ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 389 หม้อไฟเนื้อกวาง

ฝูงกวางไม่ได้หาได้ง่ายขนาดนั้น รถวิ่งรอบเมืองไปแล้วประมาณครึ่งรอบ นอกจากฝูงกวางเรนเดียร์ที่เจอในช่วงเริ่มต้น ก็ไม่ได้เจอฝูงกวางที่ไหนอีก
ชาร์คตามรอยเท้าของกวางแดงอยู่สักพักแต่ก็ไม่เจออะไรเลย สิ้นเปลืองน้ำมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ ในตอนเที่ยงจึงทำได้แค่รีบกลับมาทานอาหารในเมืองเท่านั้น
ซีมอนสเตอร์อธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า “อย่าเพิ่งท้อนะ บอส กวางป่ามันเจ้าเล่ห์มาก เมื่อสองวันก่อนฆ่าไปส่วนหนึ่งแล้ว พวกที่เหลืออยู่เลยเริ่มเรียนรู้ ตอนกลางวันพวกมันจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในป่าไม้หรือไม่ก็กลับไปบนภูเขา ตอนเย็นถึงจะโผล่หัวออกมา”
“ให้ตาย ไม่น่าจะใช่นะ พวกมันรบแบบกองโจรได้ด้วยเหรอ?” ฉินสือโอวรู้สึกใจคอแห้งเหี่ยว
รถคันอื่นๆ ขับกลับมากันแล้ว ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้อะไรกลับมา รถของพี่น้องตระกูลฮิวจ์ล่ากวางแดงมาได้หนึ่งตัว แต่พอเห็นกวางตัวนั้นฉินสือโอวก็รู้สึกขายขี้หน้าแทน กวางตัวเล็กขนาดนี้พวกนายก็ยังมีหน้าไปฆ่ามันอีกเหรอ?
ทานพิซซ่าหอมๆ กับซุปครีมหัวผักกาดร้อนๆ จิตใจของฉินสือโอวก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงบ่ายก็ออกโจมตีอีกรอบ ครั้งนี้รถขับมาตามถนนไกลกว่าเดิมนิดหน่อย ฝูงกวางที่ได้เจอก็เยอะขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าบนเทือกเขาเคอร์บัลมีกวางอยู่มากมายขนาดไหน แต่จำนวนกวางที่ลงมาจากภูเขาในครั้งนี้มีอยู่ไม่น้อยเลย สามร้อยสี่ร้อยตัวก็น่าจะถึง
ชาร์คขับรถไปที่ทะเลสาบเฉินเป่าก่อน กวางหลายตัวกำลังดื่มน้ำอยู่ที่ริมทะเลสาบ พอเห็นกวางพวกนี้ รถกระบะก็เหมือนนักเลงที่มองเห็นสาวสวย ขับพุ่งเข้าไปหาทันที
กวางที่ถูกจ้องพวกนั้นวิ่งหนีไม่ทันแล้ว แค่หมุนตัวกลับไปก็ถูกฉินสือโอวยิง จนล้มลงไปบนพื้นทันที
กวางพวกที่เหลืออยู่กลัวจนฉี่แทบราด สะบัดหางแล้ววิ่งแจ้นหนีเอาชีวิตรอดจนสุดฝีเท้า พวกมันวิ่งตรงไปยังเทือกเขาเคอร์บัลทันที
ขอแค่ฝูงกวางไม่เข้ามาในเมือง ก็เป็นเรื่องดีแล้ว พอฉินสือโอวกับคนอื่นๆ แค่ขู่ฝูงกวางให้กลัวไม่ได้ตามไปฆ่าล้างบาง แต่เปลี่ยนทิศทางไปที่อื่น
กวางอูฐสีเทาดำตัวใหญ่ตัวหนึ่งวิ่งช้าๆ ออกมาจากในป่า เงาร่างของมันที่ปรากฏอยู่บนผืนหิมะสีขาวสะอาดดูเด่นชัดเป็นพิเศษ นีลเซ็นกลับทิศทางปากกระบอกปืนแล้วยิงออกไป
ปรากฏว่าหลังเสียงปืนดังขึ้น กวางอูฐตัวนั้นก็ล้มลงไปแล้วลุกขึ้นมาใหม่ วิ่งกระวีกระวาดกลับเข้าไปในป่า
ชาร์คหยุดรถ ทุกคนถือปืนเอาไว้แล้วเดินเข้าไปในป่า
กระต่ายที่กำลังตื่นกลัวก็ยังกัดคน แล้วนับประสาอะไรกับกวางอูฐล่ะ? กวางอูฐตัวนี้มีความยาวลำตัวกว่าสองเมตรครึ่ง เหมือนกับสัตว์ประหลาดไม่มีผิด รอจนฉินสือโอวกับคนอื่นๆ เข้ามาในป่า มันก็ส่งร้องแล้ววิ่งบุกเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่กวางอูฐบุกเข้ามา จะยืนเซ่อๆ ปะทะหน้ากับมันแบบแข็งเจอแข็งเลยไม่ได้ เนื่องจากกวางอูฐเป็นสัตว์ดุร้าย น้ำหนักตัวมาก ถึงอยู่ต่อหน้าจะสามารถยิงพวกมันได้ แต่การควบคุมภายใต้แรงเฉื่อย ร่างกายของมันมักจะชนเข้ากับคนอยู่ดี
อย่างกวางอูฐตัวนี้ ลำตัวยาวสองเมตรครึ่ง ตัวสูงกว่าสองเมตร น้ำหนักมากกว่าหนึ่งพันกิโลกรัม กล้ามเนื้อแน่นๆ ทั่วตัว เขากวางแข็งๆ บนหัว พุ่งชนคนด้วยระดับความเร็วแบบนี้ ต่อให้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
ฉินสือโอวดวงกุด พอเงยหน้าขึ้นมาเขาก็พบว่ากวางตัวนี้กำลังวิ่งมาทางเขา จึงรีบทิ้งปืนแล้วปีนขึ้นไปบนต้นไม้
ไม่ได้น่าขายหน้าเลย ปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อพบกับการโจมตีของสัตว์ร้าย ทางเลือกอันดับหนึ่งก็คือทิ้งสิ่งของที่จะเป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัว ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะเป็นมีดหรือปืน
กวางอูฐพุ่งตัวถาโถมชั้นหิมะกับเศษซากกิ่งใบของต้นไม้ตามเข้ามา เบิร์ดตอบสนองอย่างว่องไว มือขวาแตะเข้ากับด้านข้างของท่อนขาใหญ่ จากนั้นก็สะบัดกริชออกไป
“ฉึก” แสงสะท้อนของมีดสั้นเป็นประกายระยิบระยับ กริชปักเข้าไปที่คอของกวางอูฐทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงต้องพบกับความเจ็บปวด พละกำลังในการโจมตีก็ช้าลงถึงสองส่วนทันที เบิร์ดคว้าโอกาสนี้ไว้แล้วลั่นไกปืนออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียว ปืนเรมิงตันดังขึ้นมาหนึ่งนัด ลูกกระสุนแรงทำลายล้างสูงก็ระเบิดออกไป ยิงจนกวางอูฐล้มลงกับพื้น
เสียง ‘ครืนๆ’ จากกวางอูฐดังขึ้นมาร่างของมันก็ล้มลงไปบนพื้น มันแหงนหน้าขึ้นร้อง ‘อี๊ๆ อี๊ๆ ’ อยู่ไม่กี่ครั้ง จังหวะการหายใจก็ค่อยๆ อ่อนแรงลง ขาทั้งสี่ข้างชักกระตุกอยู่ไม่กี่ครั้งก็สิ้นใจในที่สุด
นีลเซ็นผิวปากออกมาสองสามครั้ง แล้วตะโกนขึ้นมาว่า “บิ๊กเบิร์ด น็อคดาวน์ได้สวยจริงๆ !”
ทางฝั่งฉินสือโอวก็หน้าม่อยคอตกนิดหน่อย เขากลอกตาแล้วพูดขึ้นมาว่า “กับผีน่ะสิ อีกนิดจะโดนฉันด้วยแล้ว! เร็ว ลงมือเลย ช่วยกันหามขึ้นรถ!”
อีวิลสันขึ้นไปจับหัวใหญ่ๆ ของกวางอูฐเอาไว้ ส่วนคนอื่นๆ ก็แบ่งกันจับขาทั้งสี่ข้าง ร่วมแรงร่วมใจกันถึงช่วยกันยกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้ขึ้นมาได้
ฉินสือโอวหยิบปืนขึ้นแล้วเดินตามมาอย่างช้าๆ เอื่อยๆ ไก่ป่าเฮเซลตัวหนึ่งก็วิ่งทะเล่อทะล่าออกมา พอเห็นคนอยู่หลายคนขนาดนี้ก็หมุนตัววิ่งกลับไป
เห็นไก่ป่าเฮเซลอ้วนๆ ตัวนี้ ฉินสือโอวก็พูดอย่างเสียดายๆ ว่า “น่าเสียดายที่ไม่ได้เอาธนูมา…”
สิ้นเสียง เบิร์ดที่กำลังหามขาหน้าของกวางอูฐด้วยมือเดียวอยู่เงียบๆ ก็หันหน้ากลับมา เขาสะบัดแขนปามีดทหารออกไป ปักลงไปบนปีกของไก่ป่าเฮเซลที่กางออกมาอย่างแม่นยำ จนมันถูกปักติดกับลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ
“ผมไม่มีทางพลาดแน่นอน” เบิร์ดพูดขึ้นมาอย่างคูลๆ เพื่อตอบความข้องใจของฉินสือโอวเมื่อก่อนหน้านี้
ฉินสือโอวเข้าไปดึงไก่ป่าเฮเซลที่กำลังส่งเสียงร้องออกมา แล้วชมเขาว่า “จัดการได้สวยมาก แบบนายถึงจะมีท่าทางสมกับเป็นคิงของทหารหน่วยรบพิเศษ!”
นีลเซ็นจะร้องไห้แล้ว เขาร้องขึ้นมาว่า “บอส ถ้าคุณให้ผมยืม AWP ของคุณ ต่อให้ห่างออกไปเป็นกิโลผมก็จัดการไก่ตัวนี้ได้!”
“แล้วพวกเราจะได้กินขนไก่กันน่ะเหรอ?” ฉินสือโอวพูดจบ ชาร์คกับคนอื่นๆ ก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ปืนไรเฟิลสำหรับซุ่มยิงมีพลังทำลายล้างสูงเกินไป ยิงโดนคนหรือสัตว์ใหญ่อย่างกวางก็จะเป็นรูกระสุนขนาดใหญ่ แต่ถ้ายิงไก่เฮเซลหนักสองสามกิโลกรัมพวกนี้ คิดว่าแม้แต่กระดูกก็คงไม่เหลือ
หนึ่งวันล่ากวางมาได้สองตัว ช่วงบ่ายก็ยังพบกวางอีกหลายฝูง ท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนสี พวกมันเริ่มเข้ามาใกล้เขตเมืองเพื่อหาอาหาร ทว่ากวางพวกนี้ฉลาดหลักแหลมมากนัก พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถพวกมันก็วิ่งหนีทันที เดินทางผ่านพื้นหิมะได้ยาก รถกระบะจึงตามไปไม่ทัน
คนอื่นๆ ก็ล่ามาได้ไม่มาก ทุกคนมารวมตัวกันที่บาร์เหล้า แล้วก็เริ่มบ่นว่ารับมือกับฝูงกวางนั้นลำบากขนาดไหน
หลักๆ เลยคือหาพวกมันได้ยากมาก ฝูงกวางเป็นสัตว์ป่าที่มีความชำนาญในการซ่อนตัวและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายสูงใหญ่แข็งแรงกับความขี้ขลาด พวกมันคงถูกสัตว์ร้ายชนิดอื่นล่าจนสูญพันธุ์ไปนานแล้ว
สุดท้ายฉินสือโอวก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธแค้นว่า “แม่มัน ฉันอยากจะใช้เฮลิคอปเตอร์จริงๆ ฉันไม่เชื่อว่าพวกมันจะซ่อนตัวจากเรดาห์ของเฮลิคอปเตอร์ได้หรอกนะ”
ทุกๆ คนต่างก็พากันส่ายหัว นิวฟันด์แลนด์ห้ามไม่ให้ใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อล่าสัตว์ นี่เป็นเครื่องจักรสังหารที่ทำให้ฝูงสัตว์ป่าสูญพันธุ์ได้อย่างง่ายได้ ภายใต้ทัศนวิสัยของเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีสัตว์ป่าตัวไหนที่สามารถหลบซ่อนไปได้
ดื่มวิสกี้อยู่ในบาร์เพื่อช่วยอบอุ่นร่างกายไปนิดหน่อยแล้ว ฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ถึงพากันกลับบ้านไปเตรียมอาหารเย็น
สี่ห้าวันต่อจากนั้น พวกเขายังช่วยชาวเมืองไล่ฝูงกวางออกไปอยู่โดยตลอด แต่ก็ได้ผลสำเร็จเพียงน้อยนิด ฝูงกวางนับวันก็ยิ่งฉลาดขึ้นกว่าเดิม ต่อมาพวกมันถึงกับออกมาจากป่าและทุ่งหญ้าในตอนเที่ยงคืนเท่านั้น ตอนกลางวันพวกมันจะซ่อนตัวอยู่อย่างดี จนฉินสือโอวกับคนอื่นๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว
ช่วงบ่ายของวันที่ 31 เดือนธันวาคม ฉินสือโอวบอกกับคนอื่นๆ ว่า เย็นวันนี้เขาจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ ทานหม้อไฟเนื้อกวางต้อนรับวันคริสต์มาส
ช่วงหลายวันนี้พวกเขาล่ากวางมาได้สิบกว่าตัว พอเบิร์ดกับนีลเซ็นล่ากวางมาได้ก็จะเอาเลือดของพวกมันออกก่อน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะผ่านการแช่แข็งมาแล้ว แต่คุณภาพของเนื้อก็จะยังสดอร่อยนุ่มเด้งอยู่
พอวินนี่เลิกงานก็ซื้อสเต๊กเนื้อกลับมาด้วยนิดหน่อย ฉินสือโอวพูดกับเธอว่า “วันนี้ไม่ต้องลำบากเลยครับ เราจะกินหม้อไฟเนื้อกวางกัน”
พอกลับมาจากบ้าน ท่าทางสง่างามราวกับนางฟ้าของวินนี่ก็กลับคืนมาอีกครั้ง เธอเม้มปากยิ้ม แล้วพูดกับเขาว่า “คุณรู้ได้ยังไงคะว่าคนอื่นจะชินกับอาหารแบบนี้? ให้ฉันเตรียมสเต๊กเนื้อไว้หน่อยดีกว่า เอาไก่ป่าเฮเซลตัวนี้ไปจัดการแล้วค่อยเอามาให้ฉันนะคะ ฉันจะต้มซุปให้คุณปู่เออร์กับพวกเชอร์ลี่ย์”
ฉินสือโอวรักเธอที่สุดแล้ว ตอนที่เอาไก่เฮเซลไปให้ก็ยังจูบกันอย่างร้อนแรงไปครั้งหนึ่ง ฉงต้านั่งมองอยู่ข้างๆ ด้วยความสนอกสนใจ มันนึกว่าพวกเขาทั้งสองคนกำลังทานอะไรกันอยู่ ถึงได้เคลิบเคลิ้มขนาดนั้น จึงกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที
ฉงต้าปีนขึ้นมา มันยื่นอุ้งมือใหญ่ออกไปเขย่าตัวฉินสือโอว ปากก็ส่งเสียงร้องฮึมๆ ฮัมๆ ออกมา ที่มุมปากก็เกือบจะมีน้ำลายไหลออกมาอยู่แล้ว แค่แป๊บเดียวก็ทำลายบรรยากาศของคู่รักลงไปทันที
วินนี่แย้มยิ้มหวานแล้ววิ่งออกมา ทิ้งฉินสือโอวให้เผชิญหน้ากับฉงต้า
ฉงต้ามองไปที่ฉินสือโอวด้วยความคาดหวัง มันแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก จากนั้นก็นั่งลงอย่างน่าเอ็นดู ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากไหน แถมมันยังย่นจมูกทำปากจู๋ เพื่อบอกให้ฉินสือโอวเข้ามาจูบมัน
ฉินสือโอวหัวเราะไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้ เขาตบก้นของมันสองครั้ง แล้วตะโกนเสียงดังว่า “หุบปาก แล้วออกไปเลย!”
เพื่อที่จะได้กินอาหารฉงต้าสามารถทุ่มเทได้สุดชีวิต ฉินสือโอวไม่ยอมจูบมัน มันก็กลิ้งตัวไปมาอยู่บนพื้น ปากก็ร้องฮือๆ ท่าทางเหมือนกับว่าถ้าไม่ให้ฉันกินปากฉันก็จะไม่ยอมลุก
พวกชาร์คที่กำลังถลกหนังกวางอยู่ก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน พวกนั้นไม่ทำงานต่อแล้ว แถมยังวิ่งเข้ามาตะโกนเสียงดังโวยวายอีกด้วย “บอส เมื่อกี้นี้บอสกับวินนี่กำลังกินอะไรกันอยู่เหรอ? ดูสิๆ ฉงต้าหิวจะตายแล้วเนี่ย”
กอร์ดอนก็มุงเข้ามาอย่างนึกสนุก ปากก็ตะโกนว่า ‘ผมก็อยากกินเหมือนกัน’ ไม่ต้องรอให้ฉินสือโอวจัดการ เชอร์ลี่ย์ก็ตามมาดึงหูของเขา พร้อมทั้งยิ้มเย็นแล้วพูดว่า “ลองบอกให้พี่สาวฟังหน่อย นายบอกว่าอยากกินอะไรนะ?”
“เจ็บๆ ปล่อยมือนะ เธอดึงหูฉันจนจะขาดแล้ว!” กอร์ดอนตะโกนเสียงดังอย่างน่าเวทนา
ยิ่งคนเยอะฉงต้ายิ่งเอาแต่ใจ พอทุกคนเสียงดังโหวกเหวก มันก็ยิ่งกลิ้งแรงยิ่งกว่าเดิม แถมเสียงที่ร้องออกมาก็ดังกว่าเดิมอยู่มาก
“เจ้าหมีบ้า อีกไม่นานฉันคงเป็นบ้าเพราะแกนี่ล่ะ!” ฉินสือโอวไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เขาจะหนีก็หนีไม่ได้ ฉงต้ายื่นอุ้งเท้าออกมากอดขาเขาไว้ ปลิ้นปล้อนไร้ยางอายสิ้นดี
ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวหิ้วฉงต้าให้ขึ้นมานั่งดีๆ จากนั้นก็จุ๊บลงไปบนหน้าอ้วนๆ ของมันหนึ่งครั้ง
ฉงต้าก็ยังไม่พอใจ ฉินสือโอวกับวินนี่จุ๊บมันบ่อยๆ อยู่แล้ว มันอยากหาอะไรกิน จึงยื่นจมูกเข้าไปใกล้ริมฝีปากของฉินสือโอว แล้วแลบลิ้นออกมาเลียลงไปบนนั้น
บนลิ้นของหมีสีน้ำตาลโคโลราโดมีหนามอันเล็กๆ หมีสีน้ำตาลโตเต็มวัยกินปลาเป็นอาหาร บนลิ้นจึงมีแต่เนื้อปลา
แน่นอนว่า พอมาอยู่กับฉินสือโอว ฉงต้าก็เก็บหนามพวกนั้นไว้ ลิ้นของมันเพียงแค่หยาบ แต่ไม่เป็นอันตรายอะไร
เลียไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไรน่ากิน ฉงต้าเลยลุกขึ้นแล้วจะเดินหนีไป
ฉินสือโอวเพิ่งจะถอนหายใจออกมา มือข้างหนึ่งก็ยื่นมาตรงด้านหน้าเขา แล้วป้ายน้ำเชื่อมลงไปบนริมฝีปาก
ตาดวงเล็กๆ ของฉงต้าที่กำลังจะเดินหนีก็เป็นประกายขึ้นมาทันที มันร้องครวญครางพร้อมทั้งโผเข้ามาแลบลิ้นเลียอย่างบ้าคลั่ง
ฉินสือโอวทั้งขัดขืนทั้งหันกลับไปมองอย่างโกรธๆ ก็เห็นวินนี่ที่กำลังหัวเราะคิกคักพร้อมกับสะบัดน้ำเชื่อมในมือ
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset