ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 661 สร้างบ้านกระท่อมเล็ก

ในบางครั้ง ผู้หญิงก็ใจแข็งและมีวิธีที่เด็ดขาดกว่าผู้ชายมาก
ถ้าเป็นฉินสือโอวสั่งสอนเจ้าพวกนี้ ขอแค่ความผิดที่พวกมันทำไม่ได้ใหญ่โตอะไร แค่ทำเป็นน่าสงสารก็คงผ่านไปได้
แต่วินนี่ไม่ใช่ บอกว่าต้องอดอาหารหนึ่งวันหนึ่งคืน ก็ต้องหนึ่งวันหนึ่งคืน!
นี่เป็นจุดต่างในการอบรมสั่งสอนระหว่างทางเอเชียและทางอเมริกาเหนือ ตอนที่ผู้ปกครองทางแถบอเมริกาเหนือทำให้ตัวเองดูเข้มงวดนั้น มีวิธีในการใจแข็งหลากหลายรูปแบบ ตอนที่ฉินสือโอวขอร้องวินนี่ เธอกลับย้อนถามเขาว่า “ตอนที่ต้องสั่งสอน แต่ถ้าพวกเราไม่ได้สั่งสอนพวกเด็กๆ อนาคตถ้าพวกเขาทำผิดอีก ถ้าอย่างนั้นควรจะโทษใครล่ะ? ฉันยอมให้พวกเขาลำบากตอนนี้หน่อย จำบทเรียนที่ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำความผิดใหญ่ในวันหลัง!”
อยู่ดีๆ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดอีก
จากเมื่อวานตอนเย็นจนถึงวันนี้ตอนเย็น รวมแล้ว 24 ชั่วโมงเต็มๆ พวกมันไม่ได้กินถูกน้ำสักหยด แถมตอนถึงเวลากินอาหาร วินนี่ก็จะไปป้อนข้าวให้กับมาสเตอร์ ถึงแม้ว่าเต่าอัลลิเกเตอร์พอกินเข้าไปหนึ่งมื้อแล้ว จะอยู่ได้เป็นครึ่งเดือนก็ตาม แต่มาสเตอร์ก็นอนราบอยู่ตรงทางเข้าประตู ถ้าวินนี่ให้อาหารมัน มันก็กิน ราวกับว่าตั้งใจทำให้พวกที่อยู่ในห้องโกรธอย่างไรอย่างนั้น
จริงๆ แล้วมาสเตอร์ไม่ได้ย่อยไวขนาดนั้น มันก็แค่ทำตัวกินปลาตัวสองตัวไปอย่างนั้น เพราะทุกครั้งก็จะเหลือปลาไว้ในปากเล่น
หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า หลัวปอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบุชกับนิมิตส์ หรือแม้กระทั่งเจ้าตัวกินผักอย่างปอหลัวกับต้าป๋าย ต่างมองด้วยความอิจฉาจนทนไม่ไหว
พอถึงเวลาทานข้าวเย็น ฉงต้าหิวจนไม่ไหวแล้วจริงๆ ยื่นมือออกไปพยายามที่จะเลียมัน
ซึ่งการทำแบบนี้จะได้ผลกับหมีป่าสีน้ำตาลรัฐโคโลราโด แต่ไม่ได้ผลกับฉงต้า
อย่างที่รู้กันว่า ตอนที่หมีจำศีลในช่วงฤดูหนาว หากมันตื่นแล้วหิวมันก็จะดูดอุ้งตีนหมี มีคนบอกว่านี่เป็นเพราะอุ้งตีนหมีจะสามารถหลั่งไขมันหรือมีของเหลวจำพวกไขมันออกมา ด้วยเหตุนี้จึงสามารถเลียไปที่ไขมันที่ฝ่ามือได้เวลาหิว
จริงๆ แล้ววิธีการพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก เวลาหมีเลียฝ่ามือมันไม่ได้เลียทั้งหมด มันจะเลียแค่ฝ่ามือขวา น้อยครั้งที่จะเลียข้างซ้าย ดังนั้นแล้ว ฝ่ามือของหมีจึงมีคำพูดที่ว่า ‘ขวาดีซ้ายไร้ผล’ ถ้าหากฝ่ามือของหมีสามารถหลั่งสารอะไรออกมาได้ ก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะหลั่งได้แค่อุ้งตีนฝั่งเดียว ดังนั้นพวกมันก็ไม่น่าจะเลียแค่ฝั่งขวามือ
เหตุผลที่แท้จริงสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ปกติหมีจะชอบควักน้ำผึ้งหรือเด็ดผลไม้กิน แล้วหมีก็ไม่ได้ถนัดซ้าย พอพวกมันทำอะไรพวกนี้จึงใช้มือขวาตลอด ด้วยเหตุนี้มือขวาของหมีจึงสะสมพวกน้ำหวานบนฝ่ามือเป็นชั้นๆ
อีกอย่าง อุ้งตีนหมีมีความเหนียวสูงมาก ในบางครั้งจึงติดพวกเมล็ดหญ้าหรือถั่วพวกนั้นไปด้วย
ซึ่งของพวกนี้จะอุดมไปด้วยพลังงานมากมาย พอเป็นแบบนี้ในช่วงฤดูหนาวหมีที่หิวโหยก็จะเลียไปที่ฝ่ามือขวา ช่วยเสริมพลังงานได้ดี
วินนี่นานๆ ทีจะอาบน้ำให้กับฉงต้า อุ้งมือเจ้านี่สะอาดหมดจดเหมือนกับท้องของมัน เลียไปเลียมา มันจะเลียอะไรออกมาได้ นอกจากน้ำลายเต็มมือไปหมด
แต่ตอนนี้เมื่อไม่มีอะไรกินจริงๆ ฉงต้าจึงตั้งอกตั้งใจเลียอุ้งมือขวาของมันอย่างมุ่งมั่น ราวกับเด็กที่ดูดนิ้ว คาดว่าการปลอบใจตัวเองแบบนี้ก็สามารถระงับความหิวได้
ผลสุดท้ายหู่จือ เป้าจือ ต้าป๋ายและหลัวปอสังเกตเห็นฉงต้า พวกมันนึกว่าฉงต้าเจอของกินแล้ว ปีนเข้าไปหาฉงต้าแย่งกันเลียอุ้งมือขวาของฉงต้า ราวกับว่ากำลังแย่งของดีอะไรบางอย่างกันอยู่
ฉินสือโอวหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ช่างทำให้เขาสุขใจจริงๆ เจ้าพวกนี้ช่างน่ารักอย่างไร้เดียงสา
ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารค่ำ วินนี่ทำหน้าเรียบนิ่งไปเตรียมกับข้าว พอฉินสือโอวเปิดประตู นิมิตส์กับบุชพยายามจะบินออกไปข้างนอกอย่างร้อนรน
แต่วินนี่รับเอาปลาตัวอวบอ้วนหลายตัวจากมือของฉินสือโอวที่ตอนบ่ายเขาไปตกมาได้ ยกขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมา ทั้งนิมิตส์ บุช และฉงต้ารีบกระโจนเข้าไปหาอย่างไม่สนใจอะไร ทำหน้าเว้าวอนใส่วินนี่
วินนี่ป้อนปลาคนละสองตัวให้พวกมันทีละคน เจ้าพวกนั้นจึงค่อยสงบลงมา แล้วก็ไม่ได้หาเรื่องกับวินนี่ว่าอยากจะอดอาหารประท้วงอีก
จริงๆ แล้วเจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้หิวมากมายขนาดนั้น แต่ด้วยความที่พวกมันเคยชินกับการกินอาหารตรงเวลาทุกวัน ถ้าไม่กินไม่ดื่มทั้งวัน ต้องควบคุมจิตใจให้ได้มากกว่าร่างกาย ตอนนี้พอได้กินอะไรหน่อย พวกมันจึงค่อยสงบสติลง
วินนี่ทอดสเต๊กจำนวนหนึ่ง พอสุกได้ 40-50% ก็แบ่งใส่จานให้พวกมันได้กิน หู่จือและเป้าจือดมกลิ่นเนื้ออันหอมหวน เดินวนรอบวินนี่ไปมา อดไม่ได้ที่จะร้องเรียกหม่าม๊าที่รักรีบลงมือกินข้าว
ยังมีเตรียมสลัดผัก ผลไม้จานใหญ่อีกด้วย วินนี่ให้พวกมันนั่งเรียงเตรียมลงมือกินข้าว
ครั้งนี้วินนี่เปลี่ยนสถานที่กินข้าวเป็นที่สนามหญ้าด้านนอก ให้แต่ละตัวนั่งติดกันให้เรียบร้อย แล้วจึงเรียกมาสเตอร์ให้มากินข้าวด้วยกัน
พอเห็นตัวก่อเรื่องที่ทำให้พวกมันต้องทรมานตัวเองมาทั้งวันใกล้เข้ามา ทันใดนั้นพวกมันก็รู้สึกโกรธขึ้นมา หู่จือและเป้าจือแยกเขี้ยวใส่ ฉงต้ายื่นฝ่ามือใหญ่ออกไป ปอหลัวโน้มเขาแข็งๆ บนหัวให้ต่ำลงมา บุชกับนิมิตส์ เตรียมบินเพื่อโจมตีจากด้านบน
หลัวปอยิ่งคึกคักกว่า กระโดดไปกระโดดมาเดี๋ยวเห่าหอนเดี๋ยวร้องเรียก เหมือนกับเป็นนักมวย
มีแค่ต้าป๋ายที่ยังนิ่งสงบ นั่งอยู่ที่พื้นค่อยๆ จัดขนของมันอย่างเนิบๆ
ส่วนมาสเตอร์ก็มีสไตล์ของผู้มากประสบการณ์ เจ้าเต่าใช้สายตามองไปที่พวกมันทีละตัวอย่างดูหมิ่น สีหน้าเรียบเฉยเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน พวกโง่พวกนี้ พ่ายแพ้แล้วยังจะกล้าหืออีกเหรอ?
วินนี่ถืออาหารออกมา พวกที่เย่อหยิ่งอวดดีเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นเศร้าหงอยขึ้นมาทันที นั่งเรียงแถวอยู่หน้าชามข้าวตัวเองรอเวลาลงมือกินอย่างเชื่อฟัง
ไม่ได้กินไม่ได้ดื่มมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ พอเจ้าพวกนี้เห็นอาหารเห็นน้ำที่อยู่ตรงหน้าก็โหยหาสุดๆ ใครจะไปมีเวลาสนใจเจ้ามาสเตอร์ศัตรูคนละชั้นกันเล่า? ฉงต้าจะมาแย่งอาหารพวกเพื่อนๆ กินอีก พวกมันภายในจึงเกิดศึกเล็กๆ กันขึ้นมา มาสเตอร์ยังคงมองไปที่พวกมันอย่างเย้ยหยัน มันใช้ชีวิตอยู่มานานจนอายุยังมากกว่าอายุที่พวกมันรวมกันเสียอีก ที่มาอยู่ด้วยกับคนอย่างพวกมันก็นับว่าไว้หน้ามากแล้ว!
พอได้รับบทเรียนจากวินนี่ ถึงแม้ว่าพวกมันจะยังอยากจัดการกับมาสเตอร์อยู่ในใจ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากลับว่านอนสอนง่ายมากขึ้น บางครั้งยังแกล้งทำเป็นเล่นฉากพี่น้องแสนดีเพื่อตบตา
เช้าวันเสาร์ หลังจากฉินสือโอวตื่นนอนก็พบว่าพาวลิสและพวกเด็กๆ นั่งกันอยู่ในห้องรับแขกหมด เขาชี้ไปที่บ้านกระท่อมเครื่องดื่มเย็นแล้วถามขึ้นว่า “พวกหนูตั้งตารอคอยมากใช่ไหม?”
“สุดๆ เลยครับ” ชาร์คน้อยตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “ผมให้พ่อผมซื้อให้หนึ่งหลัง แต่พ่อกลับตีผม! บ้านคุณยายเลยนะ ผมกล้าพูดได้เลยว่ามันเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดในโลก!”
บ้านคุณยายเป็นชื่อเรียกเล่นๆ ของบ้านที่เอามาประกอบกันแบบนี้ จริงๆ บ้านแบบนี้ก็เป็นของเล่นชิ้นใหญ่ที่เตรียมไว้ให้พวกเด็กๆ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ดูน่ารัก หวานแหววขนาดนี้ไปทำไมกัน
แต่ของเล่นแบบนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวทั่วไปจะสามารถซื้อได้ ดังนั้นแล้วเด็กส่วนมากจึงได้แต่เล่นของชิ้นนี้ในความฝัน
ต่อให้รีบร้อนขนาดไหนก็ต้องรอกินข้าวเช้าเสร็จก่อนแล้วถึงเล่นได้ ด้วยเหตุนี้พวกเด็กๆ ตอนกินข้าวจึงรีบกลื่นรีบกินไปโดยอัตโนมัติ กินเรียบทุกอย่างภายในชั่วพริบตา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขารีบกินไข่เจียว รีบดื่มนม น้ำผลไม้ แล้วรีบวิ่งออกมารออยู่ใต้ต้นเมเปิลที่ลานกว้าง ตั้งหน้าตั้งตารอฉินสือโอว
สถานที่ที่ฉินสือโอวเลือกไว้สำหรับตั้งบ้านเล็กนี้ก็คือใต้ต้นเมเปิล พอมีต้นชูการ์เมเปิลต้นใหญ่ช่วยบังแดดกันฝน บ้านกระท่อมก็ยิ่งดูงดงามขึ้น
วินนี่ได้ดาวน์โหลดวิดีโอการติดตั้งไว้ในไอแพดล่วงหน้าเรียบร้อย คนรวยก็มักจะเอาแต่ใจ บ้านของฉินสือโอวแต่ละคนจะมีไอแพดคนละหนึ่งเครื่อง พอวินนี่บันทึกวิดีโอไว้ในนั้น ทุกคนก็สามารถดูได้
ฉินสือโอวแกล้งทำเป็นเหมือนวิเคราะห์แบบ วินนี่ยิ้มแล้วไปคั้นน้ำผลไม้สดให้พวกเขาแก้กระหาย งานประกอบบ้านถือว่าเป็นงานที่ใช้กำลังมาก สักพักตอนที่มีเด็กๆ อยู่
พอเห็นวินนี่เอาน้ำผลไม้คั้นสดและขนมอบกรอบออกมาให้เด็กๆ ทาน บวกกับฉากที่เด็กๆ ก็สุมหัวกันคุยว่าจะเริ่มตรงไหนดีอย่างมีความสุข ทันใดนั้นฉินสือโอวก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมเจ้าบ้านกระท่อมนี้ถึงขายดีมากในอเมริกาเหนือ
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset