ไข่มุกสีดำสมกับเป็นอัญมณีที่มีเสน่ห์ลึกลับที่สุดในโลก ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบบ้านพักธรรมดา แต่พอวินนี่สวมเครื่องประดับลงไปครบชุด เธอกลับไม่ได้ดูโอ้อวดเกินความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย และยังทำให้ดูสง่างามน่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิมด้วย
ก็เหมือนกับชื่อของเครื่องประดับชุดนี้นั่นแหละ ขณะที่วินนี่เดินออกมาจากห้องของเธอ เธอก็ดูราวกับเทพีแห่งรัตติกาลผู้ลึกลับที่ค่อยๆ เผยความงดงามโดดเด่นของเธอออกมา
มาริโอ้กับผู้ชายคนอื่นๆ ยังไม่เท่าไร แต่ตอนที่มิแรนด้ากับฟอกส์มองเห็นเครื่องประดับบนร่างกายของวินนี่ ตาของพวกเธอก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที
วินนี่แย้มยิ้มพร้อมยกแขนข้างขวาขึ้นมา ไข่มุกสีดำที่ทอดตัวล้อมรอบแขน ตัดรับกับแพลทินัมที่ส่องประกายสีเงิน
“นี่เป็นของขวัญที่ฉินมอบให้หนู เป็นยังไงบ้างคะ?” วินนี่พูดอย่างมีความสุข พอเห็นท่าทางของแม่กับพี่สาวเธอก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะพยายามรักษาสีหน้าให้สงบนิ่งเอาไว้ แต่หางตาที่หรี่ลงเหมือนลูกจิ้งจอกกับมุมปากที่ยกขึ้นสูงก็เผยความสุขที่อยู่ในใจของเธอออกมาอยู่ดี
ทุกๆ คนมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความรู้สึกตกตะลึง พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับสูงมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นจึงพอจะมีความสามารถในการตัดสินเครื่องประดับอยู่บ้าง เครื่องประดับไข่มุกสีดำชุดนี้ล้ำค่ามากจริงๆ !
มาริโอ้ยิ้มเจื่อนแล้วพูดกับเขา “นี่เจ้าหนุ่ม ฉันมองไม่ผิดจริงๆ นายยอมทุ่มทุนขนาดนี้เพื่อที่จะมัดใจสาวเลยเหรอ”
ฉินสือโอวไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป คุณพ่อตาครับ พ่อพูดแบบนี้ก็ไม่สมกับฐานะของคุณพ่อไปหน่อยนะ
ซือลั่วหวาส่ายหัวน้อยๆ พร้อมกล่าวออกมา “นายตามใจเจ้าหมีน้อยเกินไปแล้วจริงๆ นายทำแบบนี้จะทำให้เธอเอาแต่ใจได้นะ”
ฉินสือโอวถูจมูกหัวเราะแห้งๆ แล้วตอบกลับไป “ที่จริง ไข่มุกดำพวกนี้เป็นของที่ผมบังเอิญหามาได้จากในทะเลน่ะครับ เพราะอย่างนั้นเลยไม่ได้ใช้เงินมากมายอะไร ฮ่าๆ แต่เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ? ตามใจหมีน้อย? ครั้งนี้ผมไม่ได้พาฉงต้ามาด้วยนะครับ”
ซือลั่วหวาหัวเราะฮ่าๆ พลางพูดกับเขา “ไม่ใช่ ฉิน หมีน้อยที่ฉันพูดถึงไม่ใช่หมีสีน้ำตาลที่นายเลี้ยง แต่หมายถึงวินนี่ต่างหาก เธอไม่เคยเล่าที่มาของชื่อนี้ให้นายฟังหรอกเหรอ?”
“อย่าพูดนะคะ!” วินนี่เลิกทำท่าทางโอ้อวดแล้วรีบเข้ามาขวางไว้ทันที เธออยากจะเข้ามาปิดปากคุณปู่ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอมีไข่มุกอยู่เต็มตัวจึงเดินได้ไม่เร็วนัก
ฉินสือโอวแสดงท่าทางสนใจใคร่รู้ออกมา ซือลั่วหวายกยิ้มแล้วพูดขึ้น “Winnie the Pooh (หมีน้อยวินนี่) ชื่อนี้เป็นชื่อย่อของวินนิเพ็ก วินนิเพ็กมีเด็กผู้หญิงที่ชื่อวินนี่อยู่เยอะมาก รวมถึงหมีน้อยของครอบครัวเราด้วย”
คำแปลของชื่อ Winnie ก็คือวีนนี่หรือวินนี่ นี่เป็นชื่อสำหรับผู้หญิง ทว่าเจ้าของชื่อคือหมีตัวผู้ตัวหนึ่ง ดังนั้นที่จีนจึงแปลชื่อนี้ว่าเวยหนี เพื่อให้ดูมีความเป็นผู้ชายมากที่สุด
ฉินสือโอวไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ มาริโอ้จึงเล่าให้เขาฟังว่าการ์ตูนคลาสสิคเรื่องวินนี่เดอะพูห์ถูกสร้างขึ้นในปี 1921 ในตอนนั้นมิลน์ นักวาดชาวอังกฤษทำของขวัญวันเกิดให้กับคริสโตเฟอร์ลูกชายวัยหนึ่งขวบของเขา มันเป็นหมีสีน้ำตาลขนสีเหลืองที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
ถึงแม้จะมีชื่อว่าหมีสีน้ำตาล แต่แท้จริงแล้วสีขนของหมีชนิดนี้มีสีสันหลากหลาย มีสีดำ สีน้ำตาล และก็มีบางชนิดที่เป็นสีทอง ตอนนี้ขนบนร่างกายของฉงต้าก็อยู่ระหว่างสีน้ำตาลกับสีทองเหมือนกัน
ในตอนนั้นลูกชายของมิลน์ถามชื่อของลูกหมีจากเขา นักวาดชาวแคนาดาที่อพยพมาอยู่ลอนดอนท่านนี้นึกถึงเมืองวินนิเพ็กบ้านเกิดของตัวเอง เขามีความคิดที่ชาญฉลาดจึงบอกกับลูกตัวเองว่า มันชื่อวินนี่
หลังจากนั้น มิลน์ก็เขียนนิทานให้วินนี่เดอะพูห์ไปหลายตอน ปรากฏว่ามันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากจุดนี้ลูกหมีที่มาจากแคนาดาจึงได้ก้าวไปสู่ระดับโลก
“ที่พวกเราตั้งชื่อนี้ให้กับวินนี่ไม่ใช่เพราะตั้งตามคำว่าลม แต่เป็นเพราะตอนเป็นเด็กวินนี่ดูเหมือนกับลูกหมีซื่อบื้อตัวเล็กๆ จริงๆ เธอชอบกินของหวาน ตัวอ้วนจ้ำม่ำ แถมยังขี้หงุดหงิดอีกต่างหาก ฮ่าๆ” มาริโอ้พูดขึ้นในตอนท้าย ขณะที่กำลังพูดก็ปรากฏสีหน้าของความสุขออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดถึงความทรงจำดีๆ ในตอนที่วินนี่ยังเป็นเด็ก
วินนี่จ้องมองพ่อด้วยความไม่พอใจ เธอยกหมัดขึ้นแล้วตะโกนออกมา “อย่ามาทำลายภาพลักษณ์ของหนูนะ หนูไม่ได้ซื่อบื้อ! แล้วก็ไม่ได้ขี้หงุดหงิดด้วย!”
มาริโอ้ยิ้มพร้อมพยักหน้า เขาพูดขึ้นมา “เอาล่ะๆ เมื่อกี้พ่อแค่พูดไปเรื่อย ใช่แล้วล่ะฉิน นายรู้จักที่มาของชื่อฟอกส์ไหม?”
ฉินสือโอวตอบออกไปด้วยจิตใต้สำนึกว่า “เป็นเพราะเธอสวยแล้วก็ฉลาดเหมือนจิ้งจอกใช่หรือเปล่าครับ?”
ฟอกส์เป็นชื่อสำหรับผู้หญิงที่ชอบใช้กันในอเมริกา มาจากการทับเสียงคำว่า Fox (สุนัขจิ้งจอก) ในใจของชาวอเมริกัน สุนัขจิ้งจอกไม่ใช่หมาตะกละที่ชอบขโมยกินไก่ และก็ไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอกที่ชอบล่อลวงผู้ชาย แต่เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความเฉลียวฉลาดและสง่างาม
มาริโอ้ส่ายหัว เขากล่าวว่า “ไม่ใช่ ฮ่าๆ นายโดนหลอกแล้ว เป็นเพราะวินนิเพ็กมีอำเภอหนึ่งที่ชื่อว่าฟอกส์ เมื่อก่อนพวกเราอาศัยอยู่ที่นั่น!”
คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะออกมา ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ว่าที่พ่อตาขี้เล่นเกินไปแล้ว
มิแรนด้ามองดูเครื่องประดับบนร่างกายของวินนี่แล้วถามขึ้นมา “นี่คือของที่ฉินมอบให้ลูกเหรอ?”
วินนี่พยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ “ใช่แล้วค่ะ เขาเก็บรวบรวมไข่มุกสีดำมาจากทะเล หลังจากนั้นก็ไปนิวยอร์กเพื่อให้หัวหน้านักออกแบบร้านแฟล็กชิพสโตร์ของทิฟฟานี่แอนด์โคเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง สวยไม่ซ้ำกับคนอื่นบนโลกนี้แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นนี่น่าจะเป็นของขวัญที่ฉินใช้ขอหมั้นหนูหรือเปล่า?” มิแรนด้าเอ่ยถามพร้อมกับใบหน้าที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างแรง เขาอยากจะแต่งงานกับวินนี่จริงๆ นี่นา
วินนี่ไม่ได้ตอบคำถามของคุณแม่ในทันที แต่เธอนั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวอย่างสง่างามแล้วจับมือใหญ่ๆ ของเขาไว้ก่อนจะถามเขาออกไป “นี่เป็นของหมั้นจริงๆ หรือเปล่าคะ ที่รัก? ฉันความจำไม่ค่อยดี จำได้ว่าเหมือนจะมีคนพูดว่าของหมั้นเป็นของอย่างอื่น?”
ฉินสือโอวทำได้แค่ยิ้มแหยๆ ตอนนั้นเขาขี้เวอร์เกินไปหน่อย ที่จริงตอนที่วินนี่เห็นเครื่องประดับพวกนี้เธอก็รู้สึกประทับใจมากๆ อยู่แล้ว ถ้าตอนนั้นเขาขอหมั้นก็คงสำเร็จหมื่นเปอร์เซ็นต์ แต่เขาดันบอกเธอว่าต่อไปของหมั้นจะสวยยิ่งกว่าเดิม
ถ้าไม่หาเรื่องใส่ตัวก็คงไม่เดือดร้อนหรอก!
วินนี่เห็นเขายิ้มเจื่อนๆ อย่างจนปัญญาก็ใช้ฟันขาวกัดริมฝีปากสีแดงสดเบาๆ แล้วโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูเขาว่า “ฉันรักคุณนะคะ ที่รัก แต่ฉันยังไม่อยากแต่งงานเร็วขนาดนั้น ถ้าเรามีลูกด้วยกันหนึ่งคน พอถึงตอนที่เขาเดินได้แล้ว ฉันก็จะตกลงแต่งงานกับคุณ ดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวไม่เข้าใจวิธีคิดของวินนี่จริงๆ ผู้หญิงคนอื่นล้วนต้องแต่งงานก่อนถึงจะมีลูก ไม่อย่างนั้นถ้าผู้ชายเล่นด้วยจนเบื่อแล้วหนีไปจะทำยังไงล่ะ? ทว่าวินนี่มีความมั่นใจมาก เธออยากมีลูกด้วยกันก่อนแล้วค่อยแต่งงาน เธอไม่เชื่อว่าฉินสือโอวจะหนีไปไหนได้
ฉินสือโอวรู้สึกไม่สบอารมณ์จึงใช้น้ำเสียงเหมือนกำลังพูดเล่นพูดเรื่องนี้ แต่วินนี่กลับตอบเขาอย่างจริงจังว่า “คุณคือสามีที่ฉันเลือก ไม่ว่าหลังจากนี้จะต้องพบกับอะไร ฉันก็จะอยู่กับคุณจนถึงท้ายที่สุด นอกเสียจากว่าคุณอยากจะทิ้งฉันไปจริงๆ ”
เห็นท่าทางจริงจังของวินนี่ ในใจของฉินสือโอวก็รู้สึกซาบซึ้ง เขาดึงวินนี่เข้ามากอดแล้วพูดกับเธอ “จะเป็นไปได้ยังไง วินนี่ ผมอาจจะยอมทิ้งได้ทุกอย่างรวมถึงฟาร์มปลาต้าฉินด้วย แต่ผมไม่มีวันทิ้งคุณแน่นอน!”
เขาก็ตอบเธอกลับไปอย่างจริงจังเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคลอเคลียกันอยู่ มิแรนด้ากับมาริโอ้ที่ไปซื้ออาหารมาไว้ก่อนแล้วก็พากันเข้าครัวไปทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาทานอาหาร ในที่สุดวินนี่ก็เอาเครื่องประดับล้ำค่าชุดนี้ไปเปลี่ยน ฉินสือโอวผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งครั้ง พอวินนี่เห็นเธอก็ถามเขาอย่างไม่พอใจ “คุณหมายความว่ายังไงคะ? ฉันใส่เครื่องประดับไม่สวย หรือคุณกลัวว่าฉันจะทำมันเปื้อนเวลาทานอาหาร”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ แล้วตอบเธอกลับไป “พูดตามตรงนะครับ ผมกลัวว่าคุณจะไม่ได้ทานอาหารอย่างมีความสุข!”
วินนี่สะบัดผมสีดำอย่างเอาแต่ใจ เธอหันไปพูดกับเขา “ฉันแค่ไม่อยากจะไปกระตุ้นฟอกส์ นางปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นต่างหาก! ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่าฉันเคยเป็นครูสอนมารยาทของแอร์โฮสเตสสายการบินแอร์แคนาดามาก่อน ดังนั้นต่อให้ใส่หมวกเหล็กกับเสื้อเกาะฉันก็ทานอาหารได้อย่างสง่างามและเป็นธรรมชาติ!”
“คุณเก่งจริงๆ แต่นี่คืองานเลี้ยงอาหารค่ำที่ไหนกัน นี่มันมื้อค่ำในครอบครัวของคุณเองนะ!” ฉินสือโอวหมดคำจะกล่าว
…………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 616 ของหมั้นไง
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!