ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 118 ยักษ์ใหญ่เข้าโจมตี

บทที่ 118 ยักษ์ใหญ่เข้าโจมตี
โดย
Ink Stone_Fantasy

ฉินสือโอวถึงกับช็อก ไอ้แม่ร่วง ดูนี่สิ นี่เป็นงานใหญ่ของรัฐบาลเลยนะ เขาแทบเสียสติจากการที่เขากำลังจะพาตัวเองก้าวเข้าสู่สมาคมร้อยล้าน ไหนจะรัฐบาลที่จะใช้เงินหนึ่งพันแปดร้อยล้านจัดการปลาคาร์ฟนี่อีก!
ทะเลสาบเฉินเป่าของพวกเราก็เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างหนักเช่นกัน ดังนั้นเมืองเมเปิลลีฟจึงให้เงินทุนพวกเรามาราวๆห้าแสนหกหมื่นดอลลาร์เพื่อการจัดการแก้ปัญหา นายคิดว่าเราควรจะใช้มันยังไงถึงจะดี?”แฮมเล็ตดื่มกาแฟไปพร้อมกับที่เอ่ยถามเขา
เมเปิลลีฟคือชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของออตตาวาเมืองหลวงของแคนาดา ชาวนิวฟันด์แลนด์นิยมเรียกกันอย่างนี้
ฉินสือโอวพูดเล่นๆขึ้นมาว่า “เพื่อนยาก ผมเป็นแค่เจ้าของฟาร์มปลาต่างเชื้อชาติ ดูเหมือนว่าคงไม่เหมาะที่จะร่วมหารือประเด็นนี้เท่าไรนะ”
แฮมเล็ตก็เริ่มหัวเราะออกมาบ้างแล้วเหมือนกัน “นายเลี้ยงกาแฟฉันแล้วแก้วหนึ่ง ดังนั้นในฐานะที่ฉันเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองนี้ ฉันขอตัดสินใจมอบอำนาจนี้ให้นาย”
ฮิวจ์ก้มลงมาใกล้เคาท์เตอร์แล้วพูดกับเขาว่า “ฉิน นายอย่าดูถูกตัวเองสิ บางทีนายอาจจะไม่รู้ว่านายกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลในเมืองนี้ไปแล้ว ในหลายๆเรื่องฉันเองก็คิดว่า ถ้าพวกเราได้ฟังความคิดเห็นของนายก็น่าจะยิ่งดี”
แม้จะได้ยินเช่นนี้แล้ว แต่ฉินสือโอวเองก็ไม่ได้แสร้งทำว่าตัวเองเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นว่า “ตอนนี้พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงสภาพโดยรวมของทั้งประเทศเลย พูดถึงแค่ทะเลสาบเฉินเป่าก่อนดีกว่า”
“ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของทะเลสาบเฉินเป่า ก็คือพันธุ์ปลาในท้องถิ่นถูกปลาคาร์ฟเอเชียหยุดยั้งไว้ทั้งหมด ปลาคาร์ฟเอเชียมีการสืบพันธุ์ที่ดีเยี่ยม เติบโตได้ไว เงื่อนไขในการกินอาหารก็น้อย เห็นได้ชัดว่าพวกมันเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเขตทะเลสาบมากกว่าพันธุ์ปลาในท้องถิ่น หากต้องการใช้เงินห้าแสนมาแก้ไขสภาพโดยรวม ผมคิดว่ายากมาก”
เขาพูดขึ้นมาเช่นนี้ แฮมเล็ตก็พยักหน้าอย่างจริงจัง เนื่องจากนี่เป็นปัญหาที่ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ทั้งยังเป็นทางตันของปัญหาอีกด้วย
ปลาคาร์ฟเอเชียจัดการได้ยากเกินไป อีกทั้งพวกมันยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับปลาในท้องถิ่น จะวางยาก็ไม่ได้ นี่เป็นภาระงานที่ต้องเจาะลึกเข้าไปในกลุ่มใหญ่ จะถอนรากถอนโคนพวกมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยจริงๆนอกเสียจากว่ารัฐบาลแคนาดาจะโง่เขลา ถึงได้ทุ่มเทเงินหนึ่งพันแปดร้อยล้านดอลลาร์เพื่อจัดการกับปัญหานี้?
“หรือว่านี่จะเป็นภารกิจที่ไร้ซึ่งทางแก้ไขกันนะ?”แฮมเล็ตถามขึ้นมาอย่างกลัดกลุ้มใจ
ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือไปมาแล้วพูดกับเขาว่า “อย่าท้อสิ เพื่อน ผมเพิ่งจะเริ่มเปิดประเด็นเท่านั้น ท่านนายกเทศมนตรี ผมขอถามหน่อย ทำไมคุณถึงต้องการกำจัดปลาคาร์ฟเอเชียให้สิ้นซาก? คุณคิดดูนะ ทะเลสาบเฉินเป่าเป็นที่ปิด ต่อให้ปลาคาร์ฟเอเชียข้างในเยอะขึ้น ก็คงไม่สามารถหลุดไปคุกคามปลาในทางน้ำสายอื่นหรือเขตทะเลสาบอื่นหรอก”
ฮิวจ์พูดแทรกขึ้นมาว่า “คำถามนี้ง่ายมาก ทะเลสาบเฉินเป่าเป็นแหล่งทรัพยากรปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์มาก ขอเพียงแค่ฟื้นฟูให้กลับสู่สภาวะเดิมได้ ชาวประมงจำนวนไม่น้อยก็จะสามารถพึ่งพามันเพื่อทำมาหากิน ดังนั้นปลาคาร์ฟเอเชียจึงนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์”
ในทางตรงข้ามกันกับฮิวจ์ แฮมเล็ตก็สามารถเห็นต้นเหตุของปัญหาได้ชัดเจนขึ้น เขาตระหนักได้ถึงความหมายที่ฉินสือโอวต้องการจะสื่อแล้ว แต่ไม่ได้ตอบกลับไปตรงๆ แต่ถามขึ้นมาว่า “นายหมายความว่ายังไง?”
ฉินสือโอวทุบโต๊ะแล้วตอบเขาไป “พวกคุณไม่รู้อะไรซะแล้ว ในทะเลสาบเฉินเป่ามีสมบัติที่ถูกเก็บไว้อยู่ นั่นก็คือปลาคาร์ฟเอเชียพวกนั้นยังไงล่ะ!” สำหรับคนในประเทศผมแล้วรสชาติของปลาพวกนี้นับว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะปลาคาร์ฟเอเชียที่เกิดตามธรรมชาติ เพียงแค่พวกคุณเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว ทำให้เกาะแฟร์เวลเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เมื่อถึงตอนนั้นปลาคาร์ฟเอเชีย ก็จะกลายเป็นเครื่องผลิตเงิน!”
ฮิวจ์กะพริบตาปริบๆ เขาส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร”
แฮมเล็ตเองก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่า “แต่ที่เกาะแฟร์เวลของพวกเรา นอกจากปลาแล้ว ก็ไม่มีสิ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งการตกปลาก็ยังไม่มีแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน”
ฉินสือโอวยิ้ม “ไม่ พวกคุณยังไม่เข้าใจความหมายของผม เพื่อนเอ๋ย พวกเราไม่ได้จะทำธุรกิจกับคนแคนาดา แต่เราทำธุรกิจกับคนจีน”
“ตอนนี้ประเทศจีนมีนโยบายที่ช่วยให้ประชาชนร่ำรวยขึ้นเป็นอย่างมาก เพื่อนร่วมชาติของผมก็ชอบออกไปเที่ยวต่างประเทศ ขอเพียงแค่พวกเราสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เดือนละร้อยคน ก็จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับเมืองแฟร์เวลได้อย่างน้อยห้าแสนดอลลาร์!”
“สำหรับชาวแคนาดาแล้วเกาะของพวกเราก็เป็นเพียงแค่ฟาร์มปลา แต่สำหรับคนในชาติผมแล้ว เกาะของเราที่นี่มีทั้งชายหาด มีทั้งฟาร์มปลา มีทั้งป่าเขา อีกทั้งยังมีวิวธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย ต้องมีแรงดึงดูดแน่นอน!”
“เมื่อถึงตอนที่ทะเลสาบเฉินเป่าเปิดเป็นจุดท่องเที่ยวแล้ว การท่องเที่ยวทะเลสาบ ตกปลา ยิงปลา กิจกรรมต่างๆ ล้วนแต่สามารถดึงดูดคนในชาติผมได้ ยิ่งถ้าบนฝั่งมีคนให้เช่าเตาย่างบาร์บีคิว หรือมีบริการพวกเครื่องครัวให้พวกเขาปรุงปลาคาร์ฟเอเชียที่พวกเขาตกเองด้วยล่ะก็ พวกคุณรู้ไหมว่านี่จะสามารถทำเงินได้มากแค่ไหน?”
“พวกเขา พวกเขา จะมาเหรอ? กินของพวกนี้ได้ด้วยเหรอ?”ฮิวจ์ถามอย่างไม่แน่ใจ “เสียเงินเพื่อยิงปลา? ใช้เงินเพื่อกินปลาแปลกๆพวกนั้น? แล้วก็จ่ายเงินเพื่อเช่าเรือไปเที่ยวในทะเลสาบเนี่ยนะ?”
พอดีกับที่ ทีวีที่แขวนอยู่ข้างในร้านสะดวกซื้อกำลังประกาศข่าวอยู่ หนึ่งในนั้นมีข่าวเกี่ยวกับฟาร์มหลายแห่งในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกาที่ประสบกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ร่วมกันจัดโปรแกรมท่องเที่ยว โดยได้เชิญคนจีนให้ไปขี่ม้า ล่าสัตว์ หุงหาอาหารกลางแจ้งและเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ ปรากฏว่าในหนึ่งฤดูกาลของปีนี้ คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะสามารถพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเพื่อนำไปให้ชดเชยเงินที่ขาดหายไปจากการทำฟาร์มในปีที่แล้วได้!
 “พวกคุณคิดว่ากิจกรรมพวกยิงปลา โต้คลื่น ตกปลาทะเล ล่องเรือ เก็บเบอร์รีอะไรพวกนี้ เมื่อเทียบกับการขี่ม้า ล่าสัตว์ของพวกแยงกี้แล้ว อันไหนดูมีแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่ากัน?ฉินสือโอวถาม
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ เราก็ล่าสัตว์ได้เหมือนกัน! เขาคาบ็อกซ์ของพวกเรามีหมูป่า มีกวางอูฐ มีกระต่ายป่า พวกนี้ก็เป็นรายการท่องเที่ยวทั้งนั้นเลยนะ!”
แฮมเล็ตและฮิวจ์หันมามองหน้ากัน จากนั้นจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เอาเลย!”
“ว่าแต่นักท่องเที่ยวจะมาจากไหนกันล่ะ” ฮิวจ์เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดกับเขาว่า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม พวกคุณลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็นคนประเทศอะไร?”
แฮมเล็ตยกแก้วกาแฟขึ้น ชนแก้วกับฉินสือโอว แล้วพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ฉิน เพื่อนยาก เป็นเกียรติมากที่นายมาอยู่ที่เมืองเล็กๆของเราแห่งนี้! ฉันต้องขอบอกว่า นายอาจจะต้องมาช่วยเมืองของเราแล้วล่ะ” ถ้าโปรแกรมท่องเที่ยวของเราประสบความสำเร็จ เช่นนั้นเงินห้าแสนดอลลาร์ที่ใช้ในการแก้ปัญหาภัยพิบัติจากปลาก้อนนี้ก็จะให้เป็นรางวัลของนายแทนแล้วกัน!”
ฉินสือโอวยิ้มพร้อมทั้งส่ายหัว “ไม่ๆ เงินพวกนี้ต้องเอาไปซื้อเมล็ดพันธุ์หญ้า ถ้าอาหารในทะเลสาบมีมาก ปลาพันธุ์ท้องถิ่นก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่ใช่เหรอ?”
เรื่องนี้ถูกกำหนดไว้เพียงเท่านี้ก่อน แฮมเล็ตจึงเร่งรีบออกจากประตูไปเพื่อหาคนรับรองโครงการท่องเที่ยว ฉินสือโอวที่เพิ่งทิ้งเงินห้าแสนดอลลาร์ก็กำลังเตรียมตัวกลับ
ฮิวจ์รั้งเขาไว้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมรับเงิน ฉินสือโอวยิ้ม และพูดกับเขาไปว่า “อย่าทำแบบนี้เลย เพื่อน ฉันก็เป็นคนในเมืองแฟร์เวลเหมือนกันเรื่องที่ฉันช่วยพัฒนาเมืองก็เป็นสิ่งที่ควรทำ อีกอย่างกาแฟของนายก็มีไว้ขายด้วยฉันจ่ายเงินก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”
ขณะมองแผ่นหลังของฉินสือโอว ฮิวจ์ก็พูดขึ้นมาอย่างแน่วแน่ว่า “ฉินเป็นคนที่มีความสามารถ ต้องทำให้เขาอยู่กับพวกเราที่เมืองนี้ให้ได้ ใช่แล้ว ต้องหาหญิงสาวที่ดีที่สุดไปแต่งงานกับเขา ทำให้เขาอยู่กับพวกเราที่นี่”
ภรรยาของฮิวจ์ก็หัวเราะออกมา “แฟนของฉินน่าจะเป็นผู้หญิงที่อยู่กับเขาเมื่อคราวก่อนหรือเปล่านะ? ฉันเคยเจอครั้งหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่เจ๋งมาก ผู้หญิงในเมืองของเรา ไม่มีใครเทียบ……”
พูดยังไม่ทันจบ ภรรยาของฮิวจ์ก็เห็นมุมปากของฮิวจ์ที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มประหลาด เธอจึงพูดกับเขาว่า “ไม่ใช่ว่าคุณกำลังวางแผนอะไรอยู่นะ?”
เมื่อได้ช่วยเมืองแล้ว ฉินสือโอวจึงค่อนข้างมีความสุข ภายใต้ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านของความคิดและร่างกาย เขาเห็นว่าบนถนนไม่มีผู้คน จึงเพิ่มความเร็วในการขับรถขึ้น พร้อมความเร็วที่ราวกับพายุ
ปรากฏว่า บนถนนไม่มีคนอยู่ก็จริง แต่ถนนหน้าดินหลังจากฝนตกนั้นลื่นเกินไป โดยเฉพาะช่วงถนนที่เพิ่งจะออกมาจากเมือง รถเอสยูวีใต้ท้องรถสูงศูนย์กลางแรงถ่วงก็สูง เมื่อวิ่งอยู่บนพื้นโคลนจึงเกิดการลื่นไถล
ฉินสือโอวรีบเหยียบเบรก เรื่องที่แย่กว่านั้นก็เกิดขึ้นแล้ว รถไม่อยู่ในการควบคุมจึงลอยจากพื้น พุ่งไปตามแนวขนานไกลถึงสี่ห้าเมตร ล้อทางด้านขวาตกลงไปในร่องระบายน้ำเสียทันที
“แม่มเอ้ย!” ฉินสือโอวทุบพวงมาลัยรถด้วยความฉุนเฉียวหนึ่งที เขาลงจากรถมาดู ล้อรถแขวนอยู่ในร่องระบายน้ำ เขาลองติดเครื่องหลายครั้ง ล้อรถกลับไม่มีแรงมากพอ จึงขับออกไปไม่ได้
คราวนี้เขาจึงจนปัญญา คงทำได้แค่หารถกระบะมาลากแล้วล่ะ ขณะที่เขากำลังจะโทรหาชาร์ค เสียงฝีเท้าหนักๆจากถนนก็เข้ามากระทบกับหูของเขา
ฉินสือโอวเงยหน้าขึ้นไปดู คิ้วของเขาก็กระตุกขึ้นมาทันที ห่างไปไม่ไกล ชายร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังตรงเข้ามาทางนี้
นี่คือชายร่างใหญ่ยักษ์ขนานแท้ น่าจะสูงสักประมาณสองเมตรถึงสองจุดหนึ่งเมตรได้ โครงร่างหนาใหญ่ หนวดเคราหนาเฟิ้ม ดวงตาสองข้างราวกับกระดิ่งทองแดง มือที่โผล่พ้นออกมาสองข้างใหญ่ราวกับพัดใบปาล์ม ท่อนขาใหญ่ยาว เดินมาบนถนนอย่างทะนงองอาจ!
บนตัวของชายร่างยักษ์สวมเสื้อผ้าขาดๆ เขาถือเอาถุงพลาสติกไว้ในมือ ไม่หยุดที่จะเอาของจากข้างในถุงพลาสติกยัดใส่ปาก เขาเดินคอตกมาตามทาง หยดน้ำฝนหนาวเย็นที่ตกใส่ตัวเขาดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบอะไรกับเขาเลย
เงาของรถคาดิลแลควัน เตะตามาก เมื่อชายร่างยักษ์เดินข้ามาแล้วก็เอาแต่มองดูไม่หยุด เมื่อมองเห็นฉินสือโอว เพียงครู่เดียวเขาก็ยิงฟันหัวเราะออกมา แล้วจึงเป็นฝ่ายเดินเข้ามาเอง พูดเสียงในลำคอว่า “เฮ้ สวัสดี นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ? ฝนตกแล้ว ทางที่ดีอย่าอยู่ข้างนอกเลยดีกว่า”
หลังจากพูดกับเขาไม่กี่ประโยค มนุษย์ยักษ์ก็เดินหน้าต่อไป เดินไปได้สองก้าวก็หันหลังกลับมา “เอ้อ นายอยากกินพิซซ่าไหม?”
พิซซ่า? ทันใดนั้นฉินสือโอวก็นึกขึ้นมาได้ว่ามนุษย์ยักษ์ตรงหน้าคือใคร เจ้าหมอนี่ไม่ใช่มนุษย์ยักษ์ที่กินพิซซ่าเก่งๆที่เขากับวินนี่เจอหลังจากที่เขาเมาเหล้าเมื่อตอนวันวิคตอเรียหรอกเหรอ?
ฉินสือโอวมองไปที่มนุษย์ยักษ์และพูดกับเขาว่า “ตอนนี้ไม่ได้ เพื่อน ล้อรถของฉันตกลงไปในร่องระบายน้ำ ฉันต้องรอให้คนขับรถลากมันขึ้นมาน่ะ”
มนุษย์ยักษ์มองล้อรถที่ค้างอยู่ ก็เกาหัวแกรกๆพูดกับเขาว่า “ถ้าล้อรถขึ้นมาได้ ก็ไปกินพิซซ่าได้แล้วใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่ “ได้อยู่แล้ว”
มนุษย์ยักษ์ไม่ได้รีรอ แขวนถุงพลาสติกไว้ข้างเอว กระโดด ‘ตู้ม’ ลงไปในร่องน้ำ จากนั้นจึงโค้งตัวมุดเข้าไปที่ใต้รถ ใช้ไหล่แบกเอาล้อด้านหลังฝั่งขวาเอาไว้ คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น อ้าปากคำรามออกมา “ไฮย่า!”
เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆทั้งท่อนบนท่อนร่างของเขาที่เด่นขึ้นมา เสื้อผ้าขาดๆก็เหมือนกับจะถูกกล้ามเนื้อที่ดูเหมือนจะไกลจากความเป็นจริงดันจนขาด กลิ่นอายของความมุทะลุดุดันแบบยุคโบราณก็บุกเข้ามาปะทะฉินสือโอวอย่างจัง
จากนั้นก็เสียง ‘แกรกแกรก’ ดังขึ้นด้านหลังทางฝั่งขวาของรถคาดิลแลควัน ก็ถูกดันขึ้นมาจริงๆ ต่อมารถก็ค่อยๆไถลไปกับพื้นแนวขนานทางฝั่งซ้ายได้ประมาณหนึ่งเมตรกว่า ฉินสือโอวมองภาพข้างหน้าด้วยความรู้สึกราวกับไร้วิญญาณ รถคาดิลแลคของเขากลับขึ้นมาบนพื้นแล้ว!
โทรศัพท์มือถือของฉินสือโอวดังขึ้น เป็นชาร์คที่โทรกลับหาเขานั่นเอง “บอส มีอะไรหรือเปล่า เมื่อครู่ทำไมคุณยังไม่ทันพูดอะไรก็วางสายไปซะแล้วล่ะ?”
ฉินสือโอวชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบเขา “อ้อ ไม่มีอะไร ฉันวางแล้วนะ”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว เขาก็มองไปที่ชายร่างยักษ์ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วจึงถามออกไปว่า “นายดันเอา รถขึ้นมาเหรอ?”
ตั้งแต่ที่เขามีจิตสำนึกโพไซดอน และหลังจากที่เขาถูกพลังของจิตสำนึกโพไซดอนทำให้เปลี่ยนแปลงไป เขาก็รู้สึกว่าตนเองคงมีพละกำลังมากที่สุดบนเกาะแฟร์เวล ตอนนี้ ดูท่าทางว่าเขาจะประเมินฮีโร่บนโลกนี้ได้ต่ำเกินไปแล้วล่ะ
ต่อให้เขามีความมั่นใจมากกว่านี้ ฉินสือโอวก็ไม่คิดว่า พละกำลังของตนเองจะสามารถดันรถคาดิลแลควัน ขนาดสามตันได้หรอกนะ! ถึงจะเป็นแค่การออกแรงผลัก ถึงจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่อยู่บนพื้นถนนลื่นๆก็ตาม!
มนุษย์ยักษ์ก็ดูท่าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสักครู่ออกแรงมากเกินไป ตอนนี้หน้าของเขาค่อนข้างจะซีดเซียว อีกทั้งไหล่ซ้ายก็ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ จึงใช้มือข้างขวากดไว้ตลอด ปากบ่นพึมพำไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร
เมื่อพักผ่อนได้สักครู่ ชายร่างยักษ์ก็ปีขึ้นมาจากร่องระบายน้ำ เขาถามว่า “รถขึ้นมาได้แล้ว งั้นก็กินพิซซ่าได้แล้วใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแรงๆ แล้วตอบเขาไปว่า “ไม่มีปัญหา นายจะกินเท่าไรก็ได้ ต่อไปจะกินทุกๆวันเลยก็ได้!”
“เหอะๆ ไม่ได้หรอก อามังกี้ไม่ยอมให้อีวิลสันกินพิซซ่าทุกวันหรอก” มนุษย์ยักษ์บอกกับเขาอย่างเศร้าๆ
คราวนี้ฉินสือโอวจึงพบว่า มนุษย์ยักษ์คนนี้ถึงภายนอกจะดูดุดันโหดร้าย แต่คล้ายว่าสติปัญญา… น่าจะมีปัญหาหน่อยๆ?
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset