ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 404 เจาะน้ำแข็งตกปลา

มองดูลูกหมาป่าขาวเดินเข้าไปในป่า วินนี่ก็รู้สึกสลดขึ้นมาทันที เธอกอดฉงต้าที่อยู่ในอ้อมอกไว้แน่น ดูท่าทางเหมือนว่าจะทำใจไม่ได้มากๆ
ฉงต้าก็โล่งอกโล่งใจอย่างถึงที่สุด ดีจริงๆ ในที่สุดเจ้าเด็กนี่ก็ไสหัวไปสักที หลังจากนี้คู่แข่งแอ๊บแบ๊วขี้อ้อนของมันก็น้อยลงไปแล้วหนึ่ง
พอหู่จือกับเป้าจือเห็นฉินสือโอวก็กระโดดโลดเต้นเข้ามาหาเขา ฉินสือโอวลูบหัวของพวกมันไปมา เขาเดินมาอยู่ข้างๆ วินนี่แล้วกอดเธอไว้พร้อมๆ กับพูดปลอบใจเธอ “ดีแล้วล่ะ หลัวปอไม่เหมาะที่จะอยู่ที่ฟาร์มปลาหรอกครับ มันเป็นหมาป่า ตามธรรมชาติแล้วก็ควรจะอยู่บนภูเขาสูงกับป่าใหญ่”
วินนี่พยักหน้ารับ แต่ใบหน้าของเธอก็ยังดูเศร้าสร้อยอยู่
ฉินสือโอวจึงเบี่ยงประเด็นออกไป เขาบอกกับเธอว่า “กว่าจะเดินกลับไปทำไมมันถึงใช้เวลานานขนาดนี้ล่ะ? ดูเหมือนว่ามันก็รู้สึกผูกพันกับคุณเหมือนกันนะ”
วินนี่อธิบายกับเขาว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเล่นกับมันอยู่สักพักหนึ่ง ทำใจไม่ได้จริงๆ หลัวปอน่ารักมากๆ เลย”
“แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นหมาป่า มันยังมีผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ให้ต้องออกไปเผชิญหน้า ถ้าหากมันมัวแต่หลงใหลชีวิตที่สะดวกสบาย เช่นนั้นมันก็ไม่คู่ควรกับชื่อ ‘โลโบ’ …” ขณะที่ฉินสือโอวกำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ฮึกเหิมอยู่นั้น ปรากฏว่าระหว่างนั้นพวกฉงต้ากับหู่จือก็มองไปที่ริมป่าด้วยใบหน้าที่ยากจะเชื่อ
ฉินสือโอวหันหน้ากลับไปดู ตัวขาวๆ ของหลัวปอก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันแหงนหน้าขึ้นมองรอบๆ จากนั้นก็วิ่งตรงไปหาวินนี่พร้อมหางที่ตั้งตรง
หู่จือกับเป้าจือรีบวิ่งเข้าไปสกัดมัน พวกมันอยากจะไล่ลูกหมาป่าไปเต็มที เมื่อเข้ามาใกล้แล้วหู่จือก็ใช้อุ้งเท้าตบเข้าไปที่หัวของมันจนเสียทิศทาง
หลัวปอถูกตบซวนเซจนล้มลงบนพื้น เมื่อลุกขึ้นมาได้แล้ว มันก็รู้สึกว่าศักดิ์ศรีความเป็นหมาป่าขาวของมันถูกหยาม จึงอ้าปากนุ่มๆ เล็กๆ เห่าโฮ่งๆ ออกมา อุ้งเท้าเล็กก็ตะปบลงไปบนพื้นอย่างแรง พยายามส่งสายตาโกรธเกรี้ยวกับท่าทางดุดันน่าเกรงขามออกมา
หู่จือกับเป้าจือก็ชอบอกชอบใจ โอ้โหไอ้ลูกหมาป่าแกนี่วางท่าโอหังเสียจริง เมื่อคืนวานพวกเราสองพี่น้องสู้กับพ่อแม่แกได้อย่างอีซี่ๆ สบายๆ วันนี้ถึงคราวของแก พวกเราจะรับมือไม่ได้เลยหรือยังไงกัน?
ดังนั้นต่อมาเป้าจือก็โบกอุ้งเท้าขึ้น ทั้งกดทั้งยก ส่งมันขึ้นเครื่องบินบกทันที
ทางด้านฉินสือโอวกับวินนี่ก็ถึงกับอึ้งไป นี่ยังใช่พี่น้องแลบราดอร์ที่น่ารักออดอ้อนทั้งยังใสซื่ออยู่ไหม ตัวหนึ่งตบสัตว์ตัวอื่นจนกลิ้งไปกับพื้นส่วนอีกตัวก็ส่งสัตว์ตัวอื่นขึ้นเครื่องบินบก ทำไมถึงได้ร้ายเงียบขนาดนี้นะ? ไปหัดมาจากใคร?
วินนี่รีบตะโกนห้ามหู่จือกับเป้าจือ พอหลัวปอมองเห็นเธอเดินเข้ามามันก็ร้องออกมาด้วยความรู้สึกน้อยอกน้อยใจทันที ทว่าหางเล็กๆ ก็ยังยกขึ้นเหมือนกับเสาธง ดูยังไงก็ยังดูร่าเริงอยู่ดี
พออุ้มหลัวปอเอาไว้ในอ้อมอก วินนี่ก็ยิ้มแย้มด้วยความดีใจขึ้นมาทันที เธอทั้งหอมทั้งจุ๊บมัน ด้วยความรักของแม่ที่เอ่อล้นจนเต็มเปี่ยม
ฉินสือโอวบอกให้วินนี่ส่งลูกหมาป่าขาวเข้าไปในป่า วินนี่รู้สึกอาลัยอาวรณ์ เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมเธอทุกวิถีทาง ในที่สุดวินนี่ก็ยอมพามันกลับไปส่งอีกครั้ง ผ่านไปได้ไม่นาน เจ้าตัวเล็กก็ล้มลุกคลุกคลานวิ่งกลับออกมาอีกรอบ
รออยู่รอบๆ ฟาร์มจนฟ้าเริ่มมืด พ่อแม่หมาป่าขาวก็ไม่ได้กลับมา ลูกหมาป่าขาวก็ไม่ยอมกลับเข้าป่าไปหาทางกลับบ้านเอง เมื่อเป็นแบบนี้ฉินสือโอวกับวินนี่จึงต้องพามันกลับไปด้วยกัน
ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ลูกหมาป่ายังไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเอง ถ้าหากพ่อแม่หมาป่าขาวไม่กลับมา แถมมันก็ยังไม่ยอมกลับไป จึงทำได้แค่รอว่าเมื่อไรพ่อแม่จะมารับมันเท่านั้น
หลัวปอยังเด็กเกินไป คิดว่าฟันน้ำนมคงยังไม่หลุดเลยสักซี่ มื้อเย็นวินนี่จึงให้มันกินนมอุ่นๆ กับซุปเนื้อวัวข้นๆ มันกินมูมๆ มามๆ อย่างมีความสุข
ฉินสือโอวมองดูหลัวปอที่กำลังเคี้ยวเนื้อวัวอย่างยากลำบาก ก็อดคิดไม่ได้ว่าหมาป่าขาวสองผัวเมียจะต้องมีความมั่นใจขนาดไหน ลูกยังเล็กขนาดนี้ก็ยังกล้าพาลงภูเขามาฝึกล่าเหยื่อ พ่อเหยี่ยวพ่อเสือที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตพวกนั้นเทียบกับพวกมันไม่ได้เลยสักนิด
ก็เหมือนตามปกติ ในตอนกลางคืนวินนี่จะกอดหลัวปอนอนอยู่บนเตียง ฉินสือโอวมองท่าทางน่าสงสารแปลกๆ ของลูกหมาป่าขาว ก็เป็นฝ่ายกอดผ้าห่มไปนอนอีกฝั่งเอง แล้วปล่อยให้มันได้นอนกับวินนี่
หลายวันต่อมาท้องฟ้าแจ่มใสขึ้นมาเยอะแล้ว หิมะบนภูเขาเริ่มละลาย ผืนหญ้ากับพุ่มไม้บนภูเขาที่ถูกหิมะทับไว้ก็เริ่มปรากฏร่องรอยออกมา ฝูงกวางก็ไม่ลงมาจากภูเขาอีก ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ไม่ต้องไปไล่กวางที่มีเยอะเกินไปจนกลายเป็นภัยแล้ว
ไม่ใช่แค่ฝูงกวางเท่านั้นที่ไม่ลงมาจากภูเขาอีก หมาป่าขาวสองผัวเมียก็เช่นกัน หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ในคืนนั้น พวกมันก็ไม่เคยมาปรากฏตัวรอบๆ ฟาร์มอีกเลย บางทีพวกมันอาจจะสิ้นหวังกับพวกมนุษย์ เลยคิดว่าลูกของตัวเองตายด้วยน้ำมือมนุษย์ไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลัวปอจึงอยู่ที่ฟาร์มปลาอย่างสุขสบายต่อไป
ดูเหมือนว่าลูกหมาป่าขาวไม่ได้คิดถึงพ่อแม่เลยสักนิด หรืออาจจะเป็นเพราะมันยังเล็กเกินไป จึงยังไม่ได้ผูกพันกับพ่อแม่จนลึกซึ้งมากพอ ตอนนี้มันตามติดวินนี่ทั้งวันเหมือนเงาตามตัว มีกินมีดื่มแถมวินนี่ยังเล่นกับมันแล้วนอนกอดมันเรียกได้ว่ามีความสุขเลยล่ะ
พอวินนี่มีหลัวปอแล้วเธอก็เริ่มยุ่งขึ้นมา ตอนกลางวันก็ยุ่งกับงาน พอเลิกงานมาก็ยุ่งกับลูกหมาป่าขาว จึงไม่ได้สวีทหวานแหววกับฉินสือโอวแล้ว
หลายวันเข้าฉินสือโอวก็เริ่มเบื่อ เขาจึงทำได้แค่พาสุนัขออกไปเดินเล่นกับแกล้งหมีเล่นเท่านั้น ฟาร์มปลาก็พัฒนาได้อย่างมั่นคง ส่วนของที่หมึกกล้วยหามาจากเรือไททานิกก็ไม่มีมูลค่าอะไร จนเขารู้สึกเบื่อจะแย่อยู่แล้ว
เห็นฉินสือโอวเบื่อ ชาร์คเลยช่วยเขาหาอะไรทำ ช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนมกราคม เขาหาวันที่อากาศปลอดโปร่งมีแสงแดดส่องสว่าง จากนั้นก็ถือค้อนถือสิ่วกับเอ็นตกปลาเส้นหนามาหาฉินสือโอว แล้วพูดกับเขาว่า “บอส คุณสนใจไปเจาะน้ำแข็งตกปลาไหม?”
ตอนนี้ฉินสือโอวว่างจนก้นของเขาแทบจะเป็นริดสีดวงแล้ว ได้ยินว่าจะไปเจาะน้ำแข็งตกปลามีเหรอที่เขาจะไม่สนใจ เขาโบกมืออย่างกระปรี้กระเปร่าแล้วพูดว่า “ไป!”
“ผมยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังเลย คุณอาจจะไม่สนใจก็ได้” ชาร์คพูดกับเขา
ฉินสือโอวถอนหายใจด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขมขื่น เขาพูดกับชาร์คว่า “นายไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ร่างกายกับจิตใจของฉันมันว่างเปล่าขนาดไหน เพื่อนเอ๋ย อย่าว่าแต่ตกปลาหลุมน้ำแข็งเลย ต่อให้พวกเราไปทุบน้ำแข็งเล่น ฉันก็สนใจทั้งนั้น”
ซีมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดกับเขาด้วยความนับถือว่า “บอส ผมไม่ค่อยรู้สึกนับถือใคร แต่คุณคือคนที่ผมรู้สึกนับถือ คุณร่ำรวยขนาดนี้ ทั้งยังอายุน้อยและหล่อเหลา เวลาเหงาๆ เบื่อๆ แบบนี้กลับไม่ได้ออกไปแข่งรถบนถนน ดื่มเหล้าเมามาย เล่นการพนัน หรือมั่วผู้หญิง น่านับถือจริงๆ”
ได้ยินซีมอนสเตอร์พูดอย่างนี้ ฉินสือโอวก็เริ่มวางท่าถ่อมตัวทันที เขาโบกมือปัดแล้วตอบกลับไปว่า “เพื่อน นี่ไม่ได้มีอะไรเลย ยิ่งนายรู้จักฉันนานเท่าไร นายก็จะยิ่งเห็นข้อเสียของฉันมากขึ้นเท่านั้น”
ถึงปากจะพูดแบบนี้ แต่ในใจของเขาก็ยังแอบแย้ง ซีมอนสเตอร์ทำให้เขานึกขึ้นมาได้ว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไปกินเหล้าเล่นการพนันมั่วผู้หญิงไม่ได้ แต่เขาก็ยังไปขับรถเล่นได้นี่หว่า ถนนในแคนาดาลื่นเพราะมีหิมะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปอเมริกาแทนสิ มีที่ให้ขับรถเล่นตั้งเยอะแยะ
ขับรถกระบะไปทะเลสาบเฉินเป่า บนทะเลสาบขนาดใหญ่ มีหลายพื้นที่ที่มีคนมาเจาะพื้นน้ำแข็งเพื่อตกปลา ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักท่องเที่ยว คนในท้องถิ่นไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก
ยามค่ำคืนในฤดูหนาวของนิวฟันด์แลนด์หนาวเหน็บมากจริงๆ อุณหภูมิลบยี่สิบสามสิบองศาก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทะเลสาบเฉินเป่าไม่มีกระแสน้ำอุ่น ดังนั้นผิวน้ำของทะเลสาบจึงกลายเป็นชั้นน้ำแข็งหนาๆ มีคนขับรถกระบะขึ้นไปข้างบนแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ชาร์คหาตำแหน่งที่อยู่ห่างออกมาจากริมทะเลสาบราวๆ ยี่สิบเมตร หลุมน้ำแข็งที่อยู่ใกล้กับพวกเขาที่สุดก็อยู่ห่างออกไปถึงสี่สิบห้าสิบเมตร ที่ตรงนี้ปลอดภัยแน่นอน หลังจากนั้นเขาก็ถือค้อนแล้วเริ่มทุบพื้นน้ำแข็ง ‘ปังๆ ๆ ’
ฉินสือโอวนั่งยองๆ มองอยู่ข้างๆ ค้อนถูกทุบลงไปบนพื้นน้ำแข็ง น้ำแข็งแผ่นเล็กๆ ก็กระเด็นขึ้นมา เมื่อกระทบกับใบหน้าก็สร้างความเจ็บปวดไม่น้อย
‘ตู้ม’ เสียงกระหึ่มดังขึ้น น้ำแข็งก้อนหนึ่งถูกทุบจนแตก ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ขยายหลุมน้ำแข็งให้กว้างขึ้นอีกนิด จนกลายเป็นพื้นที่ประมาณหนึ่งตารางเมตร หลังจากนั้นก็ส่งสัญญาณบอกฉินสือโอวว่าสามารถตกปลาได้แล้ว
ถึงจะพูดว่าเจาะน้ำแข็งตกปลา แต่แท้จริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้น ชาร์คหยิบฉมวกตกปลายืนอยู่ริมๆ ส่วนซีมอนสเตอร์ก็โปรยอาหารปลากับเหยื่อลงไปข้างใน แค่แป๊บเดียวปลาซ่งตัวอ้วนๆ ตัวหนึ่งก็โผล่หัวของมันออกมา
………………….…………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset