ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 636 ไม่ใช่หมาพันธุ์ดัง

แสงเรืองรองบนท้องฟ้าลอยกระเพื่อมอยู่ท่ามกลางละอองน้ำ แสงแดดส่องลงมาได้องศาของมันพอดี ด้านบนของน้ำตกกว้างใหญ่มีสีสันสดใสสีต่างๆ ส่องสว่างขึ้นมา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉินสือโอวได้เห็นสะพานสายรุ้ง สะพานสายรุ้งที่มีสีสันงามตาสวยงามอย่างเหนือชั้น!
แดงแสดเขียวฟ้าครามม่วง ละอองน้ำลอยตลบไปทั่วทุกสารทิศขณะที่สีสันเหล่านี้พลิกสลับไปมาอย่างช้าๆ ดูราวกับเส้นด้ายสีรุ้งที่กำลังปลิวสะบัด
ทุกๆ คนต่างก็โห่ร้องด้วยความดีใจ ทั้งยังพากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้ด้วย
ฉินสือโอวก็ยกมือถือขึ้นมาเหมือนกัน แต่ยกขึ้นมาเพื่อวิดีโอคอลไปหาวินนี่
“ไฮ ที่รัก ตอนนี้คุณ… โอ้ พระเจ้า สวยจริงๆ เลย! คุณอยู่ที่ไหนคะ? น้ำตกไนแอการาใช่ไหม? ฉันไม่เคยเห็นสายรุ้งที่สวยอลังการขนาดนี้มาก่อนเลย! พระเจ้า สวยเกินไปจริงๆ! ที่รักคะ มันสวยมากจริงๆ!”
เสียงแหลมเล็กของวินนี่ดังออกมาทันที
เหมาเหว่ยหลงมองดูฉินสือโอวพร้อมด่าเขา “แม่มเอ๊ย แกกลายเป็นนักปราชญ์ด้านความรักตั้งแต่ตอนไหนวะ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกหาเมียได้เร็วกว่าฉัน เพราะแบบนี้นี่เอง!”
พอพูดจบเขาก็รีบเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมา จากนั้นก็รีบกดส่งคำขอวิดีโอคอลไปหาหลิวซูเหยียนทันที
ทางด้านโอวหยางไห่ค่อนข้างวุ่นวายนิดหน่อย เขาหยิบมือถือขึ้นมาพลิกไปพลิกมาแล้วเงยหน้ามองฟ้าเงียบๆ ฉันยังโสดอยู่เลยนี่หว่า ช่างเถอะ ตามสบายเลย หาสาวที่รู้สึกว่าพอใช้ได้มาดูวิวสวยๆ ผิดหูผิดตานี่สักคนก็แล้วกัน
ฉินสือโอวหมุนกล้องมือถือไปรอบๆ วินนี่ก็พูดกับเขาด้วยความรู้สึกเสียดาย “ที่รักคะ ขอโทษมากๆ เลยนะคะ ฉันหวังจริงๆ ว่าตอนนี้ฉันจะได้อยู่ข้างๆ คุณ ถ้าพวกเราอยู่ด้วยกัน มันจะต้องสวยยิ่งกว่าเดิมแน่!”
ฉินสือโอวแย้มรอยยิ้มพูดกับเธอ “ไม่หรอกครับ ที่รัก ตอนนี้คุณก็อยู่ข้างๆ ผมแล้ว ผมรักคุณ!”
ดวงตาของวินนี่ส่องประกายระยิบระยับขึ้นมาทันที เธออ้าปากสีแดงเชอร์รี่ท่าทางเหมือนกำลังจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่หลายครั้ง เห็นว่าในจอภาพมีเพียงสายรุ้งสวยงามละลานตาแต่ไม่มีฉินสือโอว เธอก็กระทืบเท้าอย่างอารมณ์เสียแล้วด่าเขาออกมา “ตาทึ่ม!”
สายรุ้งอยู่บนท้องฟ้าได้ประมาณครึ่งชั่วโมง พอพระอาทิตย์เอียงไปทางทิศตะวันตก มันถึงค่อยๆ จางลงแล้วหายไปในที่สุด
ถึงแม้สายรุ้งจะหายไปแล้ว ทว่าความรู้สึกของนักท่องเที่ยวก็ยังตื่นเต้นอยู่มาก พวกเขาต่างก็พากันพูดคุยถึงความน่ามหัศจรรย์ของละอองน้ำครั้งนี้
กลุ่มของฉินสือโอวย่ำลงไปบนเส้นทางขากลับ พอกลับมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่โรงแรมพวกเขาก็บินมุ่งหน้าไปสู่ทิศตะวันออกทันที จุดหมายต่อไปก็คือบ้านของเขานั่นเอง
โอวหยางไห่ไม่เคยมาฟาร์มปลาของฉินสือโอว เมื่อมองลงมาที่เกาะแฟร์เวลจากบนเฮลิคอปเตอร์เขาก็เอ่ยปากชมขึ้นมาทันที “นี่เป็นดินแดนในอุดมคติจริงๆ ! แสงอาทิตย์สาดส่องยามเย็น เรือประมงกลับเข้าท่า นี่ให้อารมณ์ที่แตกต่างกับฟาร์มไปอีกแบบเลย!”
“เป็นยังไงบ้าง? อยากซื้อฟาร์มปลาสักที่ไหม? ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลยนะ หาฟาร์มปลาดีๆ ให้พี่ได้แน่” ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ
โอวหยางไห่จริงจังขึ้นมาแล้ว เขาคิดๆ ดูแล้วก็พูดขึ้นมา “นายมีแหล่งที่เหมาะๆ บ้างไหม? ถ้าพอใช้ได้ ฉันก็อยากจะซื้อฟาร์มปลาสักที่จริงๆ ไม่เอาที่ใหญ่เกินไปนะ ฟาร์มของฉันที่มอนตานาสูบกำลังฉันมากเกินไปจริงๆ ”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะฮ่าๆ พร้อมกับพูดขึ้นมา “พี่ไห่ พี่จริงจังเกินไปแล้ว ฉินโซ่วมันก็แค่พูดไปอย่างนั้นนั่นแหละ ในมือมันจะมีแหล่งฟาร์มปลาอะไรกันล่ะ?”
ฉินสือโอวกลอกตาขาว เขาตอบกลับไปทันที “แกจะรู้อะไร ฉันก็เป็นคนมีของเหมือนกันนะ!”
พอพูดจบเขาก็จริงจังขึ้นมาแล้วแนะนำอย่างกระตือรือร้น “ก่อนหน้านี้มีผู้ค้าอสังหาที่หนึ่งมาหาผม พวกเขามีฟาร์มปลาแห่งหนึ่งอยู่ที่แหลมเซนต์ชาร์ลส์ ผมว่ามันใช้ได้เลยล่ะ ฟาร์มปลามีพื้นที่ประมาณหนึ่งพันตารางกิโลเมตร มีเส้นฝั่งทะเลสิบกิโล ยืดขยายออกไปในทะเลอีกร้อยกิโล”
โอวหยางไห่หยิบมือถือออกมาสำรวจแผนที่ของแหลมเซนต์ชาร์ลส์ พอศึกษาดูคร่าวๆ แล้วก็พูดขึ้นมา “ตำแหน่งที่ตั้งของที่นี่ไม่เลวเลย ใช่สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดกับเขา “ตำแหน่งไม่เลว แต่สภาพอากาศก็ทั่วๆ ไป ไม่เหมือนกับเกาะแฟร์เวล ในปีปีหนึ่งน่ากลัวว่าจะมีหิมะไปแล้วกว่าครึ่ง”
โอวหยางไห่ยิ้มพร้อมบอกกับเขา “อันนี้ไม่เป็นไร มีหิมะก็ดี ฟาร์มของฉันที่มอนตานาไม่ได้เห็นหิมะเท่าไรเลย ได้ ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้พวกเราลองคุยกันอีกที ถ้ามันเหมาะฉันก็จะซื้อมัน พอเห็นฟาร์มปลาของนาย ฉันก็อยากได้บ้างแล้ว”
เฮลิคอปเตอร์ร่อนลง พอโอวหยางไห่ลงมาก็เห็นสุนัขสองสามตัวกับหมีตัวโตอีกหนึ่งตัวกำลังวิ่งตะบึงเข้ามา
ฉินสือโอวกลัวว่าโอวหยางไห่จะตกใจจึงรีบตะโกนบอกให้พวกมันหยุด ทว่าโอวหยางไห่กลับแย้มยิ้มพร้อมตาเป็นประกายแล้วพูดออกมา “นายเลี้ยงไว้เหรอ? ไม่เลวเลยจริงๆ หมาแลบราดอร์สองตัวนี้ของนายเป็นพันธุ์แท้เลยใช่ไหม? สีขนแบบนี้ หัวที่ดูร่าเริงแบบนี้ เส้นโค้งกล้ามเนื้อพวกนี้ ดูเหมือนหมาดังๆ จริงๆ เลย”
ฉินสือโอวกลับไม่คิดว่าหู่จือกับเป้าจือของเขาเป็นหมาดังสายพันธุ์แท้อะไร อีกอย่างหมาแลบราดอร์ของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ก็เหมือนกับหมาพันธุ์จีนที่บ้านเก่าของเขาที่เป็นหมาพันธุ์พื้นเมือง
เห็นได้ชัดว่าโอวหยางไห่เป็นคนรักสุนัข หลังจากหู่จือกับเป้าจือวิ่งเข้ามาเขาก็นั่งยองๆ ลงไปพินิจพิเคราะห์พวกมันทั้งสองตัวอย่างตั้งอกตั้งใจ
หู่จือกับเป้าจือไม่รู้จักเขา มองแวบเดียวก็ไม่รู้สึกสนใจแล้ว พวกมันส่ายหางปีนขึ้นมาบนตัวของฉินสือโอวแล้วใช้หัวของพวกมันถูไถอกของเขาด้วยความสนิทสนม
“เอาล่ะๆ พ่อก็คิดถึงพวกแกมากๆ เหมือนกัน ไปเล่นไป พ่อมีแขกพิเศษอยู่ด้วย” ฉินสือโอวยิ้มพร้อมลูบหัวพวกมันไปมา หลังจากนั้นก็สะบัดแขนออกไป หู่จือกับเป้าจือก็พากันวิ่งออกไปอย่างเชื่องๆ พวกมันทั้งวิ่งทั้งหันมามองเขา
ฉงต้าจับกางเกงของฉินสือโอวแล้วลุกขึ้นมา เวลาผ่านไปหนึ่งปี ตอนนี้มันกลายเป็นหมีใหญ่ไปแล้ว พอยืนขึ้นก็สูงเท่าไหล่ของฉินสือโอวเลยทีเดียว มันส่ายหัวที่มีขนปุกปุยด้วยอยากจะแลบลิ้นออกมาเลียหน้าฉินสือโอว
พอเห็นแบบนี้หู่จือกับเป้าจือก็ไม่ยอมแล้ว พ่อบอกแล้วว่ามีแขกคนสำคัญให้พากันไปเล่น แต่ทำไมแกถึงยังดันทุรังจะอยู่ตรงนี้? ด้วยเหตุนี้พวกมันทั้งสองจึงวิ่งกลับมากระโจนใส่ฉงต้าจนล้มคว่ำแล้วไล่มันออกไป
แบบนี้โอวหยางไห่ก็ยิ่งรู้สึกสนใจ เขายิ้มพร้อมกับพูดออกมา “เฮ้ย น้องฉิน นายฝึกพวกมันยังไงเหรอ? นี่ไม่ใช่แค่สายเลือดชั้นสูงแล้ว หมาแลบราดอร์ที่เชื่อฟังรู้ภาษาขนาดนี้ฉันก็เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย”
เหมาเหว่ยหลงพูดด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความประหลาดใจ “นี่ไม่เท่าไรหรอก ถ้าพี่คุ้นเคยกับพวกมันทั้งสองตัวแล้วพี่ก็จะรู้ว่าพวกมันไม่ใช่หมา นั่นน่ะเป็นเด็ก ไม่สิ เป็นเด็กโตเลยล่ะ ฉลาดกว่าเด็กทั่วๆ ไปอีก”
หลังจากนั้นตั๋วตั่วก็กระโดดโลดเต้นวิ่งเข้ามาต้อนรับเหมือนกัน เหมาเหว่ยหลงอุ้มเธอขึ้นมา พวกกระรอกดินก็ยื่นหัวออกจากรังมามองดูรอบๆ พอเห็นคนแปลกหน้าอย่างโอวหยางไห่ก็พากันหดหัวกลับไปทันที
ฉินสือโอวเชิญโอวหยางไห่ให้เข้าไปนั่งในห้องรับแขก เขาชงชามาหนึ่งกาแล้วถามออกไป “เย็นวันนี้ลองชิมอาหารทะเลของที่นี่ดูนะ พี่สนใจไหมครับ?”
สายตาของโอวหยางไห่ยังมองดูหู่จือเป้าจือที่อยู่ตรงประตู พอได้ยินฉินสือโอวพูดเขาก็พยักหน้าแล้วตอบกลับไปว่า “ได้ เมื่อก่อนต้าเหมาเคยชมอาหารทะเลของนายไม่ขาดปากเลย ฉันต้องลองชิมอยู่แล้วว่าอาหารทะเลของนายอร่อยขนาดไหน”
“อร่อยจนแทบจะกลืนลิ้นลงไปเลย!” เหมาเหว่ยหลงกล่าว
“อ้าว นายเคยชมฉันดีๆ ตั้งแต่ตอนไหนกัน?” ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ
เหมาเหว่ยหลงกลอกตาใส่ เขากล่าว “ฉันชมอะไรแกที่ไหน? พี่ชายแค่เคารพความเป็นจริง!”
ในห้องแช่เย็นมีของอยู่ทุกอย่าง ทว่าฉินสือโอวก็ยังให้พวกชาร์คออกทะเลไปจับอะไรมาสักอย่าง ถึงแม้ว่ารสชาติจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่อาหารทะเลก็จำเป็นต้อง ‘สด’ ปลากับกุ้งที่อยู่ในห้องแช่เย็นย่อมด้อยกว่าอยู่แล้ว
พอจับกุ้งจับปูกลับมาแล้วส่วนหนึ่ง ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็ไปจัดการพวกมัน อาหารทะเลของฟาร์มปลาต้าฉินสดอร่อยไม่มีอะไรเทียบได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีซับซ้อนมากมาย สิ่งสำคัญคือการรักษาความสดอร่อยจากธรรมชาติเอาไว้
ครั้งนี้ไม่ได้ย่างปลาลิ้นหมา แต่เอามันมานึ่งแทน หนังของปลาลิ้นหมาในฤดูนี้นุ่มเกินไป ถ้าเอาไปย่างจะไหม้ได้ง่าย
ปลาย่างเปลี่ยนมาใช้ปลาปากแหลมแทน ปลาชนิดนี้มีเนื้อมันอร่อย ทาน้ำมันลงไปข้างบนพร้อมโรยผงยี่หร่ากับพริกป่นลงไปรสชาติของมันก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแล้ว
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset