ฉินสือโอวรู้ดีว่าที่โตเกียวเมืองเล็กๆ แต่ปริมาณรถเยอะ คนก็เยอะ แน่นอนว่ารถจึงติดมาก เมื่อก่อนตอนที่เขาอยู่ประเทศจีน เขาก็รู้สิ่งเหล่านี้จากอินเทอร์เน็ตแล้ว
แต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันเป็นเวลาเที่ยงคืน ถนนในโตเกียวก็ไม่น่าจะติดแล้วไหม?
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็คาดเดาผิด ต่อให้เป็นเวลาเที่ยงคืน ถนนหนทางในโตเกียวก็ยังคงติด แต่ก็ไม่ได้ติดถึงขั้นขยับไปไหนไม่ได้ เพียงแต่ว่าขับรถไวไม่ได้ รถที่ไปๆ มาๆ ยังคงเนืองแน่น ส่วนคนถ้าเทียบกับเมืองเซนต์จอห์นช่วงเวลากลางวันที่เป็นช่วงเร่งด่วนมากที่สุดยังมีจำนวนเยอะกว่า
อีกทั้งในบางครั้งก็จะมีคนเดินเลยออกมาที่กลางถนน ซึ่งทำให้นิชิมุระต้องรีบเหยียบเบรกในทันที
วินนี่เห็นคนหนึ่งตัวโค้งงอกุมท้องเดินเอนไปมาบนถนน จึงพูดออกมาอย่างกังวลว่า “เขาดูท่าไม่ค่อยดี คุณนิชิมุระคะ พวกเราจะลงไปช่วยเขาหน่อยไหมคะ?”
นิชิมุระเห็นแบบนี้มาเยอะแล้ว จึงอธิบายว่า “ไม่ต้องครับ คุณวินนี่ ไอ้หนุ่มนั่นน่าจะดื่มมากไป! เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในโตเกียวเวลาค่ำคืน ตอนนี้คนทำงานมีความกดดันมาก กลางคืนจึงดื่มเข้าไปเยอะหน่อยเพื่อระบายอารมณ์ครับ”
ฉินสือโอวยิ้มกว้าง อยู่ดีๆ เขาก็คิดถึงตอนที่เมื่อก่อนเขาอยู่ที่เกาะไหเต่าก็มีความสุขดีเหมือนกันนะ
พอเห็นเขาแยกเขี้ยวยิงฟันขึ้นมา นิชิมุระนึกว่าเขาไม่พอใจ จึงรีบขอโทษ
แบบนี้ฉินสือโอวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ก็อธิบายไม่ได้ ยิ่งพร่ำเยอะก็ยิ่งเรื่องเยอะ เขาจึงเปิดหน้าต่างดูเมืองโตเกียวในยามค่ำคืนกับวินนี่
งานสถาปัตยกรรมในเมืองโตเกียวถึงแม้ว่าจะเน้นไปที่สไตล์สมัยใหม่เป็นหลัก ส่วนมากเป็นตึกใหญ่อาคารสูง แต่ก็ยังคงมีการอนุรักษ์อาคารเก่าแก่ให้คงไว้ จึงทำให้เมืองที่ทันสมัยนี้ยังมีกลิ่นอายของความโบราณแฝงไว้
รถวิ่งไปบนถนน จากนั้นก็มีหอคอยสูงใหญ่ปรากฏออกมา โคมไฟถูกห้อยเต็มไปหมดบนหอคอย ฉินสือโอวมองผ่านออกไปทางหน้าต่าง รู้สึกเหมือนดาบเลเซอร์ที่โผล่พ้นออกมาจากอากาศ แสดงความสร้างสรรค์ของมนุษย์ออกมาได้อย่างเต็มที่
“นี่คือโตเกียวทาวเวอร์เหรอ?” ฉินสือโอวเผลอถามออกมา
นิชิมุระยิ้มน้อยๆ “ไม่ใช่ครับ คุณฉิน นี่คือโตเกียวสกายทรี สูงกว่าโตเกียวทาวเวอร์ แต่ไม่ได้มีชื่อเท่ากับโตเกียวทาวเวอร์ คิดว่าตอนนี้คุณน่าจะเหนื่อยล้ามากแล้ว ผมแนะนำให้คุณเข้าไปพักผ่อนในโรงแรมก่อน แล้วรอพรุ่งนี้หรือวันมะรืนค่อยมาที่หอดูดาวของโตเกียวสกายทรีชมวิวครับ”
ฉินสือโอวยิ้ม จริงๆ แล้วเขาไม่ได้เหนื่อย นอนมาตลอดทางแล้วก็เล่นไปเรื่อยๆ แต่แขกก็เอาตามที่คนนำทางสะดวกดีกว่า เพราะถ้าเขามาเที่ยวที่นี่ นิชิมุระก็ต้องมาเป็นเพื่อนเขา แล้วนิชิมุระก็ทำงานมาทั้งวัน ตอนนี้คาดว่าน่าจะใกล้สลบแล้ว
เริ่มตั้งแต่โตเกียวสกายทรี นิชิมุระก็เริ่มแนะนำสถานที่สำคัญในโตเกียวที่เจอให้กับฉินสือโอวฟัง “โตเกียวสกายทรีเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโตเกียว หอดูดาวสูงจากพื้นดิน 350 เมตร มีกระจกใสบานใหญ่รอบทั้งสี่ด้านที่สามารถมองเห็นวิวทั้งหมดในโตเกียวได้ 360 องศา ให้ความรู้สึกปลดปล่อยได้ดีมากๆ ครับ”
“พอเดินขึ้นไปอีก ผ่านกระจกใสหอดูดาวขึ้นไปก็จะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด มีความสูงทั้งหมด 450 เมตรเลยทีเดียวครับ ที่ที่สามารถมองลงไปชมวิวยามค่ำคืนด้วยความสูงขนาดนี้ ในโตเกียวคงจะมีแค่ที่นี่ที่เดียวครับ”
โรงแรมที่บริษัทคิโยมุระจองให้กับพวกเขาอยู่ในเขตชินจูกุ ซึ่งเป็นเขตธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองของโตเกียว ส่วนบริหารท้องถิ่นเมืองโตเกียวก็ตั้งอยู่ที่นี่ ตลาดปลาสึกิจิตลาดขายส่งกลางโตเกียวที่จะมีการประมูลปลาทูน่าก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
มุ่งหน้าไปตามเส้นทางรถไฟ JR สายหลักชูโอ นิชิมุระแนะนำตลอดทาง “ตอนนี้พวกเรากำลังจะผ่านห้างสรรพสินค้าโอดะคิว…ดูนั่นสิครับ นั่นคือห้างสรรพสินค้าเคโอ ปกติพวกเขาจะเปิดไฟไว้ตลอดทั้งคืน แต่ไม่ได้เปิดทำการ…นี่คือ ย่านชินจูกุ-สกายแครปเปอร์ บริษัทของพวกเราก็ตั้งอยู่ที่นี่… พวกเรามาถึงสวนกลางในชินจูกุแล้ว ตรงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเป็นโรงแรมเจอาร์ คิวชู บลอสซัม ชินจุกุที่พวกคุณพักกันแล้วครับ”
โรงแรมเจอาร์ คิวชู บลอสซัม ชินจุกุเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวแห่งหนึ่ง แต่เป็นที่นิยมมากในโตเกียว เนื่องด้วยโรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีการผสมผสานระหว่างรูปแบบสมัยใหม่กับความดั้งเดิมของญี่ปุ่นจนกลายเป็นจุดขาย หรือพูดอีกอย่างก็คือ ห้องพักในโรงแรมครึ่งหนึ่งเป็นสไตล์สมัยใหม่ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นสไตล์ดั้งเดิม
หลังจากที่ฉินสือโอวและวินนี่เข้าไปในห้อง พอเห็นความขัดแย้งของรูปแบบเก่าและใหม่ก็หัวเราะออกมา ช่างมีความสร้างสรรค์ที่ดีจริงๆ เพราะสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวได้
หลังจากที่นิชิมุระส่งพวกเขาเรียบร้อยแล้วก็ร่ำลาจากไปอย่างมีมารยาท ถึงแม้ว่าฉินสือโอวจะไม่ได้รู้สึกดีกับชนชาติญี่ปุ่นมากนัก แล้วยังเพิ่งจัดการกลุ่มลูกเรือของเรือล่าวาฬมาด้วย แต่เขาก็รู้จักแบ่งแยกคนกับงาน ผลงานของนิชิมุระไม่มีที่น่าตำหนิเลยสักนิด ถือได้ว่าเป็นหนุ่มน้อยที่โดดเด่นมากคนหนึ่งทีเดียว
เขามองไปที่เวลานี่ก็ตีสองแล้ว ขับมาจากสนามบินใช้เวลาเต็มๆ ถึงสองชั่วโมงครึ่ง จริงๆ แล้วสามารถขับเร็วกว่านี้ได้ แต่นิชิมุระแนะนำสถานที่ยามค่ำคืนมาตลอดทาง จึงกินเวลาไม่น้อย
วินนี่หยิบของขวัญเล็กน้อยที่เอามาจากรัฐนิวฟันด์แลนด์ให้กับนิชิมุระเพื่อขอบคุณการดูแลต้อนรับของเขา แน่นอนว่ามีมูลค่าไม่น้อย
ฉินสือโอวช่วยเปิดห้องให้เขาห้องหนึ่ง ให้เขาพักที่นี่ได้เลย เพราะระหว่างทางนิชิมะรุเผลอบอกออกมาว่าสถานที่ที่เขาพักอาศัยอยู่ไม่ได้อยู่ในชินจูกุ ตอนนี้ถ้าขับกลับไปอีก คาดว่าท้องฟ้าคงสว่างพอดี
พอเห็นของขวัญ นิชิมุระรีบปฏิเสธ วินนี่จึงบอกว่านี่เป็นของขวัญขอบคุณที่เราให้กับเพื่อน พอได้ยินเธอพูดแบบนี้ นิชิมุระก็ก้มโค้งคำนับพูดอย่างทราบซึ้งใจ “โอ้ จะไม่ให้เกรงใจได้อย่างไรครับ? ขอบคุณทั้งสองท่าน ขอบคุณมากครับ! พวกคุณดีมากๆ เลย นิชิมุระรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก”
พอเปิดห้องเสร็จ ฉินสือโอวก็ให้นิชิมุระพักอยู่ที่นี่ ซึ่งรอบนี้นิชิมุระปฏิเสธอย่างแน่วแน่ บอกไปว่าน้องสาวเขายังรอเขากลับไปทานอาหารมื้อดึก เขาจึงต้องกลับไปจริงๆ ไม่เช่นนั้นน้องสาวอาจจะกังวลถึงความปลอดภัยของเขา
วันที่สองหลังจากมาถึงโตเกียว เมื่อฉินสือโอวตื่นก็มีพนักงานบริการมาเสิร์ฟอาหารเช้า เป็นปลาจานย่างหนึ่งเซต ซูชิสาหร่ายและกาแฟดำ ยังคงมีการผสมผสานระหว่างอาหารสมัยปัจจุบันและสมัยก่อน
ฉินสือโอวออกไปเดินเล่นสักพัก แม้ว่าโตเกียวจะมีอัตราความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูง แต่ว่ามีจำนวนรถยนต์และผู้คนก็มากเกินไป จึงทำให้คุณภาพอากาศไม่ดี อีกทั้งท้องฟ้าบรรยากาศมืดครึ้ม เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเบื่อ เลยกลับไปที่โรงแรม
ระหว่างทางเขามีซื้อหนังสือพิมพ์ไปสองสามฉบับ พบว่าราชาปลาทูน่าครีบน้ำเงินของตัวเองนั้นมีชื่อเสียงมากในโตเกียว บัตเลอร์เป็นมืออาชีพมาก เขาร่วมกับบริษัทประมงหลายแห่งเพื่อทำการซื้อขายแล้วสร้างกำไร ทำให้ปลาตัวนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าทำให้งานประมูลปลาทูน่าได้รับการจับตามองไปโดยปริยาย
ปลาตัวนี้ถูกห้อยอยู่ใต้ชื่อของนีลเซ็น บอกว่าเขาตกปลาตัวนี้ได้ที่น่านน้ำเมืองโอมะ จังหวัดอาโอโมริ นี่เป็นสิ่งที่บัตเลอร์และฉินสือโอวปรึกษากันไว้แล้ว ฉินสือโอวไม่อยากเปิดเผยตัวตน นีลเซ็นจึงรับหน้าที่หนักนี้แทนเขา
ปลาทูน่าที่ผลิตในฤดูกาลนี้ต้องถูกอ้างสิทธิ์ว่าถูกจับได้ในน่านน้ำเอเชีย เพราะหากอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาเหนือแล้ว อย่าคิดว่าจะขายปลาตัวนี้ ไม่เช่นนั้นก็รอขึ้นศาลเถอะ
นอกจากจะขายแล้ว เนื่องด้วยปลาตัวนี้ทำลายสถิติบันทึกน้ำหนักปลาทูน่าครีบน้ำเงินในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา สมาคมตกปลานานาชาติจึงจะให้เงินรางวัลเพิ่มอีก บัตเลอร์บอกกับฉินสือโอวแล้วว่ารางวัลมีมูลค่าสูงถึง 2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!
พอกลับถึงโรงแรมฉินสือโอวก็กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ หลังจากนั้นบัตเลอร์ก็รีบมาหาบอกว่าจะพาเขาไปพบท่านประธานที่บริษัทคิโยมุระ
บริษัทคิโยมุระเป็นหนึ่งในบริษัทการประมงไม่กี่แห่งที่มีขนาดใหญ่ในโตเกียว มีศักยภาพมาก งานประมูลเมื่อหลายปีก่อนราชาปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ถูกบริษัทคิโยมุระประมูลไปได้ ซึ่งปีนี้พวกเขาก็จะต้องชนะการประมูลราชาปลาตัวนี้อย่างแน่นอน
เมื่อคืนทางบริษัทก็ส่งคนมาดูแลตลอด และยังจองโรงแรมให้อีกด้วย แน่นอนว่าฉินสือโอวต้องไปเจอท่านประธานผู้ร่วมปณิธานท่านนี้สักหน่อย
ก่อนกินอาหารกลางวัน บัตเลอร์จึงพาเขาไปบริษัทคิโยมุระ
ในความทรงจำของฉินสือโอว บริษัทประมงส่วนมากจะอยู่ริมทะเล สภาพแวดล้อมไม่ค่อยเป็นระเบียบถึงจะใช่ อย่างเช่น บริษัท ดิค พันธุ์พืชน้ำทะเล แต่บริษัทคิโยมุระกลับแตกต่างออกไป บริษัทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ย่านชินจูกุ-สกายแครปเปอร์ ซึ่งเป็นอาคารสูงสมัยใหม่สูง 18 ชั้น ภายในตึกมีพนักงานแต่งตัวแบบชาวประมงเดินไปเดินมาจำนวนมาก แต่ส่วนมากจะเป็นสาวออฟฟิศกับหนุ่มออฟฟิศที่แต่งตัวแบบทันสมัยและดูเป็นมืออาชีพมากกว่า
……………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 514 คิโยมุระ
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!