ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 619 ภัยร้ายของปลาแบมบูซ่า

พอคิดถึงบ้าน ฉินสือโอวก็โทรศัพท์ไปหา ตอนนี้ที่บ้านเป็นเวลาพลบค่ำ พ่อกับแม่ยังไม่ได้พักผ่อนแน่นอน ปกติทุกๆ ครั้งเขาก็จะโทรไปเวลานี้ พ่อกับแม่ที่บ้านจึงเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว
พ่อของเขาดูมีกำลังวังชาไม่เบาเลย ในสายโทรศัพท์ก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมาตลอดเหมือนบูลที่สูบกันชาเมื่อก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
“แกไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้านหรอก ตอนนี้เปิดห้องเย็นกับโรงงานกระป๋องแล้วล่ะ หัวหน้าหมู่บ้านติดต่อตลาดไปหลายที่แล้ว เราไปเปิดพวกร้านขายของที่นั่นได้ ไม่กี่วันก่อนที่โรงงานก็ผลิตพวกพีชกระป๋อง พลัมกระป๋องออกมาบางส่วนแล้ว ถ้าแกกลับมาเมื่อไรก็มาชิมดูได้ อร่อยมากจริงๆ ”
ที่บ้านอยู่กันอย่างแข็งแรงและมีความสุขฉินสือโอวก็รู้สึกวางใจ เขาบอกให้พ่อส่งโทรศัพท์ให้กับแม่ แต่พ่อบอกว่าแม่ยังทำงานอยู่ที่ฟาร์มปลา
ฉินสือโอวรู้สึกงงงวยจึงถามออกไป “ฟาร์มปลา? ที่บ้านก็มีฟาร์มปลาเหรอครับ?”
พ่อหัวเราะฮ่าๆ แล้วบอกกับเขา “ฟาร์มปลาเล็กๆ ไง ก็ลำน้ำตรงนั้นของแม่น้ำไป๋หลงนั่นแหละ ข้างในก็เลี้ยงปลาทองกับกุ้งเครย์ฟิชอะไรพวกนั้นไว้ไม่ใช่เหรอ? แบบนั้นก็เป็นฟาร์มปลาแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ฉินสือโอวคุยกับพ่อต่ออีกไม่กี่คำก็หัวเราะแล้ววางสายไป แบบนั้นมันจะนับว่าเป็นฟาร์มปลาอะไรได้? มันแทบจะไม่ต่างกับบ่อปลาด้วยซ้ำ เอาไว้ให้พ่อกับแม่ทำฆ่าเวลาแล้วกัน ยังไงซะงานในฟาร์มปลาก็สบายกว่างานที่ไร่ ถึงยังไงก็ไม่ได้ต้องการปลาจากบ่อสักเท่าไรอยู่แล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อความผ่อนคลายมากกว่าทำเพื่อหาเงิน
แต่ถ้าบ่อปลามีผลผลิตก็จะยิ่งดี พ่อกับแม่ได้ดูแลบ่อปลาถึงจะมีกำลังใจมากขึ้น ถ้าปีนี้หาเงินจากบ่อปลาไม่ได้ คิดว่าพวกท่านก็คงจะกลับไปปลูกธัญพืชและทำสวนผักเหมือนเดิม
ดังนั้นฉินสือโอวจึงส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปที่บ่อปลา เตรียมตัวถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้พวกกุ้งกับปลา เขาเคยควบคุมปลาในบ่อจำนวนมาก พอๆ กับที่เคยระบุพิกัดไว้ให้ตัวเอง
บ่อปลาก็มีน้อยนิดแค่นั้น ตอนนี้พื้นที่ว่างในการควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวขยายใหญ่มากแล้ว พอเขาเคลื่อนย้ายไป ทุกสิ่งในบ่อปลาก็ตกอยู่ภายใต้ขอบเขตการควบคุมของเขาทันที
ที่มีอยู่เยอะที่สุดก็คงจะเป็นพวกปลาทองกับปลาเฉาฮื้อที่เอามาปล่อยเลี้ยงในบ่อ นอกจากนี้ยังมีปลาไหลนา ปลากุ้ย ปลาทรายแดง ปลาดุกหัวเหลืองและปลาแม่น้ำชนิดอื่นๆ ทว่ามีจำนวนน้อยมาก และเนื่องจากการจับปลาของมนุษย์ พวกมันจึงเรียนรู้จนฉลาดเฉียบแหลมและพากันซ่อนตัวอยู่ใต้ก้นแม่น้ำเสียส่วนใหญ่
กุ้งมังกรที่นำมาปล่อยเลี้ยงเมื่อก่อนหน้านี้ก็พบเห็นได้ไม่มากนัก ใต้ก้นแม่น้ำกับข้างใต้ริมฝั่งแม่น้ำปรากฏให้เห็นเป็นรูเล็กๆ จำนวนมาก ฉินสือโอวจึงรู้ว่าพวกกุ้งเครย์ฟิชอาศัยอยู่ที่ตรงนั้น
สาหร่ายกับพืชน้ำที่อยู่ในแม่น้ำสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเขียวชอุ่มภายใต้การกระตุ้นของพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนและเป็นแหล่งผลิตอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับปลาเฉาฮื้อ ปลาทองกับกุ้งเครย์ฟิช และยังเป็นที่ซ่อนให้กับพวกมันอีกด้วย ปลาจำนวนมากจึงเบียดเสียดกันอยู่ในพืชน้ำเหล่านั้น…
ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันแปลกๆ บ่อปลาไม่ใช่ฟาร์มปลา ลำน้ำไม่ใช่มหาสมุทร ที่นี่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นศัตรูทางธรรมชาติของพวกปลาเฉาฮื้อกับปลาทองเลย แล้วทำไมพวกลูกกุ้งลูกปลาพวกนี้ถึงต้องซ่อนตัวอยู่ในพืชน้ำด้วยล่ะ?
ฉินสือโอวรีบตรวจสอบบริเวณนี้ทันที การตรวจสอบครั้งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นมา ในส่วนที่ลึกที่สุดบริเวณตรงกลางลำน้ำมีปลาสีเทาขาวขนาดใหญ่กำลังเล่นกันอยู่สามสี่ตัว
ปลาพวกนี้มีลำตัวเรียวยาวและค่อนข้างแบนเล็กน้อย ส่วนท้องกลมกลึงและล้วนมีความยาวมากกว่าครึ่งเมตร หัวของมันยาวและมีส่วนปลายที่แหลม นอกจากนี้ยังมีปากใหญ่และแหลมยาว ขณะที่กำลังว่ายน้ำก็เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ดูมุทะลุดุดันและโหดร้ายมาก
ในตอนนี้ลูกปลาทองหนึ่งฝูงกำลังว่ายน้ำข้ามมาจากด้านบน หลังจากค้นพบลูกปลาทอง ปลาใหญ่ลำตัวเรียวยาวที่กำลังว่ายน้ำเล่นก็พากันหยุดลงทันที พวกมันจับจ้องลูกปลาทองตาเป็นมัน แค่ครู่เดียวก็บุกเข้าไปเหมือนยิงลูกธนูแหลมดัง ‘ฟึบ’!
ปากใหญ่แหลมยาวอ้าออก เมื่อปลาใหญ่งับปากกัดหนึ่งครั้ง ปลาทองตัวเล็กตัวหนึ่งก็ตกเข้าไปในปากมันทันที
ฝูงลูกปลาทองหนีเตลิดด้วยความตื่นตระหนก ปลาใหญ่หลายตัวไล่ตามฆ่าพวกมันอยู่ข้างหลังอย่างไม่ลดละ เมื่อกินลูกปลาทองเข้าไปทั้งหมดยี่สิบกว่าตัวแล้วพวกมันถึงได้สะบัดหัวสะบัดหางว่ายลงไปใต้น้ำ เหลือทิ้งไว้เพียงฝูงปลาเฉาฮื้อกับปลาดุกที่ซ่อนตัวอยู่ในพืชน้ำพร้อมร่างสั่นเทิ้ม
ฉินสือโอวคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอด ตอนแรกเขายังไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่พอได้เห็นท่าทางการล่าอาหารของปลาใหญ่สี่ตัวนี้ เขาจึงมั่นใจแล้วว่าปลาพวกนี้คือปลาอะไร จอมเผด็จการแห่งปลาน้ำจืด ปลาแบมบูซ่า!
ที่บ้านเกิดของเขา ปลาแบมบูซ่ามีชื่อเรียกทั่วไปว่าปลาก่านจื่อหุน ปลาชนิดนี้มีนิสัยดุร้ายมาก เป็นปลาประเภทที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร ขอแค่เป็นปลาที่มีขนาดเล็กกว่าพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นปลาอะไรพวกมันก็กินได้ทั้งนั้น ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าเป็นศัตรูทางธรรมชาติของผู้เลี้ยงปลาน้ำจืด
ฉินสือโอวจำได้ว่าปีที่เขาอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่สาม เกษตรกรที่อยู่ติดกับหมู่บ้านของเขาสร้างบ่อปลาเพื่อรับเอาปลาคาร์ฟมาเพาะเลี้ยง เกษตรกรคนนั้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาเลยแม้แต่น้อย หลังจากเอาลูกพันธุ์ปลามาปล่อยแล้วก็กำหนดเวลามาโปรยอาหารปลาลงไปในบ่อ สุดท้ายพอต้องการจะจับปลา กลับพบว่าในบ่อมีปลาคาร์ฟอยู่เพียงไม่เท่าไร!
ในตอนนั้นรอบๆ ตัวเขาต่างพูดเรื่องนี้ต่อกันตื่นตระหนก บางคนก็บอกว่าถูกโจรขโมยปลาไป บ้างก็ว่าที่ใต้บ่อปลามีทางน้ำอยู่ สุดท้ายกรมการเกษตรและป่าไม้ของอำเภอจึงส่งคนมาลากอวนตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าปลาสองตัวที่จับขึ้นมาจากในบ่อล้วนแต่เป็นปลาแบมบูซ่าที่มีความยาวกว่าครึ่งเมตรทั้งคู่
เป็นปลาแบมบูซ่าสองตัวนี้นี่เองที่กินปลาคาร์ฟในบ่อจนหมดภายในหนึ่งปี นี่จึงแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและน่ากลัวของปลาชนิดนี้
นับตั้งแต่นั้นมา ที่บ้านเกิดของฉินสือโอวถ้ามีคนต้องการเลี้ยงปลาอีก พวกเขาก็จะหว่านแหตรวจสอบบริเวณบ่อปลาให้แน่ใจก่อนหนึ่งรอบ เพราะกลัวว่าจะมีปลาแบมบูซ่าแฝงตัวอยู่นั่นเอง ตอนที่ฉินสือโอวล้อมลำน้ำแห่งนี้เขาก็เคยตรวจสอบมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นในแม่น้ำแห่งนี้ไม่ได้มีพวกปลากินเนื้ออยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว
ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นแล้ว ปลาแบมบูซ่าสี่ตัวนี้มาจากไหนกัน? ด้านหน้าและด้านหลังลำน้ำแห่งนี้ถูกกั้นตาข่ายไว้อย่างมิดชิด ปลาแบมบูซ่าก็คงไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ ถ้างั้นนอกจากถูกคนเจตนาไม่ดีเอามาปล่อย ฉินสือโอวก็คิดถึงความเป็นไปได้ข้ออื่นไม่ออกแล้ว
การค้นพบครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกโมโหมาก การปล่อยปลาแบมบูซ่าเป็นวิธีที่คนแถวบ้านเขานำมาใช้ทำร้ายบ่อปลาคนอื่นบ่อยที่สุด เมื่อก่อนจะใช้การวางยา แต่การวางยาในบ่อปลาจะสามารถจับคนทำได้อย่างง่ายดาย ถึงอย่างไรถ้าหากต้องการฆ่าปลาทั้งหมดในบ่อ ก็จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นจำนวนไม่น้อย
แต่การปล่อยปลาแบมบูซ่าลงไปในบ่อปลาไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย แม่น้ำกับทะเลสาบแห่งใหญ่ที่บ้านเกิดของเขาก็มีปลาชนิดนี้ทั้งนั้น ถ้าอดทนหน่อยก็ตกขึ้นมาได้แล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นคนทำ หัวใจโพไซดอนก็ช่วยเรื่องนี้ไม่ได้
ดังนั้นฉินสือโอวจึงทำได้เพียงควบคุมปลาแบมบูซ่าสี่ตัวนี้ให้กระโดดขึ้นไปบนฝั่ง นับว่าเป็นการเตือนพ่อกับแม่ให้ระวัง หลังจากนี้พวกเขาจะได้ระวังตัวหน่อย
พอไม่มีการคุกคามของปลาแบมบูซ่า ลำน้ำก็คึกคักขึ้นมาทันที ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าสู่ร่างกายของปลากับกุ้งพวกนี้ ปลาที่ซ่อนตัวอยู่ในพืชน้ำจึงว่ายน้ำออกมาทันทีแล้วไล่กินแพลงก์ตอนที่อยู่บนผิวน้ำเป็นอาหาร
นอกจากนี้กุ้งเครย์ฟิชที่ซึมซับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปแล้วก็มุดออกมาจากหลุมเลนใต้แม่น้ำเช่นเดียวกัน พวกมันเข้าไปในดงพืชน้ำแล้วเลือกที่ที่ปลอดภัยก่อนจะเริ่มลอกคราบ
กุ้งมังกรเจริญเติบโตได้เร็วมาก เลี้ยงมาแค่หนึ่งไตรมาสกุ้งพวกนี้ก็โตจนมีขนาดความยาวถึงเจ็ดแปดเซนติเมตรแล้ว ทุกๆ ตัวล้วนอ้วนท้วนสมบูรณ์ ก้ามทั้งสองข้างแข็งแรงทนทาน เปลือกบนร่างกายเป็นสีแดงเข้มจนออกดำ แถมยังแต่งแต้มด้วยความชุ่มชื้นแวววาวจนดูน่าดึงดูดมากจริงๆ
ว่ากันตามปกติทั้งชีวิตกุ้งเครย์ฟิชจะลอกคราบหลายสิบครั้งจนถึงตอนที่โตเต็มวัย ฉินสือโอวเห็นว่าบนพืชน้ำมีเปลือกกุ้งเครย์ฟิชแขวนอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าผ่านไปอีกเดือนสองเดือนก็คงจะส่งกุ้งเครย์ฟิชพวกนี้ไปขายได้แล้ว
หลังจากได้รับบทเรียนจากปลาแบมบูซ่า ฉินสือโอวก็ตรวจสอบบริเวณลำน้ำอีกรอบ จนกระทั่งมั่นใจว่าไม่มีสัตว์ที่เป็นอันตรายกับปรสิตฝูงใหญ่แล้วเขาถึงได้ดึงจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับมา
แต่เมื่อรู้ว่ามีคนคิดร้ายกับฟาร์มปลาของตัวเอง ต่อไปนี้เขาจะต้องเข้าไปตรวจสอบดูบ่อยๆ แล้ว
ในครั้งนี้ปลาแบมบูซ่าทำร้ายบ่อปลาจนบ่อปลาพังยับเยินพอแล้ว ปลาทั้งสี่ตัวโตจนมีความยาวถึงหนึ่งเมตร มันต้องกินปลากับกุ้งเข้าไปมากแค่ไหนกัน? ถ้าหากเขาไม่ได้โชคดีบังเอิญเข้ามาตรวจสอบพอดี คาดว่ารออีกแค่เดือนเดียวปลากับกุ้งในบ่อก็คงไม่เหลือแม้แต่เงาให้เห็นแล้ว!
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset