ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 423 พายุมาแล้ว

เวลาที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ จะดูเหมือนกับร่มที่ถูกกางไว้ไม่มีผิด ริมขอบของตัวมันมีหนวดเล็กๆ อยู่เป็นจำนวนมาก
บนหนวดพวกนี้มีลูกบอลเม็ดเล็กอยู่นับไม่ถ้วน ลูกบอลเม็ดเล็กๆ ทุกเม็ดจะมีตุ่มรับเสียงอยู่ข้างใน ตุ่มรับเสียงพวกนี้มีความว่องไวเป็นพิเศษ สามารถตรวจจับคลื่นใต้เสียงก่อนพายุจะมาถึงได้ทันเวลา
พวกมันจะส่งการสั่นสะเทือนของคลื่นใต้เสียงไปที่ปลายประสาทรับความรู้สึกที่ผนังหูด้านในของแมงกะพรุน ดังนั้นแมงกะพรุนจึงสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงพายุที่อยู่ไกลออกไป หลังจากนั้นก็จะรีบเคลื่อนย้ายไปหาที่ปลอดสำหรับหลบพายุ เพื่อหลีกเลี่ยงการจู่โจมของคลื่นพายุ
มีแมงกะพรุนมากขนาดนี้ในเวลาเดียวกัน นั่นต้องเป็นเพราะพวกมันทำนายได้ว่าจะเกิดพายุลูกใหญ่อย่างแน่นอน เนื่องจากความเป็นไปได้ที่ข้างหน้าจะมีเต่าทะเลอยู่ปรากฏตัวขึ้นกว่าล้านตัวนั้นเป็นไปได้น้อยมาก ดังนั้นจึงเหลือแค่สาเหตุข้อนี้!
เมื่อคิดอย่างแน่ชัดแล้ว ฉินสือโอวก็ดีดตัวขึ้นมาทันที เขาดันอีวิลสันเพื่อปลุกให้ตื่น พร้อมทั้งตะโกนเสียงดังว่า “เร็ว ไปเรียกทุกคนมา! เร็วๆๆ บอกให้พวกเขามาที่ห้องขับเรือ!”
พอพูดจบแล้ว เขาก็วิ่งนำตรงไปยังห้องขับเรือ พอดีกับที่คนที่กำลังเข้าเวรอยู่ด้านในคือชาร์คกับบูลที่เคยเคลือบแคลงเขา
เห็นฉินสือโอวรีบวิ่งเข้ามาแบบนี้ ชาร์คก็ยกยิ้มแล้วถามกับเขาว่า “บอส เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้ล่ะ?”
ตอนมื้อเย็นบูลถูกอีวิลสันจับทุ่มจนทำตัวดีขึ้น จึงยกแก้วกาแฟที่อยู่ในมือขึ้นมาแล้วถามด้วยความหวังดีว่า “บอส คุณอยากได้กาแฟสักแก้ว…”
นี่เป็นเวลาอะไรแล้วยังมีกะใจจะดื่มกาแฟอีกเหรอ? ฉินสือโอวผลักบูลออก แล้วพูดกับชาร์คเสียงดังว่า “หันหัวเรือกลับ! ตอนนี้อยู่ใกล้กับท่าเรือไหนที่สุด?!”
ชาร์คไม่เข้าใจสาเหตุ แต่ก็ตอบเขากลับไปด้วยจิตใต้สำนึก “พวกเราเพิ่งจะผ่านท่าเรือแชแนล-บาสก์มา กำลังจะเข้าอ่าวลอว์เรนซ์แล้ว…”
“หันเรือกลับเดี๋ยวนี้! เข้าไปที่ท่าเรือบาสก์ให้เร็วที่สุด!” ฉินสือโอวตะโกนขัดชาร์ค
ชาร์คเชื่อใจฉินสือโอว เขารีบพยักหน้าแล้วตอบรับว่า “โอเคครับ บอส”
ภายใต้การนำพาของอีวิลสัน คนอื่นๆ ก็พากันตื่นขึ้นแล้ว พวกเขาเดินเข้ามาในห้องขับเรืออย่างสะลึมสะลือและไม่สบอารมณ์
พอเห็นคนพวกนี้ ฉินสือโอวรีบบอกกับพวกเขาว่า “เร็ว! พากันไปมัดของบนเรือที่เคลื่อนที่ได้! พายุกำลังจะมาแล้ว!”
มีชาวประมงบางคนหัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า “เป็นไปไม่ได้ บอส คุณล้อเล่นหรือเปล่า?”
