เพราะการดำรงอยู่ของน้ำตกก่อให้เกิดไอน้ำปริมาณมาก บริเวณพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดกับไนแอการาจึงมีสวนองุ่นอยู่หลายแห่ง
กวาดตามองไปรอบๆ บนพื้นทุ่งกว้างราบเรียบมีเครือต้นองุ่นสีเขียวถูกปลูกเอาไว้ สวนองุ่นปรากฏให้เห็นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ต้นองุ่นที่มีความสูงเท่ากันทอดตัวยาวออกไปไกล เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ลมพัดใบไม้สีเขียวลอยละล่องส่งเสียงหวีดหวิว
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้อพยพชาวฝรั่งเศสที่มาทำสวนปลูกองุ่นอยู่ที่นี่ มีป้ายบอกทางกับป้ายสวนองุ่นบนถนนจำนวนมากที่เป็นภาษาฝรั่งเศส ดังนั้นจึงทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนอยู่ที่หมู่บ้านในฝรั่งเศสได้อย่างง่ายดาย
รัฐออนแทรีโอเป็นพื้นที่เพาะปลูกองุ่นที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา เนื่องจากแฮมิลตันอยู่ใกล้กันกับทะเลสาบออนแทรีโอและทะเลสาบอิรี ดังนั้นอุตสาหกรรมการเพาะปลูกองุ่นจึงเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของรัฐออนแทรีโอ การพบเห็นสวนองุ่นตามถนนจึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก
บ่ายหนึ่งพระอาทิตย์กำลังร้อนระอุ รถยนต์ขับเข้ามาใกล้น้ำตก ห่างออกไปไกลๆ ก็สามารถได้ยินเสียงดังอึกทึกอันทรงพลังของกระแสน้ำที่เหมือนกับเสียงตีกลองได้
ทั้งสี่คนไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขาสั่งน้ำองุ่นเย็นมาเล็กน้อยพร้อมลิ้มรสปลากะพงลาย (ปลากะพงหมาป่าลาย) ที่มีอยู่มากในน้ำตกไนแอการา
นิสัยของปลาชนิดนี้ก็เหมือนกับชื่อของมันนั่นแหละ มันกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง เวลาอพยพก็สามารถกระโดดจากบนน้ำตกลงไปยังบึงน้ำข้างล่างได้โดยไม่ตาย เพียงแต่ชาวบ้านในพื้นที่จะพากันทอดแหจับมันจากแม่น้ำบริเวณรอบๆ น้ำตก พวกมันสามารถกระโดดจากน้ำตกลงมาได้แต่กลับไม่สามารถกระโดดออกไปจากแหจับปลาได้
ร้านอาหารที่พวกเขาไปเป็นร้านที่เจ้าของคนจีนมาเปิดซึ่งมีชื่อเสียงในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าของร้านใช้เทคนิคอาหารจีนแบบโบราณ นั่นก็คือปลากะพงเก้าอย่าง ชาวต่างชาติให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก พวกเขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การทำอาหาร แต่มันคือการใช้ปลากะพงมาทำเป็นวัตถุดิบสำหรับงานศิลปะ
ปลากะพงลายขนาดใหญ่หนึ่งตัวสามารถโตได้ถึง 1-2 เมตรครึ่ง ดังนั้นจึงเพียงพอสำหรับทำเป็นอาหารหลากหลายชนิดเพื่อนำมารับประทาน
ในฟาร์มปลาของฉินสือโอวก็มีปลากะพงลายอยู่เหมือนกัน แต่จำนวนค่อนข้างน้อย ปลาชนิดนี้มีชีวิตอยู่ในมหาสมุทรน้ำเค็ม แต่จะเข้าไปวางไข่ในน้ำจืด
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าปลาที่ยังไม่วางไข่ถึงจะมีรสชาติดี ดังนั้นหากจะทานปลากะพงลายก็ต้องทานที่จับมาจากน้ำจืด ปลากะพงลายที่อยู่ในมหาสมุทรถ้าไม่ใช่พวกที่ไม่ได้ตกไข่ก็เป็นปลาที่วางไข่แล้วกลับมาที่มหาสมุทร
ทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อย ฉินสือโอวก็รู้สึกตื่นเต้นคึกคักขึ้นมา ก้าวต่อไปจะเข้าสู่อาณาเขตของน้ำตกไนแอการาซึ่งจะได้เห็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงก้องโลกเป็นอันดับหนึ่งแล้ว
แท้ที่จริงแล้วน้ำตกไนแอการาไม่ใช่แค่น้ำตกแห่งเดียว ชาวแคนาดาบอกว่ามันประกอบขึ้นจากน้ำตกสองแห่งคือ ‘น้ำตกแคนาดา’ และ ‘น้ำตกอเมริกา’
ชาวอเมริกาไม่ได้คิดอย่างนี้ พวกเขาแบ่งน้ำตกออกเป็นสามส่วน ส่วนที่หนึ่งแบ่งเป็น ‘น้ำตกแคนาดา’ หรือก็คือน้ำตกฮอร์สชู เป็นส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของน้ำตกไนแอการา อีกสองส่วนที่เหลือเป็นส่วนที่อยู่ในอเมริกา แบ่งออกเป็น ‘น้ำตกอเมริกา’ กับ ‘น้ำตกไบรดัลเวล’
‘ไบรดัลเวล’ ตั้งอยู่ด้านข้าง ‘น้ำตกอเมริกา’ ที่กว้างขวาง มันเป็นเพียงน้ำสายเล็กๆ เท่านั้น ที่แคนาดาจะมองไม่เห็น ดังนั้นชาวแคนาดาจึงไม่แยกมันออกมาโดยเฉพาะ ถึงน้ำตกแห่งนี้จะมีขนาดเล็ก ทว่ามันก็แยกตัวเป็นเอกเทศ ดังนั้นชาวอเมริกาจึงประกาศความเป็น ‘เอกเทศ’ ของมัน ‘ให้รู้ทั่วกันอย่างเป็นทางการ’
ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ชาวอเมริกาจะกระตือรือร้นที่จะแบ่งแยกน้ำตกไนแอการาเป็นส่วนๆ มากกว่า แต่ถ้าหากอยากเยี่ยมชมน้ำตกไนแอการาก็ยังต้องมาดูที่แคนาดา ที่นี่ถึงจะสามารถเที่ยวชมน้ำตกได้ครบทุกมุม ซึ่งในฝั่งประเทศอเมริกามีเพียงด้านข้างของน้ำตกไนแอการาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้
เวลาประมาณบ่ายสอง ภายใต้ความร้อนระอุของแสงแดดที่แผดเผา ทั้งสี่คนก็ลงมาจากรถเพื่อเข้าสู่ด้านในของศูนย์การท่องเที่ยว
ถึงจะบอกว่าเป็นศูนย์การท่องเที่ยว แต่แท้จริงแล้วสถานที่แห่งนี้ก็คือเขตพื้นที่การท่องเที่ยวนั่นเอง มันไม่ได้มีถนนหนทางที่ครอบคลุมจนทั่ว บริเวณรอบๆ มีกระท่อมและอาคารขนาดเล็กที่ถูกสร้างเอาไว้อย่างยุ่งเหยิงและรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ส่วนใหญ่แล้วเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเกม
ช่วงสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในศูนย์กลางการท่องเที่ยวคึกคักมาก สามารถพบเห็นผู้คนได้ทุกสีผิว ที่นี่ก็เหมือนกับการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาตินั่นแหละ มีคนขาว คนดำและคนผิวเหลืองแฝงกายรวมตัวกันอยู่ที่นี่เต็มไปหมด หลายๆ ครั้งก็จะพบกับชาวอาหรับหรือไม่ก็ชาวอเมริกาใต้ที่แต่งตัวอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผู้คนต่างก็เดินขวักไขว่ไปมาอย่างคับคั่ง
เนื่องจากบริเวณโดยรอบมีสิ่งก่อสร้างอยู่เป็นจำนวนมากทั้งยังมีการจัดแต่งพื้นที่สีเขียวที่ดี มีต้นเมเปิลกับต้นฉำฉาจีนสูงใหญ่อยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นจึงไม่สามารถมองเห็นน้ำตกได้โดยตรง ทว่าเสียงคำรามของน้ำตกก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเดินตามเสียงน้ำไปหาน้ำตกได้เลย
พอเดินตามกลุ่มคนผ่านหลายแยกไปแล้ว อยู่ๆ ก็ต้องเลี้ยวโค้ง ฉินสือโอวยังไม่ทันได้เตรียมตัวให้ดี น้ำตกก็เปิดม่านที่ปกคลุมโฉมหน้าของมันออกมาและเผยให้เห็นโฉมหน้าที่ทั้งเขินอายและคลุ้มคลั่งของมัน!
ด้านหลังของศูนย์การท่องเที่ยวมีแม่น้ำที่ลึกมากๆ อยู่หนึ่งสาย ทางน้ำทอดตัวยาวกว่าร้อยเมตร ฝั่งหนึ่งคือผืนดิน ส่วนอีกฝั่งคือชั้นหินขาดที่โอ่อ่าอลังการ
น้ำไหลเชี่ยวกรากจากบนชั้นหินขาดพร้อมส่งเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น กระแสน้ำดุจเส้นไหมสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนสาดซัดปะทะเข้าหากันอยู่ท่ามกลางทางน้ำไหล มันซัดลงมาจากด้านบนชั้นหินขาด ไหลกระหน่ำลงมาตามแนวเขาสูงชัน พลังมหาศาลที่ดุจดั่งขุนเขาโหมถล่มและมหานทีไหลทะลัก หลังจากฉินสือโอวได้เห็นแล้วก็อดที่จะอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงไม่ได้…
ตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขาในตอนนี้ยังห่างจากน้ำตกอยู่อีกไกล ดังนั้นเนื่องจากเมื่อสักครู่มีอาคารและต้นไม่มาบดบังไว้ พวกเขาจึงมองไม่เห็นน้ำตกใหญ่แห่งนี้ แต่ถึงจะยังห่างอยู่อีกไกล ภาพอันโอ่อ่าที่ยิ่งใหญ่ดั่ง ‘ทางช้างเผือกจะร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า’ ก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกตื่นตะลึงได้แล้ว
เบิร์ดจ่ายเงินจ้างพ่อค้าเร่ที่มาเป็นไกด์นำเที่ยวในเวลาว่างมาหนึ่งคน และพาพวกเขาทั้งสี่คนเดินเข้าไปบนถนนเพื่อเข้าใกล้น้ำตก
เงินก้อนนี้ไม่ได้เสียไปเปล่าๆ หลังจากพ่อค้าเร่เดินข้ามมาจับมือทำความรู้จักกับฉินสือโอวและคนอื่นๆ แล้ว เขาก็ไปซื้อที่อุดหูมามอบให้กับพวกเขาทั้งสี่คน ขณะเดียวกันก็ยังมีเสื้อกันฝนอีกสี่ชุดด้วย
อากาศร้อนมาก สวมเสื้อกันฝนภายใต้สถานการณ์แบบนี้ก็เหมือนหาเรื่องทรมานตัวเอง ทว่าพ่อค้าเร่ก็ยังโน้มน้าวให้พวกเขาสวมใส่มัน เขากล่าวว่า “ผมจะพาพวกคุณเข้าไปดูใกล้ๆ ด้านหน้าสักหน่อย เพราะงั้นจำเป็นต้องใส่เสื้อกันฝนนะครับ แล้วหลังจากพวกที่พวกคุณสวมที่อุดหูแล้ว พวกคุณต้องคอยดูท่าทางมือของผมอยู่ตลอดเวลาด้วย เข้าใจใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวบอกกับเขาว่าโอเค ทั้งสี่คนใส่ที่อุดหูและสวมเสื้อกันฝนลงไป จากนั้นก็หาทางเดินเส้นเล็กเข้าใกล้แม่น้ำจากน้ำตก
น้ำตกไนแอการาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก บุกเบิกการท่องเที่ยวมาเกือบสองร้อยปี สิ่งอำนวยความสะดวกและวิถีการชื่นชมความงามของการท่องเที่ยวก็เติบโตอย่างเต็มที่แล้ว สามารถนั่งเรือ เคเบิลคาร์ เฮลิคอปเตอร์ บอลลูนอากาศร้อนได้
กระทั่งว่าท่ามกลางแม่น้ำจากน้ำตกยังมีหอคอยที่มีความทนทานตั้งตระหง่านอยู่ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนหอคอยเพื่อน้ำตกที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อมองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลำเล็กสองลำที่บินผ่านหัวไป ฉินสือโอวก็พูดเสียงดัง “สำนักการท่องเที่ยวที่นี่หาเงินเก่งจริงๆ ไม่ต้องกลัวว่าเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพัดละอองน้ำจนเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างเหรอ? แล้วแบบนี้มีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้พวกเราขับเฮลิคอปเตอร์เข้ามา?”
เบิร์ดจึงอธิบายให้เขาฟัง “ไม่ครับ บอส มีเหตุผลหลายอย่างเลยที่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ หนึ่งในนั้นรวมถึงเรื่องที่เฮลิคอปเตอร์ของพวกเราไม่ได้ใช้วัสดุกั้นเสียงด้วย พอมาถึงที่นี่เสียงรบกวนในห้องเคบินจะดังแสบหูมาก วิทยุสื่อสารจะใช้งานไม่ได้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะไม่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ฉินสือโอวพยักหน้า เขาถึงบางอ้อในฉับพลัน ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
ไกด์พาทั้งสี่คนขึ้นไปบนสะพานสายรุ้งที่มีชื่อเสียงก่อนเป็นอันดับแรก เขาชี้ไปด้านหน้าแล้วตะโกนพูดเสียงดัง “ดูสิ ตอนนี้พวกกำลังยืนอยู่ข้างๆ ประเทศมหาอำนาจ ถ้าหากพวกเรากางขาออกจากจุดนี้กว้างๆ หน่อย พวกเราก็จะสามารถเหยียบอยู่บนดินแดนของอเมริกากับแคนาดาได้ในเวลาเดียวกัน”
ที่นี่ก็คือเส้นแบ่งเขตของแคนาดาและอเมริกา แต่ว่าเส้นแบ่งเขตแดนก็ไม่ได้ชัดเจนนัก แค่อยู่บนถนนบางส่วนเท่านั้น ทางฝั่งนี้ปักธงประดับดาราแพรวพราวสีสันสวยงามเอาไว้ ส่วนทางนั้นก็มีธงชาติรูปใบเมเปิลสวยงามกำลังปลิวไสวให้บรรดานักท่องเที่ยวได้มีมาตรฐานในการตัดสินก็พอแล้ว
ฉินสือโอวและคนอื่นๆ สามารถลอดผ่านสะพานสายรุ้งไปได้ หลังจากนั้นก็จะสามารถไปดูช่วงน้ำตกอเมริกากับช่วงน้ำตกไบรดัลเวลของน้ำตกไนแอการาได้แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้รู้สึกสนใจสักนิด น้ำตกทั้งสองแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก อีกทั้งยังต้องเดินไปตั้งไกลถึงจะได้ดู แถมพวกเขายังไม่มียานพาหนะอีก ดังนั้นมันจึงสู้การสังเกตดูส่วนสำคัญของน้ำตกไนแอการาอย่างละเอียดไม่ได้ และแค่น้ำตกแคนาดาก็คงเพียงพอแล้ว
หลังจากเข้าใกล้น้ำตกแล้ว กระแสน้ำหลากสีขาวเงินก็ไหลเอียงซัดสาดลงมาจากบนท้องฟ้าอย่างดุดัน กระทบเข้ากับหินก้อนใหญ่หลายๆ ก้อนแล้วส่งเสียงดังลั่นเหมือนเสียงฟ้าผ่าออกมา นี่ก็คือที่มาของชื่อน้ำตกไนแอการา ในภาษาอินเดียนแดง มันมีความหมายว่า ‘เสียงแห่งเทพเจ้าสายฟ้า’ นั่นเอง
เสียงน้ำดังสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นออกไปรอบทิศ หยดน้ำที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นก็ไหลหยดลงมาเหมือนกับสายฝนที่โปรยลงมาบนร่างกายของพวกเขาทั้งสี่คน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไกด์ถึงได้ยืนกรานให้พวกเขาใส่เสื้อกันฝน ถ้าหากไม่มีเสื้อกันฝนล่ะก็ พวกเขาคงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากันทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน้ำที่หนาวเย็นเป็นอย่างยิ่งแบบนี้ตกกระทบลงบนตัวคน มันก็เหมือนกับเกล็ดน้ำแข็งดีๆ นี่เอง เพราะมันทั้งหนาวเย็นทั้งเจ็บปวด ทว่ามันก็รู้สึกดีสุดๆ เหมือนกัน…
………………………………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 634 ทางช้างเผือกสวรรค์ชั้นเก้า
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!