ เป้าจือกับปอหลัวก็จะออกมาเล่นกับมัน เหล่าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายเล่นกันอยู่ในกองหิมะอย่างคึกๆ คักๆ
บุชเองก็อยากเข้ามาเล่นด้วย ทว่าปีกของมันไม่เหมาะกับที่แบบนี้ แค่กระโดดเข้าไปในพื้นหิมะมันก็แทบจะขยับตัวไม่ได้แล้ว
พวกฉงต้าทำหน้าหน่าย ไม่มีใครพามันไปเล่นด้วย มันจึงร้อนใจจนร้องออกแควกๆ ออกมาอย่างจนหนทาง สุดท้ายมันจึงทำได้แค่รีบเดินกลับไปยังทางเดินของวิลล่าอย่างไร้ซึ่งความสุข
ดังนั้นเมื่อเห็นว่าฉินสือโอวขับรถตักหิมะออกไป ฉงต้าก็รู้สึกหมดสนุกขึ้นมาทันที มันพาหู่จือเป้าจือวิ่งตามรถมาด้านหลัง ฉินสือโอวกลัวพวกมันจะได้รับบาดเจ็บเขาจึงหยุดรถก่อน ฉงต้ากอดยางรถเอาไว้แล้วเริ่มก็กัดแทะ
“เอาล่ะๆ ๆ ถ้าไม่ชอบงั้นป๊ะป๋าจะยังไม่ตักหิมะทิ้งก็แล้วกัน” ฉินสือโอวพูดอย่างจนปัญญา
วินนี่มาพาฉงต้าไป เธอจะพาพวกมันไปเล่นที่อื่น ฟาร์มปลากว้างใหญ่ขนาดนี้ หิมะก็อยู่มีทุกที่ทั่วฟาร์มปลา
ทว่าพวกฉงต้าไม่ยอม พอพาไปแล้วก็วิ่งกลับมาอีก อาจจะเป็นเพราะ สนามหญ้าตรงหน้าวิลล่าถึงจะนับว่าเป็นอาณาเขตของพวกมัน ก็เลยไม่อยากจะพากันไปเล่นที่อื่น
ตอนแรกฉินสือโอวนึกว่าพวกมันเล่นกันสักสองสามชั่วโมงก็คงจะเหนื่อยแล้วไม่อยากเล่นแล้ว แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น พอเล่นจนเหนื่อยพวกมันก็วิ่งไปพักที่อยู่ที่ระเบียงทางเดินสักครู่ พอกินอาหารจนอิ่มแล้วเหล่าสัตว์เลี้ยงพวกนี้ก็พากันกลับมาเล่นหิมะอีก
พอเป็นแบบนี้ฉินสือโอวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ถ้าให้เจ้าพวกนี้คุ้ยหิมะเล่นต่อไป พื้นหิมะก็คงจะกลายเป็นกองเลน เขาดุไปด้วยวินนี่ก็หลอกล่อพวกมันไปด้วย สุดท้ายจึงต้องให้เชอร์ลี่ย์กับกอร์ดอนมาพาพวกมันไป ถึงจะเอาพวกมันออกห่างจากที่ว่างแถววิลล่าได้
หู่จือ เป้าจือกับฉงต้าเพียงแค่คุ้นชินกับที่บริเวณด้านหน้าวิลล่าก็เท่านั้น ที่จริงแล้วขอแค่เป็นพื้นที่หิมะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนพวกมันก็เล่นกันได้อยากสนุกสนานทั้งนั้น แค่แป๊บเดียว เจ้าพวกนี้ก็เริ่มเล่นกันวุ่นวายอีกรอบ
ในที่สุดทางด้านฉินสือโอวก็ตักหิมะออกไปได้ แต่ปรากฏว่าพอเขาขับรถตักหิมะไปได้ไม่ไกลเท่าไร ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องสะอึกสะอื้นของฉงต้าดังมาจากไกลๆ
“เป็นอะไรอีกล่ะคราวนี้?” ฉินสือโอวลุกขึ้นมาจากรถอย่างเร่งรีบแล้วถามขึ้นมา
ทางฝั่งตะวันออกของวิลล่า ฉงต้านำหน้าสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ วิ่งเล่นกันอย่างคึกคักในกองหิมะ หู่จือ เป้าจือกับปอหลัวก็ตามมาด้านหลัง ทว่าพวกมันแต่ละตัวก็ต้องตื่นตระหนกจนขวัญหนีดีฝ่อ
พื้นหิมะหนาเกินไป ฉงต้ายังดีกว่าตัวอื่นอยู่บ้าง ดีที่ว่าหมีสีน้ำตาลมีขาสี่ข้างที่อ้วนใหญ่และมีพละกำลัง จึงสามารถวิ่งฝ่ากองหิมะได้ แต่ว่าปอหลัวกับหู่จือเป้าจือต่างก็ไม่ชำนาญกับการวิ่งบนกองหิมะ พอยื่นขาออกไปก็จมลงไปในกองหิมะทันที ดังนั้นพวกมันจึงวิ่งได้ช้ามาก ทำได้แค่ตามฉงต้าอยู่ทางด้านหลังเท่านั้น
สัตว์เลี้ยงทั้งสี่ตัวล้มลุกคลุกคลาน สุดท้ายก็เลือกอะไรไม่ได้ จนปอหลัวถึงก้มหัวลงแล้วใช้เขากวางที่เหมือนกันกับพลั่วของมันแทนเครื่องขุดหิมะ เพื่อจะถางทางวิ่ง
แสงแดดสาดส่องลงมา ทุกที่ล้วนแต่เป็นสีขาวโพลน ฉินสือโอวรู้สึกค่อนข้างแสบตา เขาจึงมองไม่เห็นว่าที่ไกลๆ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำได้แค่รีบเข้าไปหาเท่านั้น
บุชที่นั่งอยู่หน้าประตูเฉยๆ มาโดยตลอดก็ยื่นคอมองตามออกมา มันอ้าปากร้องแควกๆ มองดูพวกฉงต้าอื่นเดือดร้อนด้วยความรู้สึกสาแก่ใจยิ่งนัก
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset