ฉินสือโอวที่หนักใจยืนอยู่บนท่าเทียบเรือ หู่จือเป้าจือฉงต้าทั้งสี่ตัวยืนแหงนหน้าไปมองทางฟาร์มปลาไกลๆ พวกมันสามารถรับรู้ได้ถึงความหนักใจของพ่อและอยากรู้ว่าอะไรทำให้พ่อตกใจจนเหมือนนก
เรือใหญ่ยาวห้าสิบเมตรลำหนึ่งปรากฏต่อสายตาฉินสือโอว มิน่าล่ะถึงสามารถระบุตัวตนของมันได้อย่างมั่นใจเพราะที่ลำเรือมีชื่อเขียนไว้ว่า ‘วิจัย2’ชัดเจนว่าเป็นเรือวิจัย
อีกอย่างฉินสือโอวก็รู้จักเรือลำนี้ วิจัย2คือเรืออันดับหนึ่งในชุดเรือวิจัยแคนาดา ก่อนหน้านี้เรือวิจัย1ถูกพบว่ามีอันตรายแฝงอยู่ในกระบวนการสร้างจึงถูกเลิกใช้จากนั้นจึงมีเรือวิจัยหมายเลข2
เรือลำนี้มีชื่อเสียงมากในอเมริกาเหนือเป็นเรือวิจัยขนาดเล็กอันดับต้นๆ ของโลกร่วมกับของ Sikuliaq อเมริกา สำรวจขั้วโลกใต้และขั้วโลกเหนืออยู่หลายครั้ง บนเรือนอกจากกัปตันเรือแล้วคนที่เหลือก็เป็นนักวิจัยทางทะเลที่มีชื่อเสียงของแคนาดา
เรือวิจัยหมายเลข2บนดาดฟ้ามีคนสูงวัยที่ดูสุขภาพดีอยู่ไม่กี่คนคนเหล่านั้นส่วนมากอายุสักห้าหกสิบแล้วยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาดวงตาเป็นประกาย
พอเห็นฉินสือโอวผู้สูงวัยคนหนึ่งก็ลงเรือมาจับมือฉินสือโอวพร้อมถาม “อ้าว สวัสดีเจ้าหนุ่มพวกเราคือคณะวิจัยทางทะเลของประเทศ ขอโทษที่รบกวน คุณชื่ออะไร? ผมชื่อบาลซัก ซาดา”
ผู้สูงวัยคนนี้มีชื่อเสียงมากฉินสือโอวเห็นเขาอยู่บ่อยๆ ตอนอ่านข่าวเกี่ยวกับทะเลเขาคือประธานนักวิจัยของเรือวิจัยหมายเลข2เป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทางทะเลของแคนาดาและเป็นรองผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยโตรอนโตและคณะบดีคณะสิ่งมีชีวิตและวิศวกรรมทางทะเล
ไม่ว่าจะชื่อเสียงด้านไหนของบาลซักก็ล้วนน่าตกตะลึง ความสุดยอดของเขาอย่างหนึ่งคือการเป็นรองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยโทรอนโต ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของแคนาดาที่มีชื่อเสียงไปทั่วอเมริกาเหนือ
มหาวิทยาลัยโตรอนโตก่อตั้งขึ้นในปี 1827 โดยสแทรชานได้รับพระบรมราชานุญาตให้ก่อตั้งคิงส์คอลเลจภายหลังวิทยาลัยนี้กลายเป็นมหาวิทยาลัยโตรอนโต
ผ่านการพัฒนามาเกือบสองร้อยปีที่แคนาดามหาวิทยาลัยโตรอนโตเป็น “ถ้าฉันเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่ง” มหาวิทยาลัยแห่งนี้เชี่ยวชาญตั้งแต่เทคโนโลยีการบินไปจนถึงสัตวศาสตร์นับว่าเป็นเลิศ จำนวนศาสตราจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลก็เยอะที่สุดในแคนาดา
เห็นบาลซักในใจของฉินสือโอวก็ยิ่งไม่สงบแต่เขารู้จักเก็บสีหน้า หลังจากจับมือกับบาลซักเขาก็ชื่นชม “ผมรู้จักคุณ ศาสตราจารย์บาลซัก ผมชอบรายการ ‘พูดคุยกับท้องทะเล’ ของคุณมาก ไม่พลาดสักตอนเลยครับ”
‘พูดคุยกับท้องทะเล’ เป็นรายการที่สถานีโทรทัศน์เคเบิลจัดรายการให้บาลซักโดยเฉพาะเวลาออกอากาศไม่แน่นอนเมื่อไรที่เขามีเวลามีอารมณ์หรือมีหัวข้อก็จะมาทำ
บาลซักนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะดังถึงเกาะเล็กๆ ที่ไกลอย่างนี้ เขาหัวเราะอย่างมีความสุขพลางพูด “ฮ่าฮ่า ขอบคุณที่ชมสามารถได้รับความชื่นชอบจากพวกคุณได้รายการที่ผมทำก็มีความหมายแล้ว อย่างนั้นดูรายการผมแล้วคุณคิดว่ามีอะไรต้องพัฒนาไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะพลางพูด “มีแน่นอนครับ นั่นก็คือตอนใหม่มาช้าเหลือเกินผมหวังว่าจะได้ดูอาทิตย์ละตอน อย่างนั้นก็จะสมบูรณ์แบบ”
บาลซักทำท่าทางคิดอย่างจริงจังแล้วส่ายหน้า “นี่ยากมากเลยพ่อหนุ่ม เพราะมหาหัวข้อที่เหมาะสมไม่ได้ มหาสมุทรกว้างใหญ่ สิ่งมีชีวิตมากมายแต่ต้องพูดให้พวกมันดูน่าชมนั้นไม่ง่ายเลย”
ด้านหลังมีนักวิชาการวัยกลางคนเดินหอบมาแล้วพูดพลางยิ้ม “คณบดี ผมว่าเราควรไปพบผู้ว่าการเมืองแล้วพูดเรื่องการวิจัยของพวกเราสักหน่อย”
บาลซักได้ยินที่คนวัยกลางคนพูดก็ตอบกลับ “คุณพูดถูกดอล์ฟ พวกเราต้องทำอะไรให้กระชับหน่อย เอ้อพ่อหนุ่มฟาร์มปลานี้คือฟาร์มปลาสาธารณะของเมืองพวกคุณใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่พลางพูด “ไม่ใช่ครับ นี่คือฟาร์มปลาส่วนตัวของผม”
คนวัยกลางคนหัวเราะพลางถาม “ฟาร์มปลาของคุณคือตรงไหน?”
ฉินสือโอวชี้ไปด้านหลังแล้วพูดอย่างจริงจัง “นอกจากฝั่งตรงข้ามโน่น ที่เหลือก็เป็นฟาร์มปลาของผมทั้งหมด”
บาลซักและดอล์ฟตาโต พื้นที่ฟาร์มปลาบนเกาะแฟร์เวลไม่ใช่เล็กๆ ที่จริงแล้วใหญ่มาก ผลสุดท้ายฟาร์มปลาที่กว้างใหญ่ไพศาลผืนนี้เป็นของหนุ่มผิวเหลืองตรงหน้าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อสักหน่อย
ดอล์ฟพิจารณาฟาร์มปลาครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างอดไม่ได้ “แม้ว่าพูดอย่างนี้จะไม่สุภาพ แต่ผมก็ยังอยากถาม พ่อหนุ่ม คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? คุณจะบอกว่าทะเลผืนนี้เป็นของคุณ?”
“ใช่ครับ เป็นของผมทั้งหมด”
บาลซักได้ยินเขาตอบอย่างแน่ใจก็พูดอย่างตื่นเต้น “อย่านั้นก็ดี หนุ่มเจ้าของฟาร์มปลาคนเก่งพวกเราอยากจะทำโครงการวิจัยที่ฟาร์มปลาของคุณ ไม่ทราบว่าได้ไหม?”
“โครงการอะไรครับ?” ขุนนางใหญ่ฉินลืมตาแล้วยิ้มอ่อนในตามีประกายที่เย็นยะเยือก
บาลซักไม่ได้สังเกตเห็นแล้วพูดต่อไป “คืออย่างนี้ครับ ตอนที่พวกเรากำลังทำวิจัยอยู่แถบยุโรปได้เจอเข้ากับเต่ามะเฟืองจำนวนหนึ่ง คุณก็รู้ว่านี่คือสัตว์มีกระดองที่มีคุณค่ามากประเภทหนึ่ง”
“พวกเราเลยติดจีพีเอสไว้ที่ตัวพวกมัน ผลสุดท้ายพวกเราพบว่าเมื่อไม่นานมานี้เต่ามะเฟืองพวกนี้ต่างมาอยู่ที่ฟาร์มปลาของคุณทำให้พวกเราแปลกใจมาก คุณอาจจะรู้ว่าเต่ามะเฟืองจะไม่อยู่ที่ใดที่หนึ่งพวกมันเป็นพวกร่อนเร่ในทะเล แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ที่ฟาร์มปลาของคุณหลายเดือนแล้ว!”
ที่แท้ความผิดปกติในฟาร์มปลาของตัวเองก็เริ่มดูงดูดความสนใจจากโลกภายนอกแล้ว ฉินใจคอไม่ดีก่อนหน้านี้เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนตามอำเภอใจไปหน่อย
เขาไม่อยากให้คนพวกนี้มาอยู่ทำวิจัยแต่ก็ไม่มีเหตุผลที่ดีพอเพราะตามคำขอของสถาบันวิจัยแคนาดาการวิจัยประเภทนี้ต้องการความร่วมมือจากเหล่าเจ้าของฟาร์มปลา
ดังนั้นเขาเลยได้แต่จงใจสร้างปัญหาให้พวกเขา “ถ้าพวกคุณอนุญาตให้ผมเข้าไปสำรวจในเรือวิจัยลำนี้ได้ผมก็จะอนุญาตให้คุณทำวิจัยอยู่ที่ฟาร์มของผม พวกคุณต้องตกลงว่าจะไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในฟาร์มปลา”
เขาเพียงหวังว่าบนเรือวิจัยหมายเลข2จะมีความลับอะไร และว่ากันโดยทั่วไปแล้วบนเรือวิจัยจะมีความลับทางการวิจัยอยู่ ไม่ต้อนรับคนนอกขึ้นเรือ”
ผลสุดท้ายบาลซักพิจารณาอย่างจริงจังแล้วในที่สุดก็พยักหน้าพลางพูด “โอเคเจ้าหนุ่ม คำร้องขอของคุณก็ไม่ได้เกินไป คุณได้รับสิทธิให้ขึ้นเรือได้! แต่ถ้าคุณอยากจะหากัปตันนีโมบนเรือเราก็อาจจะยากใหญ่”
กัปตันนีโมเป็นตัวละครหลักในนิยายฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงเรื่อง ‘ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์’ ของนักเขียนนิยายชื่อดังฌูล กาเบรียล แวร์น เขาเป็นกัปตันเรือนอติลุสผ่านมุมมองของศาสตราจารย์ปิแอร์ แอรอนแนกซ์ นักชีววิทยาผู้โดยสารไปกับเรืออันที่จริงก็คือจะพูดว่าบนเรือของพวกเขาไม่มีความลับอะไร
ฉินสือโอวคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับง่ายๆ แบบนี้หลังจากนั้นก็พูดอีกเรื่อง “แล้วก็พวกคุณห้ามทำร้ายสิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลาของพวกเรา”
ดอล์ฟมองหู่จือเป้าจือฉงต้าที่น่ารักแล้วพูด “ถ้าคุณหมายถึงพวกมัน ไม่มีปัญหาครับ”
……………………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 593 คณะผู้เชี่ยวชาญ
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!