เมื่อแบ่งผลไม้เสร็จแล้ว วินนี่ต้มซี่โครงหมูอย่างง่าย แล้วผสมในอาหารสุนัขให้หู่จือและเป้าจือกิน เด็กๆ กระดิกหางทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
ฉงต้าหันไปมอง มันเห็นซี่โครงหมูในชามข้าว ก็รีบยื่นอุ้งเท้าออกมาผลักหู่จือเป้าจือออก แล้วเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม
เมื่อหู่จือและเป้าจือถูกผลักออก พวกมันส่งเสียงร้องอย่างโกรธเกรี้ยว กระโดดขึ้นไปจับหัวของฉงต้าแล้วใช้ปากดึงหูของมัน
ฉงต้าสะบัดหัวไปมา สลัดหู่จือและเป้าจือออกอย่างง่ายดาย แล้วหมอบลงไปกินซี่โครงหมูในชามข้าวต่อ
หู่จือและเป้าจือไม่กล้ากัดฉงต้าอย่างเต็มแรง พวกเขามองวินนี่และส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร และฟ้องวินนี่โดยการเอาหัวไปถูที่น่องของวินนี่
วินนี่ใช้แรงค่อนข้างมากในการผลักฉงต้าออก และแย่งชามข้าวมาวางไว้ตรงหน้าหู่จือและเป้าจือ ขณะที่เธอกำลังจะโมโห ฉงต้าก็วิ่งไปที่ชามข้าวของตนเอง และกินที่อยู่ของในชามต่อ
“ดูสิ ฉงต้าอ้วนเพราะอย่างนี้เอง” วินนี่พูดอย่างจนปัญญา “ตอนนี้มันเริ่มเรียนรู้ที่จะรังแกคนอื่นแล้ว คุณต้องสั่งสอนมันสักหน่อยแล้วล่ะ”
ฉินสือโอวตบก้นของฉงต้า และพูดว่า “ดูซิตอนนี้แกอ้วนขนาดไหนแล้ว? ขี้เหร่ไม่พอแถมยังอ้วนอีก ในอนาคตข้างหน้ายังอยาก…”
ฉงต้าหันกลับมากอดฉินสือโอว มันพยายามยืดคอเพื่อเลียเขา ในปากส่งเสียงร้องเล็กๆ ราวกับว่ากำลังเสียใจที่ถูกตำหนิ
บุชรอมาครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่ได้กินปลา จึงแสดงความไม่พอใจในทันที มันวิ่งอย่างรวดเร็วสองก้าวและกระพือปีก แล้วกระโดดขึ้นไปในโต๊ะอาหาร จากนั้นส่งเสียงร้องโวยวาย “กากา กากา”
วินนี่รีบไปแปรงขนให้มัน และพูดปลอบใจว่า “โอเค โอเค รู้แล้วว่าถึงตาแกแล้ว ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม? จะรีบแล่ปลาของแกตอนนี้แหละ!”
วินนี่เปิดตู้เย็นดูแล้วพูดว่า “เฮ้ ที่รัก ในบ้านไม่มีเนื้อแล้ว ซี่โครงหมูชิ้นสุดท้ายฉันให้หู่จือและเป้าจือแล้ว”
ฉินสือโอวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แย่แล้ว ผมลืมไปเลย เนื้อกวางและเนื้อหมูป่าก่อนหน้านี้ถูกนำไปใช้ในงานฉลองเมืองแล้ว”
อินทรีหัวขาวกินปลาและเนื้อเป็นอาหาร วินนี่ใช้อัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งกับบุชมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่มีเนื้อแล้ว เธอจึงต้องให้มันกินปลาคาพีลินสี่ตัว
ตั้งแต่มีความฝัน บุชก็เริ่มรู้จักการยับยั้งชั่งใจ เมื่อมันกินปลาคาพีลินไปสองตัวก็หยุดกิน แล้วเงยหน้ามองวินนี่อย่างมีความหวังพร้อมส่งเสียงร้อง ‘กากา’
วินนี่มองมันอย่างหมดหนทาง เธอทำท่าจนปัญญาแล้วพูดว่า “เนื้อหมดชั่วคราว ที่รัก กินปลาอีกสองตัวดีไหม?”
บุชกะพริบตา และยังคงส่งเสียงร้อง ‘กากา’ วินนี่ยังคงทำท่าจนปัญญา เมื่อทำซ้ำๆ บุชก็เข้าใจแล้ว มันร่อนปีกไปที่ตู้เย็น วินนี่เปิดตู้เย็น มันก็กระโดดขึ้นมอง
เมื่อลงสู่พื้น บุชโกรธเล็กน้อย มันส่งเสียงร้อง ‘กากา’ วินนี่ส่งปลาคาพีลินให้มัน เจ้าตัวเล็กอารมณ์เสีย มันใช้ปีกของมันปัดปลาที่อยู่ในมือวินนี่ตก จากนั้นวิ่งไปจับปลาคาพีลินแล้วส่งเสียงคำรามต่อ
ฉินสือโอวเห็นแล้วรู้สึกโกรธมาก เจ้านี่เกินไปแล้วล่ะ แต่เขาไม่จำเป็นต้องลงโทษมันด้วยตัวเอง เขาหันไปทางหน้าต่างแล้วผิวปากหนึ่งที นิมิตส์ที่อยู่บนต้นไม้บินเข้ามาในทันที
ไม่ต้องรอดูสถานการณ์ นิมิตส์รู้จุดประสงค์ที่ฉินสือโอวเรียกมันขณะรับประทานอาหาร มันกางปีกอย่างแข็งแกร่งออก แล้วตบเข้าไปที่หัวของบุช
บุชเงียบในทันที มันก้มหน้าไปคาบปลาคาพีลินที่อยู่ใต้อุ้งเท้าอย่างไร้ชีวิตชีวา แล้วกลืนลงคอไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
มันต้องอย่างนี้สิ ฉินสือโอวนึกถึงท่าทางการบินร่อนของบุชก่อนหน้านี้ เขาล้างมันฝรั่งไปพูดไปว่า “เราควรปล่อยบุชบินอีกครั้ง ผมคิดว่าครั้งนี้น่าจะได้”
“ในรถเหมือนเดิมไหม?” วินนี่ถาม
ฉินสือโอวส่ายหน้า “ไม่ ครั้งนี้ให้มันบินโดยตรง พรุ่งนี้จะโยนมันลงมาจากเฮลิคอปเตอร์”
“พระเจ้า ถ้ามันยังบินไม่ได้ล่ะ?” วินนี่ถามอย่างกังวล “เราจะเข้มงวดกับเด็กอย่างนี้ไม่ได้”
ฉินสือโอวอธิบายว่า “ไม่เป็นไร ให้เบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์ไปบนผิวน้ำ ถ้าโยนลงไปอย่างนั้นอย่างมากก็แค่อาบน้ำเย็นในทะเล ไม่อันตรายหรอก”
อย่างนี้ก็ได้ วินนี่พยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากฉินสือโอวล้างมันฝรั่งสะอาดแล้ว ก็เรียกเบิร์ดมาหั่นเป็นเส้น
เบิร์ดทำความสะอาดมีดหั่นผัก มือหนึ่งกดมันฝรั่งไว้อีกมือสับมีดอย่างรวดเร็ว ได้ยินแต่เสียง ‘ฉับ ฉับ ฉับ’ ที่คมชัดและเป็นจังหวะ มันฝรั่งถูกหั่นเป็นแผ่นที่มีขนาดเท่ากันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเบิร์ดหมุนทิศทางของใบมีด มันฝรั่งกลายเป็นเส้นๆ ในทันที
ไม่ได้กินมันฝรั่งเส้นมานานแล้ว ฉินสือโอวคิดจะนำไปยำ เขาต้มมันฝรั่งเส้นในน้ำเดือดจนสุก แช่ในน้ำเย็นสักครู่ จากนั้นผสมกับน้ำมันพริก ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูลงไป เมนูนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ทำง่ายและอร่อยในเวลาเดียวกัน
เมนูนี้แล้วเสร็จในเวลาเพียงไม่กี่นาที ฉินสือโอวทำการชิม อืม ดีมาก มันฝรั่งโพไซดอนอร่อยกว่า เส้นมันฝรั่งกรอบโดยไม่มีความเหนียวนุ่ม รสชาติหอมสด เหมาะที่จะทำเมนูยำ
เนื้อสัตว์หมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ทำอาหารมังสวิรัติ แน่นอนว่ามีไข่ไก่ ไข่เป็ดและไข่นกจำนวนมาก
ฉินสือโอวเตรียมจะทอดไข่ เขาเปิดตู้ควบคุมอุณหภูมิออก ซึ่งข้างในเต็มไปด้วยไข่ไก่และไข่เป็ด
เมื่อเห็นไข่จำนวนมากอย่างนี้ ฉินสือโอวรู้สึกตกใจ เขาพูดว่า “มีคนเอาไข่ไก่มาให้เหรอ?”
วินนี่ยิ้ม “เป็นไปได้ยังไง ทั้งหมดนี้เชอร์ลี่ย์และกอร์ดอนเป็นคนไปเก็บมา ตอนนี้เป็ดและไก่มีจำนวนมาก พรุ่งนี้คุณเข้าไปดูหน่อย ถ้ามีเวลาก็ขยายฟาร์มสักหน่อยเถอะ”
ฉินสือโอวเป็นสัตว์กินเนื้อ ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์ก็จะรู้สึกไม่มีความสุข เมื่อเนื้อกวางและเนื้อหมูป่าหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็กินเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อห่านกันเถอะ เพราะมีจำนวนมากอยู่แล้ว
เมื่อเห็นอีวิลสันลูบท้องทำท่าว่าหิว ฉินสือโอวก็ลงมือกับห่านขาวอย่างไม่ลังเล ที่บ้านเกิดของเขามีเมนูหนึ่งที่เรียกว่ามันฝรั่งต้มห่านความดันสูง รสชาติไม่เลว
เมื่อบอกอีวิลสันว่าเย็นนี้กินห่าน เขารีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน ตอนกลับมานั้นมีห่านขาวอวบอ้วนติดมือมาด้วย ห่านถูกหักคอแล้ว แค่ถอนขนและทำความสะอาดก็นำไปปรุงอาหารได้แล้วล่ะ
มันฝรั่งมีอยู่แล้ว โชคดีที่ก่อนหน้านี้ขุดมันฝรั่งอ่อนมาพอดี อย่างนี้ไม่ต้องหั่น ปอกเปลือกแล้วนำไปต้มได้เลย
หลังจากทำความสะอาดห่านแล้ว ฉินสือโอวสับมันเป็นชิ้นๆ ห่านตัวนี้หลังจากถอนขนและนำเครื่องในออกแล้วก็ยังหนักประมาณสิบโล เย็นนี้อิ่มหนำสำราญแน่ๆ
หลังจากล้างเนื้อห่านแล้วก็ได้ต้มในน้ำเดือดเพื่อทำให้เนื้อแน่นกว่าเดิม ฉินสือโอวใส่น้ำมัน น้ำเชื่อมเมเปิล ซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูลงไป หลังจากเคี่ยวน้ำซุปจนข้นแล้ว ก็เทเนื้อห่านลงไป แล้วผัดอย่างไม่หยุดมือ
ฉินสือโอวเทน้ำซุปที่ต้มเนื้อห่านก่อนหน้านี้ลงไปในหม้อความดันสูง แล้วใส่หัวหอม ขิงและพริกแห้งลงไปบางส่วน และสมุนไพรจำพวกโป๊ยกั๊ก พริกไทยเสฉวน และเฉินผี ต้มรวมกับเนื้อห่านและมันฝรั่ง
หลังจากต้มไปได้ห้านาที ฉินสือโอวเทซีอิ้ว น้ำเชื่อมเมเปิลและเกลือลงไป แล้วต้มต่ออีกยี่สิบนาที เนื้อห่านหม้อนี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วล่ะ
วินนี่ได้ชิมเนื้อห่าน เธอพยักหน้าและพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “หอมมาก เผ็ดมาก ชามาก เหมาะที่จะเป็นมื้อเย็นมาก”
วินนี่บอกว่าเครื่องในของห่านนั้นนอกจากส่วนตับแล้วที่เหลือให้โยนทิ้งทั้งหมด แต่ฉินสือโอวบอกว่าเขาจะจัดการเอง จากนั้นตะโกนเรียกอีวิลสันให้เขาไปล้างลำไส้ห่าน เพราะเขาต้องการจะเก็บไว้ทำไส้ห่านแช่พริก
……………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 491 ห่านขาวพร้อมเสิร์ฟแล้ว
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!