“ใช่แล้ว ฮ่าๆ ก่อนออกทะเลพวกเราอ่านพยากรณ์อากาศมาแล้ว หนึ่งสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงไม่มีพายุหิมะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ”
“ตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งมากๆ เลยนะ บอส พายุไม่ได้เกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นนะครับ?”
แลนซ์ก็เกลี้ยกล่อมเขาว่า “บอส คุณตื่นตูมไปหน่อยแล้ว ถึงอากาศจะไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดพายุขึ้นนะครับ ดูสิ ขนาดกรมอุตุนิยมวิทยาก็ยังไม่ได้แจ้งเตือนพายุลมแรงเลย อุปกรณ์พยากรณ์พายุของพวกเราก็ยังนิ่งมาก”
อุปกรณ์พยากรณ์พายุแค่เห็นชื่อก็ทราบได้ถึงความหมายของมัน มันคืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเตือนภัยพายุลูกใหญ่ล่วงหน้า มันถูกติดตั้งไว้บนดาดฟ้าของเรือฮาวิซท แตรจะหมุนตามเข็มนาฬิกา เมื่อได้รับคลื่นใต้เสียงที่เกิดจากการปะทะกันของลมทะเลกับคลื่นทะเล มันก็จะหยุดหมุน ถ้าชี้ไปทางไหน ทางนั้นก็คือทิศที่พายุจู่โจมเข้ามา
ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้! ให้ตายเถอะ ลืมคู่มือของลูกเรือไปแล้วเหรอ?! ทำตามคำสั่งฉัน! พวกนายจะสงสัยก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติ! เร็ว!”
บูลถามเขาอย่างหัวแข็งว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณบอกสาเหตุที่คุณคิดว่ามีพายุได้ไหมล่ะ”
“ใช่ศาสตร์ลับชาวตะวันตกที่สืบทอดกันในบ้านอะไรนั่นหรือเปล่า?”มีคนหัวเราะแล้วถามเขาเสียงเบา
ฉินสือโอวพูดอย่างเย็นชาว่า “ใช่ ฉันใช้ห้าธาตุพิชิตมังกรในการคาดการณ์! ตอนนี้ลมหายใจของผิวทะเลยุ่งเหยิงและสับสน ซึ่งหมายถึงลมหายใจของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในทะเลกำลังเคลื่อนย้ายอย่างสับสนวุ่นวาย นี่แปลว่าต้องเกิดพายุลูกใหญ่ขึ้นแน่ๆ!”
แลนซ์กับคนอื่นๆ ยักไหล่อย่างจนปัญญา ทำได้แค่แยกย้ายกันไปยึดของบนเรือที่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ชาร์คมองไปที่ฉินสือโอว บนใบหน้าก็ปรากฏความสงสัยเช่นกัน ฉินสือโอวพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “ความเร็วเรืออยู่ที่เท่าไร?”
“20 นอตแล้วครับ” ชาร์คตอบ
“แล้วถ้าเร็วที่สุดล่ะ?”
“เร็วได้มากที่สุดถึง 28 นอต แต่ผมไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้น มันจะทำให้เรือได้รับความเสียหาย…”
“เพิ่มเป็น 28 นอตให้ฉันเดี๋ยวนี้!” ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด!
เขาเชื่อว่าแมงกะพรุนจะไม่ทำอะไรโดยไร้เหตุผล เนื่องจากฝูงแมงกะพรุนที่อพยพมีจำนวนมากเกินไป อีกทั้งเขายังบังคับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มขีดจำกัด ตอนนี้เห็นเพียงแต่ใต้ทะเลด้านหน้าที่ยิ่งสับสนอลหม่าน ไม่ใช่แค่แมงกะพรุนที่พากันหนีแล้ว ฝูงปลาจำนวนมากก็พากันย้ายจากอ่าวมาสู่ช่องแคบเช่นกัน
ฉินสือโอวรู้ว่าความสามารถในการรับรู้ถึงพายุของแมงกะพรุนฉลาดกว่าอุปกรณ์ของพวกมนุษย์ในปัจจุบัน ชีวิตก็มหัศจรรย์เช่นนี้ สัญชาตญาณของสัตว์เป็นสิ่งที่เครื่องจักรชนิดไหนก็เทียบไม่ได้
บนดาดฟ้าเรือ ลูกเรือหลายคนกำลังยึดกรงตาข่ายจับกุ้งอยู่ นี่เป็นงานชิ้นใหญ่ พวกเขาทำมาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังทำไม่เสร็จ พากันมัดเชือกไปด้วยแล้วบ่นให้แลนซ์ฟังไปด้วย
แลนซ์ก้มหน้าสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง ใจของเขาก็สับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าการออกทะเลครั้งนี้จะกลายเป็นแค่เรื่องตลกหรือเปล่า
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีคนร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ หลังจากนั้นก็หยุดการมัดเชือกไว้
แลนซ์เงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่คนคนนั้นด้วยความโมโห “ชาลเมอร์ส ไอ้ลูกหมาเอ๊ย…”
“ดูสิ!” ชาลเมอร์สชี้ไปที่อุปกรณ์พยากรณ์พายุบนหัวเรือด้วยใบหน้าซีดเซียว
อุปกรณ์พยากรณ์พายุที่เพิ่งจะหมุนติ้วๆ อยู่เมื่อสักครู่ ไม่รู้ว่าแอบหยุดหมุนไปตั้งแต่ตอนไหน ตำแหน่งของแตรชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่นั่นเป็นทิศทางของหางเรือในตอนนี้ ก่อนหน้านี้เป็นทิศทางของหัวเรือ
“โอ้ พระเจ้า!” แลนซ์ร้องครวญครางออกมา เขาอ้าปากกว้างเพราะความตกใจ ซิการ์ที่คาบไว้ก็ ‘ตุ้บ’ ตกลงไปบนดาดฟ้าเรือ
เรือฮาวิซทเดินเรือด้วยความรวดเร็ว ขับฝ่าคลื่นลมไปบนน้ำทะเลที่สั่นโคลงเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังเกรี้ยวโกรธ ฉินสือโอวยืนอยู่บนหัวเรือขมวดคิ้วมองไปข้างหน้า
ฟ้ายามวิกาลมืดสนิท ไม่มีแสงดาวที่สาดส่องลงมาเลยแม้แต่น้อย ฉินสือโอวอยากเห็นประภาคารบนท่าเรือที่อยู่ด้านหน้า แต่น่าเสียดายที่มองไม่เห็น นี่แปลว่าพวกเขายังอยู่ไกลจากท่าเรือมาก
“พายุยังอยู่ไกลแค่ไหนนะ?” ฉินสือโอวพูดพึมพำกับตัวเอง
เสียงพูดของเขาเพิ่งจะสิ้นสุดลง ทุกๆ คนก็พากันวิ่งเข้ามาพร้อมกับส่งเสียงดังโวยวาย เขานึกว่าคนพวกนี้ทนไม่ไหวแล้วเลยจะมาหาเรื่อง จึงชิงแสดงอำนาจด้วยการตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ใครมัน…”
“บอส เครื่องพยากรณ์พายุหยุดหมุนแล้ว!” แลนซ์ร้องตะโกน
ทันใดนั้นเรือฮาวิซทก็เพิ่มความเร็วขึ้นอีก มันถูกคลื่นทะเลซัดจนเรือโคลงเคลง ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ก็ถึงกับซวนเซ
ชาร์คยื่นหัวออกมาจากห้องขับเรือ พร้อมทั้งตะโกนว่า “ศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเลเพิ่งจะประกาศแจ้งเตือนพายุลูกใหญ่ผ่านเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม! ให้ตายเถอะ กระแสลมหนาวจากขั้วโลกเหนืออยู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางตอนที่พัดผ่านอ่าวฮัดสัน ทิศทางที่มุ่งหน้ามาก็คือมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ! ตอนนี้พัดผ่านควิเบกมาแล้ว การแจ้งเตือนระดับสีแดง พายุลูกใหญ่ระดับห้า!”
ทุกๆ คนต่างก็งงเป็นไก่ตาแตก การแจ้งเตือนระดับสีแดง พายุลูกใหญ่ระดับห้า ถ้าอยู่บนบกก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าอยู่ในมหาสมุทร นั่นจะเป็นเหมือนพายุระดับเก้าถึงสิบ คลื่นทะเลม้วนกลับ สามารถลอยขึ้นสูงได้หกถึงแปดเมตร!
สำหรับเรือประมงลำเล็กขนาดสองร้อยตันลำนี้ กับพายุระดับนี้แล้ว เพียงแค่คลื่นลูกใหญ่โถมเข้ามากระทบ นั่นก็จะเกิดเป็นโศกนาฏกรรมเรือพลิกคว่ำจนผู้คนเสียชีวิต!
เห็นท่าทางที่กำลังตกอยู่ในความหวาดกลัวของทุกๆ คน ฉินสือโอวกลับเป็นคนที่ใจเย็นที่สุด เขาโบกมือปัดแล้วตวาดเสียงดังว่า “ยืนงงกันอยู่ทำซากอะไรล่ะ?! เร็ว! ไปมัดของที่เคลื่อนที่ได้เอาไว้ให้หมด ที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการเอง!”
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset