ตอนสุดท้ายที่คุยกันในสาย วินนี่ถามฉินสือโอวอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่าเขาจะเดินทางกลับเลยไหม การออกทะเลครั้งนี้ไม่ราบรื่นเลยจริงๆ ยังไม่ทันถึงอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ก็เจอภัยพิบัติทางธรรมชาติก่อนซะอย่างนั้น สำหรับคนในครอบครัวอย่างวินนี่แล้ว เรื่องนี้มันน่ากลัวเกินไปจริงๆ
ถ้าหากว่าฉินสือโอวมาคนเดียว แล้วเขาอยากจะกลับเลยก็คงไม่เป็นอะไร ต้องเจอกับพายุที่น่ากลัวขนาดนี้ ถ้าบอกว่าไม่กลัวเลยก็คงจะเป็นเรื่องโกหกอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีชาวประมงอีกสิบคนที่ออกทะเลมาพร้อมกับเขา และตอนนี้พวกชาวประมงก็ไว้ใจเขาอย่างถึงที่สุด จึงคาดหวังที่จะได้ออกทะเลไปหาเงินพร้อมกับเขา แล้วจะให้เขาจะทิ้งคนพวกนี้อย่างเห็นแก่ตัวได้ยังไงกัน?
เออร์บักสนับสนุนสิ่งที่ฉินสือโอวเลือก ทนายอาวุโสพูดอย่างนิ่งเรียบว่า “ฉิน นายเลือกได้ถูกต้องแล้ว ลูกผู้ชายก็ต้องพบกับการทดสอบจากลมฝนและพายุ ถ้าหากยอมถอยหลังเมื่อพบกับความอันตราย นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ลูกผู้ชายพึ่งกระทำ! แต่ก็เอาทำเท่าที่พอจะทำไหว ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!”
หลังจากโทรศัพท์ไปหาคนที่บ้านแล้ว ฉินสือโอวก็พานิมิตส์ไปสำรวจห้องแต่ละห้อง หลังจากออกมานอกประตูก็พบกับรปภ.สองคนที่กำลังเข้ากะอยู่ พวกเขาทั้งสองคนค้อมหัวให้เขาด้วยความรู้สึกนับถือ รปภ.วัยรุ่นคนหนึ่งลองหยั่งเชิงถามเขาว่า “กัปตัน ผมขอถ่ายรูปกับนกสวรรค์ของคุณหน่อยได้ไหมครับ?”
ฉินสือโอวพูดกับเขาเล่นๆ ว่า “เรื่องนี้คงต้องถามความคิดเห็นจากมันแล้วล่ะ พวกคุณก็รู้นี่ ตอนนี้เจ้านี่ถูกเรียกว่าผู้ชี้นำของพระเจ้าไปแล้ว”
พอเอานิมิตส์ขึ้นไปเกาะอยู่บนไหล่ของรปภ.เรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ช่วยเขาถ่ายรูปให้เขาด้วย สีหน้าของรปภ. คนนั้นไม่ค่อยดีเท่าไรนัก นั่นก็เพราะนิมิตส์เป็นนกตัวโตขนาดความยาวกว่าหนึ่งเมตร น้ำหนักตัวของมันจึงหนักมาก!
หลังจากถ่ายรูปไปแล้วหลายรูป ฉินสือโอวก็ไปที่ห้องพักของชาร์ค บรรดาชาวประมงกำลังนั่งล้อมวงเล่นไพ่ ดูแล้วน่าจะกำลังอารมณ์ดีกันมากๆ
เมื่อฉินสือโอวปรากฏตัวขึ้น ทุกๆ คนก็ลุกขึ้นยืนทันที อีกทั้งบูลก็ยังหาเก้าอี้มาให้เขานั่งอย่างเคารพนอบน้อม บนใบหน้าของเขาไม่เหลือซึ่งสีหน้าของดื้อรั้นอีกต่อไป
“เป็นอะไรกัน?” ฉินสือโอวยิ้มถาม “ทุกคนนั่งลงสิ”
แลนซ์หันไปมองพวกชาวประมง แล้วพูดขึ้นมาว่า “กัปตัน ผมขอเป็นตัวแทนของพวกเราทุกๆ คนเพื่อขอโทษที่ก่อนหน้านี้พวกเราสงสัยในตัวคุณ! พวกเรามันโง่ ที่กังขาในความสามารถของคุณที่เป็นหลานของมิสเตอร์ฉิน! พวกเราต้องยอมรับว่า วิชาห้าธาตุพิชิตมังกรของคุณ เป็นศาสตร์วิชาที่น่าเหลือเชื่อที่สุดของโลกนี้!”
ฉินสือโอวโบกมือปัดอย่างถ่อมตัว แล้วพูดกับพวกเขาว่า “เรื่องนี้มีแค่พวกเราที่รู้ก็พอแล้ว อย่าไปบอกคนอื่นอีก เข้าใจไหม? มันจะทำให้ตระกูลของฉันต้องพบกับความวุ่นวายโดยที่ไม่จำเป็น!”
บูลก็พูดอย่างฮึกเหิมว่า “คุณสบายใจได้เลย กัปตัน เรื่องนี้จะเป็นความลับของพวกเรา ถ้าใครเอาไปบอกคนนอก ผมจะเอาปืนยาวไปยิงหัวมันให้กระจุย!”
หลังจากนั้นทุกๆ คนก็นั่งลงคุยกัน ทอดถอนใจกับความน่ากลัวของค่ำคืนวานนี้กับความไม่น่าเชื่อถือของศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล ต่อจากนั้นแลนซ์ก็ถามฉินสือโอวด้วยความกระวนกระวายใจว่าเขาจะทำยังไงต่อไป
ฉินสือโอวโบกมือปัด แล้วตอบกลับไปว่า “หลังจากเกิดพายุจะเป็นช่วงเวลาที่จับปลาได้ง่ายที่สุด นายยังจะต้องถามเรื่องนี้อีกเหรอ? หลังจากที่ทุกคนพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วพวกเราจะถอนสมอแล้วออกเรือทันที เราจะไปหาเงินที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์กัน!”
บรรดาชาวประมงก็ลุกยืนขึ้นด้วยความกระปรี้กระเปร่าทันที พวกเขาเปล่งเสียงออกมาพร้อมๆ กันว่า “กัปตัน ตอนนี้พวกเราสบายดีมากๆ!”
พวกเขากลัวว่าสภาพอากาศของคืนวานนี้จะทำให้ฉินสือโอวรู้สึกกลัว จนไม่กล้าเข้าไปจับสัตว์ทะเลในอ่าวต่อ
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็พักผ่อนอีกสักหน่อยแล้วกัน หลังอาหารเที่ยงพวกเราจะตรงไปที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์เลยทันที”
ท่าเรือบาสก์ตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ถ้าออกเดินทางจากที่นี่ใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะเข้าสู่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์แล้ว
ในตอนเช้า ฉินสือโอวออกไปหาอะไรทานนอกโรงแรม แต่ปรากฏว่าพอเขาเดินพ้นจากหน้าประตูก็ถูกนักข่าวที่กำลังแบกกล้องกับถือไมค์ล้อมเอาไว้ทันที
คนพวกนี้เหมือนกันกับโจรไม่มีผิด แค่แป๊บเดียวก็เข้ามาล้อมเขาเอาไว้รอบด้าน ฉินสือโอวนึกว่าคนพวกนี้จะมาปล้นเขา จิตใต้สำนึกจึงสั่งให้เขาหนี อีกทั้งนิมิตส์นกทรยศก็กระพือปีกร้องกาๆ บินขึ้นไปบนฟ้าแล้ว
พอรู้ว่าคนพวกนี้เป็นนักข่าว ฉินสือโอวก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาจึงเอาแต่โบกมือปัดและบอกไปว่าตัวเองไม่มีอะไรให้น่าสัมภาษณ์
แต่พวกนักข่าวก็ไม่ยอมปล่อยเขาไป ใช้กล้องบันทึกวิดีโอถ่ายภาพเขาไว้อย่างบ้าคลั่ง ฉินสือโอวได้แต่อึ้งจนวางไม้วางมือไม่ถูก จึงต้องออกแรงชนนักข่าวที่อยู่ด้านหลังเพื่อวิ่งกลับเข้าไปในโรงแรม
หลังจากนั้น บรรดาสื่อมวลชนก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในโรงแรมเพื่อทำการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากเรือแนสแกสกับพวกชาวประมง ชาวประมงทุกคนถูกบรรยายให้มีภาพลักษณ์ดั่งวีรบุรุษ บนเรือแนสแกสมีคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้บางส่วน และรูปพวกนั้นก็ถูกปล่อยลงเว็บไซต์ของสำนักข่าวไปตั้งแต่แรกแล้ว
นี่มันเกินความคาดหมายของฉินสือโอว พวกเขาโด่งดังถึงขนาดนี้แล้ว!
บูลเป็นคนที่ออกหน้าที่สุดในบรรดาชาวประมงด้วยกัน นั่นเป็นเพราะว่าเขากับอีวิลสันเป็นคนที่เหยียบอยู่บนบันไดเพื่อช่วยจับเรือยางกู้ชีพเอาไว้ มีรูปภาพที่ถูกถ่ายไว้ขณะที่เขากำลังจับแขนผู้ประสบภัยคนหนึ่งไว้ท่ามกลางละอองคลื่นที่กำลังซัดสาด ทำให้ผู้คนรู้สึกซาบซึ้งมาก
เที่ยงวัน ฉินสือโอวก็เตรียมตัวพาชาวประมงออกจากท่า แต่บูลกลับอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไป แลนซ์จึงทุบเขาหนึ่งหมัด พร้อมกับตวาดใส่เขา “นายจะอยู่ถ่ายรูปที่นี่ทำซากอะไร? นักข่าวพวกนั้นให้เงินนายหรือยังไง? ทำงานหาเงินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญกว่าหรอกเหรอ!”
“ใช่ๆๆ ต้องไปหาเงิน ต้องไปทำงานหาเงิน!” บูลพูดพร้อมกับส่งยิ้มแหย
เมื่อคืนวานพวกเขาเข้ามาถึงท่าเรือพร้อมกับความวุ่นวาย ฉินสือโอวจึงไม่ทันได้ดูอย่างชัดๆ แต่ดูเหมือนว่า ท่าเรือแห่งนี้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
มีท่าเทียบเรือจุดหนึ่งที่ถูกเรือชนจนพังลงมา ในตอนนั้นเรือลำนี้ไม่ได้ถูกยึดไว้ให้ดี จึงถูกคลื่นในทะเลพัดขึ้นมาจนกระทบเข้ากับท่าเทียบเรือ เรือเล็กใหญ่หลายลำลอยปนเปอยู่ด้วยกัน ทั้งมีเรือที่ถูกพัดจนพลิกคว่ำอีกด้วย หลังคาของอาคารเล็กๆ หลังหนึ่งก็หายไป เหลือไว้เพียงผนังทั้งสี่ด้านที่ได้รับความเสียหาย…
ฉินสือโอวลองตรวจดูเรือฮาวิซท เพราะความโชคดีและความขยันของลูกเรือ จึงไม่เกิดความเสียหายขึ้นอะไรขึ้นกับเขา เรือก็ไม่เกิดความเสียหาย นอกจากในตอนเริ่มต้นแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ชนเข้ากับคลื่นทะเลตรงๆ อีก
หลายคนกำลังยุ่งอยู่กับการซ่อมแซมเรือที่ได้รับความเสียหาย พอเห็นฉินสือโอวกับกลุ่มชาวประมง พวกเขาก็เข้ามาทักทายด้วยตัวเอง เข้ามาชนหมัดกับพวกเขาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งยังเรียกพวกเขาว่า ‘ฮีโร่’
ในตอนสุดท้ายขณะที่พวกเขากำลังเดินเรือเพื่อออกจากท่า ผู้รับผิดชอบดูแลท่าเรือก็รีบตามเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงไปจนถึงคอ พอเห็นว่าเรือของพวกเขาออกไปไกลแล้วก็ทำได้เพียงแค่กระทืบเท้า แล้วตะโกนออกมาว่า “รีบใช้วิทยุสื่อสารติดต่อพวกเขา ยังมีงานแถลงข่าวที่พวกเขาต้องเข้าร่วมอีก!”
ทว่าฉินสือโอวกลับไม่ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าว เขาไม่ได้ช่วยคนอื่นเพราะอยากมีชื่อเสียง หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ เขาไม่อยากดังเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังช่วงบ่ายทางเข้าช่องแคบคาบ็อตเงียบสงบมาก ลมพัดเอื่อยไม่เบาหรือแรงจนเกินไป พัดคลื่นทะเลหมุนวนติดกันเป็นระลอกๆ อย่างไม่ขาดสาย แสงแดดอบอุ่นก็ส่องกระทบลงบนนั้น เมื่อมองจากที่ไกลๆ ก็ส่องประกายแสงสีทองระยิบระยับ จนดูเหมือนกับเกล็ดสีทองของมังกรทะเล
เรือฮาวิซทขับมาครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็พบกับเรือสองลำที่กำลังจอดอยู่กลางทะเลเพื่อกู้ซากเรือที่อยู่ใต้น้ำ ฉินสือโอวกับชาวประมงคนอื่นๆ ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ท้ายเรือ จ้องมองไปยังบริเวณผืนน้ำที่อยู่ระหว่างเรือทั้งสองลำ หลังจากนั้นก็ถอดหมวกออกเพื่อแสดงความเคารพ
สิ่งที่เรือกู้ซากกำลังงมขึ้นมา ก็คือเรือแนสแกส กัปตันและต้นหนของเรือลำนี้ เป็นบุคคลที่ฉินสือโอวเคารพนับถือจากก้นบึ้งของหัวใจ
เมื่อรู้ว่าพวกเขาคือเรือฮาวิซทลำนั้น ผู้คนที่กำลังกู้ซากเรือก็แสดงความเคารพต่อพวกเขา เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อคืนวานนี้ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ก็ได้แสดงสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกซาบซึ้งใจเช่นกัน
บ่ายสี่โมงเย็น เรือฮาวิซทก็เข้ามาถึงพื้นที่ด้านในของอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์แล้ว เหล่าชาวประมงจึงพากันเริ่มงาน เตรียมกรงตาข่ายจับกุ้ง เชือกสำหรับทอดสมอ ทุ่นลูกบอลลอยน้ำกับเสาแสดงสัญญาณเตือนและอุปกรณ์ต่างๆ
ฉินสือโอวเป็นกัปตัน เขาไม่ต้องทำงานจิปาถะพวกนี้ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือเปรียบเทียบแผนที่ทางทะเลและสังเกตพื้นผิวทะเล เพื่อกำหนดตำแหน่งที่จะหย่อนกรงตาข่ายจับกุ้ง
ตอนนี้ทุกคนบนเรือล้วนแต่เคารพและเชื่อมั่นในตัวเขา พวกเขาเลื่อมใสศรัทธาพลานุภาพของห้าธาตุพิชิตมังกรอย่างถึงที่สุด
ในสายตาของสังคมภายนอกเป็นเรือฮาวิซทที่ติดตามนิมิตส์เข้าเทียบท่า แต่พวกเขารู้ว่า นิมิตส์เพียงแค่ช่วยนำทางพวกเขาเท่านั้น สิ่งที่ช่วยให้พวกเขาหลบหลีกคลื่นลมได้ก็คือห้าธาตุพิชิตมังกร
………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 428 รีบจับกุ้งมังกร
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!