ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 509 โจมตีด้วยอาวุธ

เพื่อนค่อยๆ ชัดขึ้นทีละชั้น น้ำทะเลเย็นเฉียบกระทบเข้าบนร่างของคนที่อยู่บนเรือ ทำให้พวกเขาหนาวเหน็บไปทั้งกายและใจ
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้เมื่อกี้จะมีคลื่นแต่ก็เป็นคลื่นธรรมดา ซึ่งขึ้นในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นคลื่นรุนแรงระดับ 7-8 ด้วยซ้ำ เป็นคลื่นที่มีความสูง 7-8 เมตรได้ ซัดมาทีก็หลายลูกติดกันจนเรือไดโตะโชวะมารุแทบล่ม!
ซาโต้ ไทชิเริ่มไม่มั่นใจจึงพูดเสียงดัง “จับสิ่งที่อยู่ข้างตัวไว้ให้แน่น! ใครรู้บ้างว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
ร่างกายที่สูงใหญ่ของทามุระบัดนี้ถูกใช้จนเกิดประโยชน์เสียที เขาจับขอบเรือจนยืนนิ่งแล้วตอบ “กัปตันโชเอ ผมว่าใต้ทะเลนี้คงจะมีภูเขาไฟที่กำลังระเบิดแน่นอน! หรือไม่ก็แผ่นดินไหวใต้ผิวทะเล! เราต้องรีบ…”
โครม!
เสียงคลื่นลูกใหญ่ซัดแรง ครั้งนี้คลื่นกระทบเข้าขอบเรือทั้ง 2 ฝั่ง จนทำให้โครงเครงไปทั้งเรือ ทามุระยังไม่ทันพูดจบหัวก็โขกเข้ากับขอบเรือจนเลือดไหลเต็มหน้า
ซาโต้ ไทชิเห็นด้วยกับคำพูดของทามุระ เพราะนอกจากภูเขาไฟใต้ทะเล และแผ่นดินไหวใต้ผิวทะเลแล้ว จะมีอะไรที่จะทำให้เกิดขึ้นใหญ่ขนาดนี้ได้อีก?
สิ่งสำคัญในตอนนี้คือต้องขับเรือออกจากที่นี่ด่วน! แต่สิ่งที่โชคร้ายกว่านี้ก็คือ ผู้ควบคุมเรือทุกซาโต้ ไทชิเรียกมาด่าจนตอนนี้กลิ้งหายไปไหนก็ไม่รู้
ในเวลาสำคัญแบบนี้ ซาโต้ ไทชิที่เป็นกัปตันก็ต้องลุกขึ้นให้ได้ เขาไม่สนใจเลือดที่ไหลออกจากปาก พร้อมกับลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วพุ่งเข้าไปในห้องควบคุม เมื่อจับหางเสือได้เขาก็หมุนเพื่อควบคุมเรือทันที
กระแสคลื่นใต้น้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้มีเพียงรอบๆ ของเรือเท่านั้น กระแสคลื่นยังกระจายไปทั่วท้องทะเลเป็นระยะหลายตารางกิโลเมตร
ซาโต้ ไทชิล่องเรือมา 20 กว่าปี ผ่านลมผ่านฝนมาก็เยอะ มรสุมใหญ่กว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นแม้ว่าคลื่นที่ฉินสือโอวสร้างขึ้นจะน่ากลัว แต่ซาโต้ ไทชิก็ยังรับมันไหว
พลังจิตสำนึกแห่งโพไซดอนที่อยู่ในตัวของฉินสือโอวก็มีจำกัด การทำคลื่น 6-7 เมตรก็นับว่าแสดงพลังสูงสุดภายใต้ความพิโรธแล้ว แต่น่าเสียดายที่ทำอะไรเหลือขนาด 1,500 ตันอันนี้ได้ไม่มาก อย่าว่าแต่ถล่มมันเลยแค่ห้ามไม่ให้มันล่องออกจากที่นี่ก็ทำไม่ได้
หากคิดจะถล่มเรือขนาดพันตันธรรมดา ความแรงเท่านี้ก็น่าจะพอ แต่หากจะทำเรือล่าวาฬคงจะยากไปหน่อย โดยเฉพาะเรือล่าวาฬสมัยใหม่อย่างเรือไดโตะโชวะมารุลำนี้
เรือไดโตะโชวะมารุลำนี้มีขนาดสั้น พลังของเครื่องควบคุมก็แรง การหมุนตัวและการหักเหของมันก็ดีเป็นอย่างมาก รูปแบบของเรือมีหัวเรือที่สูงกว่าหางเรือบวกกับรูปร่างขนาดสั้นกะทัดรัด จึงทำให้เรือลำนี้ทนต่อแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี คลื่นทะเลส่วนใหญ่จึงถล่มมันได้ยาก
จะปล่อยให้หนีไปแบบนี้จริงหรอ? ฉินสือโอวแอบโกรธในใจ เมื่อเห็นว่าเรือไดโตะโชวะมารุกำลังมุ่งไปในทิศทางเดียวกับกระแสคลื่น ฉินสือโอวก็ทำตาวาวขึ้นมาทันที เขาควบคุมกระแสคลื่นให้ไหลไปทางฟาร์มเพาะเลี้ยง เพียงเท่านี้เหลือแต่ตัวก็ต้องเข้าสู่ฟาร์มเพราะอย่างเลี่ยงไม่ได้
เฮลิคอปเตอร์บินบนฟ้าด้วยความเร็ว ฉินสือโอวสั่งให้เบิร์ดเร่งเครื่องเร็วขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาก็พบกับเรือลำนี้อีกครั้ง
ถึงแม้เบิร์ดจะไม่ใช่ชาวประมง แต่เขาเคยฝึกกับหน่วยตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายในเขตชายแดน จึงรู้ได้ในทันทีที่เห็นเรือลำนี้ “บอส เรือลำนี้เป็นเรือล่าวาฬ ไม่เป็นภัยคุกคามกับฟาร์มเพาะเลี้ยงของเราหรอก”
“ไม่! ฟาร์มของเราก็มีวาฬและฉลามเหมือนกัน! ให้ตายเถอะ กล้าดียังไงถึงได้มาขโมยปลาของเรา? เบิร์ด หาวิธีถล่มมันซะ!” ฉินสือโอวสั่งเสียงดังด้วยความโมโห
เบิร์ดเป็นทหารชั้นยอด เขาจึงทำตามคำสั่งของฉินสือโอวราวกับเป็นคำสั่งทางทหาร เขาไม่คิดจะถามสาเหตุที่บอสสั่งให้ถล่มเรือล่าวาฬที่ไม่คิดจะสนใจกุ้งปลาธรรมดาในฟาร์ม ได้แต่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ถ้าจะถล่มมันต้องใช้อาวุธครับ! บนเฮลิคอปเตอร์ AC-310N เครื่องนี้ไม่มีอาวุธอะไรเลย เราต้องกลับไปเปลี่ยนเป็นเครื่องบินรบรุ่น AT-802C ก่อนครับ”
“ถ้างั้นก็บินกลับไป!”
เบิร์ดหันวนกลับไปทันที ฉินสือโอวใช้วิทยุไร้สายติดต่อนีลเซ็นแล้วสั่งเสียงดัง “หาวิธีติดอาวุธบนเครื่องบินรบด่วน! ย้ำอีกรอบ! นีลเซ็นหาวิธีติดอาวุธบนเครื่องบินรบด่วน! ฟาร์มเพาะถูกจู่โจม เราต้องเตรียมอาวุธโต้กลับ!”
“รับทราบ! จะรีบเตรียมการครับ” นีลเซ็นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกที่เป็นปฏิกิริยาปกติของผู้เป็นทหาร
คนบนเรือไดโตะโชวะมารุยังไม่รู้ว่าตนกำลังจะเผชิญกับอะไร เมื่อเหล่าลูกเรือเห็นเฮลิคอปเตอร์ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ
คลื่นที่ใหญ่ขนาดราวกับว่าเรือกำลังจะล่มทำให้พวกเขารู้สึกกลัว
สุดท้ายเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ห่างออกไปก็ไปเลี้ยวกลับไปซะงั้น
จึงทำให้เหล่าคนบนเรือโกรธเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มชินากาว่าที่ส่งเสียงด่าตามหลัง
เมื่อเบิร์ดจอดเฮลิคอปเตอร์บนลานเสร็จ ก็พบว่าเครื่องบินรบสีเหลืองอ่อนจอดรออยู่ด้านหน้าพอดี นีลเซ็นและกลุ่มชาวประมงยืนรออยู่ด้านข้าง วินนี่เองก็รอด้วยความกังวล
เมื่อเห็นฉินสือโอวลงจากเฮลิคอปเตอร์ วินนี่ก็รีบเดินเข้าไปถาม “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องเตรียมเครื่องบินรบลำนี้ด้วย?”
ฉินสือโอวตอบ “เรือล่าวาฬลำหนึ่งของญี่ปุ่นล่าและฆ่าสัตว์ทะเลในฟาร์มอย่างบ้าเลือด! แม่ง! คุณไม่เห็นว่าพวกมันฆ่าวาฬและฉลามไปตั้งเท่าไร ไอ้พวกระยำ! ต้องจัดการพวกมันให้หมด!”
วินนี่มีสีหน้าปกติ แต่เหล่าชาวประมงนี่สิอารมณ์ฉุนกันเป็นอย่างมาก บูลพูดขึ้นเสียงดัง “เดี๋ยวฉันจะกลับไปเอาเรมิงตันที่พ่อให้ไว้ไปยิงสมองพวกมันให้เละ! การล่าวาฬในเขตฟาร์มเนี่ยนะ? ต้องเอามันให้ตาย!”
เหล่าชาวประมงที่พึ่งทะเลในการใช้ชีวิต พวกเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงแหล่งหากิน แต่กลับมองว่ามันเป็นผู้อาวุโสที่คอยเลี้ยงดูตน ดังนั้นพวกเขาจึงล่าแค่สิ่งจำเป็นเท่านั้น และอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นในทะเลเป็นอย่างดี เช่นเต่ามะเฟือง เต่าบึงจุด ฉลามและวาฬ
พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มีการศึกษาที่สูงมากนัก แต่กลับรู้เรื่องสัตว์ในทะเลเสียยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเสียอีก รู้ว่าสัตว์ทุกชนิดถือเป็นสิ่งสำคัญในห่วงโซ่อาหาร หากมีปัญหาส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะเกิดปัญหาไปทั้งมหาสมุทรได้
ซึ่งฉลามและวาฬถือเป็นสัตว์ที่สำคัญมากในห่วงโซ่อาหาร
นอกจากนี้วาฬและฉลามตัวเป็นๆ ก็มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเช่นกัน นิวฟันด์แลนด์เป็นจุดชมวาฬขนาดใหญ่ที่ดีที่สุด และในตอนนี้เกาะแฟร์เวลก็กำลังพัฒนาโครงการเที่ยวเกาะชมวาฬหลังค่อมพอดี ถ้าวาฬและฉลามถูกล่าจนหมดแล้วจะเอาอะไรทำเงินล่ะ?
ไม่ว่าจะเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัว เหล่าชาวประมงก็ยังคงเกลียดชังนักล่าวาฬล่าฉลามอยู่ดี ประเทศญี่ปุ่นที่เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงแง่ลบในด้านนี้ก็ยิ่งทำให้พวกเขารังเกียจเข้าไปใหญ่
เมื่อวินนี่เห็นว่าทุกคนกำลังโมโหจัด ถึงรีบพูดห้ามให้ทุกคนใจเย็นลง ถึงแม้คนญี่ปุ่นที่ล่าวาฬจะน่ารังเกียจ แต่หากชาวประมงฆ่าพวกเขาจริงก็จะต้องรับโทษทางกฎหมาย
วินนี่นับถือพวกเขาราวกับคนในครอบครัว ถึงไม่อยากเห็นคนในครอบครัวต้องรับโทษเพราะคนน่ารังเกียจพวกนั้น
ฉินสือโอวพูดให้วินนี่วางใจได้เพราะเขาจัดการเองได้ แล้วหันไปถามนีลเซ็นว่าเตรียมการไปถึงไหนแล้ว
นีลเซ็นเปิดประตูห้องโดยสารพร้อมกับพูดขึ้น “ผมไปยืม m60 จากคลังอาวุธแห่งหนึ่งของซาโกรมา หลังจากแก้ไขปรับเปลี่ยนเสร็จก็ติดบนเครื่องบินเรียบร้อย แต่มันโจมตีอัตโนมัติเองไม่ได้ ซึ่งผมว่าไม่น่าจะได้ใช้มันหรอก”
ชาร์คพูดขึ้น “พวกผมเตรียมสารกำจัดศัตรูพืชที่ผสมให้เจือจางไว้ในคลังอาหารแล้ว แม้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่หากคนญี่ปุ่นกลุ่มนั้นไม่ยอมแต่โดยดี โรยลงบนเรือก็ทำให้พวกเขาทรมานได้ไม่น้อย”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset