ฉินสือโอวยกยิ้มจิบกาแฟ ตอนนี้หน้าเรือฮาวิทซปรากฏหินโสโครกที่รวมกันกลายเป็นเกาะขนาดเล็กแห่งหนึ่ง บนเกาะมีประภาคารสีขาวที่สาดแสงไปบนท้องฟ้า ดูทรงพลัง
“ประภาคารนี่ไม่เลวเลย” จู่ๆ ฉินสือโอวก็นึกขึ้นได้ “ฉันว่าเกาะแฟร์เวลเราก็น่าจะมีประภาคารด้วยนะ ใช่ไหม? จะได้มาสร้างที่ฟาร์มปลาเราได้”
เกาะแฟร์เวลเคยมีประภาคารหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญของนิวฟันด์แลนด์ น่าเสียดายพอฟาร์มปลาเริ่มทรุดโทรม ประภาคารเลยไม่ได้ใช้งานตอนนี้จึงโดนปิดตัวลง
ทีแรกฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจประภาคารนัก เขารู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ของแบบนี้คงไม่ได้ใช้บ่อยแล้ว ทั้งเรือประมง เรือยอชต์ล้วนมีอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์นำทาง บนหัวก็มีดาวเทียม และใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการยืนยันตำแหน่งได้แม่นยำกว่าอีก
ทว่าหลังผ่านพายุคราเคน18มา ความคิดเขาก็เปลี่ยนไป สิ่งปลูกสร้างที่อยู่มายาวนาน เขาไม่มีทางลืมความรู้สึกในคืนนั้นตอนที่เห็นแสงจากประภาคารท่าเรือบาสก์ได้
ไม่นานมานี้เขาคิดว่า ถ้าตัวเองขับเรือออกทะเลไปแล้วกลับมาเจอแสงประภาคารของที่บ้านตัวเองจากไกลๆ น่าจะรู้สึกดีไม่น้อย? มีแสงประภาคารคอยส่องทางกลับบ้าน
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉินสือโอวเริ่มสนใจการสร้างประภาคารแล้ว
ชาร์คและพวกแลนซ์ล้วนเป็นชาวประมงเก่า พวกเขาจึงมีความรู้สึกเกี่ยวกับประภาคารแตกต่างกันไป ฉินสือโอวนำคำแนะนำเหล่านั้นมาหาข้อสรุปที่ลงตัว
เรือฮาวิซทขับเข้าไปใกล้เกาะประภาคารหินโสโครก และฉินสือโอวก็ค้นพบสิ่งใหม่อีกอย่าง มีแมวน้ำตุ้ยนุ้ยฝูงใหญ่อยู่รอบๆ หินโสโครก
เจ้าพวกตัวใหญ่มีขนาดราวหนึ่งเมตรครึ่ง ส่วนตัวเล็กแค่สิบกว่าเซนติเมตร ผิวสีเหลืองน้ำตาล กลมตั้งแต่หัวจรดท้าย มีขนสั้นๆ ขึ้นทั่วหลัง มีจุดใหญ่เล็กกระจายอยู่บนผิว มันคือแมวน้ำลายจุดที่พบเห็นได้ทั่วไปในอเมริกาเหนือนั่นเอง
เพราะไม่มีใครมาจับพวกมัน ศัตรูตามธรรมชาติอย่างฉลามหัวบาตร วาฬเพชฌฆาตก็เข้ามาใกล้หินโสโครกไม่ได้ ชีวิตพวกมันเลยไม่ต้องกังวลอะไรนักทำให้แต่ละตัวอ้วนตุ้ยนุ้ยเช่นนี้
ตอนเรือฮาวิซทเข้าไปใกล้แมวน้ำทะเลไม่มีท่าทีหวาดกลัว ส่วนใหญ่ยังคงนอนกระจัดกระจายอาบแดดอย่างเกียจคร้านกัน มีบางตัวเล่นน้ำราวกับมันไม่เห็นเรือประมงที่เข้ามาใกล้
ตอนนั้นเองสามีภรรยาชราคู่หนึ่งดันรถเข็นล้อเดียวเดินออกมาจากประภาคาร ชายแก่ผิวปากส่งเสียง ‘วู้ดวู้ด’ ทันทีที่ได้ยินเสียง เหล่าแมวน้ำจอมขี้เกียจก็รีบลุกขึ้นด้วยความกระตือรือร้น กระดึ๊บคลานไปหาชายชราอย่างรวดเร็ว
ชายแก่ยิ้มลูบหัวเหล่าแมวน้ำ เจ้าพวกนี้เปลี่ยนไปทำตัวว่านอนสอนง่าย เอาหัวถูไถสองสามีภรรยาแบบหมาน่ารัก
จากนั้นชายชราก็เริ่มหยิบปลาซาบะจากรถเข็นป้อนพวกมัน พอเห็นปลาซาบะเจ้าพวกเห็นแก่กินก็รีบรุมเบียดแย่งกันอย่างดุเดือด
“เป็นชีวิตที่ดีจังนะ”ฉินสือโอวมองรอยยิ้มของชายชราแล้วถอนหายใจ
บูลเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “เนี่ยนะชีวิตที่ดี? ไม่เลย กัปตัน ชีวิตแบบนี้มันจืดชืดเกินไป! ผมกล้าพนันเลยว่าคนแก่พวกนี้ไม่มีอะไรทำแล้วมาเลี้ยงแมวน้ำกันเท่านั้นแหละ”
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ผมเคยเฝ้าประภาคารมาก่อน พระเจ้า นั่นไม่ใช่วิถีชีวิตของลูกผู้ชายสักนิด นอกจากดูโทรทัศน์ ฟังเพลง คุณก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำฆ่าเวลาแล้ว แทบทำคนเป็นบ้าได้ง่ายๆ เลย!”ชาวประมงคนหนึ่งเห็นด้วยกับบูล
แลนซ์เหยียดยิ้มเอ่ยว่า “งั้นคงต้องหาสาวสวยมาให้นายจัดการสักคนแล้วมั้ง? ถ้ามีสาวๆ นายจะได้ไม่เบื่อไง”
ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะ แล้วแต่ละคนก็เริ่มพ่นมุกหยาบโลนใส่กัน
พวกชาวประมงเป็นคนหยาบกระด้างทั้งนั้น ชีวิตอันน่าเบื่อในทะเล ทำให้มุกหยาบโลนกลายเป็นกิจกรรมหลักในการฆ่าเวลา
ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองยังรู้จักคนกลุ่มนี้ไม่พอ เขาเข้าใจมาตลอดว่าแลนซ์เป็นคนซื่อๆ พอออกทะเลมาถึงรู้ว่าหมอนี่ก็มีสันดานชาวประมงโดยแท้
แน่นอนว่า ‘สันดาน’ นี้ไม่ได้หมายถึง ‘ลอยชาย’ ‘เสเพล’ ‘หยาบคาย’ แต่คล้ายกับ ‘จิ๊กโก๋’ ‘อันธพาล’ มากกว่า เป็นผู้มีประสบการณ์ รู้ไปทุกอย่างพึ่งพาได้
เช่นตอนพูดมุกหยาบโลน ไม่มีใครกล้าเล่นกับแลนซ์เลย เวลาเขาพ่นควันวงแหวนออกมาก็มักจะเป็นรูปทรงใหม่ ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์มาบันทึกไว้ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เลยอดแชร์
บูลนั่งเงียบถือนิตยสารอ่านอย่างใจจดใจจ่อ ฉินสือโอวถามว่าเขาอ่านอะไร บูลจึงยกนิตยสารให้เขาดู เป็นนิตยสารแนะนำรถแลนด์โรเวอร์
“นายอยากซื้อรถเหรอ?”ฉินสือโอวถาม ไม่รู้จะคุยอะไร
บูลยิ้มร่า ตอบว่า “ใช่ครับ ผมอยากได้แลนด์โรเวอร์ออโรร่ามานานแล้ว แต่ยังไม่มีเงิน ออกทะเลมาครั้งนี้ผมคำนวณว่าจะให้ได้สักห้าหกแสน แล้วค่อยกู้เงินมาซื้อคันหนึ่ง”
แลนด์โรเวอร์ออโรร่าในแคนาดาราคาถูกมาก แค่ประมาณเจ็ดแสนก็ซื้อตัวรถได้ บวกค่าบริการ ภาษีกับประกันเป็นแปดแสนแล้วขับกลับบ้านสบายๆ
แลนซ์เข้ามาตบบ่าเขา เอ่ยว่า “ไม่ต้องไปกู้เงินจากธนาคารทุนนิยมหน้าเลือดนั่นหรอก มายืมฉันก็ได้ ฉันว่าจะกลับไปจัดห้องอยู่ น่าจะมีเงินเหลือนิดหน่อย”
ฉินสือโอวส่ายหน้าจนใจ “ดูท่าพวกนายจะเก็บเงินไม่เก่งกันเท่าไรสินะ อย่าบอกนะว่าหลายปีมานี้พวกนายไม่ได้เก็บเงินเลย?”
บูลจนใจยิ่งกว่า เขาพูดอย่างกล้ำกลืน “ไม่ครับกัปตัน แต่เรื่องนี้คุณมาว่าเราไม่ได้หรอก ถ้าเกิดเราอยู่กับบอสที่เก่งอย่างคุณล่ะก็ คงเก็บเงินได้อยู่แล้ว ดูสิ ออกทะเลรอบเดียวผมก็ได้มาตั้งหนึ่งแสนห้า แต่ตลอดปีที่ผ่านมา เห็นแก่พระเจ้า นี่ผมไม่ได้โกหกเลยนะ ผมทำงานให้ไอ้เรือคว้าดาวตลอดช่วงฤดูจับปลายังได้แค่หนึ่งแสนหกพันเอง!”
แลนซ์ถอนหายใจ “ไม่ต่างกัน ฉันยังต้องเดินทางไกลถึงมหาสมุทรอินเดียเลย แต่นอกจากงานนั้นตอนทำงานอื่นก็ได้เงินมาแค่ประมาณสองแสน”
ฉินสือโอวพูดด้วยความตกใจ “เงินเดือนชาวประมงน้อยขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ก็ขึ้นอยู่กับราคาปลาที่จับมาได้ ช่วงนี้จับแต่ปลาทั่วไปไม่ได้เลย ขนาดตัวกัปตันยังได้เงินไม่เท่าไร”ชาวประมงคนหนึ่งเอ่ย “พวกเราก็เลยอิจฉาชาร์ค เพราะได้ยินว่าเดือนหนึ่งเขาได้ตั้งเจ็ดแปดพัน?”
ชาร์คยิ้มกว้างตอบว่า “บอสเป็นเถ้าแก่ที่ตรงไปตรงมา ฉันเลยชอบทำงานกับเขา”
เขาไม่ได้พูดรายละเอียดมาก แต่ถือเป็นคำตอบว่าถ้าตามทำงานกับฉินสือโอวทุกคนก็จะได้เงินก้อนใหญ่
ขณะพวกชาวประมงกำลังปรึกษากัน ฉินสือโอวมองไปยังท้ายเรือก็เห็นเบ็ดตกปลาคันหนึ่งกำลังโดนดึงอยู่ จึงพูดว่า “เฮ้ ปลากินเบ็ดแล้ว”
ชาร์คหันไปมองตามเสียงเครื่องโซนาร์หาปลา ดวงตาเบิกกว้าง “เจ้านี่ตัวไม่น้อยเลย เร็ว ทุกคน มันน่าจะเป็นปลาทะเลตัวแบน”
ปลาทะเลตัวแบนเป็นชื่อทั่วไปที่ชาวประมงในนิวฟันด์แลนด์เรียก ชื่อแบบทางการต้องเป็นปลาแฮลิบัตแอตแลนติก ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์คือปลาซีกเดียว แฮลิบัตเป็นปลาขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง
ปลาชนิดนี้คือปลาทะเลหน้าดิน กระจายอยู่ตามทะเลแอตแลนติกเหนือในแลบราดอร์และกรีนแลนด์ไปจนถึงไอซ์แลนด์ สามารถตัวยาวได้ถึงสองเมตรครึ่ง
ตอนตกปลาได้ฉินสือโอวไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย เพราะเขาใช้เหยื่อล่อที่เอามาจากฟาร์มปลา ซึ่งบรรจุพลังโพไซดอนไว้ ทำให้ดึงดูดปลาใหญ่ในทะเลได้เป็นอย่างดี เขาเอาใส่ถังน้ำแข็งมาด้วยเพราะตั้งใจจะตกปลาใหญ่โดยเฉพาะ
เมื่อมาถึงดาดฟ้าเรือก็รีบเข้าไปคว้าคันเบ็ดไว้ ฉินสือโอวส่งจิตสำนึกโพไซดอนลงไปในน้ำ แล้วก็ต้องตะลึง มันไม่ใช่ปลาแฮลิบัต
………………………………………………………..
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 438 รายได้ของชาวประมง
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!